อาร์เซน่อล เสมอเบรนท์ฟอร์ด 1-1 ในเกมส์พรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ประตูตีเสมอของ ไอแวน โทนี่ย์ ซึ่งประตูไม่สมควรถูกนับ เนื่องจากภาพรีเพลย์แสดงให้เห็นชัดเจนว่า คริสเตียน นอร์การ์ด ล้ำหน้าอยู่ในจังหวะที่แอสซิทให้กับ โทนี่ย์ โหม่งทำประตู อย่างไรก็ตามจังหวะนั้น ลี เมสัน ผู้ตัดสิน VAR ทำผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ด้วยการลืมตีเส้นเช็กว่า นอร์การ์ด อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนที่สุดท้ายจะยืนยันให้จังหวะนี้เป็นประตูตีเสมอของเบรนท์ฟอร์ด ส่งผลให้อาร์เซน่อลพลาดเก็บสามคะแนน และกระทบกับการลุ้นแชมป์ของทีมปืนใหญ่ แต่นี่ไม่ใช่หนแรกที่อาร์เซน่อลตกเป็นเหยื่อในความผิดพลาดของ VAR ในฤดูกาลนี้
ประตูของมาร์ติเนลลี่ ที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ด
เหตุการณ์เกิดขึ้นในนาที่ 12 ของเกมส์พรีเมียร์ลีกที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ดในเดือนกันยายน มาร์ติน โอเดการ์ด ไปตัดบอลจาก คริสเตียน อิริคเซ่น ที่กลางสนาม ก่อนที่ท้ายที่สุดจะเป็น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ลากบอลไปชิพผ่านมือ ดาวิด เด เคอา อย่างเยือกเย็น ส่งให้อาร์เซน่อลขึ้นนำ 1-0
VAR มีการตรวจสอบภาพช้าในจังหวะที่โอเดการ์ด ปะทะกับ อิริคเซ่น ผู้ตัดสินในเกมส์อย่าง พอล เทียร์นี่ย์ ได้รับคำแนะนำจาก VAR ให้ไปตรวจสอบที่จอมอนิเตอร์ข้างสนาม ก่อนที่จะเปลี่ยนคำตัดสิน และยกเลิกประตูของอาร์เซน่อล จากที่จะขึ้นนำ กลายเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ประตูนำจากอันโตนี่ ก่อนที่จะจบเกมส์อาร์เซน่อลแพ้ 1-3
ในเดือนธันวาคม สมาคมผู้ตัดสินอาชีพ (Professional Game Match Officials Board : PGMOL) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบผู้ตัดสินในการแข่งขันฟุตบอลอังกฤษ ได้มีการตรวจสอบการทำหน้าที่ของ VAR ในช่วงแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ พบว่ามี 6 เหตุการณ์ที่ VAR ตัดสินผิดพลาด ซึ่งประตูของมาร์ติเนลลี่ก็คือหนึ่งในนั้น
และผู้ตัดสิน VAR ในเกมส์นั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ "ลี เมสัน" คนเดียวกับที่ลืมตีเส้นล้ำหน้าในเกมส์กับเบรนท์ฟอร์ดนั่นเอง
โดนล็อกเป็นมวยปล้ำก็ไม่ได้จุดโทษที่เซาแธมป์ตัน
เกมส์ที่อาร์เซนอ่ล บุกไปเสมอเซาแธมป์ตัน เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นในนาทีที่ 14 ของเกมส์ กาเบรียล เฆซุส กองหน้าของอาร์เซน่อล ถูกกองหลังของเซาแธมป์ตัน ล็อกตัวก่อนจะดึงล้มลงกับพื้น ขณะที่เขากำลังจะแซงไปรับบอล
