Jump to content



Photo

อาร์แซน เวงเกอร์ หมดเวลาหรือยังสำหรับชายชราที่รักแต่ตัวเอง

- - - - -

  • Please log in to reply

#1
wonder goal (ดล)

Posted 03 September 2017 - 11:51 AM

wonder goal (ดล)

    Advanced Member

  • Moderators
  • 2,356 posts

tumblr_o3kfzkmkgd1tzwa0zo1_1280.png?resi

 

 

หลังจากปิดตลาดซื้อขายนักเตะ ผมได้กลั่นกรองความคิด และคิดว่ามีหลายมุมมองที่อยากจะถ่ายทอดเพื่อแลกเปลี่ยนกับเพื่อนที่อาจจะคิดเหมือนหรือไม่เหมือนกัน

 

อย่างที่ทราบกันคือตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา เวงเกอร์คว้านักเตะมา 2 คน คือเซอัด โคลาชินัค และ อเล็กซองแดร์ ลากาแซต ในขณะที่ขายนักเตะออกไป 11 คน รวมถึงปล่อยยืมตัวอีก 9 คน รวมแล้วได้กำไรไม่ต่ำกว่า 21 ล้านปอนด์

 

ย้อนกลับไปหาความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกครั้งล่าสุดคือ ฤดูกาล 2003-2004 ราวๆ 13 ปีก่อนซึ่งถือว่านานมากกับสโมสรที่เคยถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญในการแย่งแชมป์ลีก ที่เหลือคือได้รองแชมป์ 2 ครั้ง อันดับสาม 4 ครั้ง อันดับสี่ 6 ครั้ง และปีล่าสุดที่แหกโค้งจบอันดับ 5 

 

ผมตั้งคำถามอยู่เสมอว่าเกิดอะไรขึ้นกับสโมสรที่เรารัก และตามเชียร์อยู่ตลอด ซึ่งในช่วงแรกๆก็เจอกับวาทกรรม "เราต้องขายนักเตะใช้หนี้สร้างสนาม" โอเค แรกๆก็พอเข้าใจได้ว่า หลังจากใช้หนี้หมด เราน่าจะกลับมาบี้คู่แข่งคว้าแชมป์ลีกกลับมาได้บ้าง

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือทุกอย่างยังเหมือนเดิมคือแทบไม่มีปีไหน ที่อาร์เซนอลจะสามารถไต่ระดับไปลุ้นแชมป์กับคู่แข่งได้จนถึงสัปดาห์ท้ายๆของการแข่งขัน

 

สิ่งที่เห็นอยู่ประจำคือ ราวๆต้นปีอาร์เซนอลจะตกรอบคาร์ลิ่งคัพ และยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก ตามด้วยการหมดลุ้นแชมป์เนื่องจากโดนจ่าฝูงทิ้งห่างขาดลอย เป็นเกือบทุกปีอย่างกับมีคนเขียนบทเอาไว้แบบนั้น

 

แต่ปํญหาหลักๆของอาร์เซนอล น่าจะเกิดจากตัวละครหลักของอาร์เซนอลคนหนึ่ง ซึ่งแฟนอาร์เซนอลจะต้องทนทุกข์ทรมาณไปอีกนานถ้าเขายังไม่ยอมไปไหน ชายคนนั้นชื่อ 

 

"อาร์แซน เวงเกอร์"

 

 

มีคนพูดกันว่า อาร์แซน เวงเกอร์ นี่หละ คนที่รักอาร์เซนอลเทียบเท่ากับชีวิตของตัวเอง คนๆนี้ทำทุกอย่างเพื่อสโมสร 

 

ซื้อขายนักเตะเท่าที่ทำให้สโมสรไม่มีปัญหาทางการเงิน ปฏิเสธข้อเสนอจาก ทีมชาติอังกฤษ รีลมาดริด แมนยูฯ และปารีส แซงต์ แชร์กแมงทีมยักษ์ใหญ่เพื่อจะคุมอาร์เซนอลต่อไป

 

ความประทับใจตั้งแต่วันที่เวงเกอร์สร้างทีมแบบวันทัช จนถึงเรื่องราวต่างๆที่ผุดขึ้นมาว่า ผู้ชายคนนี้ทำทุกอย่างเพื่อสโมสร

 

แฟนบอลตัวเล็กๆคนนึงเชื่อเต็มหัวใจโดยไม่เคยตั้งข้อสงสัยต่อเวงเกอร์ว่าทำไมที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะยังมีความหวังเล็กๆว่า อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ที่รักสโมสรจะต้องพาทีมกลับมายืนในจุดที่ควรอยู่คือพาทีมลุ้นแชมป์ได้ในทุกๆฤดูกาล

