ทีมเพื่อ "อนาคต"
#1
Posted 25 January 2020 - 05:26 AM
เอมปัปเป้เองก็็เคยให้สัมภาษณ์ว่าอยากร่วมงานกับเวนเกอร์อยากเดินตามรอยเท้าของอองรีซึ่งเป็นฮีโร่ของเด็กฝรั่งเศษหลายๆคน แต่สุดท้ายเวนเกอร์เองไม่สามารถใช้อิทธิพลที่มีต่อโลกลูกหนังของเขาให้เป็นประโยชน์เลยเพราะมัวแต่ยึดติดปรัชญาเก่าๆของตัวเองสุดท้ายแล้วก็หมดยุคของเขาไปเหลือไว้แค่นักเตะที่ติดสบายไม่รู้สึกร้อนหนาวไม่สนว่าจะชนะหรือแพ้ที่คิดว่าจะดีก็แย่จนทีมเริ่มดิ่งลงไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังคงหวังให้อาเซน่อลกลับมายิ่งใหญ่อยากเห็นอาเซน่อลเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเขาบ้างจะได้พูดข่มทีมอื่นได้บ้าง ทุกวันนี้ขนาดเด็กน้อยยังตลก อยากจะเห็นน่อลสร้างทีมเพื่อ อนาคต แน่นอนว่าถ้าสำเร็จเด็กปืนคงจะได้ยิ้มมีความสุขกันอีกครั้งเหมือนเด็กหงส์ที่ี่่รอคอยแชมป์มานานฝันเขาก็เป็นจริงก่อนเราแล้ว สุดท้ายมาแสดงความคิดเห็นกันครับว่าทีมเพื่ออนาคตของน่อลที่อยากให้เกิดขึ้นของแต่ละคนเป็นไงกัน ส่วนตัวผมอยากเห็น
ผู้รักษาประตู เลโน่
กองหลัง เบเยริน ยูปาเมคาโน่(ไลป์ซิก) เดอลิก(ยูเว่) เทียร์นี่
กลาง เกนดูซี่ ตอร์เรร่า โตนานี่(นิวปิร์โล่)
หน้า เปเป้ เอมปัปเป้ มาติเนลลี่
ปล.หวังว่าบอร์ดบริหารมันจะให้งบซื้อนะ
#2
Posted 25 January 2020 - 08:18 AM
อยู่กับความจริงได้แล้วครับ เจ้าของทีมกับบอร์ดบริหาร ได้ตังใช้สบายทุกปี
ไม่ได้เป็นแฟนบอล ไม่ได้คลั่งฟุตบอล มาเพื่อธุรกิจ ซึ่งอาเซน่อลเป็นแหล่งเงิน
ที่ประสบความสำเร็จสูงมากจากนโยบายตอนนี้ แล้วเขาจะเปลี่ยนแปลงทำไม
แล้วคนที่หนุนหลังโครเอนเก้ ให้มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร คือ เวนเกอร์
ตั้งแต่สมัยแย่งซื้อหุ้นสโมสร ระหว่างโครเอนเก้ และ อุสมานอฟ
โครเอนเก้ วางนโยบายที่เน้นรากฐาน ปั้นดาวรุ่ง
อุสมานอฟ มาแนวเสี่ยหมีของเชลซี คือจะให้เงินซื้อนักเตะดังๆเข้ามา
เวนเกอร์เลือกสนับสนุนนโยบายขายฝันของโครเอนเก้
ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าก็มีส่วนทำให้โน้มน้าวให้ภายในเกิดการสนับสนุนโครเอนเก้
กีดกันอุสมานอฟ จนสุดท้ายอุฟมานอฟก็ถอย ถึงแม้จะสู้กันจนหุ้นโครเอนเก้
มีจำนวนหุ้นมากกว่าอุสมานอฟอีกแค่นิดเดียว(29.99% ต่อ 29.25%)
และสุดท้ายคนในบอร์ดก็ขายหุ้นให้โครเอนเก้ จนเป็น 66.64%
และ takeover อาเซน่อลได้สำเร็จ
ไปตามดูข่าวเก่าๆได้ครับ แฟนบอลรุ่นเก่าก็รู้ดี หรือเห็นผ่านๆตามาแน่
แต่หลายคนคงลืมคิดถึงจุดนี้ไปแล้ว
ดังนั้น อยู่กับความจริงได้แล้วครับ ตราบใดที่ยังเป็นเจ้าของคนเดิม
นโยบายหลักไม่เปลี่ยนแน่ รอลุ้นนักเตะเราจะโหดเหมือนถูกหวยแบบเลสเตอร์
แล้วรีบพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้แบบเลสเตอร์ เราจะได้ชื่นมื่นกันอีกครั้ง
