[Admin]

 

• เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวดังจาก The Athletic ได้เปิดเผยในระหว่างรายกาย The Athletic Football Podcast ได้ออกมาเปิดเผยว่า นอกเหนือจาการลงทุนเสริมแกร่งทีมชุดใหญ่ในตำแหน่งกองหน้า, กองกลาง และตัวริมเส้น ในช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว
  
  เขายังได้ยืนยันอีกว่า สโมสรต้องการที่จะลงทุนอย่างหนักในการดึงนักเตะระดับเยาวชนเข้ามาสู่ทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่อาร์เซน่อลไม่ได้ลงทุนมาพักใหญ่แล้ว
   
• อาร์เซน่อล เตรียมที่จะยื่นสัญญาก้อนโตที่เป็นสถิติใหม่สำหรับสัญญาอาชีพฉบับแรกให้กับแข้งดาวรุ่ง เพื่อรั้ง อีธาน เอ็นวาเนลี่ แนวรุกอนาคตไกลให้อยู่กับทีมต่อไป หลังนักเตะได้รับความสนใจจากทั้งแมนซิตี้ และเชลชี
  
  ดาวเตะวัย 16 ปี เตรียมเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับทีมปืนใหญ่ ทันทีที่เขาอายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ โดยเอ็นวาเนลี่ ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกกับทีมชุดใหญ่ไปแล้วสองนัด และถูกคาดหมายว่าจะเป็นแข้งคนสำคัญของทีมในอนาคต
   
• เราได้เริ่มเห็นสัญญาณการขยับตัวของอาร์เซน่อลในการดึงผู้เล่นดาวรุ่งเข้ามาเติมในอะคาเดมี่อย่างล่าสุด พวกเขากำลังจะได้ตัว เบย์เดน คล้าร์ก กองหลังวัย 16 ปีของวูลฟ์แฮมตัน รวมถึงการดึง เปาโล ซาเวียร์ แมวมองจากเรอัล มาดริด มาเมื่อเดือนธันวาคม เพื่อทำหน้าที่ค้นหาแข้งดาวรุ่งในอเมริกาใต้ 
  
  ทำให้มีกระแสข่าวออกมาว่าอาร์เซน่อล กำลังให้ความสนใจ เอสเตเวา วิลเลี่ยน ปีกดาวรุ่งวัย 16 ปีของพัลไมรัส กับ ออสกุนติน รูเบอร์โต้ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่เป็นดาวซัลโวสูงสุดฟุตบอลโลก U17 หนล่าสุด

 

[Admin]

ดูจากสัมภาษณ์ของ จอซ โครเอนเก้ ที่บอกว่าหลังจากโปรเจ็ค Rebuild 5 ปีแล้ว เฟซถัดไปสโมสรจะยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง จากรายได้ที่สโมสรสร้างขึ้น ก็หมายความว่า KSE จะไม่ได้อัดฉีดเงินเข้ามาเหมือนช่วง Rebuild ที่ผ่านมาแล้ว

ซัมเมอร์หน้า จะเป็นซัมเมอร์สุดท้ายในโปรเจคแล้ว ซึ่งทีมจะสมบูรณ์แบบตามแผนที่วางกันไว้ ต่อจากนี้ก็น่าจะเข้าลูปปกติ การวางระบบอะคาเดมี่ป้อนชุดใหญ่ให้ดีขึ้น ก็เป็นจุดที่น่าสนใจ เหมือนกับซิตี้ ที่ทำกำไรมหาศาลจากการขายนักเตะอะคาเดมี่

ส่วนคนไหนดีจริง ก็ดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ เงินที่ได้จากการขายดาวรุ่ง ก็เอามาสมทบทุนซื้อนักเตะใหม่ได้ด้วย มันก็จะเป็นการสร้างทีมแบบยั่งยืน

[Jataz_]

น่าสนใจ
การผลักดันดาวรุ่ง อาเตต้า ไม่เหมือนแวนเกอร์

การให้โอกาสดาวรุ่ง ดูจากถ้วยลีกคัพหลายปีที่ผ่านมา หรือการให้โอกาสดาวรุ่งลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ดูจะน้อยกว่ายุคแวนเกอร์มาก

