"ทำได้ดีแต่ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ" คือประโยคที่แฟนอาร์เซนอลคุ้นเคยมาตลอดระยะเวลา2-3ปีหลัง
กับบอลถ้วย UCL การพลิกกลับมาชนะเหนือคู่แข่งแต่ไม่เพียงพอเพราะนัดแรกแพ้มาเยอะกว่า เป็นสิ่งที่ฉุดรั้ง
ไม่ให้ลูกทีมของเวนเกอร์ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ แต่นักตะทุกคนรวมถึงทีมงาน ก็ทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่แล้ว
ถึงแม้จะไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ แต่ก็เกินพอต่อความรู้สึกภาคภูมิใจต่อความมุ่งมั่นทุ่มเทของนักเตะทุกคน
การตกรอบถ้ามองในแง่ดีนั่นคือโปรแกรมที่น้อยลงนักเตะได้มีเวลาพักมากขึ้นและจะได้โฟกัสที่พรียเมียรอย่างเดียว
รูปเกมในแมตนี้ ก็เป็นฝั่งทีมเยือนอย่างอาร์เซนอลที่เปิดฉากบุกตั่งแต่เริ่มเกม เพื่อหวังยิ่งประตูแรกให้ได้เร็วที่สุด
ด้วยสไตล์แบบฉบับของทีม คือต่อบอลสั้นตามช่อง ฝั่งเจ้าบ้านเอง ด้วยสกอร์ที่ตุนไว้บวกกับความได้เปรียบในเรื่อง
อเวย์โกล ก็มาเล่นตั้งรับเป็นหลัก รอการสวนกลับ ซึ่งกว่าลูกทีมของเวนเกอร์จะปลดล็อคประตูแรกได้ เวลาก็ล่วงเลย
มาถึงนาที่ที่36 จาก ชิรูด์ ที่แบกความแค้น ความกดดันมาเต็มที่ หลังจากนัดก่อนยิงยังไงก็ไม่ตรงกรอบทำให้ครึ่งแรก
เรานำอยู่ 1-0 ครึ่งหลังรูปเกม ก็ยังคงออกมาเหมือนครึ่งแรก คืออาร์เซนอล เปิดเกมบุกใส่เจ้าบ้านเช่นเดิม เพียงแต่
ฝั่งโมนาโก ไม่ปล่อยให้อาร์เซนอล ต่อบอลได้ง่ายเหมือนในครึ่งแรก เริ่มเพลสซิ่งเร็วขึ้น และเริ่มโต้กลับได้อย่าง
น่ากลัวขึ้น ซึ่งหลายๆครั้งก็เกือบจบด้วยการยิง เพียงแต่ หลังของอาร์เซน่อล ลงมาช่วยกันป้องกันได้ทัน
แต่แล้ว แรมซี่ก็ยิงประตูที่ปลุกทีม ปลุกแฟนบอลของอาร์เซนอลทั้งโลกให้มีความหวังอีกครั้ง ในนาทีที่ 79 ทำให้
เหลือเพียงอีก 1ประตู อาร์เซนอลจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่พลิกกลับมาเขารอบได้หลังจากแพ้นัดแรก
มา3ประตู ซึ่งช่วงเวลาที่เหลือ นักเตะทุกคนก็พยายามกันอย่างเต็มที่ ที่จะทำสกอร์เพิ่ม แต่เพราะเราเปิดเกมบุก
ตั่งแต่ นาทีแรกของการแข่งขัน ทำให้ช่วงท้ายๆ นักเตะหลายๆคนเริ่มอ่อนล้า และนักเตะโมนาโก ก็ลงไปรับกันทั้งทีม
การต่อบอลที่เป็นจุดเด่นของทีมถูกโยนทิ้งไป หันมาใช้การโยนเข้าหากรอบเขตโทษ ซึ่งก็เข้าใจว่ามันไม่ใช่สไตล์
ที่ฝึกกันมา สุดท้ายเจาะไม่เข้า และจบเกม ด้วยสกอร์ที่ เราชนะไป 2-0 ไม่เพียงพอต่อการพาทีมเข้ารอบต่อไป
สำหรับเกมนี้ มีประเด็นที่จะนำมาพูดคุยไม่มากนัก เพราะทุกคนก็เต็มที่กันอย่างที่สุดแล้ว ก็คงจะขอกล่าวถึง
รูปเกมในครึ่งแรก ครึ่งหลัง และนักเตะที่เด่นที่สุดในสนาม
...............................................................................................................................................................
