[wonder goal (ดล)]

 

อารอน แรมซี่ย์ นักเตะมิดฟิลด์ของอาร์เซนอลจะพูดคุยกับทั้ง 5 สโมสรชั้นนำของยุโรปก่อนที่จะย้ายออกจากอาร์เซนอลแบบไร้ค่าตัวในช่วงซัมเมอร์นี้

 

แรมซี่ย์กำลังพูดคุยกับบาเยิร์น อินเตอร์มิลาน ยูเวนตุส ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และรีล มาดริด ซึ่งขัดแย้งกับหลายรายงานข่าวเพราะว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจ

 

แรมซี่ย์เปิดโอกาสที่จะย้ายออกไปในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตามอาร์เซนอลรู้สึกว่ามูลค่าของแรมซี่ย์ตลอดช่วงระยะเวลาที่เหลือของฤดูกาลนี้มีค่ามากกว่าสิ่งที่พวกเขาน่าจะได้รับในรูปของค่าตัวและการประหยัดค่าเหนื่อย

 

ทีมที่สนใจซื้อในตอนนี้ไม่เต็มใจที่จะจ่ายค่าตัวของแรมซี่ย์จำนวน 40 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวเขาไปร่วมทีมกลางฤดูกาล

 

ไม่มีการย้ายออกจากทีมและไม่มีการลงทุนครั้งใหญ่สำหรับนักเตะหน้าใหม่และการต่อสัญญาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมตลอดหลายปีที่ผ่านมา อาร์เซนอลไม่มีงบประมาณที่มากพอที่จะใช้ในตลาดซื้อขายที่กำลังจะเปิดตัว

 

การซื้อตัวถาวร ค่ายืมตัว และเงินเดือนจะถูกโยกย้ายจากงบประมาณขนาดย่อมเยาว์ และดังนั้นการยืมตัวน่าจะเป็นไปได้มากกว่า โดยมีเดนิส ซัวเรซ นักเตะของบาร์เซโลน่าวัย 24 ปีที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว งบประมาณดังกล่าวจะเพิ่มเยอะขึ้นมากๆในช่วงซัมเมอร์

 

ไม่มีสัญญาณใดๆจากสแตน โครเอนเก้ที่จะอัดฉีดเงินส่วนตัวซึ่งตรงกับที่วิไน เวนกาเตสฮัม ผอ.ฝ่ายบริหารของสโมสรเคยยืนยันกับสำนักข่าวบีบีซีว่าพวกเขาจะใช้ "โมเดลเติบโตด้วยตนเองอย่างยั่งยืน" กับอาร์เซนอล

 

การที่โครเอนเก้อัดฉีดเงินส่วนตัวอาจทำให้มีปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับอาร์เซนอลเรื่องกฎไฟแนนเชียลแฟร์เพลย์และกฎของพรีเมียร์ลีกที่จะจำกัดเพดานการเพิ่มขึ้นของค่าเหนื่อยรายปี

 

นอกจากนี้ สโมสรกำลังมองความเป็นจริงเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันในปัจจุบันกับทีมคู่แข่ง นี่เป็นส่วนหนึ่งที่อธิบายภาระผูกพันของสโมสรที่มีต่อดาวรุ่งและความมั่นใจในนักเตะที่มีพรสวรรค์ที่กำลังเติบโตขึ้นมา

 

แม้ว่าอาร์เซนอลจะแพ้ลิเวอร์พูล 5-1 โดยที่อูไน เอเมอรี่และสโมสรถูกวิจารณ์ถึงผลงานในช่วงที่ผ่านมา ภายในสโมสรยังมีความเชื่อว่าพวกเขากำลังดำเนินการมาถูกทิศทางหลังก้าวผ่านช่วงเวลาโกลาหลภายหลังการแยกทางกับเวงเกอร์ที่ร่วมเดินทางกันมา 22 ปี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทีมงานและโครงสร้างของสโมสรจำนวนมาก