ก็เข้าใจได่ว่าพรีเมียร์มันเข้มข้นและพลาดโควต้า ucl มาหลายปี ต้องเน้นก็ยากมากที่ดาวรุ่งจะได้ลง

แต่ในรายการ ลีกคัพ สัดส่วนก็มีดาวรุ่งบ้าง แต่ส่วนมากจะเป็นชุดใหญ่ที่เป็นตัวสำรองที่จะได้เล่นลีกคัพ

ถ้าเราเป็นดาวรุ่ง ทีาอยากมาเติบโตได้เล่นชุดใหญ่ ในยุคต้า อาจจะยากหน่อย

[haryex]

ดันดาวรุ่งขึ้นมาเห็นด้วยนะ ทีมต้องมีรากฐานจากเด็กอคาเดมี่ด้วย จะตะลุยซื้อทุกตำแหน่งไม่ได้หรอก

แต่ดันแบบไหนล่ะที่เหมาะสม ทีมใหญ่อย่าง แมนซิตี้ โฟกัสที่แค่ โฟเด้น  คนเดียวด้วยซ้ำ คนอื่นเล่นแค่บอลถ้วยเล็กและสำรองท้ายเกม

หมายถึง โฟเด้น เป็นดาวรุ่งที่ รายล้อมไปนักเตะระดับ เวิร์ลคลาส ซึมซับประสบการณ์จากรุ่นพี่และไม่กดดันมากเพราะไม่ใช่ตัวแบก

 

ยุค เวนเกอร์ เน้นซื้อดาวรุ่ง ดาวรุ่งเต็มทีม ทั้งตัวจริงตัวสำรอง เอาดาวรุ่งมาแบกทีมด้วยซ้ำ

บางก็ดี แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นดีลที่ล้มเหลว 5บริติสคอร์ ร่วงทุกคนทั้งฟอร์มการเล่น ทั้งอาการบาดเจ็บ

ก่อนหน้าก็ เซนเดอรอส,เดนิลสัน,ณูรู,ฮอย คือนักเตะอย่างเนี่ย ได้ลงเป็นตัวจริงแทบทุกอาทิตย์  

ทีมเลยล้มเหลวมาหลายปี ประคองแค่ได้ที่4เพื่อไปucl พร้อมที่จะโดนทีมใหญ่ถลุง เพราะประสบการณ์ที่น้อยกว่า ความนิ่งความสุขุมที่ต่างกันชัดเจน

[Admin]

น่าสนใจ
การผลักดันดาวรุ่ง อาเตต้า ไม่เหมือนแวนเกอร์

การให้โอกาสดาวรุ่ง ดูจากถ้วยลีกคัพหลายปีที่ผ่านมา หรือการให้โอกาสดาวรุ่งลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ดูจะน้อยกว่ายุคแวนเกอร์มาก

ก็เข้าใจได่ว่าพรีเมียร์มันเข้มข้นและพลาดโควต้า ucl มาหลายปี ต้องเน้นก็ยากมากที่ดาวรุ่งจะได้ลง

แต่ในรายการ ลีกคัพ สัดส่วนก็มีดาวรุ่งบ้าง แต่ส่วนมากจะเป็นชุดใหญ่ที่เป็นตัวสำรองที่จะได้เล่นลีกคัพ

ถ้าเราเป็นดาวรุ่ง ทีาอยากมาเติบโตได้เล่นชุดใหญ่ ในยุคต้า อาจจะยากหน่อย

 

 

ยากตรงไหน อายุเฉลี่ยอาร์เซน่อลแทบน้อยที่สุดในลีกแล้ว ซาก้า, สมิธ โรว์, เอ็ดดี้, เนลสัน มันก็เป็นเด็กจาก Hale End ทั้งนั้น ก่อนจะดันดาวรุ่ง ต้องถามก่อนว่า มีตัวไหนที่มาตรฐานถึงชุดใหญ่บ้างก่อน ถ้าเด็กมันเก่งจริง โค้ชคนไหนก็ดันขึ้นชุดใหญ่อยู่แล้ว