อังเดร ชูแบร์ ผู้จัดการทีมขัดตาทัพของโบรุสเซียมึนเช่นกลัดบัคมองไปรอบๆห้องแต่งตัวเพื่อจะหาผู้นำ ทึมแพ้ไป 5 เกมติดต่อกันตั้งแต่เปิดฤดูกาลและกัปตันทีม2คนอย่างมาร์ติน สตรานเซิล และโทนี่ ยันท์ชเค่ ก็มีอาการบาดเจ็บติดตัวอยู่
ทีมจมอยู่ท้ายตาตางบุนเดสลีกา นักเตะยังคงเคว้งคว้างหลังจากการจากไปของผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของทีมอย่างลูเซียน ฟาฟร์ คนที่พาทีมผ่านเข้าไปเล่นยูฟ่าแชมป์เปียนส์ฤดูกาลก่อน และชูแบร์จำเป็นต้องหาใครสักคนมาทำให้ทีมมีชีวิตชีวาขึ้น
เขาอาจจะเลือกยาน ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูชาวสวิตเซอร์แลนด์หรือลาร์ส สตินเดิ้ลคนที่เคยเป็นกัปตันที่ยอดเยี่ยมใหักับฮันโนเวอร์มาก่อนจะย้ายมาร่วมทีมในปี 2015 แต่เขาไม่ทำเช่นนั้น เขากลับเลือกนักเตะวัย 22 ปี ซึ่งมีประวัติโดนใบเหลืองและใบแดงเป็นว่าเล่นเป็นกัปตันทีมท่ามกลางความไม่เห็นด้วยจากหลายๆฝ่าย
"มีสองหรือสามคนที่สามารถจะแทนที่ยันท์ชเค่ได้" ชูแบร์กล่าว "แต่ผมเลือกกรานิต ซาก้าเพราะว่าเขาเป็นนักเตะคนสำคัญสำหรับเราที่มีคุณภาพที่ดี แต่เขาเป็นคนที่ต้องเรียนรู้ที่จะมีความรับผิดชอบ"
มันเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ แต่การเดิมพันนี้ก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แทนที่ซาก้าจะเฉื่อยชา แต่กลับกันเขาเติบโตขึ้นมากับความรับผิดชอบ
เกมแรกที่ซาก้าเป็นกัปตัน เป็นเกมในบ้านกับเอาส์บวร์ก เขาทำตัวเป็นฟันเฟืองเล็กๆของทีม เป็นนักเตะที่วิ่งอย่างบ้าระห่ำ เข้าสกัดอย่างหนักหน่วง ยิงประตู และจ่ายบอลได้อย่างยอดเยี่ยมก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 77 หลังจากได้รับใบเหลืองและทำเสียจุดโทษไปครั้งหนึ่งและสุ่มเสี่ยงกับการโดนไล่ออก เขาเป็นทรัพย์สินที่มีค่าแต่ก็สร้างความอันตรายให้กับทีมตัวเอง นี่เป็นการโดนใบเหลืองใบที่ 3 ของซาก้าหลังจากลงเล่นในเกมลีกไป 6 นัด ตลอดเกมลีก 17 นัด เขาโดไล่ออกไป 3 ครั้ง เขาแทบไม่ได้ช่วยตัวเขาเองเลย
แต่เขาเติบโตอย่างช้าๆในฐานะกัปตันทีม เติบโตในสนาม จัดการตัวเอง 'ให้มีความสมดุลในเกมการเล่นของตัวเองมากขึ้น' และกลายเป็น 'คนที่เยือกเย็นและสุขุมมากขึ้น' จากคำบอกเล่าของชูแบร์ ผู้จัดการทีมตัดสินใจถูก หลังจากเขาโดนใบแดงใบที่3 เขาพาทีมกลับมาจากการออกสตาร์ทที่ห่วยแตกและกลับมาจบอันดับ 4 ได้
สัปดาห์นี้ นักเตะวัย 23 ปีชาวสวิตย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอลด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ที่มีเงื่อนไขอาจจะพุ่งไปถึง 35 ล้านปอนด์ กลายเป็นนักเตะของอาร์เซนอลที่มีค่าตัวแพงเป็นอันดับ 3 รองจากเมซุต เออซิล และ อเล็กซิส ซานเชส เขามีค่าตัวมากกว่าแชร์ดาน ชาคิรี่ถึง 3 เท่า เมื่อชาคิรี่ย้ายไปสโต๊คในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