โรเบิร์ต โจนส์ ผู้ตัดสินในเกมส์ดังกล่าว โบกมือให้เล่นต่อ กับการประท้วงว่าควรเป็นลูกจุดโทษ ขณะที่ VAR ก็ไม่ได้มีความเห็นแย้งกับคำตัดสินของโจนส์ อาร์เซน่อลควรจะได้จุดโทษและยิงนำเป็น 2-0 แต่จบลงด้วยการเสมอ 1-1
หลังเกมส์ดังกล่าว เฆซุสให้สัมภาษณ์ถึงจังหวะนี้ว่า: "ผมไม่อยากที่จะพูดเกี่ยวกับการตัดสินของกรรมการ ผมเพียงต้องการพูดเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของเรา แต่บางครั้งมันสามารถเปลี่ยนเกมส์ได้ ผมได้คุยกับเขาโดยตรงหลังจากนั้น และเขาบอกว่า ถ้าคุณล้มลงก่อนหน้านั้น บางทีผมอาจจะเป่าให้เป็นจุดโทษ แต่ผมคิดว่า ผมพยายามที่จะรั้งเพื่อเล่นต่อ แต่สุดท้ายเขาคว้าตัวผมไว้ เป็นไปไม่ได้ ที่ผมจะล้มลงได้ตามปกติ"
เบิร์นดึงเสื้อกาเบรียลแทบขาด แต่อาร์เซน่อลไม่ได้จุดโทษ
ในครึ่งเวลาหลังในเกมส์ที่อาร์เซนอ่ล เปิดบ้านพบนิวคาสเซิ่ล เมื่อเดือนก่อน อาร์เซน่อลสมควรจะได้จุดโทษ เมื่อ กาเบรียล มากัลเญส ถูก แดน เบิร์น กองหลังของนิวคาสเซิ่ลดึงเสื้อ ในขณะที่กองหลังทีมชาติบราซิลกำลังจะพุ่งตัวเข้าไปเล่นบอล จากลูกตั้งเตะ
เห็นได้ชัดว่า เบิร์น มีเจตนาที่จะรั้งไม่ให้ กาเบรียล เข้าไปถึงบอล แต่ผู้ตัดสิน แอนดี้ เมดเลย์ โบกมือให้เล่นต่อ และอีกครั้งที่ VAR ไม่ได้มีการแทรกแซงคำตัดสิน ช่วงท้ายเกมส์มีอีกจังหวะที่อาร์เซน่อล เรียกร้องจุดโทษ ในจังหวะที่ กรานิต ชาคา เปิดบอลไปโดนแขนของ ยาค็อบ เมอร์ฟี่ ในกรอบเขตโทษ เช่นเดิมที่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษ รวมถึง สจ๊วต แอตเวลล์ ผู้ตัดสินจากห้อง VAR ก็ไม่ได้มีความเห็นแย้ง สุดท้ายอาร์เซน่อลทำได้แค่เสมอนิวคาสเซิ่ล 0-0
มิเกล อาร์เตต้า ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมส์ว่า: "มันเป็นสองจุดโทษ มันชัดเจนมาก ผมพูดจากสิ่งที่ผมเห็น และมันคือสองจุดโทษที่น่าอัปยศที่เราไม่ได้"
สรุปแล้วฤดูกาลนี้อาร์เซน่อล ทำคะแนนหลุดมือไป 5 เกมส์ (เสมอ 3 แพ้ 2) แต่ปรากฏว่ามีอยู่ 4 เกมส์ที่ VAR เป็นหนึ่งในตัวแปรต่อผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเกมส์ล่าสุดกับเบรนท์ฟอร์ด ที่เป็นการตรวจสอบจังหวะล้ำหน้า ซึ่งเป็นการตัดสินจากภาพที่ปรากฏอย่างชัดเจน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดุลยพินิจใดๆ ของผู้ตัดสิน มันไม่ควรมีความผิดพลาดแบบนี้ขึ้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมส์วันเสาร์ของพรีเมียร์ลีก ทั้งในคู่อาร์เซน่อล และไบรท์ตัน ทำให้วงการผู้ตัดสินของอังกฤษอื้อฉาว และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอีกครั้ง ยิ่งไปเกิดขึ้นกับสโมสรที่กำลังขับเคี่ยวลุ้นแชมป์อยู่ในเวลานี้ ยิ่งทำให้เรื่องราวใหญ่ตกขึ้นไปอีก ทำให้ PGMOL ต้องออกมาขอโทษสโมสรอย่างเป็นทางการกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และมีการเรียกประชุมผู้ตัดสินแบบเร่งด่วน