 

และน่าจะมีเข้ามาใหม่อีกตำแหน่ง ที่เป็นไปได้คือการแต่งตั้งผู้อำนวยการด้านเทคนิค ในขณะที่ให้เอเมอรี่ได้มีเวลาที่จะพัฒนามุมมองและปรับแต่งทีมของตัวเองในตลาดซื้อขายนักเตะอีกหลายๆครั้งเหมือนอย่างที่ลิเวอร์พูลให้โอกาสเจอร์เก้น คล็อป์หลังจากมาคุมทีมในเดือนตุลาคม 2015

 

[Magress]

สงสัยต้องไม่ได้ไปuclมากกว่านี้ถึงจะได้รู้ว่าทีมยังดีไม่พอ

[ต๊ะ]

ซื้อเยอะๆเลย อยากมีโมเม้นโดนแบบจากกฏไฟเเนนเชียวบ้าบออะไรนี้บ้าง ฮ่า​ฮ่า​ฮ่า​

[Season Change (ปลัดมุข)]

งบน้อยอย่างนี้จับแรมขายจีนเดือนนี้ดีกว่า...

[aureus]

ความทะเยอทะยาน​ของสโมสร สวนทางกับค่าตั๋วของแฟนบอลมาก

[21newPK]

ให้โอกาสกับนักเตะดาวรุ่ง หน้าน้องไนล์ลอยขึ้นมาเลยกรู 5555555

[numgunner]

คงโดนกฎการเงินไม่ยาก เพราะปลิงเก้กู้เงินมาซื้อหุ้นที่เหลือจนหมดแล้วโยนภาระหนี้ที่กู้มาเข้าบัญชีการเงินสโมสรหมดแล้ว

[tedybeer]

ถ้าไม่จ่ายตอนนี้ อาจจะเสียใจ เพราะไม่ทันการ

[kakai]

ปลิงเก้กู้เงินมาซื้อหุ้นปืนที่เหลือหมดแล้ว ช่วยตัวเองไปก่อนนะ

[กางเกง]

นิวคาสเซิล สาขา 2

เป็นงี้ไปเรื่อยๆ อนาคตได้หนีตกชั้น

[Megami Tensei]

เทพเดวิด ไม่น่าดับฝันกันเร็วแบบนี้

[Admin]

เอาตรงๆ นะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่มีเงินให้ใช้มากแค่ไหน แต่มันอยู่ที่ว่าใช้เงินยังไงมากกว่า ถามว่าโครเอนเก้ให้เงินไหม ก็ต้องบอกให้อยู่พอสมควรนะ แต่นักเตะที่เราซื้อเข้ามาในช่วง 4-5 ปี หลังจากปลดหนี้สนาม ส่วนใหญ่เป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวทั้งนั้น

 

โดยเฉพาะปี 2016/17 ทุ่มไป 100 ล้านปอนด์กับชาก้า มุสตาฟี่ เปเรซ แต่ล้มเหลวหนัก เป็นภาระจนถึงปัจจุบัน Net Spend เราไม่ได้แตกต่างอะไรจากสเปอร์ ลิเวอร์พูล หรือเชลชีเลย เพียงแค่ทีมเหล่านี้ เขาสามารถขายนักเตะแล้วได้ราคา เอามาเปลี่ยนเป็นนักเตะใหม่ได้ แต่เราขายนักเตะแทบไม่ได้เงินเลย 

 

ส่วนเพดานค่าเหนื่อยของทีมเราตอนนี้ ทะลุเป็นสถิติ 200 ล้านปอนด์ต่อปี สุ่มเสี่ยงที่จะเกินเพดานที่เรารับไหว ดังนั้น ก็อาจจะต้องโละทั้ง โอซิล กับแรมซี่ย์ ออกไป รวมกับพวกที่เตรียมถูกโละทั้ง เช็ก ออสปิน่า ลิทซ์สไตเนอร์ เวลเบ็ค กอสเซียลนี่ เจนกินสัน เอลเนนี่ เอาค่าเหนื่อยมารวมๆ กันก็น่าจะลดได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์ต่อปี 

