;?>)
;?>)
วิลเลี่ยม ซาลิบา บอกว่าเขาจะกลับมาเล่นให้กับอาร์เซน่อลในฤดูกาลหน้า มิเกล อาร์เตต้า ก็ออกมายืนยันในทิศทางเดียวกัน สำหรับแฟนบอลของทีมจะสิ้นสุดการรอคอยที่จะได้เห็นปราการหลังดาวรุ่งรายนี้ลงประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่ หลังจากย้ายมาอยู่กับทีมตั้งแต่ปี 2019
กลุ่มผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คของอาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2022/23 กำลังเป็นรูปเป็นร่าง ซาลิบา จะเข้ามาผนึกกำลังร่วมกับ เบนจามิน ไวท์ และกาเบรียล มากัลเญส ยังมี ร็อบ โฮดลิ้ง เป็นตัวคอย Cover อีกคน
The Athletic เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่าอาร์เซน่อล ให้ความสนใจผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คฝั่งซ้าย เพื่อมาแทนที่ ปาโบล มารี ปราการหลังชาวสเปนวัย 28 ปี ที่ได้รับไฟเขียวให้ย้ายทีมได้ในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้ว่าจะไม่ใช่ลำดับความสำคัญสูงสุด แต่ผู้เล่นเซนเตอร์แบ็คเท้าซ้ายก็ยังอยู่ในความสนใจของอาร์เซน่อล
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคม อาร์เซน่อลเคยพยายามที่จะดึงตัว นิโก้ สลอตเตอร์แบ็ค กองหลังทีมชาติเยอรมันของไฟร์บวร์ก แต่ดาวเตะวัย 22 ปีต้องการอยู่เล่นในบุนเดสลีกาต่อไป และเลือกย้ายไปอยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พวกเขายังมีการสอบถามเกี่ยวกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังวัย 24 ปีชาวอาร์เจนไตน์ของอาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัม ด้วย
แต่อาร์เซน่อล เองก็ทราบว่า เมื่อซาลิบาเข้ามาอยู่ในทีม พวกเขามีขุมกำลังเชิงลึกในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คมากเพียงพอแล้ว ทั้งปริมาณ และคุณภาพ เพราะยังมี ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ ที่สามารถขยับมาเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คได้อีกคน
ถ้าหากซาลิบาอยู่กับทีมต่อ การเซ็นสัญญาเซนเตอร์แบ็คที่ถนัดซ้ายก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าหากมีโอกาสที่ดีในตลาดนักเตะเกิดขึ้น แต่มาดูกันก่อนว่า ซาลิบา จะเข้ากับทีมของอาร์เตต้าได้อย่างไร?
ที่อาร์เซน่อล กับระบบของ มิเกล อาร์เตต้า ให้ความสำคัญกับกองหลังที่สามารถครอบครองบอลได้ดี ดังนั้นเราเริ่มกันจากจุดนั้น สมมุติว่าอาร์เตต้า ยังคงยึดมั่นกับระบบแบ็คโฟร์เหมือนเดิม ซาลิบาก็ต้องแข่งขันแย่งตำแหน่งโดยตรงกับ เบน ไวท์
ซาลิบา และไวท์ มีความคล้ายคลึงกันบางอย่าง ทั้งคู่เล่นได้อย่างผ่อนคลายเวลาที่ได้ครอบครองบอล ซาลิบาจ่ายบอลไปทั้งหมด 2,384 ครั้งในการไปเล่นกับมาร์กเซยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นสถิติที่มากที่สุดเหนือทุกคนในลีก
มันสะท้อนได้จากข้อมูล Smarterscout Pizza chart ในเรื่องของการ link-up play ซาลิบามีเรตติ้งในระดับ 96 จาก 99 เฉลี่ยแล้วเขาจ่ายบอล 89.4 ครั้งต่อ 90 นาที ซาลิบายังชอบที่จะพาบอลขึ้นไปด้านบนเอง จะเห็นได้จากสถิติการพาบอล 558 ครั้งเมื่อฤดูกาลก่อน เฉลี่ย 6.8 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งก็มากที่สุดกว่าเซนเตอร์คนไหนๆ ในลีกเอิง แต่ในมุมของ Progressive Passing ของซาลิบาถือว่าค่อนข้างน้อย 6/99 แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ในการจ่ายบอลของเขาจะเป็นการให้บอลในระยะสั้น และจ่ายบอลแบบง่ายๆ
