Jump to content






Photo

สัมภาษณ์พิเศษ "กรานิต ชาคา" ประเด็นปัญหากับแฟนบอล, เข้าใจโอบา, ลากาคือผู้นำที่ดีที่สุด

- - - - -

  • Please log in to reply

#1
Admin

Posted 29 December 2021 - 11:42 AM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,471 posts
  • LocationBangkok

e6649892735420f2f0238a5c1bd52ef1.png
 
กรานิต ชาคา: "ผมไม่เชื่อว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ผมรู้สึกถึงความรักที่มากขึ้นจากแฟนบอลของอาร์เซน่อล เมื่อเทียบจากเมื่อสองปีก่อน"
 
เขารู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแฟนบอลของอาร์เซน่อลนั้นซับซ้อน แฟนบอลบางคนยังสนับสนุนเขาอย่างเหนียวแน่น แต่บางคนก็ไม่มีวันที่จะทำแบบนั้น "ผมไม่เคยมีปัญหาบนถนน แน่นอนว่าพวกเขาอาจจะพูดบางอย่าง นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา แต่หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อน เรามากันไกลมาก ผมไม่เคยเชื่อว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน แต่สิ่งที่ผมสามารถบอกกับแฟนบอลได้จากวันแรกจนกระทั่งวันสุดท้ายของผมที่นี่ คือผมจะทำทุกอย่างเพื่อสโมสรแห่งนี้"
 
"แน่นอนว่าผมได้ทำเรื่องที่ผิดพลาด ซึ่งทุกคนก็ล้วนเคยผิดพลาด ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ แต่ผมจะทุ่ม 100% ในทุกๆ ช่วงของการซ้อม และในทุกเกมส์ นี่คือข้อความจากผมไปถึงแฟนบอล บางครั้ง คุณอาจจะไม่เข้าใจ และผมเชื่อว่าเป็นปัญหาเดียวระหว่างเรา ผมรู้สึกได้รับความรักที่มากขึ้นเมื่อเทียบจากเมื่อสองปีก่อน แต่มันก็เป็นกระบวนการที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ"
 
ภูมิหลังของเขา มาจากครอบครัวชาวอัลแบเนีย และได้รับอิทธิพลจากผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นนักโทษทางการเมื่อในช่วงสงครามกับสหภาพโซเวียต ก่อนที่ชาคาจะอพยพมาอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ เขาถูกปลูกฝังความเข้มแข็ง และความคิดที่เขาต้องพยายามทำให้ดีที่สุดไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบใด "ผมได้รู้จักคำว่า ดิ้นร้น เพราะภูมิหลังของผม ผมมีประสบการณ์ที่แตกต่างมากมายเบื้องหลังผม มันเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนอื่นเข้าใจถึงตัวตนของผม ผมเป็นคนที่เปิดกว้างมาก แต่ผมก็เป็นคนตรงๆ เช่นกัน ผมไม่ชอบที่จะเป็นเหมือนงู ที่ซิกแซกไปซ้ายไปขวาได้ แต่นั่นไม่ใช่ผม ผมชอบความตรงไปตรงมา บางครั้งคุณทำผิดพลาด เพราะคุณเป็นคนที่ตรงเกินไป แต่เมื่อคุณมีประสบการณ์คุณก็สามารถรับมือในทิศทางที่แตกต่างได้"
 
ย้อนกลับไปในเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนในเกมส์กับคริสตัล พาเลซ​ เมื่อกัปตันทีมของอาร์เซน่อลแสดงท่าทีไม่พอใจกับแฟนบอลตนเองระหว่างถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ชาคาพูดถึงเรื่องนี้ว่า: "แน่นอนว่านี่คือส่วนหนึ่งในชีวิตของผม ผมเคยเจอเรื่องยากลำบากแบบนี้มาก่อน แต่ไม่ใช่ในลักษณะนี้ ในท้ายที่สุดผมมองในแง่ดี และถ้าสักวันในอนาคต ผมจะพูดถึงเรื่องนี้ให้ลูกๆ ผมรู้ ผมจะสามารถเล่าไปพร้อมกับรอยยิ้มได้ เพราะมันคือกุญแจที่ทำให้ผมเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น และการเชื่อมต่อกับสโมสรก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน" 
 