Cap Salary ที่ว่างอยู่สามารถไปเปลี่ยนเป็นนักเตะใหม่ได้อีกหลายคน ที่เรามีโอกาสซื้อนักเตะใหม่ที่มีคุณภาพที่ดีกว่า ส่วนนักเตะบางตัวที่ควรขายก็ควรรีบขาย ยกตัวอย่าง มุสตาฟี่ ถ้ามีทีมไหนให้ 20-25 ล้านก็ปล่อยเถอะ ยอมขาดทุนไป ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย 

[ซันจิ]

ตามแอดมินเลย ตอบเคลียร์มาก ยังงงๆอยู่กับคนที่บอกว่าสโมสรไม่ทุ่มไม่อะไรเลย แล้วอย่างโอซิล, อเล็กซิสนี่ มันมาได้ไง ต้องใช้เงินขนาดไหนถึงจะเรียกว่าทุ่ม

[supakorneit09]

ความทะเยอทะยาน​ของสโมสร สวนทางกับค่าตั๋วของแฟนบอลมาก

อันนี้จริง ตั๋วแพงสุด แต่ขี้เหยียวสุดเหมือนกัน

[EXoRCisT]

ไม่ได้ไป ucl 2 ปีติด น่าจะเสียรายได้ราว 60-80m แต่ถ้าไม่ได้ไป 3 ปีติด ก็คงเสียรายได้รวม 90-120m ถ้ามัวแต่ขี้เหนียวอาจจะเสียรายได้ในอนาคตเยอะขึ้นเรื่อยๆ พอคิดได้มาทุ่มเอาตอนหลังๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายนะ

[กางเกง]

เอาตรงๆ นะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่มีเงินให้ใช้มากแค่ไหน แต่มันอยู่ที่ว่าใช้เงินยังไงมากกว่า ถามว่าโครเอนเก้ให้เงินไหม ก็ต้องบอกให้อยู่พอสมควรนะ แต่นักเตะที่เราซื้อเข้ามาในช่วง 4-5 ปี หลังจากปลดหนี้สนาม ส่วนใหญ่เป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวทั้งนั้น

โดยเฉพาะปี 2016/17 ทุ่มไป 100 ล้านปอนด์กับชาก้า มุสตาฟี่ เปเรซ แต่ล้มเหลวหนัก เป็นภาระจนถึงปัจจุบัน Net Spend เราไม่ได้แตกต่างอะไรจากสเปอร์ ลิเวอร์พูล หรือเชลชีเลย เพียงแค่ทีมเหล่านี้ เขาสามารถขายนักเตะแล้วได้ราคา เอามาเปลี่ยนเป็นนักเตะใหม่ได้ แต่เราขายนักเตะแทบไม่ได้เงินเลย

ส่วนเพดานค่าเหนื่อยของทีมเราตอนนี้ ทะลุเป็นสถิติ 200 ล้านปอนด์ต่อปี สุ่มเสี่ยงที่จะเกินเพดานที่เรารับไหว ดังนั้น ก็อาจจะต้องโละทั้ง โอซิล กับแรมซี่ย์ ออกไป รวมกับพวกที่เตรียมถูกโละทั้ง เช็ก ออสปิน่า ลิทซ์สไตเนอร์ เวลเบ็ค กอสเซียลนี่ เจนกินสัน เอลเนนี่ เอาค่าเหนื่อยมารวมๆ กันก็น่าจะลดได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์ต่อปี
Cap Salary ที่ว่างอยู่สามารถไปเปลี่ยนเป็นนักเตะใหม่ได้อีกหลายคน ที่เรามีโอกาสซื้อนักเตะใหม่ที่มีคุณภาพที่ดีกว่า ส่วนนักเตะบางตัวที่ควรขายก็ควรรีบขาย ยกตัวอย่าง มุสตาฟี่ ถ้ามีทีมไหนให้ 20-25 ล้านก็ปล่อยเถอะ ยอมขาดทุนไป ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

เอิ่ม ที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ ผมเข้าใจว่าเป็นเงินเก็บจากผล
ประกอบการของสโมสรนะไม่ใช่ตังค์เก้ เก้เพิ่งควักซัมเมอร์ก่อน
20 ล้านเอง ....