 

แต่เวลาพิสูจน์ทุกอย่าง!!! ฤดูกาลก่อนเวงเกอร์สร้างผลกระทบให้กับทีมจังๆ ด้วยการสร้างความไม่ชัดเจนในอนาคตของตัวเองด้วยการไม่ต่อสัญญาหรือประกาศไม่ต่อสัญญา ลากยาวจนถึงปิดฤดูกาล

 

โดยก่อนหน้านี้แย้มๆว่าเดือนมีนาคมจะเปิดเผยการตัดสินใจ แต่ก็ใช้วาทศิลป์เลื่อนการตัดสินใจไปจนถึงช่วงปิดฤดูกาล ก่อนจะต่อสัญญาออกไปอีก 2 ปี เจ้าตัวเองก็ยอมรับผลกระทบดังกล่าวหลังจากคว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ชิลล์ว่า

 

“เหตุการณ์ทั้งหลายอาจเกิดมาจากความคลุมเครือของผม นั้นอาจเป็นความผิดพลาดของผมเอง โดยรวมแล้วผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของเรา ทิศทางจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับทีม ในสี่ปีหลังมานี้เรามักจะเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีในนัดแรกในลีก แต่เรามีการเตรียมทีมอย่างหนักหน่วงเพื่อให้เราพร้อม

 

อาจจะเรียกว่าผมเพิ่งจะตาสว่างว่า คำพูดของคนๆนี้เชื่อถือไม่ได้เลย

 

1. "อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลนจะอยู่ต่อ ผมคาดหวังเต็ม 100 เปอร์เซนต์ว่ายังไงซะเขาจะอยู่ต่ออย่างแน่นอน ไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล ไม่มีอะไรทั้งนั้น และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น" การไม่ทำให้ทุกอย่างชัดเจนกับนักเตะ ทำให้อาร์เซนอลมาเร่งขายนักเตะที่หมดใจในช่วงใกล้ปิดตลาดซื้อนักเตะ ทั้งๆที่ควรจะปล่อยตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล และมองหาตัวแทนที่เหมาะสม
 
2. "ตอนนี้มัน (อนาคตของ ซานเชซ) ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งนั้น แน่นอนว่าเขาจะอยู่กับเราต่อไป" แต่มีการเปิดรับข้อเสนอขายซานเชสให้แมนฯซิตี้ในช่วงใกล้ปิดตลาดซื้อขายนักเตะอีกแล้ว!!! รวมถึงการยื่นข้อเสนอคว้าตัวเลอมาร์ในวันสุดท้ายด้วยจำนวน 90 ล้านปอนด์ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าตัวจำนวน 50 ล้านปอนด์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งข่าวต่อเนื่องที่ตามมาคือซานเชสไม่พอใจอาร์เซนอลอย่างมากที่ล้มโต๊ะการย้ายทีมทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ตกลงค่าตัวเรียบร้อย และเจ้าตัวก็ได้บอกอาร์เซนอลตั้งแต่  4 เดือนก่อนว่าต้องการย้ายทีม สิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าตัวในเกมกับลิเวอร์พูลก็ชัดเจนว่าไม่มีใจที่จะอยู่กับอาร์เซนอลต่อไป
 
3. แต่เรามีการเตรียมทีมอย่างหนักหน่วงเพื่อให้เราพร้อม ขายนักเตะเพื่อลดค่าจ้างรายปีโดยที่ ไม่มีนักเตะดีๆมาเสริมในตำแหน่งที่ควรเสริม เช่น เซ็นเตอร์แบ็ค เนื่องจากกอสเซียลนี่เจ็บบ่อย และแพร์ แมร์เตซักเกอร์จะแขวนสตั๊ดปีก่อน รวมถึงตำแหน่งกองกลางที่อาร์เซนอลไม่มีใครทำหน้าที่ตัดบอลได้ดีทำให้ภาระหนักตกอยู่กับแผงหลัง ยังยืนหยัดวางซาก้ายืนหน้ากองหลังทั้งๆที่เจ้าตัวขาดความเร็วและความแม่นยำในการเข้าสกัด รวมถึงการยื่นซื้อเลอมาร์ในวันสุดท้ายเหมือนกับต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าซื้อแล้วนะนักเตะไม่มาเอง แต่ไม่ได้จริงจังคว้าตัวแต่แรก รวมถึงการปล่อยตัวมุสตาฟี่ในช่วงใกล้ปิดตลาดซื้อขายนักเตะแต่อินเตอร์มิลานไม่ยอมเล่นด้วย
 
