Jump to content



Photo

เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด หรือ ACL ครับ


  • Please log in to reply

#1
โงกุน

Posted 23 January 2019 - 12:53 PM

โงกุน

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 477 posts

ก่อนอื่นเห็นจากข่าวว่า น้องเบ ของเราได้เอ็นไขว้หน้าขาด พอเห็นจากนัดที่ผ่านมาดูจากอาการแล้ว เห็นภาพตัวเองลอยมาเลยครับ รู้เลยว่า อาการหนักแน่ๆ ขอแค่ไม่กระทบส่วนอื่นๆก็พอ

 

ส่วนตัวผมเองก็ เอ็นไขว้หน้าขาดเหมือนกันครับ เลยจะมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน เพราะ ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวเลย พวกเราส่วนใหญ่ก็เตะบอลกันอยู่แล้ว ก็สามารถเกิดขึ้นได้เพื่อจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ

 

สิ่งที่จะนำเสนอมาจากประสบการณ์โดยตรงอาจจะผิดบ้างถูกบ้าง นะครับ

 

ผมตอนนี้อายุ 29 ปี ครับเหตุเกิด เมื่อ ปี 60 ประมาณปลายๆปี  ผมเล่นบอลในตำแหน่ง แบ็คซ้าย ปีกซ้าย และกองหน้าด้านซ้าย คือฝั้งซ้ายวิ่งได้ทั้งหมด เล่นที่สนาม super kick ลาดพร้าว เป็นประจำ เล่นก็ไม่ได้หนักมากมายอะไรเพราะ เป็นทีมที่ค่อนข้างมีอายุ คือมีตั้งแต่ 18-45 เลยครับ ก็ปกติ

 

แต่โดยส่วนตัวเป็นพวกชอบใชเความเร็วและเปลี่ยนทิศทางรวดเร็ว อะไรแบบนีครับ คือถนัดขวา ตัดแล้วยิง อวยตัวเอง 5555

 

เหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกผิดปกติก็คือ ผมหยีดขาไปสกัดลูก แบบเหยียดขาสุด แล้วโดนฝ่ายตรงข้ามเข้ามาชนบริเวณหัวเข่าจากทางด้านข้างครับ ตอนนั้นจำได้เจ็บมาก โดนห้ามออกมานั้งประคบนำ้แข็ง  วันนั้นก็อาบนำ้กลับบ้านเลย  ก็มาประคบนำ้แข็ง 2 วัน ต่อด้วยประคบร้อน แล้วก็นวดยากินยาแก้อักเสบไปเรื่อยก็ดีขึ้น ตามลำดับ

 

แต่ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปคือเหมือนเข่าเราหลวมๆ มีเสียงดังกรอบๆแก๊บๆ ในเข่า ก็ตั้งใจไว้ว่าหยุดไปสักเดือนนึง ก็น่าจะดีขึ้นหลังจากเดือนนึง ก็ลงรายการวิ่งต่างๆในกรุงเทพที่มีเยอะเหลือเกิน ก็ลงวิ่ง 10 กิโล ไป2-3 รายการ เอ๊ะ วิ่งได้นี้น่าาาาา เอาละกลับลงสนามได้แล้วเรา 5555  

 

รอค่อยเวลา เซียนนนน มากก ที่จะได้เล่นบอลอีกครั้ง ไปสนามด้วยความดีใจทุกคนทักทาย แซวกันไปไหนมาเป็นไงบ้างก็ขี้ไม้ ไปตามระบียบ 555

 

ถึงเวลาลงสนามก็ยืดๆ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจับบอลได้วิ่งประคองได้ จ่ายบอลได้ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น 

 

มีอยู่จังหวะหนึ่ง ผมจ่ายบอลคืนหลังด้วยความแรง แล้วก็ล้มลงไปเลย ไม่มีการเข้ามาปะทะ ใดๆ ทุกคนขำกันกลิ้งว่าหายสนามไปนาน จ่ายบอลยังล้ม ตอนนั้นขำมากกูเป็นไรว่ะแต่ก็เริ่มรู้สึกปวดเข่าแบบตึงๆ ก็ลุกมาเล่นต่อ จีงหวะต่อมา จ่ายบอลเท้าหลักขาซ้ายปักพื้น บรรจงแปลบอลด้วยเท้าขวา บอลออกจากเท้าก็ล้มเลยเหมือนเข่าเราหลุดไปเลย ทุกคนเริ่มเข้ามาดูว่าเอ๊ะมึงเล่าง่ายไปป่ะ จะเอาจุดโทษเหลอ 5555

