การจับสลากแบ่งสายรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ฤดูกาล 2023/24
- Group A: บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, โคเปนเฮเก้น, กาลาตาซาราย
- Group B: เซบีญ่า, อาร์เซน่อล, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, ล็องส์
- Group C: นาโปลี, เรอัล มาดริด, เอฟซี บราก้า, ยูนิโอน เบอร์ลิน
- Group D: เบนฟิก้า, อินเตอร์, ซัลบวร์ก, เรอัล โซเซียดัด
- Group E: เฟเยนูร์ด, แอตเลติโก มาดริด, ลาซิโอ, กลาสโกว์ เซลติก
- Group F: ปารีส แซงต์แชร์กแม็ง, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, เอซี มิลาน, นิวคาสเซิ่ล
- Group G: แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ไลป์ซิก, เซอร์เวน่า ซเวซด้า, ยังบอยส์
- Group H: บาร์เซโลน่า, ปอร์โต้, ชัคตาร์ โดเนตส์, อันเวิร์ป
โปรแกรมการแข่งขันของรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก
- Matchday 1: 19/20 September 2023
- Matchday 2: 3/4 October 2023
- Matchday 3: 24/25 October 2023
- Matchday 4: 7/8 November 2023
- Matchday 5: 28/29 November 2023
- Matchday 6: 12/13 December 2023
รู้จักคู่แข่งของอาร์เซน่อลในยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกกลุ่ม B
หลังจาก 6 ฤดูกาลที่อาร์เซน่อลไม่ได้เข้ามาเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก การจับสลากมาอยู่ร่วมสายกับ เซบีญ่า, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และล็องส์ ถือเป็นเรื่องดีสำหรับอาร์เซน่อล ที่ไม่ต้องอยู่ร่วมสายกับทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปอย่าง บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลน่า หรือปารีส แซงต์แชร์กแม็ง
หากมองบนกระดาษมันอาจจะดูเหมือนรอบแบ่งกลุ่มยูโรป้าลีกเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามทางอาร์เซน่อล ต้องมีความจริงจังมากขึ้นกับถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรป พวกเขาจะไม่สามารถโรเตชันผู้เล่นได้เหมือนกับที่ทำในยูโรป้าลีก
ล็องส์
อาร์เซน่อล เคยเจอกับล็องต์ ในปี 1998 ของรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก อาร์เซน่อลบุกไปเสมอ 1-1 จากการทำประตูของ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ก่อนที่ล็องต์จะบุกไปชนะอาร์เซน่อลได้ถึงถิ่น 1-0 พวกเขาโคจรมาพบกันอีกครั้งในอีกสองปีต่อมา ในรอบรองชนะเลิศยูฟ่า คัพ อาร์เซน่อลเอาชนะล็องส์ได้แบบไป-กลับ
สำหรับล็องส์ หลังจากใช้เวลา 5 ปีในลีกเดอซ์ พวกเขาได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดในปี 2019/20 ฤดูกาลที่แล้วพวกเขาจบในอันดับรองแชมป์ลีกเอิง ด้วยการมีคะแนนตามหลังปารีส แซงต์แชร์กแม็งเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นพวกเขาเสีย 2 ผู้เล่นคีย์แมน ลออิก โอเพนด้า ดาวซัลโวประจำทีมย้ายไปอยู่กับไลป์ซิก และเซโก้ โฟฟาน่า กองกลางคนสำคัญย้ายไปเล่นลีกซาอุกับอัล นาเซอร์
โอเพนด้า ยิงไป 20 ประตูในลีกเอิงเมื่อฤดูกาลก่อน แต่พวกเขาก็ยอมควักเงิน 40 ล้านยูโร เพื่อดึง เอลเย่ วาฮี กองหน้าอนาคตไกลจากมงต์เปลลิเย่ร์ กับแอนดี้ ดิยุป มาจากบาเซิ่ล นับเป็นการกลับมาเล่นแชมเปี้ยนลีกเป็นหนแรกในรอบ 21 ปี ระบบการเล่นของพวกเขาคือ 3-4-2-1 ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้พวกเขามีสถิติเกมส์รับที่ดีที่สุดในลีกเอิงปีก่อน
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
สำหรับพีเอสวี อาจไม่ต้องแนะนำกันเยอะ เพราะอาร์เซน่อล เพิ่งเจอกับพีเอสวีมาเมื่อปีที่แล้ว ในยูโรป้าลีกรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งอาร์เซน่อล เอาชนะพีเอสวี 1-0 ในบ้านจากประตูชัยของ กรานิต ชาคา ก่อนที่จะบุกไปแพ้ 0-2 ที่บ้านของพีเอสวี