ที่มาร์กเซย ซาลิบา ส่วนใหญ่เขาจะได้ลงเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คฝั่งขวา กับระบบสามเซนเตอร์ คล้ายคลึงกับสมัยที่ ไวท์ เล่นอยู่กับไบรท์ตัน ก่อนที่เขาจะย้ายมาอาร์เซน่อล ดังนั้นสรุปว่าทั้งสองคน ค่อนข้างโดดเด่นในการออกบอลจากแนวรับได้
อีกหนึ่งจุดเด่นของซาลิบา คือ ความสามารถในการเก็บบอล การเลี้ยงบอลของเขาไม่ใช่การจี้เข้าหาคู่แข่ง แต่จะเป็นการเลี้ยงเพื่อหาพิ้นที่ในการออกบอล และพาบอลหนีออกจากการถูกเพลสซิ่ง ดังในตัวอย่าง เกมส์ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายกับพีเอโอเค ในเดือนเมษายน
ซาลิบาดึงจังหวะ ขณะที่แนวรุกของคู่แข่งกับวิ่งเข้ามากดดันเข้า จากนั้นในช่วงจังหวะที่คู่แข่งจะถึงตัว เขาขยับเลี้ยงบอลเข้าด้านใน ทำให้แนวรุกของพีเอโอเค เสียจังหวะ จากตรงนั้นเขามีพื้นที่ที่จะพาบอลเข้ามาในแดนของคู่แข่ง มีทางเลือกในการออกบอลอยู่ด้านหน้าของเขา
มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ระหว่าง ซาลิบา กับไวท์ ซึ่งก็น่าสนใจเช่นกัน ไวท์อาจจะมีเรตติ้งในเรื่องของการ Link-up play หรือการรักษาบอลที่ไม่ได้สูงมาก แต่จะเห็นว่าการออกบอลขึ้นหน้าของไวท์ จะสูงกว่าซาลิบาพอสมควร
บางทีมันอาจจะเป็นสไตล์การเล่นของทางมาร์กเซย ที่ให้ซาลิบาออกบอลสั้นที่แน่นอน มากกว่าที่จะวางบอลยาวแนวลึก แบบที่ไวท์ทำให้เห็นอยู่บ่อยครั้งเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา นี่อาจจะเป็นบางอย่างที่เขาสามารถพัฒนาได้ ซึ่งเขาก็เคยแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถทำได้
อย่างในเกมส์เจอกับน็องต์ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซาลิบาสังเกตเห็นการเคลื่อนที่ของ เซดริก บากัมบู กองหน้าเพื่อนร่วมทีม เขาสามารถยกบอลข้ามแนวป้องกันของคู่แข่งไปในเส้นทางการวิ่งของบากัมบูได้อย่างแม่นยำ ทำให้เห็นว่าเขามีทั้งวิสัยทัศน์และเทคนิค ซาลิบาเพียงแค่สร้างจังหวะการเล่นแบบนี้ให้บ่อยขึ้น เมื่อมาอยู่ในระบบของอาร์เตต้า
เมื่อเปรียบเทียบกับไวท์ และซาลิบา กาเบรียล มากัลเญส ดูเหมือนจะครบเครื่องมากกว่า
เขามีความสามารถในการพาบอลขึ้นหน้า หรือจ่ายบอลจากแนวหลังได้ แต่เขาไม่ได้มีการจ่ายบอลไปข้างหน้าเท่ากับไวท์ ถ้าเรามองกราฟที่เป็นสีฟ้า มันชัดเจนมากว่ากาเบรียล มีความอันตรายมากในการขึ้นไปโจมตีบริเวณกรอบเขตโทษของคู่แข่ง ไม่แปลกใจที่เขายิงไป 5 ประตูในเกมส์ลีกเมื่อฤดูกาลก่อน ไม่มีเซนเตอร์คนไหนที่ยิงประตูได้มากเท่าเขาอีกแล้ว
ซาลิบา ไม่สามารถมอบความอันตรายได้แบบที่กาเบรียลทำ แต่ถ้าเทียบกับการขึ้นไปเล่นเกมส์รุก กับไวท์ หรือโฮลดิ้ง ซาลิบาจะเข้าไปมีส่วนร่วมในกรอบเขตโทษของคู่แข่งที่มากกว่า เขาอาจจะสร้างความอันตรายได้อยู่บ้าง แต่เรื่องการจบสกอร์ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อไป เมื่อฤดูกาลก่อนเขาทำประตูไม่ได้เลย
จากบรรดา 4 คน โฮลดิ้งด้อยที่สุดในเรื่องของการครองบอล เขาแทบไม่ได้พาบอลขึ้นไปด้านบนเลย
แต่หากพิจารณา Pizza Chart ของเขาอาจไม่ได้สะท้อนถึงตัวเลขที่แท้จริง เนื่องด้วยจำนวนการลงสนามของเขาค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมทีมทั้งสามคน แต่จุดที่น่าสนใจคือโฮลดิ้งค่อนข้างมีความแข็งแกร่งในเรื่องของการตัดบอล (94/99) ด้วยการเป็นกองหลังสไตล์โบราณ ที่แข็งแกร่งในการป้องกันแถวกรอบเขตโทษ
