ภาพจาก dailystar.co.uk
วันนี้ ผมมีบทสัมภาษณ์ของอดีตกองกลางทีมเราอย่าง 'กิลแบร์โต ซิลวา' ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ The Debate ของช่อง Sky Sports มาให้อ่านกันครับ
อดีตกองกลางชาวบราซิลที่เคยค้าแข้งกับทีมอาร์เซน่อลในช่วงปี ค.ศ. 2002-2008 ออกมากระตุ้นนักเตะในทีมอาร์เซน่อลให้ลุกขึ้นสู้ และทำผลงานให้ดีที่สุด พร้อมกับปกป้องอาร์แซน เวงเกอร์จากคำครหาด้วย
จากผลงานในฤดูกาลนี้ของค่ายปืนโต จมอยู่อันดับ 6 ของตารางพรีเมียร์ลีก ตามหลังเชลซีที่อยู่อันดับ 5 อยู่ 8 คะแนน และห่างจากอันดับ 1 อยู่ 33 คะแนน เรียกได้ว่าหมดสิทธิ์คว้าแชมป์ลีกอีกปีอย่างแน่นอน
และก็เป็นเหมือนกับปีที่ผ่านมา ทีมปืนใหญ่ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้อีกครั้ง หากยังจำกันได้ อาร์เซน่อลคว้าแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายก็ต้องย้อนไปตั้งแต่ปี 2004 นู่นเลยทีเดียว และในปีนี้นายใหญ่ชาวฝรั่งเศสถูกกดดันอย่างหนักจากทุกฝ่ายจากผลงานอันย่ำแย่ที่คว้าแชมป์ลีกไม่ได้อีกปี และดูเหมือนว่าการจะไปเตะใน ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลนี้จากโควต้าอันดับ 4 ก็ดูจะจบลงอีกด้วย
ภาพจาก schoolplus.co.uk
กิลแบร์โต ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าบอสมาดผู้ดีตกเป็นแพะรับบาปให้กับสถานการณ์ดังกล่าว ที่คว้าน้ำเหลวจากการแข่งขันในลีกอีกครั้ง
"ผมทำงานร่วมกับอาร์แซนมานานนะ ผมจึงรู้จักเค้าดี เค้ารักในเกมการแข่งขันและอยากเอาชนะมันอยู่เสมอ เค้าเสียสละตัวเองให้กับนักเตะทุกคนและสโมสรแห่งนี้นะครับ
"ในสถานการณ์ตอนนี้ทุกอย่างดูยากขึ้น แต่ผมมองว่าบอสพยายามทำทุกอย่างอย่างสุดความสามารถเพื่อจัดการกับแรงกดดัน และเค้นศักยภาพนักเตะที่มีอยู่ให้ออกมาอย่างดีที่สุด แรงกดดันมันเข้ามาหาเค้าตลอดเวลา และบอสก็ออกมาแสดงให้เห็นตลอดเช่นกันว่าบอสเชื่อใจนักเตะของเค้ามากแค่ไหน
ภาพจาก 888sport.com
"มันถึงเวลาแล้วแหละ ที่ต้องมีนักเตะบางคนลุกขึ้นสู้ และจัดการกับแรงกดดันพวกนั้นเพื่อคนที่ไว้ใจเค้า เพราะตลอดเวลา แรงกดดันพวกนี้ก็มาจากคำถามจากพวกสื่อมวลชนที่ถามตลอดว่า 'เมื่อไหร่เวงเกอร์จะไปซักที เพราะเค้าดูหมดไฟในการทำงานแล้วนะ'
"แต่ผมมองว่า คำถามพวกนี้ไร้สาระ ไม่เกี่ยวอะไรหรอก นักเตะทุกคนควรออกมาแสดงออกให้เห็นว่าทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อคนที่ไว้ใจเค้า ตราบเท่าที่คนนั้น [หมายถึงอาร์แซน เวงเกอร์] ยังทำงานอยู่กับสโมสร"
ชัยชนะที่มีเหนือทีมยักษ์หลับแห่งเมืองมิลาน 5-1 ในศึกยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมที่ผ่านมาและการที่ชนะทีมวัตฟอร์ดอย่างสวยหรู 3-0 แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของนักเตะภายในทีมที่กำลังกลับมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าการจะขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4 จะเป็นไปได้ยากแล้วก็ตามที
เราต้องมาลุ้นกันต่อกับช่วงโค้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ว่าอีก 8 นัดที่เหลือ [24 คะแนนเต็ม] ทีมเราจะคว้ามาได้มากแค่ไหน จะโชว์ให้เห็นว่าทีมยังหนุนหลังกุนซือวัยเก๋าอยู่หรือไม่ และการแข่งขันในฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็กที่เหลืออยู่ เราจะไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไปครับ
ป.ล. ผมไม่ได้เป็นแฟนคลับของบอสอาร์แซน เวงเกอร์นะครับ แต่ผมขอออกมายอมรับว่าผมยอมรับกับสิ่งที่มี บอสเหมือนจะหมดไฟไปแล้วในการแก้เกมในลีก แต่ผมยังสนับสนุนบอสต่อไปในฐานะที่บอสยังคงทำงานให้กับสโมสร บอสยังเต็มที่กับมันถึงแม้ว่าผลงานที่ออกมาจะสวนทาง และขัดใจแฟนบอลมากก็ตามที
ป.ล. 2 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ หากมีอะไรที่ผมแปลผิดพลาด ตกหล่นไป ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพราะผมแปลจากบทสัมภาษณ์จริง แต่ก็มีใส่สำนวนของตัวเองเข้าไปบ้างนิดหน่อย ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน หากมองเห็นถึงจุดผิดพลาดใด ๆ ก็คอมเมนท์บอก ติชมได้เลยครับ
ภาพจาก independent.co.uk
Credit : skysports.com และเว็บไซท์ภาพที่ผมอ้างอิงใต้ภาพด้วยครับ