สเวน มิสลินทัต หัวหน้าทีมงานแมวมองของอาร์เซน่อล ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Die Zeit (DZ) ถึงวิธีการค้นหานักเตะฝีเท้าดีให้กับสโมสร จนเขาได้รับการยอมรับอย่างมากตั้งแต่อยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
DZ: จริงหรือเปล่า? ที่คุณไปดูนักเตะขณะที่กำลังวอร์มอัพก่อนเกมส์
SM: ผมชอบที่จะไปดูการวอร์มอัพที่สนาม ยกตัวอย่างเช่น มีกองหน้าที่อาจจะไม่มีแอคชั่นในเกมส์มากมาย แต่ในระหว่างวอร์มอัพ ผมสามารถเห็นคุณภาพของพวกเขาได้ แต่ก็มีนักเตะที่ฉายแววในการซ้อม แต่ไม่สามารถเอาไปใช้ในสนามได้
DZ: สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณระหว่างไปซุ้มดูฟอร์มนักเตะ
SM: รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สามารถมองเห็นจากข้อมูลได้ อย่าง ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล ที่ผมไปดูฟอร์มให้ดอร์ทมุนด์ ซึ่งตอนนั้นเขาเล่นให้กับ 1860 มิวนิค เขาสามารถสแกนได้ทั้งสนาม ซึ่งเป็นสิ่งพิเศษที่ผมมองหา หรือบางคนมีสมองเรื่องฟุตบอลแบบ อีเนียสต้า
DZ: อุสมาน เดมเบเล่ ที่คุณแนะนำให้ดอร์ทมุนด์เซ็นสัญญา ก่อนจะขาดให้บาร์เซโลน่าด้วยค่าตัว 100 ล้าน
SM: ผมเห็นเขาตั้งแต่ก่อนที่จะขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ให้กับแรนส์ ความรู้สึกของผมบอกว่า เขาเป็นนักเตะที่พิเศษ เช่นเดียวกับ ชินจิ คากาวะ เราเดินทางไปญี่ปุ่น 10 ครั้ง แต่ผมคิดจะดึงเขาตั้งแต่ 30 นาทีแรกที่เห็นเขา เขาสามารถเปลี่ยนโฉมหน้าของเกมส์ ด้วยการเคลื่อนที่เพียงแค่นิดเดียว
DZ: เกี่ยวกับเรื่องคาแรกเตอร์ คุณประเมินเรื่องจิตใจของนักเตะอย่างไร?
SM: นี่เป็นส่วนที่ยากที่สุด คุณอาจจะคุยกับตัวนักเตะ ใช่เทคนิคเชิงคำถาม แต่นักเตะได้รับคำชี้แนะจากเอเยนต์ของพวกเขา ถึงวิธีการพูดกับสโมสร ดังนั้นคุณ อาจจะได้เห็นในช่วง 15-20 นาทีสุดท้ายในสนาม
DZ: อะไรที่่คุณเห็นในช่วง 15-20 นาทีสุดท้าย?
SM: นักเตะยังคงทุ่มเทเพื่อทีมอยู่หรือเปล่า? แม้ว่าตอนนั้นทีมจะตามหลัง 0-3 เขาจะตอบสนองกับมันอย่างไร มันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุด
DZ: คุณมีกระบวนการค้นหานักเตะอย่างไร?
SM: ยกตัวอย่าง ถ้าผมต้องการมองหากองหลังที่เล่นกับบอลดี ผมสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการค้นหานักเตะที่ดีที่สุดในโลกได้ง่ายๆ ผ่านทางโมเดลข้อมูลในสถิติการจ่ายบอล และเลี้ยงบอล เมื่อ 2-3 ปีก่อน ผมค้นพบสูตรทางคณิตศาสตร์ร่วมกับเพื่อนของผม มันเป็นแพลตฟอร์มในการวิเคราะห์นักเตะ
ถ้าคุณเอาสถิติการวิ่ง นักเตะบางคนวิ่ง 12.5 กิโลเมตรต่อเกมส์ แต่วิ่งไม่เคยทันคู่แข่งเลย เพราะพวกเขาคิดไม่เร็วพอ ที่จะตามจับคู่แข่ง นักเตะอีกคน วิ่ง 11 กิโลเมตรต่อเกมส์ แต่ทำทุกอย่างถูกต้องทั้งหมด
DZ: คุณต้องเดินทางเยอะมาก:
SM: มันสำคัญที่จะไปดูเกมส์ แต่ผมไม่ได้คนที่จะไปนั่งดูเกมส์ 250 เกมส์ตลอดทั้งฤดูกาล แทนที่จะใช้เวลาไปกับการเดินทาง ผมทำงานที่ออฟฟิศ เพื่อนั่งดูวีดีโอ 3-4 เกมส์ และวิเคราะห์นักเตะ 5 หรือ 6 คน ผมใช้ระบบในการวิเคราะห์
DZ: ข้อมูลผิดพลาดบ้างหรือเปล่า?
