Jump to content



Photo

ปรับปรุงทั้งองค์กร!! 4 ด้านที่อาร์เซน่อลต้องทำเพื่อกลับมาเป็นทีมหัวแถวอีกครั้ง

- - - - -

  • Please log in to reply

#1
Admin

Posted 26 March 2021 - 11:18 AM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,453 posts
  • LocationBangkok

220321_JH_SPORT_trans_NvBQzQNjv4BqOgXemD
 
นับเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของอาร์เซน่อลในช่วงกว่า 20 ปี จากที่พวกเขาเป็นขาประจำในการไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก แต่ตอนนี้มีโอกาสที่พวกเขาจะพลาดตั๋วยูซีแอลเป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกัน รวมถึงอันดับในตารางคะแนน ที่พวกเขาถูกทิ้งห่างจากพื้นที่ท็อปโฟร์ไกลขึ้นทุกที 
 
ความตกต่ำของอาร์เซน่อล ไม่ใช่เพียงเพราะผลงานในสนามอย่างเดียว แต่เกิดจากปัญหาหลายอย่างภายในสโมสรที่เป็นตัวแปรให้ผลงานในสนามย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งภายในที่เราได้เห็น อีวาน กลาซิดิช ลงมาล้วงลูก อาร์แซน เวนเกอร์ ในช่วงปีท้ายๆ ของกุนซือเมืองน้ำหอม
 
การเปลี่ยนแปลงทีมบริหารเป็นว่าเล่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สเวน มิสลินทัต, ราอูล ซานเญฮี และฮันส์ ฟาห์มี่ 3 ผู้เชี่ยวชาญที่ กลาซิดิช หมายหมั้นปั้นมือจะเอามาช่วยยกระดับทีม แต่ท้ายที่สุดต่างก็กระเด็นออกจากทีมไปทีละคน 
 
การซื้อ-ขายนักเตะของอาร์เซน่อล ก็เข้าขั้นไร้ประสิทธิภาพ รวมถึงการต่อสัญญานักเตะในทีม ก็สร้างปัญหาให้กับทีมมาต่อเนื่อง ทั้งหมดทั้งมวลเป็นสิ่งที่อาร์เซน่อล ต้องปรับปรุงรอบด้านภายในสโมสร เพื่อให้พวกเขากลับขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง


Playing staff
สองตำแหน่งหลักที่อาร์เซน่อล ต้องจัดการในซัมเมอร์นี้ คือผู้เล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 ซึ่งตอนนี้ มาร์ติน โอเดการ์ด กองกลางทีมชาตินอร์เวย์ที่ยืมมาจากเรอัล มาดริด กำลังทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ 
 
ความเป็นไปได้ที่อยากให้เกิดขึ้นที่สุดคือพวกเขาเก็บ โอเดการ์ด เอาไว้ในทีมต่อไปในฤดูกาลหน้า แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเรอัล มาดริด ถ้ามาดริดตัดสินใจขายโอเดการ์ด ก็คงมีทีมอื่นให้ความสนใจเขาเช่นเดียวกัน รวมถึงสิ่งที่อาร์เซน่อลอาจให้นักเตะไม่ได้คือการไปเล่นแชมเปี้ยนลีก 
 
ความหวังของอาร์เซน่อลคือการโน้มน้าวให้ โอเดการ์ด เชื่อว่าการอยู่อาร์เซน่อลต่อไป จะส่งผลดีกับการพัฒนาฝีเท้าของตนเอง ซึ่งจากการสัมภาษณ์ โอเดการ์ด ก็มีความสุขมากในการเล่นในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม
 
อีกหนึ่งจุดที่สำคัญก็คือตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า อเลกซองเดร์ ลากาแซตต์ และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ สองกองหน้าของทีมจะเหลือสัญญาปีสุดท้าย ซึ่งพวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะต่อสัญญา หรือเลือกจะขายนักเตะออกไป ทาง อาร์เตต้า และเอดู อาจจะมองหากองหน้าคนใหม่ ที่เด็กกว่า และดีกว่าที่จะขึ้นมาทดแทน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ดาวซัลโวที่เริ่มโรยรา 
 
นอกจากนี้พวกเขายังต้องตัดสินใจอนาคตบรรดาผู้เล่นที่ปล่อยยืมตัวออกไปในฤดูกาลนี้ ว่าจะมีอนาคตกับทีมต่อไปหรือไม่ ทั้ง มัตเตโอ เกนดูซี่, ลูคัส ตอร์เรยร่า, เซอัด โคลาซินัช, โจ วิลล็อค, เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส และดินอส มาฟโรปานอส 
 