4. "ผมหวังว่า เมื่อผมจากไป  หวังว่าสโมสรจะอยู่ในระดับสูงขึ้นไปอีก ผมอยากเห็น สโมสรแห่งนี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ และแชมป์แชมเปียนส์ลีก ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ นั่นคือความฝันของผม"  หากอีก 2 ปีเมื่อหมดสัญญาของเวงเกอร์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือในปีหน้า นักเตะทีมชุดใหญ่หลายคนจะหมดสัญญาในปีนี้  และหลายๆคนคงไม่ต่อสัญญา จากอนาคตของทีมที่ไม่มีลุ้นแชมป์ซึ่งทำให้นักเตะหลายๆคนเริ่มเห็นทุกอย่างชัดเจนและไม่ต้องอยู่ต่อไป รวมถึงเออซิลที่เร็วๆนี้ครบรอบ 4 ปีที่ย้ายมาร่วมทีม แต่โพสต์ความทรงจำกับอาร์เซนอลประหนึ่งว่าปีนี้คือปีสุดท้ายในสีเสื้อของปืนใหญ่
 
หมดสัญญาปี 2018: อเล็กซิส ซานเชส เมซุต เออซิล แจ็ค วิลเชียร์ ซานติ การ์ซอล่า แพร์ แมร์เตซักเกอร์
หมดสัญญาปี 2019: อารอน แรมซี่ย์ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ธีโอ วัลคอตต์ แดนนี่ เวลเบ็ค นาโช่ มอนเรอัล ดาวิด ออสปิน่า ปีเตอร์ เช็ค มาติเยอ เดอบูชี่

 

ดูเหมือนว่าหลังเวงเกอร์จากไปหรือแกอาจจะอยู่ต่อจนกว่าจะตายไปข้างนึง อาร์เซนอลแทบจะไม่เหลือนักเตะฝีมือดีไว้ให้ผู้จัดการทีมคนต่อไปใช้งาน

 

ในขณะที่นักเตะฝีมือดีก็ปฏิเสธจะย้ายมาร่วมทีม โทมัส เลอมาร์ แม้กระทั่งจอนนี่ อีแวนส์ขออยู่เวสต์บรอมวิชฯต่อแทนที่จะย้ายมาอาร์เซนอล

 

จริงๆยังมีอีกหลายคำพูดที่เวงเกอร์พูดออกมาแล้วทำอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งหากจะรวบรวมมาหมดบทความก็อาจจะยาวเกินไป

 

5. "ผมจะไม่เกษียณ เกษียณเป็นเรื่องของคนอายุน้อย สำหรับคนแก่ เกษียณก็เหมือนตาย" และนี่คือข้อสรุปของผู้ชายที่ชื่อเวงเกอร์ ชายชราที่รักตัวเอง เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนกับผู้ชายอีกคนคือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือที่พาทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย เฟอร์กี้เลือกที่จะวางมือเนื่องจากยอมรับว่าตัวเองไม่สามารถพาทีมไปต่อสู้กับทีมชั้นนำของยุโรป ทั้งๆที่เจ้าตัวพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีก 2 สมัย โดยเฟอร์กี้มองประโยชน์สูงสุดของสโมสรด้วยการยอมวางมือเพื่อหากุนซืออายุน้อยกว่าที่สามารถพาทีมไปท้าชิงกับทีมยักษ์ใหญ่ในเกมยุโรป ในขณะที่อาร์เซนอลมองแค่ในอังกฤษยังไม่รอด

 

แต่ก่อนผมเคยเชื่อว่าเวงเกอร์รักอาร์เซนอล แต่ตอนนี้ผมกลับมองว่าชายชราคนนี้รักตัวเองมากที่สุด

 

เวงเกอร์กลัวการโดนไล่ออก ทำให้ไม่ย้ายไปคุมทีมอื่นนอกจากอาร์เซนอล เพราะผู้บริหารอาร์เซนอลคงไม่กล้าไล่ผู้จัดการทีมที่มีอำนาจเต็มมือออกจนกว่าเจ้าตัวจะวางมือหรือไม่ต่อสัญญา

 

