ไค ฮาแวร์ตซ์ ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ นับตั้งแต่ย้ายจากเชลชีมาอยู่กับอาร์เซน่อลเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีก่อน ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับนักเตะที่ย้ายมาทีมใหม่ แต่ประตูจากเกมส์ชนะนิวคาสเซิ่ล และเบิร์นลี่ย์ รวมถึงผลงานที่น่าประทับใจของเขาในนัดชนะลิเวอร์พูล และเวสต์แฮม มันเริ่มเห็นสัญญาณในเชิงบวกของแนวรุกทีมชาติเยอรมัน ในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม
สิ่งที่ฮาแวร์ตซ์ทำเวลามีบอล ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าที่จะมาถึงระดับที่คาดหวังไว้ แต่สิ่งที่เขาทำเวลาที่ไม่มีบอล (Off-the ball) มีประโยชน์อย่างมากกับอาร์เซน่อลชุดนี้ ทั้งความเข้มข้นในการเพลสซิ่งในการบีบแย่งบอลจากคู่แข่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของอาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้ การมีส่วนร่วมนี้ของฮาแวตซ์ไม่ควรถูกมองข้าม
ตัวอย่างในเกมส์ล่าสุดที่เปิดบ้านถล่มนิวคาสเซิ่ล 4-1 ในจังหวะที่อาร์เซน่อลได้ประตูที่สาม มันเริ่มจากโอเดการ์ด เข้าไปกดดัน สเวน บอตมัน กองหลังของนิวคาสเซิ่ล ขณะที่ บรูโน่ กริมาไรส์ จะวิ่งย้อนกลับมายังเส้นกึ่งกลางสนาม เพื่อเป้นทางเลือกให้กับ บอตมัน ในการจ่ายบอล
ขณะที่ฮาแวร์ตซ์ยืนอยู่ด้านในวงกลมกลางสนาม เพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวต่อไปของ บอตมัน เมื่อบอตมันตัดสินใจจ่ายบอล ฮาแวร์ตซ์ขยับก้าวไปทางขวา 2-3 ก้าว เพื่อปิดกั้นช่องการจ่ายบอลไปให้กับกิมาไรซ์ ซึ่งทำให้เขาสามารถดักตัดบอลได้ ก่อนจะเป็นจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกของอาร์เซน่อล ซึ่งจบด้วยการยิงของบูคาโญ ซาก้า
อาร์เซน่อล มุ่งเน้นไปที่การเพลสซิ่ง และการเคาน์เตอร์ เพลสซิ่ง หมายความว่าผู้เล่นของอาร์เซน่อล มีการศึกษาข้อมูลของคู่แข่งมาเป็นอย่างดี ว่าผู้เล่นคนไหนจะได้รับบอลมากที่สุดใน Final Third เพื่อปิดกั้นการขึ้นเกมส์ของคู่แข่ง แบบที่พวกเขาทำใส่นิวคาสเซิ่ลในครึ่งเวลาแรก กับการตัดบรูโน่ กริมาไรซ์ ออกจากเกมส์
ฮาแวร์ตซ์ยังมีสถิติแย่งบอลคืนสำเร็จในพื้นที่ Final Third 1.1 ครั้งต่อ 90 นาที สูงสุดเป็นอันดับ 5 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ สำหรับผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง และกองกลางตัวรุก ที่ลงเล่นไม่น้อยกว่า 900 นาที
"มันตลกดี เพราะคุณมองเขา และคิวด่าเขาไม่ได้มีความเร็ว แล้วคุณก็คิดว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่ง เพราะบางทีเขาอาจจะดูรูปร่างผอม แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าปะทะเขาทำได้แข็งแกร่งมากๆ" จอร์จินโญ่กล่าว
ด้วยลักษณะทางกายภาพของฮาแวร์ตซ์ ช่วยให้อาร์เซน่อลในจังหวะเล่นลูกตั้งเตะ และการดวลเอาชนะในตำแหน่งพื้นที่ตรงกลางสนาม ไม่ว่าจะเป็นตัวเป้า ตัวบล็อก หรือตัววิ่งหลอก เขามีส่วนอย่างมากที่ทำให้อาร์เซน่อล เป็นทีมที่เล่นลูกตั้งเตะได้ดีที่สุดในลีกฤดูกาลนี้
ในตำแหน่งกองกลาง ฮาแวร์ตซ์ ไม่เคยเกรงกลัวที่จะเข้าปะทะแย่งบอล และเขาจะรอเก็บบอลจังหวะสอง ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือประตูของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ในเกมส์เยือนเวสต์แฮม ในตัวอย่าง ฮาแวร์ตซ์ กำลังถอยกลับลงไปเมื่อ อัลฟงส์ อาเรโอล่า ผู้รักษาประตูของเวสต์แฮม เตะบอลยาวออกจากหน้าประตู
และฮาแวร์ตซ์ เคลื่อลที่เข้าไปใกล้ๆ กับจุดประทับในการขึ้นแย่งบอล เพื่อรอเก็บบอลจังหวะสอง ซึ่งกาเบรียล โหม่งบอลขึ้นไปข้างหน้า