ตำแหน่งแบ็คขวา ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เริ่มมีความสงสัยกับอนาคตในระยะยาวของ เอคตอร์ เบเยริน ที่ไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจจาก มิเกล อาร์เตต้า เท่าใดนัก ถ้าหากเบเยริน ถูกขายออกไป อาร์เซน่อลก็คงพิจารณาที่จะดึงแบ็คขวาตัวใหม่ ที่มีคุณภาพในระดับเดียวกับ คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ็คอีกฝั่งที่ทำผลงาน
 
 
TELEMMGLPICT000253935324_trans_NvBQzQNjv


Non-playing staff
 
การมาถึงของ ริชาร์ด การ์ลิค จะเป็นกุญแจในการปรับปรุงโครงสร้างนอกสนามของอาร์เซน่อล พวกเขาหวังว่ามันจะเป็นการสิ้นสุดช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่ผู้บริหารมีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา 
 
บทบาทส่วนใหญ่ของ การ์ลิค คือการจัดการสัญญานักเตะ ซึ่งเป็นปัญหามาต่อเนื่องในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา มีผู้เล่นหลายคนที่ทีมจำใจต้องปล่อยฟรี หรือจ่ายค่าเหนื่อยที่สูงเกินไป จนหาสโมสรมาซื้อนักเตะเหล่านั้นไม่ได้
 
การ์ลิค จะต้องใช้เวลาในการสักระยะในการทำให้เกิดความมั่นคง ซึ่งอาร์เซนอ่ลต้องการคนที่มีความเชี่ยวชาญในบทบาทดังกล่าว หลังการจากไปของ Huss Fahmy ผู้เชี่ย่วชาญด้านการจัดการสัญญาเมื่อปีก่อน
 
สำหรับ Fahmy ได้รับเครดิตในการใช้แนวทางใหม่ในการทำสัญญา อย่างไรก็ตามสไตล์ของเขาไม่ได้รับการชื่นชมจากเอเยนต์ส่วนตัวของนักเตะ การ์ลิคจำเป็นต้องหาสมดุลที่ดีกว่า และต้องตัดสินใจอย่างมั่นคง ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงที่หายไปนาน ของทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อล
 
มันเป็นซัมเมอร์ที่สำคัญมากสำหรับ เอดู ที่เข้ามากำหนดทิศทางของสโมสรแบบเต็มตัวตั้งแต่ซัมเมอร์ปีก่อน ซึ่งถือว่าเขาก็ทำหลายอย่างได้ดี ทั้งในการเซ็นสัญญา โธมัส ปาร์เตย์ และกาเบรียล มากัลเญส รวมถึงจัดการปัญหาของเมซุต โอซิล ที่ยื้อเยื้อกันมานานลงได้ 
 
อย่างไรก็ตามเขายังไม่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องการขายนักเตะออกไป เขาจำเป็นต้องหาสโมสรที่จะมาซื้อนักเตะอย่าง มัตเตโอ เกนดูซี่ และลูคัส ตอร์เรยร่า ให้ได้เป็นอย่างน้อย 
 
TELEMMGLPICT000236279204_trans_NvBQzQNjv
 
Business
ด้านธุรกิจเป็นจุดที่อาร์เซน่อลมีแต่ตัวเลขสีเขียวในบัญชีมาตลอด แต่ผลประกอบการล่าสุด (31 พฤษภาคม 2020) พวกเขาขาดทุน 47.8 ล้านปอนด์ ด้วยผลกระทบจากการระบาด COVID-19
 
อาร์เซน่อล มีรายได้ด้านการค้าเพิ่มขึ้นจาก 110.9 ล้านปอนด์ มาเป็น 142.3 ล้านปอนด์ ต้องขอบคุณการต่อสัญญาสปอนเซอร์กับสายการบินเอมิเรสต์ และอาดิดาส ที่เข้ามาเป็นผู้ผลิตชุดแข่งใหม่ของทีม ซึ่งสัญญาเหล่านี้จะยังอยู่กับสโมสรไปอีกนาน อย่างไรก็ตามดีลกับ Visit Rwanda สปอนเซอร์ที่ติดแขนเสื้อจำนวน 10 ล้านปอนด์ต่อปี จะหมดสัญญาหลังจบฤดูกาลนี้
 
ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเหนื่อยยังคงเป็นปัญหาของอาร์เซน่อล เมื่อปราศจากฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก แม้ว่าจะเคลียร์ เมซุต โอซิล ออกไปได้ แต่การเซ็นสัญญากับ โธมัส ปาร์เตย์ และการต่อสัญญาใหม่กับปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ก็ยังทำให้ตัวเลขค่าเหนื่อยของทีมสูงอยู่ดี  
 
คาดการณ์กันว่าผลประกอบการในครั้งต่อไป อาร์เซน่อลจะพบตัวเลขขาดทุนในระดับมากกว่า 100 ล้านปอนด์ จากการที่ไม่มีแฟนบอลเข้ามาชมในสนามเลยทั้งฤดูกาล ซึ่งสัดส่วนรายได้ที่มาจาก Match Day Revenue สูงเป็นอันดับสองรองจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 
 
