ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 มิเกล อาร์เตต้า เคยได้ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกกับความเห็นในการเป็นโค้ช ก่อนที่ภายหลังจากที่เขาแขวนสตั๊ด และไปทำงานเป็นผู้ช่วยของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตั้งแต่ฤดูกาล 2016/17
และเวลานี้ชื่อของอาร์เตต้า วัย 36 ปี กลายเป็นตัวเต็งที่จะเข้ามาคุมทีมแทนอาร์แซน เวนเกอร์ ที่จะคุมทีมอาร์เซน่อลเป็นนัดสุดท้ายในช่วงค่ำวันนี้ ปิดฉากเส้นทางอันยาวนานกว่า 22 ปี
คิดนานหรือยังเกี่ยวการจะเป็นผู้จัดการทีม?
เพื่อนร่วมทีมของผมมักจะถามเสมอว่า เลิกแล้วนายจะไปทำอะไร? ทำไมนายถึงไม่ไปเป็นผู้จัดการทีม นายควรจะไปเป็นผู้จัดการทีมนะ
ผมทราบดีเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่นี้ และผมรู้ว่ามันหนักแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อคุณได้มองไปที่บอส (เวนเกอร์) และเห็นว่าเขาใช้เวลามากแค่ไหนต่อวันในการทำงานที่นี้ คุณจำเป็นต้องเสียสละเวลากับครอบครัว ซึ่งผมก็ทำมาตลอดตั้งแต่อายุ 15 ปี
แต่ผมก็ชื่นชอบที่จะได้จัดการกับนักเตะในทีม และทีมงานสต๊าฟโค้ช มันเป็นเรื่องจริงที่ผมต้องการเป็นผู้จัดการทีม ก่อนอื่นผมต้องการค้าแข้งในนานที่สุด เพราะตอนนี้ผมอายุ 32 ปี และไม่มีทางรู้ว่าจะไปได้อีกนานแค่ไหนในเส้นทางนี้ ผมอาจจะเล่นได้จนกระทั่งถึงอายุ 34,35 หรือ 36
จากนั้นผมจะยังคงจะอยู่ในวงการฟุตบอลต่อไป เพราะผมต้องการเพิ่มความสามารถบางอย่าง ผมอยากที่จะพิสูจน์ตัวเอง และพิสูจน์ความคิดของตัวเองเกี่ยวกับการบริหารจัดการ และกระตุ้นให้ทำตามแนวทางที่ผมเชื่อว่ามันดีที่สุด
ปรัชญาในการทำทีมของคุณคืออะไร?
ปรัชญาของผมมันชัดเจน ผมจะให้ทุกคนทุ่มเท 120% นั่นคืออย่างแรกที่สุด ถ้าไม่แล้วคุณคงเล่นในทีมผมไม่ได้ ความมุ่งมั่นและทุ่มเทคือสิ่งที่สำคัญที่สุด จากนั้นผมต้องการฟุตบอลทีสนุก เราต้องการสร้างความบันเทิงให้กับแฟนบอลที่เขามาดูเรา ผมมั่นใจ 100% ว่าจะทำให้มันเกิดขึ้น และผมคิดว่าตัวเองทำได้
ระบบการเล่นที่จะใช้:
ผมคิดว่าคุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน คุณสามารถมีไอเดียเกี่ยวกับระบบการเล่นได้ แต่คุณก็ต้องสามารถที่จะปรับเปลี่ยนมันได้เช่นกัน มันขึ้นอยู่กับนักเตะที่คุณมี ความรวดเร็วที่คุณมีในแดนหน้า เทคนิคการเล่นที่คุณมี ความเสี่ยงแบบไหนที่ทีมของคุณสามารถรับมือได้ และนักเตะของคุณพร้อมที่จะรับความเสี่ยงนั้นไหม
มันสำคัญที่คุณจะต้องวิเคราะห์นักเตะของตัวเอง เพราะคุณไม่สามารถเล่นในแนวทางเดิม มันมีรายละเอียดที่แตกต่างและต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อใช้จัดการกับคู่แข่งที่เราต้องเจอ และทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบ
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้จัดการทีม คือในวันศุกร์ก่อนเกมส์ คุณจะต้องจิตนาการว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันเสาร์ และถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีพอสำหรับผม
บุคคลที่มีอิทธิพลต่อการเป็นผู้จัดการทีมของเขา:
แน่นอนว่า คนนึงก็คืออาร์แซน เวนเกอร์ เขามีปรัชญาที่เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนมัน เพราะเขาเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมกับปรัชญาของเขา นั่นมันก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะถ้าคุณไม่เชื่อ แล้วเปลี่ยนทันทีที่มีการแข่งขันที่แย่ และมันจะทำให้นักเตะของคุณประสาทเสีย