อาร์แซน เวงเกอร์กล่าวว่าอาร์เซนอลจับตาดูนักเตะคนนี้มาตลอดมากกว่า 1 ปี และซาก้าบอกว่าเวงเกอร์เป็นเหตุผลที่สำคัญให้เขามาร่วมทีมอาร์เซนอล "เขาเป็นตำนาน การติดต่อครั้งแรกของเขากับผมคือ 1 ปีก่อน เขาโทรมาหาผม ผมแทบจะพูดไม่ออกเลย" ซาก้าให้สัมภาษณ์กับบริก
เขาน่าจะได้ย้ายไปร่วมทีมแอตเลติโก้มาดริดเมื่อฤดูกาลก่อน ทั้งๆที่ความเป็นจริงคือทีมจากลีกสเปนผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศยุฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก 2 ครั้งใน 3 ปีล่าสุด ซาก้าแน่วแน่ว่าเขาตัดสินใจถูกที่ยังคงเชื่อมั่นเวงเกอร์ (แม้ว่าจะมีการประท้วงจากแฟนบอลส่วนน้อยที่บอกว่า 'เวงเกอร์ ออกไป' บางทีเวงเกอร์ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น)
"อาร์เซนอลให้ความสนใจผมแบบจริงจังมาสักระยะแล้ว และผมคิดว่าผมเข้ากับสไตล์การเล่นของอาร์เซนอล" เขากล่าวเพิ่ม "ผมเป็นนักฟุตบอลที่ดี และผมก็ชอบที่จะดื่มด่ำไปกับมัน อาร์เซนอลมีสิ่งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขามักจะเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมและน่าดึงดูด และนี่เป็นก้าวที่ดีสำหรับผม"
ซาก้ากล่าวเพิ่มเติมว่าในความเป็นจริง การที่เขาเป็นกัปตันของทีมมึนเช่นกลัดบัคตั้งแต่อายุน้อยไม่ใช่เรื่องธรรมดา แต่ซาก้าก็ไม่ใช่นักเตะธรรมดาเช่นกัน เขาเกิดในสวิตเซอร์แลนด์กับครอบครัวจากโคโซวาน เขาต้องผ่านอุปสรรคต่างๆกว่าจะเป็นแบบทุกวันนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเขาถูกยกให้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับการหล่อหลอมในประเทศแต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายแบบนั้นเสมอ
เขาถูกถามในปี 2012 เกี่ยวกับการที่เขาถูกเย้ยหยันเพราะว่าประวัติของเขา เขาพูดถึงสวิตเซอร์แลนด์ว่า "ใช่ แน่นอน ผมแทบไม่เคยถูกมองว่าเป็นคนสวิตเลย ผมมักจะได้ยินคนอื่นๆบอกสิ่งที่พวกเขาชอบ ''บ่อยๆที่เจอเขาบอกว่า 'เป็นอัลแบเนียนที่ทุเรศ' แต่ผมแทบไม่เคยสนใจเลยเพราะผมรู้ว่าความคิดเก่าๆที่น่าเบื่อ
"มีหลายครั้งที่ชาวอัลเบเนียนสร้างปัญหาแต่พวกเขาก็เป็นคนที่ดีมากๆเช่นกัน บางทีคนอื่นๆอาจจะลืมไปแล้วว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนน่าคบจากบอลข่านเหมือนกัน ความแตกต่างระหว่างบางคนเช่นผมคือ เป็นคนที่เกิดในสวิตเซอร์แลนด์มีเพียงแค่ชื่อ ถ้าแมกซ์ มุลเลอร์และฟราเมอร์ เบริช่าเข้ารับการฝึกหัดเหมือนกัน ดูเหมือนพวกเขาจะเสนองานให้แมกซ์ มุลเลอร์มากกว่า ผมพบว่ามันไร้สาระมาก"
