ซีเนอดิน ซีดาน.....ชัยชนะบนความพ่ายแพ้?.....ความสำเร็จบนความล้มเหลว?
Started by
convoy
, Jun 04 2018 11:07 AM, 3 replies to this topic
#1
Posted 04 June 2018 - 11:07 AM
ซีเนอดิน ซีดาน แถลงข่าวลาออกด้วยเหตุผลที่สวยหรูดูน่าประทับใจ คือ เพียงพอกับความสำเร็จ และ รีอัล แม้ดริด จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งมันจริงอย่างนั้นหรือ มันง่ายอย่างนั้นหรือ การลาออกทั้งที่เพิ่งคว้าแช้มป์ UCLหมาดๆ อาจเหนือความคาดหมายของคนนอก แต่คนในอาจ
รับรู้ว่าเวลาของซีดานหมดสิ้นลงแล้ว เพียงแต่จะจบลงด้วยการลาออกหรือถูกให้ออกเท่านั้น โดยมีแช้มป์ UCL เป็นตัวตัดสินชี้ขาดในท้ายสุด
สเปนเป็นประเทศที่ประกอบขึ้นจากหลายแคว้น แต่ละแคว้นจะมีการปกครองตนเอง มีรัฐบาลของตัวเอง มีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง
แต่ก็ยังขึ้นตรงกับรัฐบาลกลางสเปน หลายแคว้นอยากหลุดพ้นเงื้อมมือของแม้ดริด ที่ออกตัวแรงคือบาสก์และคาตาลัญญ่า ทั้ง2แคว้นมีความ
เป็นชาตินิยมสูง มีการแสดงออกทางการเมืองเด่นชัด มีกองกำลังของตนเอง และประการสำคัญต้องการแยกตัวเป็นอิสระอย่างมุ่งมั่นตลอดมา
ทุกแห่งหนในโลก สโมสรฟุตบอลอาชีพ คือการกีฬาที่มีธุรกิจเคียงคู่ แต่ในสเปนจำต้องเพิ่มคำว่า "การเมือง" เข้าไปด้วย ค่าที่มันเข้ามาหลอม
รวมอยู่กับสโมสรฟุตบอลประจำแคว้นอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน ทีมฟุตบอลของบาสก์คือ แอตเตลิโก้ บิลเบา กฎเหล็กของทีมมีว่านักฟุตบอลของ
บิลเบาทุกคนต้องมีเชื้อสายบาสก์เท่านั้น ห้ามเชื้อสายอื่นเด็ดขาด ส่วนใหญ่เป็นเด็กท้องถิ่น ถ้ามาจากนอกแคว้นก็ต้องมีเชื้อบาสก์ ไม่มียกเว้น
บาร์เซโลน่าของแคว้นคาตาลัญญ่า ไม่สนว่านักเตะจะมีเชื้อชาติใด ขอให้เหยียบแม้ดริดที่มีรีอัล แม้ดริดเป็นตัวแทนจมอยู่ใต้ตีนเท่านั้นเป็นพอ
รีอัล แม้ดริด ก็มีเป้าหมายเฉกเช่นเดียวกัน เอล กลาซิโก้ จึงมิใช่แค่เกมส์แต่มันคือสงครามระหว่างเผ่าพันธ์ ผู้แพ้ย่อมก้มหน้าอย่างละอายอดสู
ขณะที่ผู้ชนะเชิดหน้าอย่างหยิ่งผยอง ถ้วยรางวัลทั้งหมดในโลกเทียบไม่ได้เลยกับชัยชนะเหนือคู่แค้นคู่อาฆาต มันจะเป็นเช่นนี้ชั่วฟ้าดินสลาย
ฉับพลันที่รีอัลแม้ดริด พ่ายแพ้ในถิ่นอย่างยับเยินต่อบาร์เซโลน่า ในเกมส์ เอล กลาซิโก้ ตอนปลายปี ทำให้ช่องว่างของคะแนนห่างถึง14แต้ม
มันหมายถึงว่าการลุ้นแช้มป์ลาลีก้าของรีอัลแม้ดริด ปิดฉากโดยสิ้นเชิงทั้งๆที่ผ่านไปไม่ถึงครึ่งฤดูกาล การดันการิมเบนเซม่า ที่ทำให้เลือดเนื้อ