[Admin]

 

เอาตรงๆ นะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่มีเงินให้ใช้มากแค่ไหน แต่มันอยู่ที่ว่าใช้เงินยังไงมากกว่า ถามว่าโครเอนเก้ให้เงินไหม ก็ต้องบอกให้อยู่พอสมควรนะ แต่นักเตะที่เราซื้อเข้ามาในช่วง 4-5 ปี หลังจากปลดหนี้สนาม ส่วนใหญ่เป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวทั้งนั้น

โดยเฉพาะปี 2016/17 ทุ่มไป 100 ล้านปอนด์กับชาก้า มุสตาฟี่ เปเรซ แต่ล้มเหลวหนัก เป็นภาระจนถึงปัจจุบัน Net Spend เราไม่ได้แตกต่างอะไรจากสเปอร์ ลิเวอร์พูล หรือเชลชีเลย เพียงแค่ทีมเหล่านี้ เขาสามารถขายนักเตะแล้วได้ราคา เอามาเปลี่ยนเป็นนักเตะใหม่ได้ แต่เราขายนักเตะแทบไม่ได้เงินเลย

ส่วนเพดานค่าเหนื่อยของทีมเราตอนนี้ ทะลุเป็นสถิติ 200 ล้านปอนด์ต่อปี สุ่มเสี่ยงที่จะเกินเพดานที่เรารับไหว ดังนั้น ก็อาจจะต้องโละทั้ง โอซิล กับแรมซี่ย์ ออกไป รวมกับพวกที่เตรียมถูกโละทั้ง เช็ก ออสปิน่า ลิทซ์สไตเนอร์ เวลเบ็ค กอสเซียลนี่ เจนกินสัน เอลเนนี่ เอาค่าเหนื่อยมารวมๆ กันก็น่าจะลดได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์ต่อปี
Cap Salary ที่ว่างอยู่สามารถไปเปลี่ยนเป็นนักเตะใหม่ได้อีกหลายคน ที่เรามีโอกาสซื้อนักเตะใหม่ที่มีคุณภาพที่ดีกว่า ส่วนนักเตะบางตัวที่ควรขายก็ควรรีบขาย ยกตัวอย่าง มุสตาฟี่ ถ้ามีทีมไหนให้ 20-25 ล้านก็ปล่อยเถอะ ยอมขาดทุนไป ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

เอิ่ม ที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ ผมเข้าใจว่าเป็นเงินเก็บจากผล
ประกอบการของสโมสรนะไม่ใช่ตังค์เก้ เก้เพิ่งควักซัมเมอร์ก่อน
20 ล้านเอง ....

 

 

 

ทำความเข้าใจก่อนนะ อาร์เซน่อล ประกอบกิจการในรูปแบบของบริษัท ไม่มีหรอกครับที่ อยู่ดีๆ เจ้าของสโมสร จะโยนเงินส่วนตัวให้ 20 ล้านเอาไปเสริมทัพ เสี่ยหมีใช้วิธีอัดฉีดเงินตัวเองด้วยการให้เชลชีกู้ยืมเงิน ส่วนทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ใช้วิธีเล่นแร่แปรธาตุ ด้วยการเอาบริษัทของท่านซีค มาเป็นสปอนเซอร์ แล้วให้ค่าสปอนเซอร์สูงเกินความเป็นจริง

 

