วันอาทิตย์นี้ อาร์แซน เวนเกอร์ จะคุมทีมอาร์เซน่อลเป็นนัดสุดท้ายกับการไปเยือนฮัดเดิ้ลฟิลด์ ทาวน์ แต่เขาได้ทิ้งอะไรเอาไว้เบื้องหลัง
เวนเกอร์ พูดย้ำเสมอว่าเมื่อเขาจากไป ทีมจะมีทุกอย่างที่คนที่เข้ามาแทนจะพาอาร์เซน่อลไปได้ไกลกว่าที่เขาเคยทำไว้ ซึ่งจากสัมภาษณ์ล่าสุด กุนซือเมืองน้ำหอมก็ยังเชื่อว่าเขาได้ทำตามคำมั่นสัญญา
เขากล่าวว่า: "ขุมกำลังต้องนี้ไม่ต้องการอะไรมาก เพราะมีศักยภาพอยู่เต็มเปี่ยม มีสปิริตของทีมที่ดี ทีมต้องการเสริมเพียงแค่ 2 หรือ 3 เท่านั้น และทีมนี้จะแกร่งพอสำหรับการลุ้นแชมป์ในปีหน้า"
อย่างไรก็ตามตารางคะแนนในฤดูกาลนี้ กับทำให้เราเห็นภาพที่แตกต่างออกไป อาร์เซน่อลมีคะแนนห่างจากพื้นที่แชมเปี้ยนลีก 12 คะแนน มีคะแนนห่างจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 37 คะแนน ไม่ว่าผลกับฮัดเดิ้ลฟิลด์จะออกมาเป็นอย่างไร ตอนนี้การันตีว่าอาร์เซน่อลจะจบฤดูกาลด้วยคะแนนที่ต่ำที่สุดในยุคของเวนเกอร์
ฟอร์มที่ผ่านมาในการพบกับเหล่าบรรดาคู่แข่งในกลุ่ม Top 6 ด้วยกันเอง อาร์เซน่อลไม่ได้ใกล้เคียงกับการขึ้นไปท้าชิงแชมป์ลีกเลย สถิติในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม, ลิเวอร์พูล และเชลชี จาก 10 เกมส์ พวกเขาชนะแค่ 1 เสมอ 3 และแพ้ 6 แถมพวกเขาเสียประตูเกือบสองเท่า จากที่ยิงได้
ไม่ใช่เพียงแค่ในเกมส์ลีกอย่างเดียว ในฟุตบอลถ้วยรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพพวกเขาก็แพ้แมนซิตี้แบบราบคาบ รวมถึงยูโรป้าลีกรอบรองชนะเลิศก็โดนแอตเลติโก มาดริด เขี่ยตกรอบ
ผลงานอันย่ำแย่ในเกมส์ใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในปีนี้ แต่มันดำเนินมาหลายปีต่อเนื่อง สาเหตุหลักๆ เกิดจากขาดจิตใจที่แข็งแกร่ง และขาดผู้นำในสนาม นอกจากนี้ไฮไลท์สำคัญที่เกิดขึ้นในปีนี้ คือผลงานการเล่นเกมส์เยือนที่แย่หนัก แพ้รวด 7 เกมส์ตั้งแต่ขึ้นปี 2018 หากนับเฉพาะผลงานในเกมส์เยือน อาร์เซน่อลอยู่ในอันดับ 16 ของตารางคะแนน เก็บได้เพียง 13 คะแนน เท่ากับทีมที่ตกชั้นไปแล้วอย่างเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
เมื่อมาดูขุมกำลังที่เวนเกอร์ทิ้งเอาไว้ เกิดเครื่องหมายคำถามตั้งแต่ตำแหน่งผู้รักษาประตู ปีเตอร์ เช็ก ที่กำลังจะอายุ 36 ปี และ ดาวิด ออสปิน่า ประตูมือสองที่ก็หาความไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้ การซื้อผู้รักษาประตูคนใหม่ ถือเป็นความสำคัญลำดับต้นๆ ในช่วงซัมเมอร์นี้
แต่จุดที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุดก็คือเกมส์รับ ที่เป็นปัญหาของอาร์เซน่อลมาตลอด 10 ปี และยังเป็นอยู่จนทุกวันนี้ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักอายุ 33 ปี และต้องพักยาวจนถึงเดือนธันวาคม ชโกดราน มุสตาฟี่ จอมเฟอะฟะ สมาธิสั้น ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการมาสร้างทีมโดยมีเขาเป็นเสาหลักในแนวรับ
ฟูลแบ็คทั้งสองข้างก็ยังเป็นอีกจุดที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ต้องพิจารณา เอคตอร์ เบเยริน ฟอร์มตกมาตั้งแต่ปีก่อน ดูเหมือนเจ้าตัวจะให้ความสนใจกับสิ่งอื่นมากกว่าที่จะเป็นสนามซ้อม เซอัด โคลาซินัช ก็ยังต้องปรับตัวกับพรีเมียร์ลีก นาโซ่ มอนเรอัล ก็อายุ 32 ปีเข้าไปแล้ว
ขยับมาที่แดนกลางก็มองเห็นถึงปัญหาเช่นเดียวกัน กรานิต ชาก้า ที่ลงเล่นทุกนัดในพรีเมียร์ลีกให้กับอาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้ แต่เสียงวิจารณ์ในผลงานของดาวเตะค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ไม่เคยห่างหายไปไหน