เป็น 1 ใน 2 เหตุการณ์ที่ชาคาอาจจะย้ายออกจากอาร์เซน่อล แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เกิดขึ้น ครั้งล่าสุดก็คือเมื่อช่วงซัมเมอร์ เมื่อสโมสรเปิดรับข้อเสนอที่จะขายห้องเครื่องทีมลชาติสวิตเซอร์แลนด์ โดยเฉพาะกับผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาในศึกยูโรกับทีมชาติ มิเกล อาร์เตต้า มีส่วนสำคัญ และไม่ใช่ครั้งแรกที่อาร์เตต้าเป็นคนรั้งใน ชาคา อยู่กับทีมต่อไป ผู้จัดการทีมทุกคนที่สโมสรและทีมชาติ ต่างเชื่อมั่นในตัวเขา ต้องการเขา เห็นคุณค่าของเขา และเขาได้ลงเล่นแทบจะทุกเกมส์
 
GettyImages-1291077656-scaled.jpg
 
"ผมชอบที่จะเข้าแท็กเกิ้ล แต่ผมไม่ต้องการเห็นใครได้รับบาดเจ็บด้วยเจตนา ไม่มีใครคิดที่จะทำแบบนั้น แต่การเข้าสกัดบอลเป็นส่วนหนึ่งในงานของผม เป็นความมุ่งมั่นของผมที่ไม่ต้องการให้คู่แข่งได้บอล เราทุกคนเป็นมนุษย์ และทำสิ่งที่ผิดพลาด แต่มันมาจากความมุ่งมั่น เมื่อผมมาที่พรีเมียร์ลีก ทุกคนบอกว่าลีกที่คุณกำลังจะไปมันยากมากนะ แต่เมื่อคุณเห็นบางการเข้าสกัดบอล และคุณสามารถจินตนาการได้ถ้าผมอยู่ในตำแหน่งตรงนี้ ผมก็คงจะถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้บางครั้งผมหยุดที่จะทำอย่างที่ผมต้องการ ถ้าผมเข้าไป ผมจะโดนใบแดงทุกๆ 3 หรือ 4 เกมส์"
 
"นี่ทำให้ผมต้องทำในวิธีที่แตกต่างออกไปในบางครั้ง เพราะผมรู้ว่าความเสี่ยงของผมเมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นคนอื่นมันไม่เหมือนกัน ถ้าผมเสี่ยงผมรู้ว่าผมจะใกล้เคียงกับใบแดงมากกว่านักเตะคนอื่นในพรีเมียร์ลีก บางครั้งผมก็ผิดจริง แต่นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึก ดังนั้นบางครั้งในเกมส์ ผมหยุดที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ เพราะถ้าผมได้ใบแดง ผมไม่ต้องการเห็นคนอื่นพูดเกี่ยวกับสิ่งโง่ๆ ที่ผมได้ทำ ผมพยายามจะไม่เสี่ยงมากจนเกินไป"
 
"ตอนที่ผมได้ใบแดง (เกมส์เจอกับเบิร์นลี่ย์) ผู้ตัดสินใจบอกกับหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมว่า คุณก็รู้ว่ากรานิตเป็นยังไง เขาหัวเสียแล้ว นี่เป็นความรารู้สึกที่ผิด เพียงเพราะผมหัวเสียในการเจอกับเบิร์นลี่ย์เป็นตัวอย่าง มันไม่ใช่ทุกครั้งที่ผมจะหัวเสีย ผมเชื่อว่ามันไม่ถูก"
 
ชาก้าต้องการเห็นการตัดสินใจของกรรมการที่มีมาตรฐาน และตัดสินใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ใช่ตัดสินใจจากชื่อเสียงของเขา
 