รุด ฟาน นิลเตลรอย อดีตกองหน้าของแมนเชเสตอร์ ยูไนเต็ด พาพีเอสวี จบอันดับ 2 ในเอเรดิบิซี่ ลีกเมื่อฤดูกาลก่อน แต่เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง แล้วพีเอสวีได้แต่งตั้ง ปีเตอร์ บอสซ์ อดีตกุนซือของอาแจ็กซ์ และดอร์ทมุนด์เข้ามาคุมแทน นอกจากนี้พีเอสวียังมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นในทีมเป็นจำนวนมาก และอาจะเกิดขึ้นเพิ่มอีกก่อนวันเดดไลน์
คีย์แมนของพวกเขาที่ย้ายออกไปคือ โคดี้ กัคโป ที่ไปอยู่กับลิเวอร์พูลตั้งแต่เดือนมกราคม ซาบี้ ซิมอนส์ ย้ายไปอยู่กับไลป์ซิก และทรอก็องต์ อาซาร์ ย้ายกลับไปโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นอกจากนี้พวกเขามีโอกาสที่จะเสียทั้ง อิบราฮิม ซังกาเร่ กองกลางตัวรับคนเก่ง และโจฮันส์ บากาโยโก้ ผู้เล่นริมเส้น ที่มีข่าวเชื่อมโยงกับฟอเรสต์ และเบรนท์ฟอร์ด
แม้ว่าจะเสียพลังในเกมส์รุกไปหลายคน แต่พีเอสวี ก็ยังมี ลุค เดอ ยอง กองหน้าจอมเก๋าวัย 33 ปี ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 4 เกมส์ที่ลงเล่นในรอบคัดเลือกแชมเปี้ยนลีก ที่ผ่านสตวร์มกราซ (7-2) และกลาสโกว์ เรนเจอร์ (7-3) จุดเด่นของเดอ ยอง คือความอันตรายในการเล่นลูกกลางอากาศ
นอกจากนี้ยังมีนักเตะที่น่าจับตามองคือ อิสมาเอล ไซบารี กองกลางตัวรุกวัย 22 ปีที่เพิ่งถูกเรียกตัวเขาไปติดทีมชาติโมร็อกโกชุดใหญ่ แข้งรายนี้มีส่วนผสมทั้งเรื่องความแข็งแกร่ง และทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม ในเกมส์ชนะเรนเจอร์ 5-1 เขายิงคนเดียวสองประตู
สำหรับฟุตบอลของปีเตอร์ บอสซ์ เป็นทีมที่เล่นเกมส์รุกได้น่าตื่นตาตื่นใจ เน้นการครอบครองบอล แต่เขาเองก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งตอนที่ไปคุมดอร์ทมุนด์, เลเวอร์คูเซ่น และลียง ในเรื่องของเกมส์รับ ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จในการออกไปคุมทีมนอกประเทศ
เซบีญ่า
ถ้าหากเรอัล มาดริด คือผู้เชี่ยวชาญในถ้วยแชมเปี้ยนลีก เซบีญ่า ก็เป็นเต้ยในถ้วยใบรองของยูฟ่า พวกเขาได้แชมป์ยูฟ่า คัพ/ยูโรป้าลีก 7 สมัยนับตั้งแต่ปี 2006 หนล่าสุดคือปีก่อนที่ชนะจุดโทษเอเอส โรม่า ในรอบชิงชนะเลิศยูโรป้าลีก และทำให้พวกเขาเป็นทีมวางในโถที่ 1
สองหนหลังสุดที่เซบีญ่า เข้ามาเล่นในแชมเปี้ยนลีก พวกเขาไม่สามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้เลย สำหรับกุนซือคนปัจจุบันคือ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ ที่เข้ามาแทนที่ ฆอร์เก้ ซามเปาลี เมื่อเดือนมีนาคม เขายกระดับผลการแข่งขันได้ทันที ด้วยการแพ้แค่นัดเดียวจาก 10 เกมส์ลีก ทำให้ทีมรอดพ้นการตกชั้นได้สำเร็จ ในถ้วยยุโรปพวกเขาผ่านทั้งพีเอสวี, เฟเนบาห์เช่, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยูเวนตุส ก่อนจะเข้าไปชิงชนะเลิศกับโรม่า
ในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในยูฟ่า ซูเปอร์คัพเมื่อเดือนก่อน พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยม แม้ว่าท้ายที่สุดจะแพ้ซิตี้ในการยิงลูกจุดโทษ ในค่ำคืนนั้น ลูกกลางอากศของ ยุสซูป เอ็น-เนสเซรี สร้างปัญหาให้กับแนวรับของทีมเรือใบสีฟ้าเป็นอย่างมาก
เซบีญ่า ยังมีแข้งจอมเก๋ามากประสบการณ์ในทีม ซึ่งแต่ละชื่อก็คุ้นหูเป็นอย่างดี เฆซุส นาบาส ฟูลแบ็คขวาวัย 37 ปี, อีวาน ราคิติช ห้องเครื่องวัย 35 ปี และเอริก ลาเมร่า แนวรุกอดีตเด็กเก่าของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์วัย 31 ปี
อย่างไรก็ตามทางเซบีญ่าต้องเสีย ยานซิน โบโน่ ผู้รักษาประตูฝีมือดีทีมชาติโมร็อกโดไปให้กับอัล ฮิลัล และช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ พวกเขามีสถิติย่ำแย่มากในลาลีกา ด้วยการแพ้ 3 นัดรวด อยู่อันดับสุดท้ายของตารางคะแนน เสียไป 8 ประตู ส่วนเกมส์รุกก็ยังไว้ลายอยู่บ้างด้วยการทำได้ 5 ประตู