แจ็ค วิลเชียร์ กับอารอน แรมซี่ย์ เป็นนักเตะที่ดี แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นผู้นำของทีม และอาการบาดเจ็บก็ยังตามหลอกหลอนทั้งคู่อยู่ เมซุส โอซิล ก็ขาดซึ่งความสม่ำเสมอ โดยในเกมส์สำคัญๆ ซึ่งเป็นเวลาที่ทีมต้องการเขามากที่สุด
นอกจากปัญหาเรื่องคุณภาพของนักเตะในบางตำแหน่ง สมดุลในทีมที่ไม่ดี แท็กติกที่ตรงไปตรงมา อีกเรื่องก็คือเงิน การที่เวนเกอร์ไม่สามารถพาทีมไปเล่นแชมเปี้ยนลีกได้ตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด จะส่งผลกระทบโดยตรงกับงบประมาณการเสริมทัพของผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างแน่นอน
นอกจากงบประมาณที่ก็จำกัดอยู่แล้ว การไม่ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนลีกก็ส่งผลโดยตรงต่อการดึงผู้เล่นใหม่เช่นกัน หากนักเตะมีทางเลือกที่ดีกว่า ก็คงไม่อยากมาเล่นยูโรป้าลีกกับอาร์เซน่อล
เหรียญมีสองด้านเสมอ อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเล่นฟุตบอลเกมส์รุก โดยเฉพาะเวลาที่ได้เล่นในเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม มีเพียงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเดียวที่ยิงประตูได้มากกว่า และเก็บคะแนนในบ้านได้มากกว่า
กองหน้าของอาร์เซน่อล มีมูลค่ารวมกันมากกว่า 100 ล้านปอนด์ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง ปรับตัวเขากับฟุตบอลอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว 12 เกมส์แรกในพรีเมียร์ลีก เขายิงไป 9 ประตูและ 4 แอสซิท อเลซองเดร์ ลากาแซตต์ อีกหนึ่งกองหน้าค่าตัวแพง ยิงไป 17 ประตูในฤดูกาลนี้ ก็ถือว่าไม่เลว และนับตั้งแต่หายเจ็บกลับมาก็ผลิตประตูให้ทีมได้อย่างต่อเนื่อง
อีกจุดที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ สามารถที่จะหยิบสอยได้คือบรรดานักเตะดาวรุ่งที่ทะลุขึ้นสู่ชุดใหญ่หลายคน อาทิ ไอน์สลีย์ ไมท์ลันด์-ไนลส์, ริส เนสัน, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ และคอนสแตนนินอส มาฟโรปานอส และในปีที่ผ่านผลงานทีมอะคาเดมี่ของอาร์เซน่อลดีมาก และมีผู้เล่นอีกมากมายที่จ่อคิวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่
มรดกหรือหนี้ที่ต้องตามล้าง!! สิ่งที่ "เวนเกอร์" ทิ้งไว้ให้กับผู้จัดการปืนคนใหม่
#1
Posted 10 May 2018 - 08:39 PM
#3
Posted 10 May 2018 - 09:23 PM
เวนเกอร์มองแบบโลกสวยเหมือนเดิม แต่ความจริงทีมชุดนี้ แค่ลุ้นท็อปโฟร์ยังยากเลย ความคาดหวังของผู้จัดการทีมคนใหม่ คือ ต้องสะสางมรดกของเวนเกอร์อันนี้ก็เก็บไว้ อันนี้ไม่ดีก็ปล่อยไปให้หมด ความคาดหวังเอาแค่กลับมาติดท็อปโฟร์ แล้วทรงบอลให้มันดี สู้ทีมใหญ่ได้สนุกกว่ายุคเวนเกอร์
#10
Posted 10 May 2018 - 10:48 PM
อย่ามาอ้างวารายได้จะตก ในเมื่อได้เงินจากกานผ่านเข้ารอบรองยูโรป้า ในจำนวนเงินที่เท่ากับที่ แมน ยู ได้ ใน ชปล. ที่ตกรอบ 16 ทีม ข้ออ้างน้ำขุ่นๆ ที่ควรปรับปรุงคือคนบริหารทีม ที่ขาดจิตใจของผู้ชนะมากกว่า และจิตวิญญาณที่ขาดหายไปนาน เพราะทีมเน้นธุรกิจมากกว่าในเรื่องความสำเร็จในโลกฟุตบอล
#11
Posted 10 May 2018 - 11:59 PM
เพราะมีศักยภาพอยู่เต็มเปี่ยม มีสปิริตของทีมที่ดี
ในสนามยังต่างคนต่างเล่นเลย มันซ้อมคนละสนามหรืออย่างไร แรมชี้ให้MKชิ่ง แต่ไม่กูจะเปิด บอกให้เปิดมานี่ ดันไปส่งสั่นให้อีกฝั่ง เล่นแบบไม่เข้าใจกัน เกมรับไม่ช่วยบีบ ไม่ใส่ใจ ยิงประตูได้ก็เฉยๆ ไม่สะใจเหมือนเมื่อก่อน เหมือนไม่มุ่งมัน ไม่เอาอะไรละ นี่หรือสปริตดี แก้เรื่องนี้ได้ น่อลคงโบยบินไปนานแล้ว รวมถึงสภาพจิตใจที่ไม่มีความเป็นผู้ชนะเอาเลย ได้จากใครมาหว่า?