เขาพยายามหลีกเลี่ยงและหนีห่างออกจากโลกของโซเซียลมีเดียว "ผมยังคงอยู่ข้างในนั้น บางครั้งผมได้รับข้อความจากเพื่อนของผม แต่ผมจะไม่พยายามเข้าไปในนั่นมาก" ขณะที่อยู่ในสายตาของสาธารณะมันยิ่งขยายความเสียหายออกไป เขาเข้าใจกับความรู้สึกของเด็กที่ถูกรังแกในสังคมออนไลน์ ในมุมมองเขากับลูกสาว เมื่อเธอโตขึ้น เขาอยากให้ลูกออกห่างจากโซเซียลมีเดียให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
 
การได้เป็นพ่อคนเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับชาคา และเป็นเหตุผลให้เขาพยายามทิ้งเรื่องของฟุตบอลเอาไว้ที่หน้าประตูบ้าน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอ "แน่นอนสิ่งที่ผมต้องการเมื่อผมอยู่กับลูกๆ ที่บ้าน คือเป็นช่วงเวลาของครอบครัว แต่บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยาก เพราะมันคือสิ่งที่ผมรักที่จะทำ ถ้าเรามีวันที่แย่ ถ้าเราแพ้ในเกมส์ หรือการฝึกซ้อมบางอย่างมันไม่ถูก ผมจะเข้าไปที่ออฟฟิศของผม และอยู่ในนั่นคนเดียว 10 นาที และคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ แต่ผมก็ทำได้ดีกว่าขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะ"
 
ชาคา เริ่มต้นไม่ดีนักในฤดูกาลนี้ เขาเป็นส่วนหนึ่งในทีมที่แพ้ในสามเกมส์แรกของฤดูกาล เขาถูกไล่ออกในเกมส์ที่โดนแมนซิตี้ถล่ม 5-0 ก่อนที่เขาจะได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าจนอาจทำให้เขาต้องพักยาว 3-4 เดือน แต่เขาก็มุ่งมั่นอย่างหนักในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย และเขาสามารถกลับมาได้เร็วกว่ากำหนด กับอาการบาดเจ็บที่หนักที่สุดนับตั้งแต่เขาอยู่กับอาร์เซน่อลมา
 
ในช่วงที่ชาคา กำลังฟื้นฟูสภาพร่างกายจากการบาดเจ็บหนักที่หัวเข่า อาร์เตต้า ได้มอบบทบาทพิเศษให้แก่เขา แม้ว่าเรื่องการเรียกความฟิตจะเป็นความสำคัญอันดับแรก แต่อาร์เตต้าก็ต้องการที่จะให้เขาอยู่ใกล้ชิดกับทีม เขาอธิบายว่าว่า: "นี่คือแผนของมิเกล เขาบอกกับผมว่าเขาต้องการให้ผมอยู่กับทีมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในช่วงเริ่มต้น ผมมีหลายอย่างที่ต้องทำ แต่มันก็ทำไปทีละขั้นตอน"
 
"ผมอยู่กับพวกเขาในการประชุม ในการฝึกซ้อม และในยิม เวลาที่คุณได้รับบาดเจ็บคุณจะเห็นหลายอย่างในมุมมองที่แตกต่างออกไป คุณเห็นสิ่งที่แตกต่าง เพราะคุณได้โฟกัสกับเกมส์ คุณสามารถเห็นจุดที่เราสามารถพัฒนาขึ้นได้ในฐานะของทีม มันเป็นช่วงเวลา 10 สัปดาห์ที่ดีสำหรับผมเลย"
 
เขายังได้มีการพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับเพื่อนร่วมทีม รวมถึงบรรดาแข้งดาวรุ่งของทีม นักเตะหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามที่อาร์เซน่อล หรือเพื่อนร่วมทีมบางคนที่เขามองว่าต้องการการดูแลที่พิเศษ "กับพวกเขาคุณต้องคุยมากกว่าคนที่กำลังได้ลงเล่น" เขากล่าว
 
เขายังช่วยเหลือคู่ขาในแดนกลาง กับการช่วยโธมัส ปาร์เตย์ ปรับตัว แม้ว่าจะอยู่กับทีมเป็นฤดูกาลที่สองแล้ว แต่เขาก็ยังคงตามหาฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองอยู่ ชาคาบอกว่าปาร์เตย์เป็นคู่พาร์ทเนอร์ที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะกดดันกับค่าตัวของตัวเอง และปัญหาบาดเจ็บที่รบกวนเขาอยู่ตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับทีม
 