แม้ว่าความสามารถในการเล่นกับบอลของซาลิบาจะสำคัญสำหรับอาร์เตต้า แต่สัญญาตญาณในการเล่นเกมส์รับของเขาก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เขาได้รับโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ
กองหลังเมืองน้ำหอมยังเรตติ้งเรื่องความเข้มข้นในการเล่นเกมส์รับที่สูงมาก ความสำเร็จในการเพลสซิ่งของเขาประสบความสำเร็จ 47% เมื่อฤดูกาล ติดท็อปไฟร์ของกองหลังของลีกเอิงในสถิติเรื่องนี้ สิ่งนี้มาจากการที่มีสไตล์ประกอบตัวที่ดุดันของ ฆอร์เก้ ซามเปาลี
เช่นเดียวกับโฮลดิ้ง ซาลิบามีเรตติ้งที่สูงในเรื่องของการตัดบอล 83/99 แต่จุดที่เขานำหน้าโฮลดิ้ง คือความสามารถในการพลิกตัวที่รวดเร็ว เวลาที่คู่แข่งสามารถเอาชนะกับดักล้ำหน้าไปได้
หนึ่งในจังหวะที่เป็นไฮไลท์สำคัญของซาลิบาเมื่อฤดูกาลก่อน ก็คือเกมส์ที่พบกับปารีส แซงต์แชร์กแม็งเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เมื่อลิโอเนล เมสซี่ จ่ายบอลทะลุช่องไปให้กับ เอ็มบัปเป้ ที่กำลังพุ่งเข้าสู่กรอบประตู
เอ็มบัปเป้ เร่งความเร็วนำหน้าซาลิบาในช่วงต้น แต่ด้วยจังหวะการเข้าสกัดที่แม่นยำสมบูรณ์แบบ เป็นการเปลี่ยนทิศทางบอลให้ออกห่างจากกรอบประตู และเอ็มบัปเป้พลาดโอกาสที่จะได้หลุดเดี่ยวไปทำประตู
จังหวะนั้นไม่ใช่ เหตุการณ์เดียวที่ซาลิบา แสดงการเข้าสกัดแบบนั้นให้เห็น รูปภาพด้านล่างเป็นเกมส์เจอกับล็องส์ในเดือนมกราคม เห็นได้ชัดว่ากองหน้าของล็องส์วิ่งนำหน้าซาลิบา แต่เมื่อเขาพาบอลกำลังเข้าสู่กรอบเขตโทษ ซาลิบาตามมา และสกัดเขาเอาไว้ได้ทัน
เรายังสามารถที่จะใช้ Smarterscout ในการเปลี่ยนเทียบความสามารถของซาลิบาในเรื่องการดวลกับคู่แข่ง เรตติ้งถูกปรับแต่งตามความแข็งแกร่งของคู่แข่งที่ต้องเจอกับสถานการณ์แบบ 1 ต่อ 1 สิ่งที่เราเห็นแบบโดดเด่นขึ้นมาเหนือกว่าทุกคน ก็คือความสามารถในการเลี้ยงบอลของเขา
ในแง่มุมของเกมส์รับ ยังมีจุดที่เขาต้องพัฒนา เราจะเห็นได้ว่าเขามีเรตติ้งในเรื่องการเล่นลูกกลางอากาศที่ต่ำกว่าเบน ไวท์ ด้วยซ้ำ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนในเกมส์การเล่นของปราการหลังทีมชาติอังกฤษ กับฟุตบอลอังกฤษ การเจอกับบางทีมเขาจะต้องรับมือให้ได้กับการถูกบอร์มใส่
บทสรุปแล้ว เขามีคุณภาพที่ใกล้เคียงกับ เบน ไวท์ กับประสิทธิภาพในการเล่นบอล และความไว้ใจได้ในการออกบอลจากแนวรับ ทำให้น่าสนใจว่าทั้งคู่จะแบ่งเวลาการลงเล่นกันอย่างไรในฤดูกาลหน้า ไวท์ลงเล่นเยอะมากกับฤดูกาลแรกของเขากับอาร์เซน่อล กลายเป็นตัวคีย์แมนในการ Build up ของทีม แต่การที่ทีมมีโปรแกรมที่ต้องเล่นในยูโรป้าลีก และฟุตบอลถ้วยในประเทศ ก็อาจจะเป็นโอกาสดีที่ไวท์จะได้พัก แล้วซาลิบาสามารถก้าวขึ้นมาทดแทนได้ทันที โดยที่ไม่มีความแตกต่างในการ Build up
อย่างที่เราเห็นเวลาที่ ไวท์ ไม่สามารถลงเล่นได้ เซนเตอร์คนอื่นของอาร์เซน่อลจะไม่มีใครที่ทดแทนคุณภาพตรงนี้ของไวท์ได้เลย แต่ซาลิบา ก็เหมือนกับกองหลังดาวรุ่งคนอื่นๆ เขายังมีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้ และกับสถานการณ์แบบ 1 ต่อ 1 แล้วคุณภาพผู้เล่นแนวรุกในพรีเมียร์ลีก ย่อมเหนือกว่าลีกเอิงค่อนข้างมาก
เมื่อเขาสามารถปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษได้ และเติบโตมากขึ้น เขาอาจจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีคุณค่ามากกว่าเป็แค่ตัวโรเตชัน กับดีกรีนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่แล้ว ด้วยวัยเพียง 21 ปี ดังนั้นศักยภาพในตัวเขาไม่มีข้อกังขา