สิ่งที่ทำทั้งหมดคือการทำกำไรให้กับสโมสรเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง แต่ไม่ใช่เพื่อความสำเร็จในระยะยาวของอาร์เซนอลอย่างแท้จริง บอร์ดบริหารชุดปัจจุบันพอใจกับกำไร ดังนั้นอนาคตของเวงเกอร์จึงไม่มีปัญหาสำหรับบอร์ด

 

เวงเกอร์ทำตัวเป็นเกาะป้องกันกระสุนแทนบอร์ดบริหาร ซึ่งทำให้กลาซิดิซรวมถึงโครเอนเก้ลอยตัวพอสมควรเพราะแฟนบอลรุมด่าเวงเกอร์มากกว่าจะโจมตีกลาซิดิซและโครเอนเก้ที่ยังปล่อยให้เวงเกอร์คุมทีมจนถึงปัจจุุบัน

 

การไม่ยอมรับความผิดพลาดในการวางแผนซื้อตัวของตัวเอง ตั้งแต่ซื้อลูคัส เปเรซ มาเพื่อกลบกระแสแฟนบอล การซื้อชโกรดาน มุสตาฟี่แทนที่จะเป็นเป้นหมายหลักของตัวเองคือมาโนลาส หลังจากนั้น สโมสรพยายามปล่อยตัวนักเตะ 2 รายนี้ออกไปทั้งๆที่ย้ายมาอยู่กับทีมได้เพียง 1 ปี 

 

เวงเกอร์ไม่เคยรับฟังใคร ให้อิสระกับนักเตะ โอ๋นักเตะ อย่างที่มาร์ติน คีโอว์นให้สัมภาษณ์ว่า
 
"ย้อนไปในปี 2006 ผมได้กลับเข้ามาทำงานกับ อาร์เซนอล ในฐานะผู้ช่วยของ แพท ไรซ์ เพื่อทำการฝึกซ้อมการเล่นเกมรับ"
 
"มีนักเตะคนหนึ่งยืนตำแหน่งผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตู และผมก็ต้องการที่จะเตือนเขาให้ตระหนักว่าตัวเองผิดอย่างไร ด้วยการแสดงให้ดูถึงแนวทางการเคลื่อนที่ แต่ เวนเกอร์ บอกเด็กว่า อย่าไปสนใจสิ่งที่ผมกำลังทำ"
 
"ผมไม่รู้นะ ในมุมมองของ เวนเกอร์ คือ ถ้านักเตะรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดอย่างไร มันจะบั่นทอนความมั่นใจของพวกเขาลง จนสภาพจิตใจเสียหายล่ะมั้ง"
 
"โอเค สิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นได้เมื่อคุณกำลังพูดถึงเรื่องของเทคนิกส่วนตัวของนักเตะในระหว่างเกม เช่นการกล้าจ่ายบอลแบบติดเสี่ยงนิด ๆ แต่ที่เรากำลังพูดถึงคือมันเป็นเรื่องของตำแหน่งการยืน ฉะนั้นมันจึงต้องลงลึกในรายละเอียดและแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังผิดพลาดอย่างไร"
 
"และผมรู้ดีว่าถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์แบบที่ว่า มันก็จะส่งผลเสียต่อศักยภาพของผู้เล่นไปในระยะยาว"
 
"ที่บ่น ๆ ให้ฟังมานี้ไม่ใช่ว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไรหรอกนะ แต่แค่ชี้ว่า อาร์เซน เวนเกอร์ โอ๋เด็กของตัวเองมากเกินไป และปกป้องราวกับเป็นลูกของตัวเองแท้ ๆ อย่างไรอย่างนั้น"

 

อนาคตของอาร์เซนอลในปัจจุบันยังคงไร้ความชัดเจน กับการจัดการความรู้สึกของนักเตะที่ต้องการย้ายทีมแต่ไม่ได้ย้าย

 

การฟื้นฟูสภาพจิตใจของนักเตะหลังโดนลิเวอร์พูลรัวยับแบบบกลับบ้านไม่ถูก

 

การสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับทีมใหญ่ๆหลังจากทีมไม่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมานาน จนแฟนบอลรุ่นใหม่ๆของอาร์เซนอลมีน้อยมากๆเทียบกับทีมอื่น ทำให้รายได้จากการโฆษณาเทียบกับทีมใหญ่ทีมอื่นๆไม่ติด

 

บางทีอาร์เซนอลอาจจะกลับไปอยู่ในจุดที่เคยอยู่คือเป็นทีมกลางตารางก่อนที่เวงเกอร์จะเข้ามา และเวลาของเวงเกอร์ที่ไม่รู้จะหมดเมื่อไหร่

 

ความรู้สึกที่เคยมีให้ และตอนนี้หายไปคือ ความรักที่มีให้กับเวงเกอร์ ความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับ 4  คำสั้นๆที่จะฝากไว้กับผู้ชายที่เราเคยศรัทธา หมดเวลาของของคุณแล้ว 'เวง เกอร์ ออก ไป"

 

wengout.jpg



#2
supakorneit09

Posted 03 September 2017 - 11:54 AM

supakorneit09

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,221 posts
Wenger out! Wenger out!
Wenger out! Wenger out!