อย่างไรก็ตามคาดการณ์กันว่าในฤดูกาลถัดไป แฟนบอลจะเริ่มกลับเข้ามาดูเกมส์ในสนามได้ ก็จะทำให้ตัวเลขรายได้ของสโมสรฟุตบอลเริ่มฟื้นตัว แต่ก็ต้องยอมรับว่า การไปเล่นแชมเปี้ยนลีก มีส่วนสำคัญต่อรายได้ และการดำเนินธุรกิจของทีม รวมถึงการมีส่วนร่วมมากขึ้นของตระกูลโครเอนเก้
 
 
The culture
นับตั้งแต่วันแรกที่อาร์เตต้า เข้ามารับงานคุมอาร์เซน่อล เขามุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมที่สโมสรอาร์เซน่อล เขาต้องการมาตรฐานที่ดีขึ้นทั่วทั้งสโมสร และเข้มงวดกับมาตรฐานจากนักเตะของเขา เราได้เห็นจากการตัดสินใจล่าสุดที่ดร็อป ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้ากัปตันทีมในเกมส์นอร์ทลอนดอน ดาร์บี้แมตซ์ จากการมาประชุมทีมก่อนแข่งสาย เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติภายในสโมสร
 
ในตลาดเปิดรอบสองเดือนมกราคม อาร์เตต้า ยังดำเนินการปรับปรุงวัฒนธรรมของสโมสรอย่างต่อเนื่อง เราได้เห็นการจากไปของ โอซิล, โซคราติส และมุสตาฟี่ ด้วยขนาดทีมที่ใหญ่เกินไป และมีความบุคลิกหลายอย่างที่ไม่เข้ากับวัฒนธรรมที่เขากำลังสร้าง
 
กระบวนการดังกล่าวจะยังคงมีต่อเนื่องในซัมเมอร์นี้ และอาจจะเกิดขึ้บกับเกนดูซี่ กองกลางดาวรุ่งเมืองน้ำหอม มีปัญหาเรื่องพฤติกรรมหลายอย่าง และเขาก็ยังคงมีปัญหาอีกแม้จะไปเล่นแบบยืมตัวที่แฮร์ธ่า เบอร์ลิน
 
อาร์เซน่อล ไม่ต้องการนักเตะประเภทนี้ที่จะเข้ามาก่อกวนวัฒนธรรมที่พวกเขากำลังสร้างขึ้น และคงไม่แปลกใจหาก อาร์เตต้า และเอดู จะพยายามขายนักเตะรายนี้ออกไปจากทีม



#2
jakkritakeng

Posted 26 March 2021 - 06:21 PM

jakkritakeng

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 616 posts
ชีวิตนี้จะได้เห็นปืนชูถ้วย PL มั้ยน้อ ไม่กล้าฝันถึงถ้วย UCL

#3
Admin

Posted 26 March 2021 - 07:49 PM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,453 posts
  • LocationBangkok

ปรับปรุงเรื่องการซื้อ-ขายนักเตะ กับการต่อสัญญานักเตะเป็นอันดับแรกสุด ถ้าทำได้เดี๋ยวดีขึ้นเอง 



#4
ปืนเก่า55

Posted 27 March 2021 - 11:24 AM

ปืนเก่า55

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 4,288 posts

ปรับปรุงเรื่องการซื้อ-ขายนักเตะ กับการต่อสัญญานักเตะเป็นอันดับแรกสุด ถ้าทำได้เดี๋ยวดีขึ้นเอง 

ถ้าเป็นไปได้ปรับปรุงเจ้าของทีมแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองอย่างแน่นอนครับ



#5
Admin

Posted 27 March 2021 - 02:59 PM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,453 posts
  • LocationBangkok

 

ปรับปรุงเรื่องการซื้อ-ขายนักเตะ กับการต่อสัญญานักเตะเป็นอันดับแรกสุด ถ้าทำได้เดี๋ยวดีขึ้นเอง 

ถ้าเป็นไปได้ปรับปรุงเจ้าของทีมแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองอย่างแน่นอนครับ

 

 

 

คงเกิดขึ้นได้ยาก ตระกูลโครเอนเก้อยู่กันไปยาวๆ กับปืน 



#6
nnnggg

Posted 28 March 2021 - 12:34 PM

nnnggg

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,847 posts

ปัญหาบริหารค่าเหนื่อยของนักเตะ ทีมจัดการได้แย่นะ แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับกุก็เถอะ  ตัดโอซิลไปได้ แต่ โอบา กับวิลเลี่ยนก็ไม่ต่างกันเลย เหมือนเล่นกินค่าเหนื่อยไปวันๆ ช่างเมิงไม่ใช่เงินกุ






1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users