สิ่งที่โครเอนเก้จะทำได้คือ อนุมัติงบประมาณในการเสริมทัพ 50 หรือ 100 ล้านก็ว่าไป เงินตัวนี้เกิดจากรายได้ที่สโมสรสามารถทำได้ ขายตั๋ว ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า  รายได้จากสปอร์เซอร์ต่างๆ เงินทีได้จากการขายนักเตะ เป็นต้น ลิเวอร์พูล หรือสเปอร์ ก็ทำในลักษณะเดียวกันนี้ 

 

ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป ทั้งรายรับ และรายจ่าย ไม่มีใครหรอกครับทำธุรกิจแล้วอยากจะขาดทุน ถ้าไม่ใช่แนวของเล่นเศรษฐีแบบเชลชี ซิตี้ และเปแอสเช ถ้าคุณอยากได้เงินเสริมทัพเยอะขึ้น คุณก็ขายนักเตะให้ได้เยอะๆ แบบลิเวอร์พูล

 

ค่าตัวคูตินโญ่ 140 ล้านที่ขายให้บาร์ซ่า เอามาเปลี่ยนเป็น ฟาน ไดจ์ กับอลิซอน ตัวละ 70 ล้าน คุณต้องได้ไปเล่นแชมเปี้ยนลีก 

[ปืนเก่า55]

จำได้ว่าก่อนหน้านี้บอร์ดบริหารแถลงว่าปืนงบน้อยเพราะต้องใช้เงินสร้างสนาม..ตอนนี้BBCเชื่อปืนงบยังน้อยหรือครับ..สำหรับผมควรใช้คำว่าขี้งกเพราะมันเป็นธุกิจทางกีฬาไปแล้ว..ถ้าผลงานเทียบกับเงินลงทุนแค่กรุณาอย่าใช้คำว่าทีมใหญ่อีกต่อไปเลย..เวลาเดินไปไหนมาไหนมันอายเค้า!

[aureus]