#3
ซันจิ

Posted 03 September 2017 - 11:59 AM

ซันจิ

    Advanced Member

  • Moderators
  • 8,441 posts
จำตอน ฟาน เพอร์ซี่ ตะโกน f**k you ใส่เวนเกอร์ได้ไหม นั่นแหละ เขาสมควรไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

#4
Invinc93

Posted 03 September 2017 - 12:07 PM

Invinc93

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 370 posts
เขียนดีครับ ชัดเจนทุกประเด็น
แม้ผมจะไม่เชื่อเวนเกอร์ทำเพื่อตัวเอง
แต่ผมเชื่อเวนเกอร์ไม่ได้ทำเพื่อทีมอยู่แน่ๆหล่ะ
เพราะทีมแย่ขนาดนี้ แย่มาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบ มันก็แสดงอะไรหลายๆอย่างนะ

เข้ามาโดยที่ไม่มีใครรู้จัก
กลายเป็นที่เคารพรักในสโมสร
จากไปอย่างผู้ร้ายให้คนเกลียด
"อาร์แซน เวนเกอร์"

#5
I AM FREE

Posted 03 September 2017 - 12:30 PM

I AM FREE

    I AM ZER∅ III

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,744 posts
สุภาษิตวันละคำ "เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า"
สำนวนสุภาษิตนี้ หมายถึง ผู้ที่ทำดีหรือทำประโยชน์แต่แรกเป็นที่เชื่อถือแล้ว แต่ภายหลังกลับทำความชั่วลบล้างความดีของตน หรือหมายถึงคนที่ออกคำสั่งหรือให้สัญญาไว้แต่แรกอย่างหนึ่ง แต่แล้วกลับไม่ทำตามสัญญาที่ได้ตกลงไว้

ที่มาของสํานวน สำนวนนี้บางทีบางทีคนจะเรียกว่า “เขียนด้วยมือ ลบด้วยตีน!!!”

#6
GunNer2514

Posted 03 September 2017 - 12:31 PM

GunNer2514

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 455 posts
เขาคิดว่าตัวเองมีฝีมือ (คิดไปเองคนเดียว) นักเตะในทีมดีอยู่แล้ว ไม่ต้องซื้อเพิ่ม save เงินให้สโมสร อย่างต่ำก็ได้ Top 4 แค่นี้บอร์ดก็คงพอใจไม่โดนไล่ออกแล้ว อีโก้สูงว่างั้น ไม่แคร์ใคร (หน้าด้านนั้นแหล่ะ) ใครจะหัวร้อนชั่งมัน
WANGER OUT

#7
arseroj

Posted 03 September 2017 - 12:42 PM

arseroj

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 254 posts
ผมเห็นด้วยกับคุณนะว่าหมดเวลาของท่านเวงเกอร์นานแล้ว แต่ประโยคที่ว่า

"บางทีอาร์เซนอลอาจจะกลับไปอยู่ในจุดที่เคยอยู่คือเป็นทีมกลางตารางก่อนที่เวงเกอร์จะเข้ามา และเวลาของเวงเกอร์ที่ไม่รู้จะหมดเมื่อไหร"

มันไม่จริงนะครับว่าอาร์เซน่อลคือทีมกลางตาราง คุณลองดูครับว่าก่อนเวงเกอร์จะมาทีมอาร์เซน่อลได้แชมป์ลีคเดิมมากเท่าไร ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ปืนเราได้แชมป์เป็นอันดับ2รองจากเป็ดนะครับ และถ้าพูดให้ถูกคือเชลซีและแมนซีตี้ คือทีมกลางตารางของจริง