#16
Posted 11 May 2018 - 10:15 AM
ยิ่งแทคติกของเวนเกอร์คือให้อิสระผู้เล่น ในเกมรุกถ้ามีตัวที่มีคุณภาพก็โอเค เซ้นส์บอลถึงกันก็มีประสิทธิภาพพอหรือถ้าพลาด อย่างดีก็แค่ถูกสวน แต่ในเกมรับจะให้อิสระโดยไร้แทคติกไม่ได้ มันต้องมีการสอดประสานทำความเข้าใจกัน ต้องมีการสื่อสารกันจะอาศัยเซ้นส์อย่างเดียวไม่ได้ ถ้าพลาดก็หมายถึงเสียประตู
จึงไม่รีบตัดสินตัวนักเตะว่าใครควรอยู่หรือควรไป รอคนใหม่เข้ามาทดสอบว่าใครจะเข้ากับแทคติกหรือไม่แค่ไหน
อย่างชาก้าที่ดูเหมือนไม่มีผลงานในยุคเวนเกอร์ แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดีในการพักและคุมจังหวะบอลซึ่งแรมกับบังเอลทำได้ไม่ดีเท่า บอลยาวที่เคยเป็นจุดเด่นน่าจะถูกจำกัดด้วยแทคติกการครองบอลของเวนเกอร์ แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือแอคชั่นปลุกเร้าที่หาไม่ได้สักคนในทีม ในระยะหลังที่เล่นกันแบบไร้ใจส่วนหนึ่งก็เพราะขาดนักเตะแนวนี้ แต่ก็นั่นแหละ มันถูกกลบจนมิดด้วยความเชื่องช้างุ่มง่ามจนเกิดผลเสียบ่อยๆ ระยะหลังดูเหมือนพยายามปรับให้คล่องตัวขึ้นแต่ก็ยังใมพอสำหรับ EPL
ส่วนไนล์ ตัวนี้ผมว่ามีพร้อมสำหรับนักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ ขาดเพียงความแข็งแกร่งและประสบการณ์เท่านั้น
#19
Posted 11 May 2018 - 02:14 PM
ผมว่าขุมกำลังเราไม่ขี้เหร่หรอกครับ ปัญหาอยู่ที่เกมส์รับ นักเตะเกรดเท่านี้แต่เวลาเราโดนสวนกลับมีตัวเล่นที่เล่นเกมส์รับน้อยเหลือเกินเสียประตูมากก็เป็นเรื่องปกติ
ถ้าจะให้ ผจก ทีมคนใหม่เข้ามาแล้วผ่าตัดทีมก็ทำได้ยาก งบมีน้อย นักเตะเราฟอร์มไม่ดีจะเรียกราคาก็ทำไม่ได้
สมมติมี 50ล้านจริง
ขาย
โอซิล ซื้อ มาเรซ เพราะเราเป็นทีมใหญ่แต่ไม่มีนักเตะที่สร้างความแตกต่างได้ เลี้ยงกินตัวได้
แรมซี่ ซื้อ เอ็นดิดี้ เพราะเราต้องก่ารกลางรับที่แท้ทรู ส่วนตัวไม่ต้องการกองกลางตำแหน่ง MC ที่จะหาตัวเองเข้าไปในเขตโทษตลอดเวลา เกมส์รับถึงได้ยุ่ยแบบนี้
เวลเบ็ค ซื้อ คูลาไบลี่เพราะเราต้องการเซ็นเตอร์ที่แข็งแกร่ง
ส่วนตัวคิดว่าเปลี่ยนแแปลงเท่านี้พอเป็นไปได้ และทำให้ทีมกลับไปเล่น ชปล ได้ จากนั้นค่อยๆสร้างๆทีมจนไปสู้การเป็นแชมป์
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users