 

 

ตอนนั้นรู้เลยกูไม่ปกติแล้วละตัดสินในอาบนำ้ไปหาหมอเลย ผมมีสิทธ์รักษาอยู่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งครับ ตอนนั้นเย็นแล้ว ไม่มีหมอเฉพาะทางแล้วมีแต่หมอธรรมดาทั่วไปก็ไปเล่าอาการทั้งหมดแล้วก็ตรวจ

 

หมอก็จับเข่าบิดไปมาแล้วไป เอ๊กซเรย์ ก็ไม่พบความผิดปกติต่อกระดูก แต่หมอบอกว่าเข่าหลวมๆ นะ ให้ดีต้อง MRi ถึงจะรู้ว่าเสียหายแค่ไหน ก็นัดเวลากันเลย

 

ถึงเวลามาก็ไป MRI เป็นอุโมงเข้าไปนอนสัก 1 ชม. มีหูฟังด้วยสงสัยจะให้ฟังเพลงปล่าวเลย ไอ้เครื่องบ้านั้นเสียงดังมากเหมือนอยู่ในสงครามเป็นเสียงดัง ปังๆๆๆๆๆ เป็นจังหวะการยิง หูฟังเอาไว้อุดหูนั้นเอง ออกมาจากสงครามได้ก็ มานั้นรอผล

 

 

หมอก็ชี้ว่าเห็นขาวๆนั้นไม เห็นครับหมอบอกว่านั้นเป็นเอ็นครับ เราก็เอาาปกตินี้หวา หมอบอกว่าเดียวเอาอันคนปกติมาให้ดู แม้งเป็นสีดำ สาสสสสสสสส  หมอบอกว่าสีขาวหมายถึงไม่มเอ็นไปแล้ว สาสสสสสสส ตกใจ  ก็เถียงไปว่าผมวิ่งได้นะ วิ่งตั้งหลายรายการถ้าขาดจะขับรถมาหาหมอได้เหลอ

 

 

หมออธิบายว่า เอ็นในเข้ายังมีเส้นอื่นอีก ไหนจะกล้ามเนื้อไหนจะกระดูก เอ็นขาดไม่ได้ขาขาด ยังใช้กิจวัตรประจำวันได้วิ่งได้ แต่ไม่สามารถใช้งานหนักๆ หรือเปลี่ยนทิศทางได้ขณะวิ่ง เพราะเอ็นเราไม่มีแล้วมันจะล้มไปเลยเหมือน ที่เราเตะบอลเป๊ะะะะะ   เราถึงวิ่งได้แต่เล่นบอลไม่ได้นั้นเองงง

 

 

เลยถามต้องทำไง หมอบอกว่าถ้าเลิกเล่นบอลใช้ชีวิตตามปกติก็อีก 6 เดือนมาคุยกันใหม่ แต่ถ้าจะให้หายต้องผ่าเท่านั้น แต่ก็จะไม่ 100 เปอร์เซ็น จะกลับมาสัก 80-90 เปอร์เซ็นเต็มที่  เลยบอกว่าขอกลับมาทำใจปรึกษาเครียล์งานแปบ เพราะเรื่องใหญ่แล้วละ

 

 

 

กลับมาก็คิดว่าเอาว่ะขาดแล้วก็ต้องผ่า ไม่ผ่าแก่ตัวไปจะลำบาก เลยมาเคลียล์งาน ศึกษา เรื่องเอ็นไขว้หน้าขาดไปเรื่อย แล้วก็นัดคิวหมอ สอบถามว่า เราจะเลือกวิธีการรักษายังไงแล้วพักฟื้นยังไง ต้องมีขั้นตอนยังไงบ้าง

 

 

สรุปก็คือ เราจะผ่าด้วยวิธีการส่องกล้องเข้าไปในหัวเข่า แล้วเอาเอ็น จากทางด้านหลังของเข่าตัดออกมาต่อแทนเอ็นที่ขาด ส่วนเอ็นที่โดนตัดไปจะค่อยๆฟื้นตัวกลับมาเองได้  ง่ายๆคือวิชาย้ายเอ็นนั้นเอง