#8
oceseky

Posted 03 September 2017 - 12:52 PM

oceseky

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,581 posts

หลงงอยุ่ในอดีตที่แสนหวาน คิดว่าปัจจุันจะทำได้อีกครั้ง แต่ไม่ โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว กลาายเป็นยิ่งทำ ยิ่งดันทุรัง  แนวทำทีมซื้อนักเตะโนเนมแบบสมัยก่อน แล้วปั้นให้เป็นซุปตา อย่างซุปตาดาวรุ่งตลอดกาลคอตซี่ กับแรมผัวรัก นักเตะที่เค้าค้นพบทางออก จากคำมัวเมาเวนเกอร์ ได้นั่นแหละคือทางที่ฉลาดแล้ว อ๊อคเอ้ย แล้วอีกหลายๆคนจะหลุดออกมาจากวังวนได้ โอซิลก็ค้นพบแล้ว ปีหน้าเท่านั้น เสียแต่เล็กซิสกรรมยังมี :103689:



#9
wonder goal (ดล)

Posted 03 September 2017 - 12:55 PM

wonder goal (ดล)

    Advanced Member

  • Moderators
  • 2,356 posts

แต่ก่อนก็อยู่ต่ำกว่าอันดับ 4 ตลอดนะครับ

 

 

 

 

 

arsenal-top-division-league-table-record

 

 

ผมเห็นด้วยกับคุณนะว่าหมดเวลาของท่านเวงเกอร์นานแล้ว แต่ประโยคที่ว่า

"บางทีอาร์เซนอลอาจจะกลับไปอยู่ในจุดที่เคยอยู่คือเป็นทีมกลางตารางก่อนที่เวงเกอร์จะเข้ามา และเวลาของเวงเกอร์ที่ไม่รู้จะหมดเมื่อไหร"

มันไม่จริงนะครับว่าอาร์เซน่อลคือทีมกลางตาราง คุณลองดูครับว่าก่อนเวงเกอร์จะมาทีมอาร์เซน่อลได้แชมป์ลีคเดิมมากเท่าไร และถ้าพูดให้ถูกคือเชลซีและแมนซีตี้ คือทีมกลางตารางของจริง



#10
gabrial

Posted 03 September 2017 - 01:04 PM

gabrial

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,584 posts

เห็นด้วยทุกประการครับเวนเกอร์เป็นคนทำให้ทีมระส่ำ

เวนเกอร์เป็นคนที่เชื่อถือในคำพูดไม่ได้ เพราะมีวาทศิลป์ที่ดี

#wengerout



#11
nunwenger

Posted 03 September 2017 - 01:05 PM

nunwenger

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,234 posts
  • LocationBangkok
คีโอว์น :
"ย้อนไปในปี 2006 ผมได้กลับเข้ามาทำงานกับ อาร์เซนอล ในฐานะผู้ช่วยของ แพท ไรซ์ เพื่อทำการฝึกซ้อมการเล่นเกมรับ"

"มีนักเตะคนหนึ่งยืนตำแหน่งผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตู และผมก็ต้องการที่จะเตือนเขาให้ตระหนักว่าตัวเองผิดอย่างไร ด้วยการแสดงให้ดูถึงแนวทางการเคลื่อนที่ แต่ เวนเกอร์ บอกเด็กว่า อย่าไปสนใจสิ่งที่ผมกำลังทำ"

ไม่แปลกใจเลย ทำไมเกมรับยุคเวนเกอร์ทำ มันถึงห่วยมากๆ สอนสั่งกันแบบนี้นี่เอง

#12
nukojung

Posted 03 September 2017 - 01:12 PM

nukojung

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 384 posts

คีโอว์น :
"ย้อนไปในปี 2006 ผมได้กลับเข้ามาทำงานกับ อาร์เซนอล ในฐานะผู้ช่วยของ แพท ไรซ์ เพื่อทำการฝึกซ้อมการเล่นเกมรับ"

"มีนักเตะคนหนึ่งยืนตำแหน่งผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตู และผมก็ต้องการที่จะเตือนเขาให้ตระหนักว่าตัวเองผิดอย่างไร ด้วยการแสดงให้ดูถึงแนวทางการเคลื่อนที่ แต่ เวนเกอร์ บอกเด็กว่า อย่าไปสนใจสิ่งที่ผมกำลังทำ"

ไม่แปลกใจเลย ทำไมเกมรับยุคเวนเกอร์ทำ มันถึงห่วยมากๆ สอนสั่งกันแบบนี้นี่เอง

"และผมรู้ดีว่าถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์แบบที่ว่า มันก็จะส่งผลเสียต่อศักยภาพของผู้เล่นไปในระยะยาว" และตอนนี้มันกำลังส่งผล