อีกคนก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผมรู้จักกับเขาตั้งแต่อายุ 15 วิธีในการมองฟุตบอลของเขามันล้ำไปข้างหน้าอยู่เสมอ ทำให้เขาดูเหมือนจะพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ อีกคนก็คงเป็น เมาริสซิโอ โปเซ็ตติโน่ เขาเป็นกัปตันทีมของผมที่เปแอชเช และผมรู้เสมอว่าเขาจะเป็นผู้จัดการทีมในสักวัน
เขาได้รับอิทธิพลอย่างมากจาก มาร์เซโล่ บิเอลซ่า โค้ชทีมชาติอาร์เจนติน่าของเขา พวกเขาใช้วิธีในการพูดคุยที่เยอะ และคุณสามารถเห็นได้ว่าทีมของเขามีความดุดันมาก ทั้งเวลาเล่นเกมส์รุก และเกมส์รับ
เขาเล่นด้วยวิธีการที่เสี่ยงเยอะมาก นักเตะก็สนุกที่ได้เล่นกับเขา การตัดสินใจของเขามันดีเยี่ยมเสมอ และเขาก็ยังเป็นคนที่มีบุคคลิกดีอีกด้วย ผมเฝ้ามองเขาตั้งแต่ผมเป็นนักเตะดาวรุ่ง
"อาร์เตต้า" บอกถึงปรัชญาลูกหนัง และระบบการเล่นเมื่อเขาเป็นผู้จัดการทีม
#1
Posted 13 May 2018 - 12:40 PM
#2
Posted 13 May 2018 - 01:06 PM
อ่านแนวความคิดมันก็ดีทีเดียว แต่การปฏิบัติก็เป็นอีกเรื่อง บุคลิกของอาร์เตต้ามันได้อยู่แล้วล่ะ แต่ประสบการณ์นี่สิคือปัญหา จะรับมือแรงกดดัน เอานักเตะในทีมอยู่หรือเปล่า การตั้งกุนซือรุกกี้มันก็เสี่ยงไม่น้อย เพราะมันไม่ง่ายที่จะเกิดกรณีแบบ เป๊ป หรือซีดาน ที่มีประสบการณ์แค่คุมทีมเด็กแล้วกระโดดมาประสบความสำเร็จเลย
#9
Posted 13 May 2018 - 04:18 PM
สำหรับอาร์เตตาร์ ไม่รู้สิ ตอนเป็นกับตันทีมเรา ก็ไม่ใช่แนวตะโกน กระตุ้น สั่งการทีมอะไรมากมายอยู่แล้ว ความเป็นผู้นำทีมตอนเป็นกัปตันทีมก็ไม่ได้สูงปรี๊ดแบบ ซีดาน และเป๊ป ที่บุคคลิกดุดัน เฉียบขาด การสั่งการณ์ข้างสนามสองคนนี้ก็แสดงออกชัดเจน อาร์เตต้าร์ประสบการณ์เป็นผู้ช่วยแค่สองปีถือว่าน้อยมาก เพราะซีดาน หรือเป๊ป ยังเคยคุมทีมเยาวชนมาสองปี แต่อาร์เตตาร์นี้ไม่เคยมีการคุมทีมเลย แถมกลัวบุคลิคจะออกแนว นิ่ง สุขุม แบบเวนเกอร์ยุคท้ายๆ ซะมากกว่า อยากให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกหน่อย อยากให้อยู่กับผู้จัดการทีมคนอื่น อีกสักคนสองคน เพราะจะได้ปรับมาใช้กับตัวเองได้ เพราะไม่เชื่อว่าเป๊ปจะสอนเคล็ดลับอะไรหมดอยู่แล้ว เพราะไม่งั้นคนเป็นมือขวาผจก.ทีมดังๆ ที่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องประสบความสำเร็จเหมือนกัน แต่เห็นผู้ช่วยส่วนมากก็ไม่ได้เก่งและประสบความสำเร็จไปซะทุกคน
#12
Posted 13 May 2018 - 08:49 PM
ชั่วโมงขายของเลยทีนี้ ดูมีแนวโน้มจะได้ละนะ
------------------------
http://www.taxiKingdom.com http://www.taxiChiangmaiDelivery.com
http://www.taxiChiangmai24Hour.com http://www.lannaTaxiChiangmai.com
http://www.TravelChiangmaiTaxi.com
#19
Posted 14 May 2018 - 09:39 AM
"มันสำคัญที่คุณจะต้องวิเคราะห์นักเตะของตัวเอง เพราะคุณไม่สามารถเล่นในแนวทางเดิม มันมีรายละเอียดที่แตกต่างและต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อใช้จัดการกับคู่แข่งที่เราต้องเจอ และทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบ" นี่คืออีกหนึ่งวิศัลย์ทัศน์ที่โค้ชควรจะมีแต่ปัญหาอยู่ที่ว่าคุณมีจุดนี้ดีจริงหรือเปล่า..เพราะที่ผ่านมาเคยได้ยินว่าโค้ชที่ผ่านไปมีปรัชญาจะให้นักเตะเล่นกันอย่างอิสระ..ไร้สาระสิ้นดี
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users