SM: ผมจะต้องรู้ว่าผมจะตีควาหมายของข้อมูลออกมาได้อย่างไร ยูเลี่ยน ไวเกิ้ล มีสถิติที่ธรรมดาตอนที่เขาเล่นกับ 1860 มิวนิค แต่เพราะบทบาทของเขาคือ Box-to-Box บ่อยครั้งที่นักเตะดาวรุ่งยังไม่มีเวลาได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องแท็กติกมากพอ ความคิดของเราคือ ถ้าเราจับ ไวเกิ้ล มายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ แล้วมีนักเตะที่วิ่งดีๆ อยู่รอบตัวเขา เขาจะกลายเป็นอีกคนไปเลย เขาสามาถรจ่ายบอล รอรับบอล และสร้างสมดุลตลอดทั้งเกมส์ กรณีคล้ายๆ กับเกนดูซี่
DZ: การเซ็นสัญญา มัตเตโอ เกนดูซี่ ดาวรุ่งจากฝรั่งเศสให้อาร์เซน่อล
SM: ผมเห็นเขาตอนอยู่กับลอริยองต์ ที่ตอนนั้นยังเล่นในลีกสูงสุด ผมชอบสโมสรนี้ พวกเขาปั้นนักเตะที่น่าสนใจได้ตลอด ด้วยทรงผม และบุคลิกของเกนดูซี่ มันดูสะดุดตา แต่ผมก็ยังให้ความสนใจจุดอ่อนของเขา มัตเตโอ วิ่งแบบไม่เกิดประโยชน์ไปทั่วสนาม ผมมั่นใจว่า มันต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อม ก่อนที่เขาจะเรียนรู้เมื่อเขาออกวิ่ง มันเป็นการเสริมทัพที่สำคัญสำหรับเรา เพราะเราต้องการแสดงให้โลกเห็น เรายังคงเป็นอาร์เซน่อลทีมเดิม ที่ให้โอกาสกับนักเตะดาวรุ่งอยู่เสมอ
DZ: คุณต้องการเซ็น โอลิเวอร์ ตอร์เรส แต่ทูเคิ่ลไม่ต้องการ เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น
SM: เราทั้งหมดเลือกที่จะเซ็นสัญญากับเขา ทุกอย่างเสร็จสิ้นหมดแล้ว แต่โค้ชไม่ต้องการเขาเลยแม้แต่น้อย แต่สำหรับการย้ายทีมมันอยู่ในจุดที่ถอยหลังไม่ได้แล้ว มันไม่ใช่ความขัดแย้งที่แท้จริง แต่เรื่องราวกับทูเคิ่ล เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมคิดถึงออกไปหาความท้าทายใหม่ ก่อนหน้านั้นก็เคยมีข้อเสนอจากทั้งอังกฤษ และเยอรมัน เข้ามาให้พิจารณา
DZ: ความแตกต่างระหว่างพรีเมียร์ลีกกับบุนเดสลีกา:
SM: ผมได้เรียนรู้อะไรเยอะ พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่นักเตะทุกคนอยากที่จะย้ายมาเล่น ทุกอย่างเป็นการเมืองมากกว่า ทุกคนมีการเชื่อมต่อกับสื่อ พวกเขาสามารถใช้สื่อเป็นตัวกดดันในการซื้อนักเตะ มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจ สำหรับการพิสูจน์ตัวเองของผม ที่นี่มีการแข่งขันสูงกว่าในเยอรมัน
ถ้าเผื่อมีชื่อนักเตะที่เราอยากจะเซ็นหลุดออกไป จะมีอย่างน้อยอีก 2 ทีม ที่พยายามจะมาทุ่มเงินสู้ ในพรีเมียร์ลีกเหมือนมี บาเยิร์น มิวนิค 3 ทีม แมนซิตี้ แมนยู และเชลชี และมีดอร์ทมุนด์ 3 ทีม อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และสเปอร์ ส่วนทีมอื่นอยู่ในระดับเดียวกับ อาร์เบ ไลป์ซิก และโบรุสเซียมึนเซ่น กลัดบัค