ทีมเราขาดแบ้คขวา เราเซ็นดาวรุ่งมาได้ ไม่ต้องแพงคล้ายๆกับที่เซ็นเตมา ขอแค่พอมีแววศักหน่อย แต่เราเซ็นคนแก่มาด้วยเหตุผลคือฟรี ผมส่ายหัวกับดีลนี้มากๆตั้งแต่แรกเห็น
เราขาดปีก ไม่ต้องซื้อแพงก็ได้ แต่เราไม่เซ็น เอา MK เอาปรือไปเล่นทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ถนัด พอเล่นไม่ออกก็ด่า 2 คนนั้น
เซ็นเตอร์เรา 4 คนกากหมด แถมเจ็บยาว 1 เราเซ็นมา 1 เป็นการเซ็นที่ดีอยู่ แต่ดันปล่อยยืมไป 1 ซะงั้น
ผลลัพธ์​กำลังแสดงออกในสนามตอนนี้ ถ้าเตเจ็บไปอีก ขอบอกว่าบันเทิงแน่นอน เราจะได้เห็นเก็นคู่ชาก้าแบบยาวไป
เรามักเป็นแบบนี้ มีตำแหน่งที่ขาด แต่ไม่ซื้อ คิดว่าของที่มีเอาอยู่ หรือซื้อแพงอีกนิดได้ของดีกว่ามาแต่ไม่ซื้อ ขออ้างก็สารพัด​ดึงศักยภาพคนเก่าบ้างหล่ะ ปั้นเด็กบ้างหล่ะ ทีแรกผมว่ามันเป็นอีโก้ของบอสคนเก่า แต่ดูเหมือนจะเกี่ยวกับบอร์ดด้วย
ไม่รู้สิ ผมอาจผิดเองที่ติดภาพเก่าๆมากไป ผมเริ่มในยุคที่เราตบแย่งแชมป์กับผีในยุคที่ผีมี ผจก. ที่เก่งที่สุดในโลกคนนึง ในยุคที่เราไม่แพ้ใคร 49 นัดติด ตัวเปรียบเทียบเราต้องเป็นผีกับสิงสิ หลังจากนั้นฟุตบอลก็เปลี่ยนไป ทุกวันนี้ 2 ทีมนั้นยังอยู่จุดเดิม ส่วนเราเริ่มนโยบายปั้นเด็กนับแต่นั้น ตอนนี้ตัวเปรียบเทียบเราคือหงส์กับไก่ เอาจริงๆคลอปก็ทุ่มเหอะ พอชก็รั้งสตาร์ของตัวเองอยู่หมด ถ้าจะหวังแบบเลสเตอร์ อีก 100 ปีจะมีรึเปล่ายังไม่รู้เลย แล้วมันจะเกิดกับทีมเราเหรอ
ไม่ต้องทุ่ม 60-70 ล้านต่อตัวหรอก แต่ไม่ใช่แบบนี้ ไม่ใช่ ผจก คนใหม่เข้ามาทำทีมที่เต็มไปด้วยจุดอ่อนที่บอสคนเก่าทิ้งไว้ให้ แล้วให้เงินเสริมทัพแค่นี้ ผมยังขำไม่หายตอนแมชที่ไก่เจอเรือ ยังมีคนบอกว่าให้ไก่ปราบเรือเราจะได้แย่งแชมป์กับเรือ 555 ให้เรืออัดไก่ให้หงายแล้วเราไปแย่งที่ 4 กับไก่เถอะคร้าบ ณ ปัจจุบัน​เราทำได้แค่นั้น
ตอนนี้เป้าหมายคือไป ชปล ให้ได้ ไม่ได้คิดว่ามีลุ้นอะไรนะ ไม่ได้อยากดูทีมรักถูกบาซ่ายาเยิร์นยำด้วย แต่ถ้าได้ไปจะมีเม็ดเงินเข้ามา ดึงคนใหม่มาง่าย จะรั้งคนเก่าก็ง่ายอีก ถ้าเรายังเหนียวก็จะอีกนาน
อย่าลืมเรานั่งดูแค่หน้าจอสบายๆ แต่แฟนบอลที่โน่นซื้อตั๋วที่แพงที่สุดในลีค เพื่อไปพบความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าในสนาม

[กางเกง]

เอาตรงๆ นะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่มีเงินให้ใช้มากแค่ไหน แต่มันอยู่ที่ว่าใช้เงินยังไงมากกว่า ถามว่าโครเอนเก้ให้เงินไหม ก็ต้องบอกให้อยู่พอสมควรนะ แต่นักเตะที่เราซื้อเข้ามาในช่วง 4-5 ปี หลังจากปลดหนี้สนาม ส่วนใหญ่เป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวทั้งนั้น
โดยเฉพาะปี 2016/17 ทุ่มไป 100 ล้านปอนด์กับชาก้า มุสตาฟี่ เปเรซ แต่ล้มเหลวหนัก เป็นภาระจนถึงปัจจุบัน Net Spend เราไม่ได้แตกต่างอะไรจากสเปอร์ ลิเวอร์พูล หรือเชลชีเลย เพียงแค่ทีมเหล่านี้ เขาสามารถขายนักเตะแล้วได้ราคา เอามาเปลี่ยนเป็นนักเตะใหม่ได้ แต่เราขายนักเตะแทบไม่ได้เงินเลย
ส่วนเพดานค่าเหนื่อยของทีมเราตอนนี้ ทะลุเป็นสถิติ 200 ล้านปอนด์ต่อปี สุ่มเสี่ยงที่จะเกินเพดานที่เรารับไหว ดังนั้น ก็อาจจะต้องโละทั้ง โอซิล กับแรมซี่ย์ ออกไป รวมกับพวกที่เตรียมถูกโละทั้ง เช็ก ออสปิน่า ลิทซ์สไตเนอร์ เวลเบ็ค กอสเซียลนี่ เจนกินสัน เอลเนนี่ เอาค่าเหนื่อยมารวมๆ กันก็น่าจะลดได้ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านปอนด์ต่อปี
Cap Salary ที่ว่างอยู่สามารถไปเปลี่ยนเป็นนักเตะใหม่ได้อีกหลายคน ที่เรามีโอกาสซื้อนักเตะใหม่ที่มีคุณภาพที่ดีกว่า ส่วนนักเตะบางตัวที่ควรขายก็ควรรีบขาย ยกตัวอย่าง มุสตาฟี่ ถ้ามีทีมไหนให้ 20-25 ล้านก็ปล่อยเถอะ ยอมขาดทุนไป ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