 

พักโรงพยาบาล 3 วัน ที่เหลือไปกายภาพที่บ้านส่วนมากก็ทิ้งไม้เท้าภายใน 14 วัน กลับมาเดินปกติใน 1 เดือน วิ่งได้ใน 3 เดือน เล่นกีฬาได้ใน 9-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ครับ

 

ค่าใช้จ่ายแล้วแต่ที่ครับของผมตีคร้าวๆ ก็แสนกว่าบาทแต่จ่ายจริงไป 6 พันกว่าบาทค่าห้องพิเศษที่เราเพิ่มไปเอง 

 

ก็ตกลงรักษา ของยากที่หมอแนะนำคือเรื่องฉี่ เพราะเราต้องผ่าโดยการบล๊อคหลัง ออกมาจากห้องภายใน 4-5 ชั่วโมงเราต้องฉี่ให้ออก ไม่นั้นโดนสวนฉี่ จบกันชีวิต อันนี้ยอมรับกังวลโดนสวนฉี่มากกว่าผ่าอีก 5555  กับอีกอย่างคือการกายภาพหลังผ่าจะเป็นตัวชี้วัดว่าเราจะกลับมาได้เมื่อไร

 

 

ถึงวันผ่าก็ตามขั้นตอนทั่วไป เสียบนำ้เกลือ ล้างท้อง โกนขนขา นอนพัก จนเบื่อไปเรื่อยพอถึงเวลาก็มีคนมาเข็นเราเข้าห้องเชือด ก็โดนถอดเสื้อผ้านอนทำตัวเหมือนกุ้งเพื่อที่จะแทงเข็มเข้ากระดูกสันหลังตามข้อต่อเพื่อบล็อคหลัง ตอนนี้แม้งเจ็บมาก เข็มยาวแทงไปที่ไขสันหลังดังปึกๆๆๆ  นำ้ตาเล็ด แต่แป็บเดียวเท่านั้นท่อนล่างทั้งท่อนก็หายไปแบบไม่รู้สึกไรอีก เลยแม้แต่ไข้ก็ไม่รู้  5555

 

หมอก็เข้ามาคุยอธิบายว่าจะทำไรใช้เวลาเท่าไรโน้นนี้นั้น คร่าวๆก็คือจะเอากล้องเข้าไปในเข่าแล้วถึงจะบอกได้ว่าเราจะทำยังไงต่อ แล้วก็บอกว่าจะดูว่าเราไหวแค่ไหนถ้าไม่ไหวขอวางยาสลบต่อเลยหลังจากบล็อคหลัง เราก็ครับๆ ตอนนั้นหนาวมากกกก ไม่รู้กลัวหรือแอร์เย็น

 

 

ก็นอนเหมือนโดนหั่นศพไปเรื่อยก็ยังไม่หลับแต่รู้ว่าแม้งท่อนล่างกูโดนกระทำอย่างหนักมีพยบาลสาว 5-6 มุงดูท่อนล้างเรา หมดแล้วล่ะ ไข่เขย อะไร เห็นหมดแล้ว สักพักหมอบอกว่าขอวางยานะคะ เราบอกว่าเออผมไหวนะ ไม่เจ็บเลย เพราะถ้าวางยาจะฟื้นตัวช้ากว่า จากที่ศึกษามาก่อน หมอบอกใช้ค่ะคุณไม่เจ็บเพราะโดนบล็อคหลัง แต่ความดันคุณเริ่มสูงแล้ว วางยาดีกว่าค่ะ เราก็ครับๆ ก็กูไม่เจ็บนี้หว่า ยังจะเปรี้ยว555

 

 

แป๊บเดียวสลบ หายไปนานขนาดไหนไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีหมอมาปลุกบอกเสร็จแล้วก้มไปดูขาตัวเองโดนพันทั้งแต่ข้อเท่าขึ้นมาโคนขาแน่นมากแล้วก็บวมใหญ่แบบขายักเลย เห็นก็สลบต่อ ไปตื่นอีกที่ ที่ห้องพักฟื้นก็มี พี่ๆ น้องๆ พ่อแม่มาดูไรงี้ พอเริ่มหมดยา สิ่งแรกที่คิดคือ

 

 