ด้าน TACTIC ในครึ่งแรก
เริ่มเกมอาร์เซนอลก็เปิดเกมรุกเข้าใส่เจ้าบ้าน เพื่อหวังปลดล็อคประตูแรกให้ได้เร็วที่สุด โดยเกมนี้ กาซอล่า
ลงมาเล่นเป็นตัวคุมจังหวะเกมอีกครั้ง หลังจากนัดเจอ เวสแฮมได้พัก ตัวส่งบอลเข้าทำ ยังคงเป็น โอซิล
โดยมี ซานเชส และเวลเบ็คที่ได้โอกาสก่อนวอลค๊อตในเกมนี้ คอยทำเกมรุกอยู่ด้านข้าง หน้าเป้าเป็นชิรูด์ ตามเดิม
ฝั่งเจ้าบ้านเอง ด้วยมีสกอร์ตุนอยู่บวกกับความได้เปรียบจากกฎอเวย์โกล จึงมาเล่นรับและรอโต้กลับ ซึ่งจะเน้นรับ
ลึก แพกหลังแน่น ยากต่อการเจาะเข้าทำของอาร์เซนอล
แต่ด้วยความพยายาม อาร์เซนอลก็ออกนำจนได้จากการยิงเสยคาน ของ ชิรูด์ ทำให้ครึ่งแรก อาร์เซน่อลออกนำ 1-0
...............................................................................................................................................................
ครึ่งหลัง
รูปเกมก็ยังคงไม่ต่างจากครึ่งแรก ที่ยังคงเป็นอาร์เซนอลที่ ทำเกมบุกเข้าใส่ ส่วนโมนาโกก็ยังคงรอสวนกลับ
เพียงแต่ ครึ่งหลัง โมนาโก ไม่ปล่อยให้อาร์เซนอลได้ต่อบอลได้ง่ายเหมือนในครึ่งแรก เริ่มมีการเข้าเพลสซิ่งเร็ว
เข้าชิ่งจังหวะตัดบอล รวมถึงเกมสวนกลับของโมนาโก ก็เริ่มดีขึ้นกว่าครึ่งแรก ทำให้หลายๆจังหวะ โมนาโกโต้
กลับมาสร้างความปั่นป่วนให้กองหลังอย่าง แพร์ กอส ได้อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังเอาตัวรอดจากการเสียประตูไปได้
เกมของอารเซนอลเริ่มตัน เวนเกอร์ จึงปรับแผน ถอดเอา ตัวรับ อย่าง โกเกอแร็งออก แล้วส่งแรมซี่ มาเพิ่มมิติ
ในเกมรุก และส่ง วอลค๊อต ลงมาแทน เวลเบ็ค ที่เริ่มอ่อนแรง ซึ่งการแก้เกมของเวนเกอร์ก็ได้ผล เมือแรมซี่
ยิงประตูที่2 จุดประกายความหวังให้ทีมและแฟนบอลปืนใหญ่ทั้งโลกได้ลุ้นกันอีกครั้ง
หลังจากได้ประตูที่2 อาร์เซนอล ก็ยังคงเดินหน้าบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง แต่แรงที่เริ่มหมด เพราะเปิดเกมรุกมาตั่งแต่นาทีแรกจังทำให้นักเตะหลายๆคนเริ่มออกอาการล้า รวมถึงนักเตะเริ่มออกอาการ เกร็ง และกดดัน ทำให้บาง
จังหวะลูกส่งง่ายๆยังพลาด ยิ่งโมนาโกลงไปรับกันทั้งทีม การต่อบอลจึงกลายมาเป็นโยนเข้าเขตโทษ เพื่อลดเวลา
ในการต่อบอล และลดความเสียงต่อการถูกตัดบอล แต่ด้วยไม่ใช่รูปแบบการเข้าทำที่ถนัด การโยนเข้าเขตโทษ
จึงแทบไม่เข้าหัว ชิรูด์ สุดท้ายจบเกมด้วยสกอร์ 2-0 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยกฎอเวโกล
...............................................................................................................................................................
ด้านผู้เล่น
มุ่งมั่นทุ่มเทกันทุกคน สำหรับนักเตะอาร์เซนอลในเกมนี้ เปิดเกมบุกใส่เจ้าถิ่นตั่งแต่นาทีแรกจนนาทีสุดท้าย
ถึงแม้ชัยชนะ 2-0 จะไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ แต่ก็พอเพียงต่อการกล่าวคำยกย่องในความใจสู้ของนักเตะทุกคน
แต่นักเตะที่เด่นที่สุดในเกมนี้ ผมยกให้ โอซิล
เมื่อเทคนิค มาพร้อมสภาพร่างกาย โอซิล ก็ยากที่ใครจะเอาอยู่
ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง และเกมนี้ โอซิล นอกจากจะช่วยทำเกมแล้ว การวิ่งไปรับบอล รวมถึงเกมรับก็ลงมาช่วยทีม
มีโอกาสยิงอยู่บ้าง และฟรีคิก ก็เกือบยิงเสียบคาน หลังจากหายเจ็บ รวมถึงฟิตร่างกายจนแข็งแกร่งขึ้น โอซิลที่
มีเทคนิดดี เมือบวกกับ สภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง ทำให้เราได้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของแกมากขึ้น
...............................................................................................................................................................
ขอบคุณสถิจาก