ชาคากล่าวว่า: "เขามีค่าตัวที่สูง และทุกวันนี้ยังมีคนพูดถึงเกี่ยวกับค่าตัวของเขาอยู่ แต่ผมคิดว่ามันไม่ผิด เพราะไม่ใช่ความผิดของเรา ถ้าจะมีคนจ่ายค่าตัวเรา 50,60 100 ล้าน ถ้าผมสามารถช่วยเขาได้ ผมจะบอกกับเขาว่าให้เอาความกดดันออกจากตัวเอง เพราะเขามีคุณภาพที่จะเล่นได้กับทุกสโมสร เขาต้องคิดว่าเขาต้องแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าทำไมเขาถึงมีค่าตัว 50 ล้านยูโร ผมว่าเขากำลังเข้าใจเรื่องนั้น และกำลังทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม"
 
"กับโธมัส (ปาร์เตย์) ทุกครั้งที่เขากำลังอยู่ในสภาพร่างกายที่ดี เขาต้องมีปัญหาบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ รบกวนตลอด และผมหวังว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาไม่มีปัญหาบาดเจ็บกวนใจ ผมชอบที่ได้เล่นกับเขา เขาเป็นกองกลางที่ยอดเยี่ยมมากๆ เขาต้องการที่จะพัฒนาอยู่เสมอ เขาพร้อมที่จะเรียนรู้เสมอ แซมบี้ (โลกองก้า) ก็เช่นเดียวกัน และเด็กคนนี้มีอนาคตที่ยิ่งใหญ่แน่นอน"
 
ตอนนี้บรรดาแก๊งค์เด็กดาวรุ่งของอาร์เซน่อล กำลังขึ้นพาดหัวของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเสมือนเป็นอากาศที่สดชื่นที่อาร์เซน่อล "ผมรักที่จะได้เห็นบรรดาเด็กๆ ผมจำได้ว่าตอนที่ผมอายุเท่าพวกเขา และผมมีผู้เล่นที่มีประสบการณ์อยู่รอบๆ ตัวผม ผมสามารถเชื่อใจพวกเขา และคุยได้เสมอ ผมต้องการเป็นแบบนั้นให้น้องๆ ผมต้องการให้พวกเขารู้สึกว่าทุกครั้งพวกเขาสามารถเดินเข้ามา และคุณกับผมได้ตลอด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม"
 
"ผู้คนจะพูดถึงคุณทั้งในเรื่องที่ดี และเรื่องที่ไม่ดี แต่พวกเขายังถ่อมตัว พวกเขาต้องการที่จะพัฒนา และมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะอยู่ในระดับนี้ เพราะพวกเขากำลังทำหน้าที่ได้อย่างมหัศจรรย์ เมื่อคุณเป็นนักเตะดาวรุ่ง และทุกอย่างกำลังไปได้ดี มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม แต่สิ่งสำคัญของพวกเขาต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง เมื่อบางอย่างไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ มีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ถ้าเราพูดถึง 3 คน บูคาโญ, เอมิล และแก๊บบี้ พวกเขาเป็นสามดาวรุ่งที่มีอนาคตอันยิ่งใหญ่ และมีจิตใจที่เข้มแข็งอย่างมาก"
 
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม อาร์เตต้า รู้สึกว่าการมีนักเตะอย่างชาคาในทีมเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ ชาคาเองก็ต้องให้เครดิตกับอาร์ฌตต้าที่ยังทำให้เขาอยู่กับทีมอยู่ในตอนนี้ "เขาเป็นคนที่ทำให้ผมยังอยู่ที่สโมสรแห่งนี้ ทุกคนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนกับแฟนบอล และถ้าไม่มีเขา ผมไม่คิดว่าผมจะได้อยู่ที่นี่ต่อไป เขาคือคนที่ต้องการให้ผมอยู่ต่อ และเป็นการผลักดันตัวเอง เพื่อตอบแทนกลับไปให้เขา และทำให้ทุกคนกลับมามีความสุขอีกครั้ง"
 