ซาก้าและพี่ชายของเขา ตูล็องท์ที่จะรับใช้ทีมชาติอัลเบเนียในยูโร 2016 พยายามจะจัดการปัญหานี้ให้อยู่หมัดในขณะที่พวกเขายังเด็กกว่านี้ เพื่อจะทุ่มเทให้กับฟุตบอล พวกเขาทั้งคู่ลงเล่นให้กับบาเซิ่ลชุดเยาวชนและเติบโตมาด้วยกัน และขึ้นมาชุดใหญ่ในฤดูกาล 2010-11
ในปี 2012 กรานิตย้ายมาร่วมทีมมึนเช่นกลัดบัคและเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ขาดความมั่นใจ หลังจากนั้นไม่กี่เดือน เมื่อเขาเป็นได้แค่เพียงตัวสำรองข้างสนาม นักเตะวัย 20 ปีบอกกับสื่อว่า "เขาอาจจะหาโอกาสพูดคุยกับผู้จัดการทีม" และ "เขาก็พิสูจน์ตัวเองได้ในที่สุดว่าสามารถลงเล่นในระดับสูงสุดได้"
ความเห็นของเขาไม่ได้ทำให้มีปัญหากับเพื่อนร่วมทีมหรือฟาฟร์ที่เป็นผู้จัดการทีม แต่ก็ทำให้ลาซิโอ้จีบเขาไปร่วมทีม อย่างไรก็ตามเขายังคงปักหลักกับกลัดบัค หลังจากนั้นเมื่อถูกถามว่าเขาได้เรียนรู้อะไรจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ซาก้าบอกว่า "พูดกับสื่อให้น้อยที่สุด" ก่อนที่จะขยายความว่า "ผมไม่โทษนักข่าวนะแต่ผมจะพูดสิ่งที่แตกต่างออกไปนับแต่นี้ ผมพูดตรงไปตรงมาเกิน ผมจะไม่เปิดกว้างแบบนั้นกับการพูดสิ่งที่ผมกำลังคิด"
นับแต่นั้นมา ซาก้าก็ให้ฟุตบอลพูดแทนตัวเขาเอง พัฒนาในช่วง 4 ปีที่อยู่กับกลัดบัค ไม่มีข้อสงสัยใดๆเลยว่าเขาจะเป็นทรัพย์สินของอาร์เซนอลอย่างที่เวงเกอร์ตัดสินใจโดยมองว่าเขาจะเป็นอาวุธหนักในแดนกลางที่มีทักษะหลายๆอย่าง ไม่ใช่การที่ซาก้าเก่งกาจ แต่มันเป็นเรื่องของการที่เขาสามารถจะควบคุมมิติของเกมการเล่นได้มากกว่า หนึ่งนาทีแรกเขาจะยุ่งอยู่กับการเข้าสกัด และนาทีต่อมาจะโยนบอลยาวไปอย่างที่ซาบี้ อลอนโซ่ทำ
ถ้าเขายังคงพัฒนาตัวเองได้แบบที่เขาทำมาตลอด 4 ปี เขาอาจจะเป็นกัปตันของอาร์เซนอลในอนาคต ในช่วงท้ายฤดูกาล 2014-15 เขาลงเล่น 9 เกมทั้งๆที่ซี่โครงร้าว เขาลงเล่นโดยได้รับการปกป้องกันแบบเต็มที่และมียาระงับความเจ็บก่อนจะโยนมันทิ้งและลงเล่นผ่านความเจ็บปวด "ตลอดเวลา มันทำผมเจ็บเจียนตาย แต่มันมักจะมาเมื่อผมนอนอยู่บนโซฟาที่บ้าน แต่เมื่อผมลงเล่นผมโฟกัส และผมไม่ได้สนใจซี่โครงที่ร้าวแต่อย่างใด และพวกเราก็ผ่านเข้าไปเล่นแชมป์เปียนส์ลีกได้สำเร็จ"
นี่เป็นทัศนคติและการที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆที่พอจะบอกได้ว่าเป็นสิ่งที่อาร์เซนอลขาดหายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักเตะหนึ่งคนอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนสภาพจิตใจของทีมแต่ซาก้าพิสูจน์ตัวเองกับกลัดบัคว่าเขาสามารถกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมด้วยความกระหายและการทำงานหนักของเขา
เวงเกอร์ได้นักเตะวัย 23 ปีที่เป็นผู้นำ เขาอาจจำเป็นต้องใช้เวลาอีกนิดที่จะพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแต่อย่างน้อยที่สุด นี่เป็นการเดินหมาก 1 ครั้งที่ทำให้เห็นว่ามาถูกทางแล้ว