กูต้องเยี่ยวให้ออกๆๆๆๆๆๆ เร็วที่สุด อีสัสสสส ขอหยาบ แม้งท่อนล่างกูไม่รู้สึกไปแล้วแถมนอนอยู่กับที่ ขาเริ่มปวดนิดๆ เบ่งแรงก็ปวดแล้วต้องนอนเยี่ยวบนเตียง มึงเอ้ยยยย ยอมแล้วว่าแม้งยากกว่าผ่า แบ่งอยู่นานมากจนหมอมาบอกว่าเดียวเข้ามาอีกครั้งไม่ออกต้องสวนนะ

 

กูเบ่งแม้งหน้าแดงขาเจ็บกูไม่สนแล้ว แค่พวกพยาบาลเห็นไข่กูหมดทั้งห้องก็เกินพอแล้วยังจะมาแทงสายเข้าไปในไข่อีก กูจะไม่ทน  กลั้นใจเบ่งงงงง สุดท้ายออกดีใจมากกกกกกก

 

แป๊บเดียวหมอเข้ามา อ้าวออกแล้วนิอุส่าไปเอาอุปกรณ์มาแม้งมองไปในถาดเข็มใหญ่มากกกกก รอดไปแล้วกู หมอก็บอกว่าการฉี่เป็นการขับยาอีกสักพักยาหมดเราจะปวดทนได้เท่าที่ทนไม่ไหวกดเรียกนะ เราก็อ่าวกูเอายาออกแล้วต้องมาทนเจ็บอีกเหลอชีวิต

 

 

ผ่านไป 2 ชม นรกมีจริงมีเจ็บมากกดเรียกมาอัดยาจนพยาบาลบอกว่ารับยามากกว่านี้ไม่ได้แล้วแม้งนอนไม่หลับเจ็บจนได้ยินเสียงหัวใจเต็นยันเช้า ก็เริ่มดีขึ้น รอดมาได้แล้ววันนรก

 

วันต่อมาแม้งต้องไปกายภาพเลย ถามหมอว่าถามจริงพึ่งผ่าเมื่อวานจะให้เดินเลยเหลอ นี้กระดิกนิ้วโป้งยังเจ็บเลย หมอบอกว่าเจ็บต้องเดินต้องทนเราผ่าเกี่ยวกับเอ็นกายภาพสำคัญ แม้งฝึกเดินแบบเกาะราวทุกๆก้าวคือนำ้ตา 

 

*** เราจะเห็นว่าน้องเบ ผ่าแล้วเดินถือไม้เท้ากลับได้เลยเพราะก่อนที่เค้าจะผ่าร่างกายเค้าพร้อมกว่าเราอยู่แล้ว และได้รับการรักษาทันทีหลังจากเกิดอาการ ทุกอย่างได้รับการดูแลอย่างดีเลยบอบชำ้น้อย ก็จะกลับมาได้เร็ว

 

 

หลังจากนั้นสามวันก็กลับมาพักต่อที่บ้าน ฝึกใช้ไม้เท้า นั้งรถเข็น แล้วก็กายภาพตามท่าที่เค้ากำหนดครับ ยอมรับว่าเจ็บมากแล้วไม่คุ้มเลยครับกับที่ต้องเป็นแบบนี้ ผมหยุดงานไปเดือนนึงเต็มๆ 

 

 

 

ทุกวันนี้ผ้านไปประมาณ 9 เดือน ตามเวลาที่ แพทย์คาดการ น้องเบ เป๊ะๆ  แต่ผมกลับทำได้แค่การวิ่งเองครับ นำ้หนักขึ้นมา 10 กิโล ไม่กล้าไปเตะบอล กลัวว่ายังไม่พร้อมแล้วจะเป็นอีก คิดว่า จะให้ครบ 1 ปีก่อน แล้วพยายามลดนำ้หนักให้กลับไปปกติ

 

ทุกๆวันนี้วิ่งยังปวดๆตึงๆ อยู่เลย

 

 

พวกนักกีฬาที่ผ่านการเจ็บหนักมา ไม่ใช้แค่ร่างกายที่ต้องหายครับ แต่ใจด้วยครับที่ต้องหายและมั่นใจในทุกๆการเคลื่อนไหว ถ้าผ่านไปไม่ได้ก็จะกลายเป็นเล่นไม่เป็นธรรมชาติ ความสามารถก็ลดลงไป

 

 