#13
Qnijiwa

Posted 03 September 2017 - 01:14 PM

Qnijiwa

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 122 posts
จะว่าหมดหวังเสียทีเดียวเลยก็ไม่ได้นะครับ ในฤดูกาลนี้เรายังมีโอกาสเสริมทีมอีก ( อยู่ที่จะเสริมรึเปล่า ) โอกาสอีกอย่างก็คือ บรรดาเด็กปั้นที่เราเตรียมดันลงสนามเกิดเปรี้ยงขึ้นมาและประคองให้รอดจนอยู่ในท้อป 4 ( ซึ่งยากมาก และไม่รู้จะมีโอกาสลงสนามรึเปล่าเพราะรู้ๆกันอยู่ ) อีกสิ่งคือการเอาตัวรอดของเวรเกอร์ ที่จะใช้สติปัญญาเฮือกสุดท้ายเปิดประตูไคมง จุติ อวตาล สติปัญญากลับมาจัดทีมได้แจ่มแมวแวววับ แฟนบอลก็คงได้มีความสุขขึ้นบ้าง สิ่งสุดท้ายยคือสื่งที่หวังคือหากทีมเราตกต่ำถึงที่สุดแล้วทำกำไรไม่ได้แล้วก็จะมีคนมาเทคโอเวอร์ทีมเราแล้วมอบโอกาสให้ทีมเราได้เกิดอีกครั้ง ยิ่งผมมองอนาคตเรื่องราคานักเตะที่เฟ้อมากขึ้นทุกที ทีมเรายิ่งลำบากมากขึ้น ขนาดแฟนบอลยังไม่ศัทธาในตัวนักเตะ ผู้จัดการ และทีมเลย และนักเตะเองจะเหลือศัทราอะไรเหลือละทีนี้ ในส่วนตัวเราเคยอยู่จุดที่สูงสุดของทีมมาแล้วจะเป็นยังไงก็คงอยู่ด้วยกันไปตลอด

#14
แก่กะโหลกกะลา Slayer

Posted 03 September 2017 - 01:28 PM

แก่กะโหลกกะลา Slayer

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 817 posts

 

คีโอว์น :
"ย้อนไปในปี 2006 ผมได้กลับเข้ามาทำงานกับ อาร์เซนอล ในฐานะผู้ช่วยของ แพท ไรซ์ เพื่อทำการฝึกซ้อมการเล่นเกมรับ"

"มีนักเตะคนหนึ่งยืนตำแหน่งผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตู และผมก็ต้องการที่จะเตือนเขาให้ตระหนักว่าตัวเองผิดอย่างไร ด้วยการแสดงให้ดูถึงแนวทางการเคลื่อนที่ แต่ เวนเกอร์ บอกเด็กว่า อย่าไปสนใจสิ่งที่ผมกำลังทำ"

ไม่แปลกใจเลย ทำไมเกมรับยุคเวนเกอร์ทำ มันถึงห่วยมากๆ สอนสั่งกันแบบนี้นี่เอง

"และผมรู้ดีว่าถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์แบบที่ว่า มันก็จะส่งผลเสียต่อศักยภาพของผู้เล่นไปในระยะยาว" และตอนนี้มันกำลังส่งผล

 

 

นักเตะคนนั้นก็คือ อีแรมมม นั่นเองงงงง

โอ๋มันยังกับเป็นสามี ถถถถ



#15
Gunner_4U

Posted 03 September 2017 - 01:44 PM

Gunner_4U

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,273 posts
ทุกวันนี้สะใจทุกครั้งที่นึกช๊อต โพลดี้เอาแชมเปญราดหัว mr.เวนเกอร์