เชื้อไขสเปนหยั่งโมราต้าต้องจากไป การไม่ยอมซื้อสตาร์แต่ใช้บริการเด็กใหม่ การไม่ลงรอยกับนักเตะฯลฯ นี่คือระเบิดเวลาทีนับถอยหลังแล้ว
ฟลอเรนติโนเปเรซ ประธานสโมสรเรอัลมาดริด ออกมาให้ข่าวหลังพ่ายแพ้คาบ้านยับเยินในศึกเอลกลาซิโก"...เรามีคะแนนตามหลังบาร์ซาถึง
14 คะแนน มันมากเกินไป เราต้องเสริมกองหน้าโดยด่วน" ทว่า ซีเนอดีน ซีดาน ไม่เห็นด้วย ยังยืนยันไม่มีอะไรที่จะต้องทำ"...เราจะไม่บ้าคลั่ง
ไปกับการแพ้ครั้งนี้ มันยอมรับได้ยากก็จริงแต่เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไร " นี่เป็นความเห็นต่างจาก2ขั้ว ผ.จ.ก.และเจ้าของ ใครใหญ่?
กับซีดานมันก็แค่การพ่ายแพ้ในเกมส์หนึ่งซึ่งยอมรับได้ แต่ซีดานคือฝรั่งเศส มิใช่เปเรซซึ่งเป็นสเปนและแม้ดริด พ้าชชั่นมันต่างกัน ซีดานไม่มี
วันเข้าใจหรือเข้าถึงความรู้สึกนี้ ดังนั้นคำว่า CHANGE ที่ใช้ตอนประกาศลาออกจึงเหมือนมี2นัยยะ ทั้งเปลี่ยนไปจากเดิมในอดีตที่เคยเป็นอยู่
หรือเปลี่ยนจากที่ซีดานริเริ่มกลับไปเป็นอย่างเก่า คำตอบน่าจะมีมาในเร็ววัน เมื่อผ.จ.กใหม่ปรากฏตัว พร้อมแนวทางการทำทีมสำหรับปีต่อไป
การคุมทีมฟุตบอลต้องมีทั้งศาสตร์และศิลป์ ในเรื่องของศาสตร์ซีดานยังไม่สุด ได้UCL3สมัยก็จริง แต่ในลีกมาแค่ที่3 ตามบาร์ซ่าถึง17คะแนน
ศิลป์ในการควบคุมคน การจัดการนักเตะ ปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของทีม ก็ถือว่ายังไม่ผ่านเช่นกัน ความไม่พอใจก่อหวอดขึ้นรอบด้าน การออกมาให้
สัมภาษณ์ของโรนัลโด้กับเบล ทั้งที่ควรจะอยู่ในห้วงแห่งความยินดี มันแปลได้อย่างเดียวว่าถึงเวลา และซีดานรู้ว่าต้องไป ไม่มีทางเลือกอื่นอีก
แล้วจะเป็นการจากไปตลอดกาลเลยหรือ คำตอบคือไม่ใช่เด็ดขาด ซีดานไปเพื่อจะกลับมาในวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อกระดูกแข็งกว่านี้พร้อมกว่านี้
มีบารมีมากกว่านี้ พ้นจาก5ปีต่อไปถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ซีเนอดินซีดานจะคัมแบ้คกลับมายังถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว อีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้น
คงพร้อมแล้วทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการฟาดฟันกับสตาร์ดังในทีมและกับฟลอเรนติโน่เปเรซ เฒ่าสารพัดพิษผู้ยิ่งยง...อีกไม่นานเกินรอแน่นอน!
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users