เอิ่ม ที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ ผมเข้าใจว่าเป็นเงินเก็บจากผล
ประกอบการของสโมสรนะไม่ใช่ตังค์เก้ เก้เพิ่งควักซัมเมอร์ก่อน
20 ล้านเอง ....

ทำความเข้าใจก่อนนะ อาร์เซน่อล ประกอบกิจการในรูปแบบของบริษัท ไม่มีหรอกครับที่ อยู่ดีๆ เจ้าของสโมสร จะโยนเงินส่วนตัวให้ 20 ล้านเอาไปเสริมทัพ เสี่ยหมีใช้วิธีอัดฉีดเงินตัวเองด้วยการให้เชลชีกู้ยืมเงิน ส่วนทางแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ใช้วิธีเล่นแร่แปรธาตุ ด้วยการเอาบริษัทของท่านซีค มาเป็นสปอนเซอร์ แล้วให้ค่าสปอนเซอร์สูงเกินความเป็นจริง

สิ่งที่โครเอนเก้จะทำได้คือ อนุมัติงบประมาณในการเสริมทัพ 50 หรือ 100 ล้านก็ว่าไป เงินตัวนี้เกิดจากรายได้ที่สโมสรสามารถทำได้ ขายตั๋ว ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า รายได้จากสปอร์เซอร์ต่างๆ เงินทีได้จากการขายนักเตะ เป็นต้น ลิเวอร์พูล หรือสเปอร์ ก็ทำในลักษณะเดียวกันนี้

ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป ทั้งรายรับ และรายจ่าย ไม่มีใครหรอกครับทำธุรกิจแล้วอยากจะขาดทุน ถ้าไม่ใช่แนวของเล่นเศรษฐีแบบเชลชี ซิตี้ และเปแอสเช ถ้าคุณอยากได้เงินเสริมทัพเยอะขึ้น คุณก็ขายนักเตะให้ได้เยอะๆ แบบลิเวอร์พูล

ค่าตัวคูตินโญ่ 140 ล้านที่ขายให้บาร์ซ่า เอามาเปลี่ยนเป็น ฟาน ไดจ์ กับอลิซอน ตัวละ 70 ล้าน คุณต้องได้ไปเล่นแชมเปี้ยนลีก

ประเด็นที่แย้ง

- เท่าที่ตามข่าว ค่าเหนื่อยรวมของลิเวอร์สูงกว่าเรานะครับ

- นอกจากฟานไดรจ์ อลิซอนก็ยังมีตามมาอีกหลายตัว
เป็นไปไม่ได้ที่เฮนรี่จะไม่ควักเลย ผมเข้าใจว่ากฎแฟร์เพลย์
ไม่ได้ห้ามเจ้าของควัก แค่ไม่ให้ควักเกินกว่าเกณฑ์ขาดทุน
ที่กำหนดให้ ถ้าให้ใช้ได้แค่ผลประกอบการอย่างเดียวพวก
ทีมเล็กใจใหญ่อย่าง ฟูแล่ม วูฟ เวสแฮม คงโดนเล่นแล้ว

- ลิเวอร์ไม่ได้เพิ่งทุ่มปีก่อน ขาดทุนติดตัวแดงมาจนได้กำไร
ปีที่ขายคูติญโญ่เนี่ยแหล่ะ