เป็นกำลังใจให้น้องเบ และ คนอื่นๆที่เจ็บยาวในทีม ร่วมถึงเพื่อน อเซนอลทุกคนครับ สู้ๆ



#2
แกะเทา

Posted 23 January 2019 - 05:05 PM

แกะเทา

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 382 posts
ผมต้องระวังให้มากกว่านี้ละ เพราะผมเป็นพวกสปริ้นได้เร็ว เปลี่ยนทิศทางเร็ว แถมที่ที่เล่นอยู่ออกแนวโหดกันทุกคน

#3
GoodKnight

Posted 23 January 2019 - 06:16 PM

GoodKnight

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 554 posts

ขอบคุณคับ ทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมนักฟุตบอลหลายๆคนหายเจ็บกลับมาแล้วฟอมไม่เหมือนเดิม เป็นกำลังใจให้ จขกท ครับ หวังว่าจะกลับไปเตะบอลได้ แต่ที่ยากกว่านั้นคือลดน้ำหนักคับ ฮ่าๆๆ



#4
โงกุน

Posted 24 January 2019 - 09:09 AM

โงกุน

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 477 posts

ผมต้องระวังให้มากกว่านี้ละ เพราะผมเป็นพวกสปริ้นได้เร็ว เปลี่ยนทิศทางเร็ว แถมที่ที่เล่นอยู่ออกแนวโหดกันทุกคน

 

 

ได้ไม่คุ้มเสียครับ เก็บไว้เดินกับลูกยามแก่ดีกว่า



#5
โงกุน

Posted 24 January 2019 - 09:10 AM

โงกุน

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 477 posts

ขอบคุณคับ ทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมนักฟุตบอลหลายๆคนหายเจ็บกลับมาแล้วฟอมไม่เหมือนเดิม เป็นกำลังใจให้ จขกท ครับ หวังว่าจะกลับไปเตะบอลได้ แต่ที่ยากกว่านั้นคือลดน้ำหนักคับ ฮ่าๆๆ

 

ใช้ครับ ยิ่งนำ้หนักเรามากขึ้น อะไรๆ ก็ไม่เหมือนเดิม ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจครับ



#6
sumsumsum

Posted 24 January 2019 - 03:16 PM

sumsumsum

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 542 posts
ตามอายุครับ ผมพวกบ้ากำลังเป็นกลองหลังวิ่งชนเบียด ส่วนใหญ่จะเจ็บเพราะโดนเล่นนอกเกมส์ยันบ้างศอกใส่บ้าง พออายุ 30 เริ่มเบื่อพอเจ็บมันนานหายเลยเลิกเล่น

#7
โงกุน

Posted 24 January 2019 - 04:22 PM

โงกุน

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 477 posts

ตามอายุครับ ผมพวกบ้ากำลังเป็นกลองหลังวิ่งชนเบียด ส่วนใหญ่จะเจ็บเพราะโดนเล่นนอกเกมส์ยันบ้างศอกใส่บ้าง พออายุ 30 เริ่มเบื่อพอเจ็บมันนานหายเลยเลิกเล่น

 

ตอนแรกที่จะผ่าก็คิดอยู่ว่าต้องหยุดเล่นฟุตบอลจะทำไงดี  พอนานไปก็ชินครับ ก็อยู่ได้ครับ 



#8
NN Arsenal '89

Posted 28 January 2019 - 11:08 PM

NN Arsenal '89

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 206 posts
  • LocationBKK

ผมเคยเจ็บเข่าจากการเล่นบอล ราวๆสองปีที่แล้ว  แบบว่าไม่วอร์มแล้วรีบลงเตะ  จังหวะยืดไปเอาบอลเข่าซ้ายกระตุกดังแกร๊ก ช่วงแรกที่เป็นก็เดินกระเผกลงเท้าหนักไม่ได้เลย หลังจากนั้นก็เข่าตึงๆ  จึงพักการเตะบอลนานหลายเดือน ออกกำลังกายด้วยการวิ่งแบบเบาๆแทน  ลองไปเตะบอลบ้างต้องใส่ปลอกรัดเข่าด้วย  แต่เข่าก็จะตึงๆหลังเตะ จากนั้นนั้นก็ไม่ค่อยได้เตะบอลบ่อยเท่าไรด้วยภาระครอบครัว(เลี้ยงลูก)    ตอนนี้วิ่ง,เดิน ได้ปกติ  มีแค่ยกเข่าบางจังหวะ อย่างขึ้นบันไดหลายขั้นก็จะขัดๆเจ็บนิดๆ   ที่ไม่กล้าไปหาหมอ  กลัวเรื่องผ่าตัดนี่แหละ  ถ้าผ่าต้องพักฟื้นนาน  ทำให้มีผลกระทบกับชีวิตหลายด้าน  



