มิเกล อาร์เตต้า กำลังจะกลายเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของอาร์เซน่อล แม้ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ในการคุมทีมมาก่อน การเลือกอดีตดาวเตะวัย 36 ปี มาแทนที่อาร์แซน เวนเกอร์ ถูกมองว่าเป็นเรื่องเสี่ยง แต่เมื่อมองย้อนกลับไปยังอดีตของเขา มันเหมือนชะตาได้ลิขิตให้เขาเป็นผู้จัดการทีมในสักวัน
อลัน สตั๊ปป์ ปราการหลังจอมแกร่ง ที่เคยเล่นร่วมกับอาร์เตต้า ที่เอฟเวอร์ตัน ตอนนั้นอาร์เตต้าถูกยืมตัวมาจากเรอัล โซเซียดัดในวัย 22 ปี ถึงแม้จะเป็นนักเตะดาวรุ่ง และยังใหม่กับฟุตบอลอังกฤษ แต่มันชัดเจนว่ากล้าที่จะยืนขึ้นในห้องแต่งตัว และพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด
สตั๊ปป์ให้สัมภาษณ์กับสกายสปอร์ตว่า: "มิเกล จะแสดงความคิดเห็นอยู่เสมอเกี่ยวกับวิธีการเล่นของทีม เขาไม่เคยที่จะลังเลที่จะเดินออกมาแล้วพูดบางอย่างกับทุกคนในทีม เขาจะพูดว่าสิ่งไหนที่ทีมไม่ควรทำ หรือสิ่งไหนที่ทีมต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเก็บบอล หรือการสร้างโอกาสให้มากขึ้นในพื้นที่สุดท้าย"
"ถึงแม้ว่า,uบางคนจะเห็นด้วย และบางคนที่ไม่เห็นด้วย แต่มันเป็นการสนทนาแลกเปลี่ยนที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ และแม้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่อาวุโสที่สุดในทีม แต่เขาก็ไม่กลัวที่จะพูดความคิดของตัวเองออกมา มิเกลเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ และมีไอเดียที่จะพาทีมชนะในเกมส์ หรือพาทีมกลับมาสู่เกมส์"
"เขาเป็นมืออาชีพมาก และมีความมุ่งมั่น มันชัดเจนว่าเขามีมันสมองด้านฟุตบอลอย่างเต็มเปี่ยม เขาเป็นนักเตะประเภทที่ต้องการได้รับบอล และกำหนดวิธีการเล่นของเอฟเวอร์ตันในเวลาเดียวกัน"
กับกระแสการเลือกอาร์เตต้า สร้างความแตกแยกทางด้านความคิดในกลุ่มแฟนบอลของอารืเซน่อล หลายต่อหลายคนเชื่อว่าบอร์ดบริหารควรจะเลือกผู้จัดการทีมอย่าง อัลเลกรี หรือเอ็นริเก้ ที่ผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน ส่วนอาร์เตต้า ไม่มีประสบการณ์คุมทีมแม้แต่นัดเดียว
แต่เช่นเดียวกับสตั๊ปป์ ที่เห็นความเป็นผู้ใหญ่ในตัวของเจ้าหนูจากสเปนที่เอฟเวอร์ตัน กวาร์ดิโอล่า ต้องการดึงเขามาที่ซิตี้ โปเซ็ตติโน่ เองก็อยากได้เขามาที่ท็อตแน่ม นั่นแสดงให้เห็นว่าสองกุนซือระดับแนวหน้าของโลกเวลานี้ ต่างเห็นบางอย่างในตัวเขา
สมัยที่เขาเป็นกัปตันทีมอาร์เซน่อล เพื่อนร่วมทีมให้ฉายาเขาว่า "The Coach" มันบ่งบอกได้ดีว่าเขาจริงจังมากกับการที่จะเป็นผู้จัดการทีมในอนาคต
ตอนที่อาร์เตต้า อายุ 32 ปี เขาได้เคยพูดถึงปรัชญาที่เขาต้องการว่า: "ปรัชญาของผมมันชัดเจน ผมจะต้องให้ทุกคนทุ่มเท 120% นั่นคืออย่างแรกที่สุด ถ้าทำไม่ได้ ก็คงจะอยู่กับผมไม่ได้ เมื่อถึงเวลาต้องทำงาน มันก็เวลาของการทำงาน เมื่อถึงเวลาสนุก ผมจะเป็นคนแรกที่จะสนุก แต่ความมุ่งมั่นเป็นสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด"
"จากนั้นผมต้องการฟุตบอลทีสนุก เราต้องการสร้างความบันเทิงให้กับแฟนบอลที่เขามาดูเรา ผมมั่นใจ 100% ว่าจะทำให้มันเกิดขึ้น และผมคิดว่าตัวเองทำได้"
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้อาร์เซน่อลมีผลงานที่ไม่ดีเวลาเจอทีมใหญ่ด้วยกันเอง ด้วยแท็กติกที่ตรงไปตรงมาของเวนเกอร์ แต่อาร์เตต้ามีมุมมองที่แตกต่างออกไป เขากล่าวว่า:
"ผมคิดว่าคุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน คุณสามารถมีไอเดียเกี่ยวกับระบบการเล่นได้ แต่คุณก็ต้องสามารถที่จะปรับเปลี่ยนมันได้เช่นกัน มันขึ้นอยู่กับนักเตะที่คุณมี ความรวดเร็วที่คุณมีในแดนหน้า เทคนิคการเล่นที่คุณมี ความเสี่ยงแบบไหนที่ทีมของคุณสามารถรับมือได้ และนักเตะของคุณพร้อมที่จะรับความเสี่ยงนั้นไหม"
"มันสำคัญที่คุณจะต้องวิเคราะห์นักเตะของตัวเอง เพราะคุณไม่สามารถเล่นในแนวทางเดิม มันมีรายละเอียดที่แตกต่างและต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อใช้จัดการกับคู่แข่งที่เราต้องเจอ และทำในสิ่งที่พวกเขาไม่ชอบ"
"สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้จัดการทีม คือในวันศุกร์ก่อนเกมส์ คุณจะต้องจิตนาการว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันเสาร์ และถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีพอสำหรับผม"
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาออกรายการ Monday Night Football ทางสถานีสกายสปอร์ตในสัปดาห์นี้ และเขาได้ยกย่องทักษะการโค้ชแบบตัวต่อตัวของอาร์เตต้า และให้เครดิตเขาในพัฒนาการของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และเลรอย ซาเน่ ที่เด่นชัดมากในฤดูกาลนี้
กวาร์ดิโอล่ากล่าว "มิเกล อาร์เตต้า ช่วยเหลือทั้งคู่ พวกเขาทำงานร่วมกัน หลังจากฝึกซ้อม พวกเขาได้มีซ้อมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในสนาม ทำให้พวกเขาผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะในท้ายที่สุดเมื่อคุณมีคุณภาพที่จะเลี้ยงบอล พวกเขาก็ต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์"
ระดับการฝึกซ้อมถือเป็นสิ่งสำคัญที่อาร์เซน่อล จากความล้มเหลวในการพลาดโควต้าแชมเปี้ยนลีก 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งกระทบโดยตรงต่องบประมาณในการเสริมทัพของทีม มันเป็นเหตุผลว่าทำไม อัลเลกรี และหลุยส์ เอ็นริเก้ สองกุนซือชื่อดังจึงปฏิเสธอาร์เซน่อลไป และเป็นการคำตอบที่กลาซิดิช เคยพูดว่า อาร์เซน่อลจะต้องกล้า และเปิดใจ กับผู้จัดการทีมคนถัดไป
ทั้งหมดชี้มายังอาร์เตต้า เขาอาจจะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลย แต่ประสบการณ์ที่ได้ค้าแข้งในหลายๆ ประเทศ ได้อยู่ในทีมที่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน ได้ทำงานร่วมกับกุนซือหมายเลข 1 ของโลกในเวลานี้อย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มา 2 ปีเต็มๆ ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
มันอาจจะเป็นความเสี่ยง แต่มันอาจจะเป็นการเสี่ยงที่คุ้มค่าสำหรับอาร์เซน่อล..
ฺBORN TO BE!! ทำไม "อาร์เตต้า" จึงเป็นความเสี่ยงที่คุ้มค่าสำหรับอาร์เซน่อล?
#1
Posted 19 May 2018 - 10:50 AM
#4
Posted 19 May 2018 - 11:45 AM
โจทย์ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ปรกติแล้วพอโคชใหม่มาต้องวิ่งสู้ฟัดกันเอาใจโคชใหม่ แต่ แบบนี้จะวิ่งหนักๆ 120% รึเปล่านี่สิ
อีกจุดคือประสบการ์ณ ถ้าปีหน้าทีมเราไม่ได้ไป UCL จะซื้อใครก็ยากละนะ กลายเป็นทีมกลางตารางโดยสมบูรณ์
------------------------
http://www.taxiKingdom.com http://www.taxiChiangmaiDelivery.com
http://www.taxiChiangmai24Hour.com http://www.lannaTaxiChiangmai.com
http://www.TravelChiangmaiTaxi.com
#6
Posted 19 May 2018 - 12:04 PM
อ้าวหล่ะ พี่ต้า โค้ชให้ ราฮีมกับซาเน่ ฟอร์มหรูขนาดนี้
สงสัยว่า พี่ต้าจะเสริมกลาง หลัง โกล แบบไหน จาก
สันติควบ2ตำแหน่งแสดงว่าแขวนแน่ฤดูกาลหน้า
แรมซี่ ตามพ่อไปแน่ๆ
กองหลังที่
แพร์ จะไปเป็นสตาฟโค้ช
กอส อายุเยอะและเจ็บถี่
นาโช่ อายุเยอะแล้ว
แบ็คขวาที่มีแค่คนเดียว
แบ็คซ้ายถ้าน้าม่อลแขวนจะเหลือแค่โคล่า
โกล
แช็คดูเริ่มเชื่อยช้าแล้ว
ออส ย้ายแน่ๆ
กองหน้า
เปเรซ ย้าย
#7
Posted 19 May 2018 - 12:13 PM
ส่วนเรื่องผลกำไรของสโมสร ชั่งหัวเจ้าของมัน
มากวาดซื้อหุ้นได้ทุนคืนได้กำไรมาหลายปีแล้วนี่
แพะแก่ๆที่คอยหากำไรให้ก็เซ่นสังเวยแล้ว
วงการฟุตบอลยุคนี้มันซื้อความสำเร็จอยู่แล้ว
จะมาทำเป็นลงทุนน้อยแล้วหวังสูงๆ ต้องรอฟลุกอย่างเดียว
#19
Posted 19 May 2018 - 03:26 PM
ลองไล่เล่น ๆ ดูพวก top 5 มีทีมไหนที่ตั้งผู้จัดการทีมที่ไม่มีประสบการณ์บ้างมั้ย ไล่ตั้งแต่ปี 2000 นะครับ
ผลปรากฏว่า ไม่มีเลย ทีมเรานี่กล้าจริง ๆ กล้าหรือบ้าก็ไม่แน่ใจ
ดูตามลิงค์นี้เลย
https://en.wikipedia...d_F.C._managers
https://en.wikipedia...a_F.C._managers
https://en.wikipedia...l_F.C._managers
https://en.wikipedia...r_F.C._managers
https://en.wikipedia...y_F.C._managers
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users