และเมื่อบอลไปที่ทาง เคิร์ก ซูม่า กองหลังของเจ้าถิ่น ฮาแวร์ตซ์ ก็ปรับเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองอีกครั้ง และหนนี้เขาได้รับผลตอบแทน เมื่อเขาเก็บบอลจังหวะสองลูกนี้ได้ แล้วเขาพักอกต่อไปให้กับทรอสซาร์
จังหวะต่อเนื่อง เมื่อกองกลางสองคนของเวสต์แฮมรุมแย่งบอลจากทรอสซาร์ ก็ยังเป็นฮาแวร์ตซ์ ที่ไปเก็บจังหวะสองมาได้อีกครั้ง แล้วสะกิดบอลต่อไปให้กับโอเดการ์ด ก่อนที่กัปตันทีมอาร์เซน่อล จะจ่ายต่อให้ทรอสซาร์ ในกรอบเขตโทษ ก่อนเขาจะล็อกหนึ่งจังหวะ แล้วปั่นโค้งๆ เสียบคานอย่างสุดสวย
"สมองด้านฟุตบอลของเข วิธ๊ที่เขาเข้าใจเมื่อต้องเคลื่อนที่ วิธีการเคลื่อนที่ เขารู้ว่าตอนไหนควรอยู่กับที่ ตอนไหนควรวิ่ง มันมหัศจรรย์มาก" อาร์เตต้ากล่าวไว้เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน คุณสมบัติเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้อาร์เซน่อลเวลาที่ไม่บอล แต่ยังช่วยเวลาที่ทีมมีบอลด้วย
นอกเหนือจากประตูที่ฮาแวร์ตซ์ทำได้ในฤดูกาลนี้ การเคลื่อนที่แบบไม่มีบอล การวิ่งของเขาในพื้นที่สุดท้าย ก็เป็นการเปิดพื้นที่ว่างให้กับเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ในเกมส์ที่อาร์เซน่อลชนะลูตัน ทาวน์ 4-3 ในเดือนธันวาคม เขาไม่ต้องสัมผัสบอลเลย แต่การวิ่งของเขาสร้างพื้นที่ว่างให้กับ กาเบรียล เฆซุส เข้ามาทำประตูได้
ตำแหน่งเริ่มต้นของฮาแวร์ตว์ยืนอยู่ในกรอบเขตโทษ ส่วนทางด้านเฆซุส ยังอยู่แถวหน้ากรอบเขตโทษ ขณะที่ซาก้า แทงบอลทะลุช่องให้กับ เบน ไวท์ ที่เติมขึ้นมา
ฮาแวร์ตซ์วิ่งลาก 2 กองหลังของลูตัน ทั้งกาเบรียล โอโซ่ และเทเดน เมงกี้ และสร้างพื้นที่ว่างให้กับ เฆซุส บริเวณเสาสอง ซึ่งไวท์ ก็ชิพบอลเข้ามาตรงพื้นที่นั้นพอดิบพอดี เฆซุสโขกเต็มกระบาลตุงตาข่าย
ในแง่ของการวิ่งแบบ Off-ball เข้าไปในกรอบเขตโทษ ฮาแวร์ตซ์มีค่าเฉลี่ย 6.2 ครั้งต่อ 90 นาที สูงสุดเป็นอันดับ 8 ของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล จากบรรดาผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง และกองกลางตัวรุก ที่ลงเล่นไม่น้อยกว่า 900 นาที แม้ว่าเกมส์ชนะนิวคาสเซิ่ล และลิเวอร์พูล ฮาแวร์ตซ์จะขึ้นไปเล่นเป็นตำแหน่งกองหน้า แต่ 90% จากนาทีที่เขาลงสนาม เขาเล่นในบทบาทกองกลาง
แฟนบอลอาร์เซน่อล อาจจะมีผิดหวัง และเซ็งไปบ้าง กับการพลาดโอกาสทำประตูของเขา อย่างในจังหวะที่หลุดเดี่ยวแล้วยิงออกในเกมส์กับนิวคาสเซิ่ล แต่ฮาแวร์ตซ์มอบสิ่งอื่นให้กับอาร์เซน่อลได้อย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพในการเล่น off-ball ของเขา
การเล่นกับบอลของฮาแวร์ตซ์ ยังมีพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะ แต่ตอนนี้เราเริ่มได้เห็นความสำคัญ และบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ของ "ไค ฮาแวร์ตซ์" ในทีมอาร์เซน่อล ที่กำลังอยู่ในเส้นทางไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก หนแรกในรอบ 20 ปี
[Tactics Analysis] อาร์เตต้ารีดศักยภาพ Off-the-Ball "คิงไค" ออกมาใช้อย่างเต็มกำลัง
Started by
Admin
, Mar 01 2024 12:28 AM, 2 replies to this topic
#1
Posted 01 March 2024 - 12:28 AM
#2
Posted 01 March 2024 - 10:11 AM
ถ้า ฮาแวร์ตซ์ เรียกจังหวะ First Touch และความมั่นใจการจบสกอร์ได้แบบสมัยอยู่เลเวอร์คูเซ่น ฮาแวร์ตซ์ จะเป็นอดีต Wonder kid อีกคนที่ถูกรีดเร้นศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ แบบเดียวกับ โอเดการ์ด ในตอนนี้เก่งรอบด้านเลย
แล้วความเจ๋งของทีมคัดสรรนักเตะอาร์เซน่อลชุดนี้ มองขาดกว่าแฟนบอลทั่วไป ที่ไม่รู้จะเซ็น ฮาแวร์ตซ์ มาทำไม แต่ทีมงาน เขามีแผนอยู่แล้วว่าจะใช้งานนักเตะคนนี้แบบไหน ตอนนี้แฟนบอลส่วนใหญ่ก็คงจะมองออกกันแล้วว่า ฮาแวร์ตซ์ มอบอะไรให้กับทีมได้บ้าง
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users