เพราะแน่นอนว่าถ้าเกิดขึ้นจริง ทำได้ปีเดียว ปีหน้าขายหมด ตามนโยบาย
#3
Posted 25 January 2020 - 06:33 PM
แต่ ตั้งแต่ อาร์เตต้า เข้า มา ผมยังไม่พลาด สักนัดเลย ถึงตอนนี้ผลงาน ยังดูลุ่มๆดอนๆ แต่มันเห็น พัฒนาการ น่ะ
บอกเลย ว่า ฤดูกาลนี้ ผมไม่หวัง top4 เลย เพราะเข้าใจ อยู่แล้ว ว่ามา กลางฤดูกาล แบบนี้ มันยาก
ณ ตอนนี้ สิ่งที่ ผม โคตรพอใจ เลย คือ ทีมเราเล่น บอลได้ เป็นระบบ มากขึ้น แถม หลายๆนัดที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็น สปิริทที่ แบบไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
อนาคต ผมไม่รู้ หรอกน่ะ ว่า ทีมเราจะกลับมายิ่งใหญ่ ได้ เหมือน เมื่อก่อนไหม
แต่ผมอยากให้ ทุกคนใจเย็น ให้ เวลา อาร์เตต้า เขาหน่อย อย่างน้อย ถ้า ฤดุกาล หน้า ทีมยัง ไม่ติด top4 แล้ว ค่อยมาว่ากันใหม่
#4
Posted 25 January 2020 - 09:26 PM
ผมถึงบอกว่าเวนเกอร์ยึดติดกับปรัชญาปั้นดาวรุ่งมากเกินไปไงครับขายนักเตะตัวจริงทั้ง 11 คนออกไป ยังรวมเงินไปซื้อเอมปัปเป้ไม่ได้เลยครับ
อยู่กับความจริงได้แล้วครับ เจ้าของทีมกับบอร์ดบริหาร ได้ตังใช้สบายทุกปี
ไม่ได้เป็นแฟนบอล ไม่ได้คลั่งฟุตบอล มาเพื่อธุรกิจ ซึ่งอาเซน่อลเป็นแหล่งเงิน
ที่ประสบความสำเร็จสูงมากจากนโยบายตอนนี้ แล้วเขาจะเปลี่ยนแปลงทำไม
แล้วคนที่หนุนหลังโครเอนเก้ ให้มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร คือ เวนเกอร์
ตั้งแต่สมัยแย่งซื้อหุ้นสโมสร ระหว่างโครเอนเก้ และ อุสมานอฟ
โครเอนเก้ วางนโยบายที่เน้นรากฐาน ปั้นดาวรุ่ง
อุสมานอฟ มาแนวเสี่ยหมีของเชลซี คือจะให้เงินซื้อนักเตะดังๆเข้ามา
เวนเกอร์เลือกสนับสนุนนโยบายขายฝันของโครเอนเก้
ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าก็มีส่วนทำให้โน้มน้าวให้ภายในเกิดการสนับสนุนโครเอนเก้
กีดกันอุสมานอฟ จนสุดท้ายอุฟมานอฟก็ถอย ถึงแม้จะสู้กันจนหุ้นโครเอนเก้
มีจำนวนหุ้นมากกว่าอุสมานอฟอีกแค่นิดเดียว(29.99% ต่อ 29.25%)
และสุดท้ายคนในบอร์ดก็ขายหุ้นให้โครเอนเก้ จนเป็น 66.64%
และ takeover อาเซน่อลได้สำเร็จ
ไปตามดูข่าวเก่าๆได้ครับ แฟนบอลรุ่นเก่าก็รู้ดี หรือเห็นผ่านๆตามาแน่
แต่หลายคนคงลืมคิดถึงจุดนี้ไปแล้ว
ดังนั้น อยู่กับความจริงได้แล้วครับ ตราบใดที่ยังเป็นเจ้าของคนเดิม
นโยบายหลักไม่เปลี่ยนแน่ รอลุ้นนักเตะเราจะโหดเหมือนถูกหวยแบบเลสเตอร์
แล้วรีบพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้แบบเลสเตอร์ เราจะได้ชื่นมื่นกันอีกครั้ง
เพราะแน่นอนว่าถ้าเกิดขึ้นจริง ทำได้ปีเดียว ปีหน้าขายหมด ตามนโยบาย
#5
Posted 25 January 2020 - 09:46 PM
เวนเกอร์ยึดติดกับปรัชญาดันดาวรุ่งในอคาเดมี่มากเกินไปครับ ความจริงจะซื้อเอมปัปเป้ตอนอยู่โมนาโกก็ได้ครับ แต่สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเองที่ชอบประหยัดเพื่อกำไรของสโมสรครับขายนักเตะตัวจริงทั้ง 11 คนออกไป ยังรวมเงินไปซื้อเอมปัปเป้ไม่ได้เลยครับ