ในตอนที่อาร์เตต้า ประกาศเรื่องกลุ่มผู้นำ ภายหลังแถลงเรื่องการปลด ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ออกจากตำแหน่งกัปตันทีม และตอนนี้ อเลซองเดร์ ลากาแซตต์ คือคนที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมแทน แต่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางเกี่ยวกับกัปตันทีมคนใหม่แบบถาวรของอาร์เซน่อล  
 
ทัศนคติของฟุตบอลอังกฤษต่อความศักดิ์สิทธิ์ของตำแหน่งกัปตันทีม และลำดับชั้นของผู้นำ ซึ่งมีความรู้สึกถึงความล้าสมัยกับเกมส์ฟุตบอลในสมันี้ อาร์แซน เวนเกอร์ เคยพูดเมื่อหลายปีก่อนเกี่ยวกับแนวความคิดในการแบ่งปันความเป็นผู้นำ เอเมรีเองก็เปิดโอกาสให้นักเตะได้โหวตเลือกกัปตันทีม ขณะที่อาร์เตต้า ก็มีแนวทางของตัวเอง พยายามให้เป็นเรื่องตัวบุคคลน้อยลง และพยายามสร้างกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อทีมที่มากขึ้น
 
ชาคาเห็นด้วยกับแนวความคิดใหม่นี้ "ถ้าคุณมีผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกันมากขึ้น มันจะดีกว่า เพราะทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นในมุมมองที่แตกต่าง ทุกคนสามารถคิดต่างได้ ผมคิดว่านี่คือไอเดียของกัปตัน และรองกัปตัน เป็นเรื่องที่โบราณ ผมเจอสถานการณ์แบบเดียวกันในทีมชาติ และนี่มันช่วยได้เยอะ เพราะผมไม่เชื่อว่ามันจะเพียงพอกับการมีผู้เล่นแค่ 2-3 คนในทีม"
 
 
 
GettyImages-1342960514-scaled.jpg
 
กลุ่มผู้นำในทีมอาร์เซน่อล ประกอบด้วย ชาคา, ลากาแซตต์ และร็อบ โฮลดิ้ง มีบางครั้งที่ สตีฟ ราวด์ เรียกพวกเขาเพื่อทบทวนแนวความคิดหรือประเด็น บางครั้งพวกเขาก็ลุกขึ้นมาพูดสิ่งที่อยู่ในใจต่อหน้าทุกคน
 
ชาคากล่าวว่า: "บางครั้งเรา 2 หรือ 3 คน มีการพูดคุยกัน และถามตัวเองถึงสิ่งที่เราสามารถทำได้ดีกว่าเดิม นี่คือกลุ่มผู้นำที่มีมุมมองแง่บวกมากๆ เวลานี้มันเป็นเรื่องง่าย เพราะทุกคนมีความสุข ในขณะที่เราเดินหน้าเก็บชัยชนะ แต่เรารู้ว่าช่วงเวลายากลำบากจะกลับมาอีกครั้ง เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะทำให้มั่นใจว่าเราจะอยู่ร่วมกัน เมื่อบางอย่างไม่ถูกต้องเกิดขึ้น เมื่อนั่นกลุ่มผู้นำจะมีความสำคัญมากๆ ในการปกป้องเพื่อนร่วมทีม และดูแลความเชื่อที่ช่วยให้เรามองในแง่ดีกันได้ต่อไป"
 
"เวลานี้ลากา คือกัปตันทีมของเรา และผมมีความสุขมากกับเขา เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญมากๆ สำหรับเรา ทั้งในและนอกสนาม เขาเป็นคนน่ารัก เขาได้รับความเคารพอย่างมาจากผู้เล่นคนอื่น และมีประสบการณ์หลายปี ผมเชื่อว่าคุณต้องการผู้เล่นแบบนี้ เขาอยู่ที่นี่เสมอ เขาไม่เคยมาสาย มีวินัยสูงมาก เขาเป็นคนสนุก เขาเป็นคนที่เปิดกว้าง คุณสามารถพูดคุยกับเขาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ผมเชื่อว่าเวลานี้เขาคือคนที่เหมาะสมที่จะเป็นกัปตันทีมของเรา"
 
