เทรนด์กุนซือของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เปลี่ยนไปแล้วเมื่อบรรดาทีมชั้นนำแห่งเกาะอังกฤษ ต่างหันมาใช้บริการกุนซือหนุ่มไฟแรงเฟร่อ..กันถ้วนหน้า เหลือไว้แต่ไดโนเสาร์ตัวสุดท้ายอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ ที่กำลังจะคุมอาร์เซน่อลครบสองทศวรรษ
ต้องรอดูบทสรุปฤดูกาลนี้ หากเวนเกอร์พบกับความล้มเหลว เขาจะแสดงสปิริตในการลาออกจากตำแหน่ง หรือจะอยู่คุมทีมอีกหนึ่งปีตามสัญญาที่เหลืออยู่ อันนี้ก็ยากที่คาดเดา
แต่ถ้าหากเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ตอนนี้ยังมีกุนซือหนุ่มฝีมือฉกาจที่พร้อมผ่าตัดปืนใหญ่ ให้กลับมาผงาดง้ําค้ําโลกนั่นคือ "ไอ้หมาบ้า" ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ด้วย 5 เหตุผลดังนี้
1. การันตีพาความสำเร็จสู่สโมสร
ความสำเร็จของสโมสรก็คือจำนวนโทรฟี่ที่ได้ และนับตั้งแต่ซิเมโอเน่ เข้ามาคุมทีมแอตเลติโก มาดริลในปี 2011 เขาทำให้ทีมตราหมีคว้าแชมป์ 5 รายการ โดยเฉพาะในฤดูกาล 2013/14 ที่โค่นบาร์ซ่า และเรอัล มาดริล ผงาดง้ำคว้าแชมป์ลาลีกาได้อย่างยิ่งใหญ่
นอกจากนี้ยังพาทีมประสบความสำเร็จบนเวทียุโรปมาแล้ว ด้วยการได้ทั้งแชมป์ยูโรป้า ลีก และยูฟ่า ซูปเปอร์คัพ และเกือบพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก แต่มาพลาดท่าให้ราชันชุดขาวในรอบชิงชนะเลิศ
La Liga – 2013/14
Copa del Rey – 2012/13
Europa League – 2011/12
Uefa Super Cup – 2012
Supercopa de Espana – 2014
2. บุคลิกของผู้กระหายชัยชนะ
การแสดงออกของนักเตะเวลาอยู่ในสนาม มันสามารถสะท้อนได้ถึงบุคลิกของตัวกุนซือที่อยู่ข้างสนาม เราทุกคนคุ้นเคยกันดีว่านักเตะอาร์เซน่อลมักจะเล่นบทเป็นคนดี ไม่มีลูกตุกติก เล่นนิ่งๆเนื่อยๆ ไม่ต่างจากมาดละเมียดของอาร์แซน เวนเกอร์
ส่วนนักเตะตราหมี แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ทั้งดุดัน เข้าบอลหนักหน่วง และมีลูกตุกติกมาให้เห็นอยู่เสมอ เหมือนยกสไตล์การเล่นของซิเมโอเน่สมัยนักเตะมาใส่ให้กับทีม
รวมถึงลีลาคุมทีมข้างสนาม บางทีแฟนบอลอาร์เซน่อล อาจจะอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงเวลาที่นั่งดูถ่ายทอดสด เวลาที่กล้องจับมาเมื่อไรก็จะเห็นกุนซืออกมายืนกระตุ้นและมีอารมณ์ร่วมตลอดทั้ง 90 นาที มากกว่าที่จะเห็นชายแก่ร่างผอมบางนั่งบ่นกับมือขวา, โยนขวดน้ำทิ้ง, โวยผู้ตัดสินที่ 4 หรือยืนรูดซิบเสื้อไม่ได้สักที
3. เกมส์รับอันสุดแข็งแกร่ง
ปรัชญาของอาร์แซน เวนเกอร์ คือฟุตบอลเกมส์รุกที่สวยงาม ต่อบอลเท้าต่อเท้า จนบางครั้งก็หลงลืมเรื่องเกมส์รับไปเสียสนิท และความผิดพลาดในเกมส์รับ คือหนึ่งในเหตุผลที่พวกเขายังต้องรอคอยแชมป์ลีกมานาน 12 ปี และไม่เคยได้สัมผัสการเป็นจ้าวยุโรปเลยแม้สักครั้ง
ซึ่งซิเมโอเน่ คือกูรูด้านเกมส์รับ การันตีด้วยผลงาน 2 ใน 3 ฤดูกาลที่เขาคุมทีมในลาลีกา ทีมตราหมีคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีก และฤดูกาลนี้ผ่านไป 26 เกมส์ พวกเขาเสียไปแค่ 11 ลูกเท่านั้น
4. พร้อมรับมือกับการสูญเสียสตาร์ประจำทีม
แม้ว่าอาร์เซน่อลจะผ่านพ้นยุคขายสตาร์กินไปแล้วก็เถอะ แต่ซิเมโอเน่ก็แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะต้องเสียผู้เล่นคีย์แมนให้กับทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปในทุกฤดูกาล ไล่ตั้งแต่ ราดาเมล ฟัลเกา, ดีเอโก้ คอสต้า, อาร์ด้า ตูราน และเจา มิรันด้า
แต่ทุกฤดูกาล "เอล โซโล่" ก็สามารถปั้นสตาร์ดวงใหม่เข้ามาทดแทนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทีมไม่ออกอาการสะดุด และสามารถต่อกรกับสองมหาอำนาจร่วมลีกได้อย่างสนุก
5. ฝืมือกับเกมส์ใหญ่
พูดถึงขุมกำลังตัวผู้เล่น อำนาจเงินทีมตราหมี เป็นรองเพื่อนร่วมลีกทั้งบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริล แบบสู้กันไม่ได้ แต่เวลาอยู่ในสนามแอตเลติโก มาดริล สู้กับสองทีมยักษ์ใหญ่ได้แบบสนุก ถึงจะแพ้แต่ทัพต่างดาว และราชันชุดขาว ก็ต้องลากเลือดเช่นกัน
ส่วนเวนเกอร์ มักจะถูกวิจารณ์ในการคุมทีมเล่นเกมส์ใหญ่ ที่มักจะพลาดพลั้งเสียทีให้คู่แข่งอยู่เสมอ อย่างการไม่ชนะที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ดในลีกนาน 10 ปี หรือการชนะเพียงครั้งเดียวจากการดวลกับโฆเซ่ มูรินโญ่
สุดท้ายชอบวลีของซิเมโอเน่ หลังบุกไปชนะเรอัล มาดริลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเหลือเกินว่า: "เราทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ กับการมาชนะที่นี้ (เบอร์นาบิว)"
ร่ายมาเสียยืดยาว สุดท้ายเวนเกอร์ประกาศต่อสัญญาอีกสองปี ราตรีสวัสดิ์........