อยู่กับความจริงได้แล้วครับ เจ้าของทีมกับบอร์ดบริหาร ได้ตังใช้สบายทุกปี
ไม่ได้เป็นแฟนบอล ไม่ได้คลั่งฟุตบอล มาเพื่อธุรกิจ ซึ่งอาเซน่อลเป็นแหล่งเงิน
ที่ประสบความสำเร็จสูงมากจากนโยบายตอนนี้ แล้วเขาจะเปลี่ยนแปลงทำไม
แล้วคนที่หนุนหลังโครเอนเก้ ให้มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร คือ เวนเกอร์
ตั้งแต่สมัยแย่งซื้อหุ้นสโมสร ระหว่างโครเอนเก้ และ อุสมานอฟ
โครเอนเก้ วางนโยบายที่เน้นรากฐาน ปั้นดาวรุ่ง
อุสมานอฟ มาแนวเสี่ยหมีของเชลซี คือจะให้เงินซื้อนักเตะดังๆเข้ามา
เวนเกอร์เลือกสนับสนุนนโยบายขายฝันของโครเอนเก้
ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าก็มีส่วนทำให้โน้มน้าวให้ภายในเกิดการสนับสนุนโครเอนเก้
กีดกันอุสมานอฟ จนสุดท้ายอุฟมานอฟก็ถอย ถึงแม้จะสู้กันจนหุ้นโครเอนเก้
มีจำนวนหุ้นมากกว่าอุสมานอฟอีกแค่นิดเดียว(29.99% ต่อ 29.25%)
และสุดท้ายคนในบอร์ดก็ขายหุ้นให้โครเอนเก้ จนเป็น 66.64%
และ takeover อาเซน่อลได้สำเร็จ
ไปตามดูข่าวเก่าๆได้ครับ แฟนบอลรุ่นเก่าก็รู้ดี หรือเห็นผ่านๆตามาแน่
แต่หลายคนคงลืมคิดถึงจุดนี้ไปแล้ว
ดังนั้น อยู่กับความจริงได้แล้วครับ ตราบใดที่ยังเป็นเจ้าของคนเดิม
นโยบายหลักไม่เปลี่ยนแน่ รอลุ้นนักเตะเราจะโหดเหมือนถูกหวยแบบเลสเตอร์
แล้วรีบพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้แบบเลสเตอร์ เราจะได้ชื่นมื่นกันอีกครั้ง
เพราะแน่นอนว่าถ้าเกิดขึ้นจริง ทำได้ปีเดียว ปีหน้าขายหมด ตามนโยบาย
#6
Posted 25 January 2020 - 10:23 PM
จำได้ ว่า เพราะ พ่อ ไม่อยากให้รีบไปค้าแข้ง ต่างประเทศ อะไรนี่แหละ สุดท้ายเลย เสร็จ เปเอสเช แต่ราคา ก็ ถึงขนาด เปเอสเช ต้องใช้ วิธียืม แล้วซื้อต่อ ปีหน้า เพราะกลัวติด ไฟเนเชี่ยล แฟร์เพลย์
แต่ ถ้า ก่อนหน้า ที่จะดัง เวนเกอร์ แกก็มี โอกาสคว้า แต่อย่างว่า เด็ก เขาไม่อยากรีบเล่นต่างประเทศ ด้วย แล้ว ผมคิดว่า ก็ตัดสินใจถูกน่ะ เพราะถ้ารีบมา ก็คง ไม่มีโอกาสได้เล่นมาก แล้วทำให้ ฝีเท้าพัฒนา ได้เร็ว อย่างนี้ หรอก
#7
Posted 26 January 2020 - 12:06 AM
#8
Posted 02 February 2020 - 11:43 PM
อย่าโทษว่าแวนเกอร์ไม่ยอมซื้อนะครับ แวนเกอร์ก็เป็นพนักงานกินเงินเดือนสโมสร ให้งบแค่ไหนก็แค่นั้นจะไปพูดอะไรมากเพราะเก้าอี้จะร้อน ใจก็อยากจะซื้ออยากจะได้ แต่พอนักข่าวถามก็แกล้งอ้างนู้นนี่ไปเรื่อยตามประสาลูกจ้างที่ไม่เอาเรื่องภายในองค์กรมาแฉ
ไม่ใช่ว่าอูไนมาแล้วมีเงินซื้อไม่อั้นนะครับ ซื้อเงินผ่อนทั้งนั้น ทีนี้ความซวยมาตกที่อาเตต้าต้องมาผ่อนต่อจะซื้อใหม่ก็ไม่ได้เพราะของเก่ายังผ่อนไม่หมด
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users