#9
โงกุน

Posted 29 January 2019 - 09:32 AM

โงกุน

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 477 posts

ผมเคยเจ็บเข่าจากการเล่นบอล ราวๆสองปีที่แล้ว  แบบว่าไม่วอร์มแล้วรีบลงเตะ  จังหวะยืดไปเอาบอลเข่าซ้ายกระตุกดังแกร๊ก ช่วงแรกที่เป็นก็เดินกระเผกลงเท้าหนักไม่ได้เลย หลังจากนั้นก็เข่าตึงๆ  จึงพักการเตะบอลนานหลายเดือน ออกกำลังกายด้วยการวิ่งแบบเบาๆแทน  ลองไปเตะบอลบ้างต้องใส่ปลอกรัดเข่าด้วย  แต่เข่าก็จะตึงๆหลังเตะ จากนั้นนั้นก็ไม่ค่อยได้เตะบอลบ่อยเท่าไรด้วยภาระครอบครัว(เลี้ยงลูก)    ตอนนี้วิ่ง,เดิน ได้ปกติ  มีแค่ยกเข่าบางจังหวะ อย่างขึ้นบันไดหลายขั้นก็จะขัดๆเจ็บนิดๆ   ที่ไม่กล้าไปหาหมอ  กลัวเรื่องผ่าตัดนี่แหละ  ถ้าผ่าต้องพักฟื้นนาน  ทำให้มีผลกระทบกับชีวิตหลายด้าน

 

ถ้าไม่ติดขัดเรื่องค่าใช้จ่าย ก็ลองไป MRI ดูก่อนก็ได้ครับ จะได้ทราบแนวทางว่าเป็นอย่างไร โดยประมาณก็สัก 8000 บาทครับ แต่ประกันสังคมน่าจะรองรับด้วยนะครับ อันนี้ต้องลองสอบถามโรงพยาบาลอีกที เอาใจช่วยครับแก่ตัวไปบางทีก็ไม่อยากเล่นแล้ว สู้พวกเด็กๆไม่ได้ ทั้งๆที่มั่นใจว่าเราทักษะดีกว่าแต่ไม่มีแรง 5555  สู้ๆ ครับ



#10
tnn191

Posted 31 January 2019 - 12:28 PM

tnn191

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 234 posts

อ่านจนจบเลย เกือบเหมือนกัน แต่เท่าที่อ่าน อาการผมเด็กๆไปเลย ของผมโดนเตะสวนข้อเท้าพริก กระดูกแตก พัก 9 เดือน ตอนนี้ปกติดีทุกอย่าง ส่วนการเล่นบอลตอนนี้ ถ้าใครวิ่งมาแล้วสวน หลบให้ตามสะบายเลยพี่ 555+++



#11
โงกุน

Posted 05 February 2019 - 09:10 AM

โงกุน

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 477 posts

อ่านจนจบเลย เกือบเหมือนกัน แต่เท่าที่อ่าน อาการผมเด็กๆไปเลย ของผมโดนเตะสวนข้อเท้าพริก กระดูกแตก พัก 9 เดือน ตอนนี้ปกติดีทุกอย่าง ส่วนการเล่นบอลตอนนี้ ถ้าใครวิ่งมาแล้วสวน หลบให้ตามสะบายเลยพี่ 555+++

 

ใครอยากได้จริงจังขนาดนั้น ยกให้ครับบบบ  เก็บขาไว้เล่นในสัปดาห์ถัดไปดีกว่า ครับ เราไม่ใช้นักฟุตบอลอาชีพ เจ็บมานี้ภาระล้วนๆ 



#12
ปืนกระบอกเก่า

Posted 17 February 2019 - 12:02 PM

ปืนกระบอกเก่า

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,720 posts
ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์สยองให้ฟังครับ
ทุกวันนี้เวลาเดินสวนกับพยาบาลนี่ กล้าจ้องตาเค้ามั้ยครับ 55




0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users