ระหว่างบทสนทนา ได้มีการเปลี่ยนประเด็นมาที่อดีตกัปตันทีม ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ถ้าจะมีใครสักคนในทีมอาร์เซน่อลที่เข้าใจความรู้สึกของกองหน้าชาวกาบอง ก็คงหนีไม่พ้นกรานิต ชาคา ผู้ที่เคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มาก่อน 
 
"ผมเคยตกอยู่ในสถานการณ์นี้ และผมรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร" ชาคากล่าว "เรื่องของผมแตกต่างออกไป เป็นปัญหาที่แตกต่างจากโอบา บางครั้งนี่ไม่ใช่การก้าวถอยหลัง แต่มันเป็นการก้าวไปข้างหน้า ผมคิดว่าโอบาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากพอ และมีประสบการณ์มากพอที่จะกลับมา และทำได้ดีกว่าก่อนหน้านี้ ผมเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นมันมีเหตุและผล มันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คุณผิดหวัง คุณต้องคิดบวก และเชื่อว่าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ ผมเชื่อว่าเขาทำได้"
 
ในตอนที่เขากำลังต่อสู้กับความคิดของตัวเอง ชาคาตระหนักอย่างถ้อแท้ว่าเส้นทางที่ง่ายที่สุดคือการเดินจากไป ส่วนอีกเส้นทางที่มีความท้าทายความแข็งแกร่งคือการเดินกลับมา และมุ่งมั่นใหม่อีกครั้ง เขากล่าวว่า: "ผมเคยมีวันที่ดำมืดมากๆ ทุกคนสามารถวิ่งหนีไปได้ นั่นเป็นเรื่องง่ายๆ คุณเพียงแค่เปิดประตูและเดินออกไป แต่ผมไม่เคยเป็นคนประเภทนั้น ผมรู้ว่าผมคือคนที่เหมาะสมกับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ผมต้องการมอบบางอย่างให้พวกเขา ผมจะทำทุกอย่างเพื่อสโมสรแห่งนี้ในการพาทีมกลับมาชนะ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า"
 
เวลานี้อาร์เซน่อลมีโอกาสที่จะกลับสู่ตำแหน่งท็อปโฟร์อีกครั้ง "มันอยู่แค่ครึ่งทางเท่านั้น คุณต้องดูไปทีละเกมส์ เราอยู่ในอันดับ 4 แต่เราก็อยู่ไม่ห่างนักกจากอันดับ 3 หรือแม้กระทั่งอันดับ 2 ผมจะไม่หยุดแค่อันดับสี่ เราสามารถพัฒนาขึ้นและดีกว่าที่ผ่านมาได้ ผมเชื่อว่าเราสามารถทำบางอย่างที่พิเศษให้เกิดขึ้นในปีนี้ และทีมก็เชื่อเช่นเดียวกัน นี่คือเดือนที่สำคัญสำหรับเรา"
 
ชาคา คือหนึ่งในคนที่อยู่กับสโมสรมาอย่างยาวนานที่สุด เขาอยู่กับทีมตั้งแต่ปี 2016 ก่อนหน้านั้นสโมสรจบในอันดับ 2 ของตารางคะแนน และได้เล่นแชมเปี้ยนลีก แต่ช่วงเวลาของเขากับอาร์เซน่อลกับเจอกับสภาวะที่ไม่มั่นคง ความกดดัน ดราม่า การรื้อครั้งใหญ่ทั้งในและนอกสนาม "ผมเซ็นสัญญากับอาร์เซน่อล เพราะผมต้องการไปเล่นแชมเปี้ยนลีกทุกปี แต่คุณไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนั้น แต่ถ้าผมย้อนกลับไปในปี 2016 ผมก็ยังจะทำแบบเดิม"