#16
Prince

Posted 03 September 2017 - 01:54 PM

Prince

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 3,872 posts
หลายคนในนี้เชื่อมานานนนนน แล้วว่า
ยุคนี้ เจ๊ไม่สามารถนำทัพได้ชัยเหมือนยุคหิน
แม้แค่ได้ที่สอง คะแนนยังโดนทิ้งห่าง
อันดับมันลวงให้คนหลงเชื่อว่า แกยังสามารถทำได้
คำพูดสื่อที่บอกตั้งแต่Big3 Big4มาBig5จนมาเป็นBig6
ยังคงให้แกทนงตัวได้ว่า อยู่ในกลุ่มBigทีม
ไปดูคะแนนที่ได้ กับความตั้งใจจริงๆในการเสริมทีม
เทียบกับทีมอื่นแล้ว มันเห็นๆ
เจ๊หลอกนักบอลและแฟนบอลมาโดยตลอด
แม้กระทั่งตัวเองก็ยังหลอกว่ายังสามารถทำทีมได้แชมป์
(เจ๊คงไม่ได้หลอกบอร์ด เพราะต่างก็รู้เป้าหมายกันเอง
ฝั่งนึงอยากได้กำไรสูงสุด อีกฝั่งอยากทำทีมให้ได้นานที่สุด
ถ้านานเท่าหรือมากกว่าท่านเซอร์ จะเป็นสถิติไปอีกนาน)
1ปี. 2ปี.. 3ปี... 4ปี.... 5ปี.....
6ปี...... 7ปี........ 8ปี........
9ปี......... 10ปี..........
11ปี........... 12ปี............
13ปี.............
มันนานมาก เด็กที่เกิดในวันไร้พ่าย ตอนนี้เข้าสู่วัยรุ่นแล้ว
มันแสดงว่าเจ๊รักตัวเองมากกว่าสโมสรชัดเจน
ถ้า13ปีที่ผ่านมา ปืนได้อันดับ2-3โดยมีแต้มที่ต่างกับที่1
เพียงเฉียวเฉียด ผมว่าเจ๊ยังอยู่ในสภาพที่สู้ได้
หลายคนที่รับรู้มานานนนนนแล้วว่า "เจ๊ไม่ใช่"
แต่บางคน(ทั้งโลก)ยังมีความเชื่อและสนับสนุน ก็ไม่ว่ากัน
เพราะต่างก็ให้ความสำคัญกับเวลาที่ผ่านมาต่างกัน
...เมื่อไร ยังมีเสียงสนับสนุนที่เพียงพอ
เมื่อนั้น มะเร็ง เนื้อร้าย และเนื้องอก ก็ไม่ไปไหนหรอกครับ

#17
Miserly FC

Posted 03 September 2017 - 01:56 PM

Miserly FC

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 570 posts
หมดเวลาแล้วเธอคงต้องไป แต่สิ่งที่เหลือในใจยังอยู่

#18
Admin

Posted 03 September 2017 - 01:56 PM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,417 posts
  • LocationBangkok

บอร์ดบริหารไม่สนับสนุนเรื่องเงินก็ไม่ถูก เวนเกอร์ลงทุนไปเยอะในช่วง 3-4 ปี แต่นักเตะที่ดึงเข้ามาใหม่ส่วนใหญ่ยกระดับทีมไม่ได้เลย การวางแผนการทำทีมก็เข้าขั้นแย่ ปล่อยให้นักเตะหมดสัญญาเพียบ นักเตะที่ควรโละตั้งนานแล้ว ก็ดันเก็บไว้ ตอนนี้ปัญหาที่ซุกเอาไว้ มันผุดออกให้เห็นกันแล้ว 

 

แท็กติกไม่ต้องพูดถึง มันโบราณแล้วที่ผู้จัดการมีหน้าที่แค่จัดตัว เวนเกอร์ไม่มีแท็กติกอะไรเลย ปล่อยนักเตะเล่นเองคิดเอง เมื่อก่อนมันอาจจะไปได้ เพราะคุณภาพนักเตะเราเหนือกว่าคู่แข่ง นักเตะเซนต์บอลเก่ง แต่สมัยนี้คู่แข่งเขาพัฒนาจนแซงหน้าเราไปแล้ว นักเตะชุดปัจจุบันก็เซนต์บอลน้อยนิดเหลือเกิน 

 

เกมส์เจอหงส์ล่าสุด มันรู้กันอยู่ว่าลิเวอร์พูลอันตรายตรงไหน แต่การปล่อยให้หลังลอย เหมือนฆ่าตัวตายชัดๆ เวนเกอร์เคยทำการบ้านบ้างหรือเปล่า ผลงานเจอทีมใหญ่มันแย่มาเป็น 10 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาแย่ 



#19
Season Change (ปลัดมุข)

Posted 03 September 2017 - 02:08 PM

Season Change (ปลัดมุข)

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 7,895 posts
รู้สึกเจ๊จะเจอปีชงบ่อยไปนะ 555+

#20
Pitbulls

Posted 03 September 2017 - 02:09 PM

Pitbulls

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 246 posts
ขอบคุณเจ้าของบทความครับ เขียนได้ดีครับ

เวนเกอร์ก็แค่คนที่พาอาร์เซนอลหลงเข้ามาในเขาวงกต.

ที่ตัวเค้าเองก้อไม่รู้ว่าทางออกอยู่ตรงไหนเหมือนกัน




0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users