#2
jakkritakeng

Posted 29 December 2021 - 12:40 PM

jakkritakeng

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 616 posts
เมื่อก่อนเป็นคนที่ปรี๊ดแตกได้ง่าย อย่างนัดล่าสุดก็เกือบๆ วางมวยกันอีกทั้งๆ ที่เกมเป็นต่อตั้งเยอะ ถ้าควบคุมอารมณ์ได้ฉลาดกว่านี้ เป็นกลางที่ดีคนหนึ่งเลย
ว่าแต่วนกลับมาเจอแมนซิตี้อีกครั้ง คงไม่ทำอะไรให้คนด่าอีกนะ

#3
bamboo

Posted 29 December 2021 - 01:12 PM

bamboo

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 502 posts

ยอมรับว่าแต่ก่อนไม่ชอบ นาย เลยทั้งการออกบอลช้า คิดช้า และอารมณ์เหมือนทุ่นระเบิด

 

แต่ในเมื่อนายพยายามปรับปรุงตัวเองและยังพยายามพัฒนาฟอร์มการเล่นเพื่อ ทีม

 

ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องเกลียดอะไร

 

"Once a gunner, Always a gunner"



#4
magnum112

Posted 29 December 2021 - 01:22 PM

magnum112

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 5,894 posts

เอาใจช่วย เชื่อว่าสภาวะผู้นำและแพสชั่นจากซาก้าเต็มเปี่ยม

 

ถึงจะมีปัญหาในการเล่นบ้าง แต่ถือเป็นคีย์แมนของยุคนี้เลย



#5
Tuhgunner

Posted 29 December 2021 - 05:27 PM

Tuhgunner

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 101 posts
หลังๆยุคต้าชาก้าก็เล่นใกล้เคียงค่าตัว35ล้านบ้างแล้วนะ นัดไหนไม่มีชาก้ากลางเล่นไม่ค่อยมีทรงเลย ไงๆก็เพลาๆเรื่องหัวร้อนบ้างอายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว 2นัดหลังเอ็งโชคดีไม่น้อยที่ไม่ได้อาบน้ำก่อนชาวบ้าน

#6
Season Change (ปลัดมุข)

Posted 30 December 2021 - 07:35 AM

Season Change (ปลัดมุข)

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 7,895 posts
เป็นพวกปิดทองหลังพระ เล่นไม่มีไรเด่นแต่ทีมก็ขาดไม่ได้เหมือนกัน ถ้าลดการเข้าบอลแบบว่าวๆให้ทีมเสียเปรียบได้บ้าง แฟนบอลคงรักมากกว่านี้...

#7
sbanterng

Posted 30 December 2021 - 09:44 AM

sbanterng

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,464 posts

เข้าบอลช้ากว่า 1 จังหวะตลอดเพราะแต่ละคนในพรีเมียร์เร็วและคล่องตัวทั้งนั้น ถ้าเข้าพรวดหรือช้านิดหน่อยคือพลาดถึงใบแดงได้เลย

นายคงรู้นะเวลาทีมเล่น 10 คนว่าผลมันเป็นยังไงและเหนือยแค่ไหน แค่อย่าทำให้ทีมลำบากก็พอคับ



#8
roadbuster

Posted 30 December 2021 - 09:54 AM

roadbuster

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 59 posts
หลายคนมองว่าชาก้าหัวร้อน แต่แฟนบอลที่ญี่ปุ่น กลับมองต่าง ผมเห็นคริปที่เขาทำออกมาแล้วรู้เลย จังหวะที่ชาก้า โดนเหลืองนัดนอริช เพราะเข้าไปต่อว่านักเตะของนอริช ที่อัดหนักใส่มาติเนลลี่ นั่นเป็นภาวะของผู้นำและเป็นการปกป้องเพื่อนร่วมทีม ซึ่งลากา ก็เข้าไปต่อว่าเช่นกัน แต่คนที่โดนเหลืองกลับเป็นชาก้า คนเดียว ผู้ตัดสิน อคติเกินไป
ขออนุญาตแป๊ะลิ้งค์ครับ
https://youtu.be/Wxan2erEnuQ




0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users