ทฤษฏีเงินอาร์เซน่อลหายไปไหน? ทำไมไม่มีเงินซื้อนักเตะ
#22
Posted 02 September 2017 - 11:28 PM
เราเพิ่งทำหลุดมือไป 6 คะแนน ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีคไม่เคยมีทีมไหนคว้าแชมป์ได้ด้วยคะแนนรวม 109 คะแนน ถือว่าเรายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อยู่ครับปีนี้
ปล. เหลืออีก 35 นัดเราจะคว้า 105 คะแนนรวดครับ
ผมเชื่อในเวนเกอร์และขุมกำลังที่แข็งแกร่ง
#24
Posted 03 September 2017 - 12:04 AM
จ่าฝูงยังเป็นไปได้ครับ ทั้งหมดมี 114 คะแนน
เราเพิ่งทำหลุดมือไป 6 คะแนน ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีคไม่เคยมีทีมไหนคว้าแชมป์ได้ด้วยคะแนนรวม 109 คะแนน ถือว่าเรายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อยู่ครับปีนี้
ปล. เหลืออีก 35 นัดเราจะคว้า 105 คะแนนรวดครับ
ผมเชื่อในเวนเกอร์และขุมกำลังที่แข็งแกร่ง
3 นัดแรกแพ้ไปสอง ยังไม่แพ้ได้อีกเยอะ
#25
Posted 03 September 2017 - 12:06 AM
จริงๆ สมัยก่อนเราก็ไม่เคยเซ็นนักเตะแพงๆ อยู่แล้วนะ ก่อนสร้างสนามก็หาเพชรในตมมาปั้น ไม่งั้นก็ต่อแล้วต่ออีก แต่ส่วนใหญ่จะใช้งานได้ เพราะเวงเกอร์เน้นสไตล์ดำ ถึก เร็ว เล่นฉลาด จนได้ฉายาว่าเป็นนักปั้นมือทอง
หลังจากสโมสรเริ่มปลดหนี้ได้ เวงเกอร์ก็เซ็นนักเตะเข้ามาเรื่อยๆ แต่เปลี่ยนสไตล์มาเป็นขาว หล่อ กะทัดรัด เจ็บง่าย จ่ายไปจ่ายมา บางช่วงฟอร์มกำลังดีๆ ก็เจ็บ หรือบางตัวซื้อมาแทบไม่เคยให้โอกาสลงสนามเลย เรียกได้ว่าฝีมือในการเลือกซื้อนักเตะตกลงอย่างมาก
ส่วนฝีมือในการเลือกตำแหน่งของนักเตะก็ตกลงอย่างมาก สมัยก่อนเวงเกอร์ได้รับคำชื่นชมอย่างมากในการเปลี่ยนตำแหน่งของอองรีจากปีกขวามากองหน้าตัวเป้า ช่วงหลังๆ ตำแหน่งที่เวงเกอร์เลือกให้นักเตะดูจะฝืนธรรมชาติมากกว่า
ในอดีตเราเคยเล่นแผน 4-4-2 มาโดยตลอดโดยยึดกลางรับ 2 ตัวที่เป็นตัวขับเคลื่อนเกมทั้งวิเอร่า เปอร์ตี จิลแบร์โต้ หรือแม้กระทั่งเรย์ พาร์เลอร์ โดยมีปีกสองข้างที่พร้อมสนับสนุนเกมรุกทุกวิถีทาง ทั้งสลับฝั่ง โจมตีด้านข้าง หรือหุบเข้ามาตรงกลางก็ทำได้เนียนตา ทั้งโอเวอร์มาส์ ปิแรส ลุงเบิร์ก เคล็บ ฯลฯ
หลังจากที่เราตกรอบ ucl ติดๆ กันหลายปี เวงเกอร์เลยเปลี่ยนแผนมาเป็น 4-5-1 โดยตัดมิดฟิลด์ตัวรับเหลือแค่ 1 ตัวหรือบางนัดไม่มีตัวรับเลย และปรับกองหน้าเหลือแค่ 1 ตัว โดยหวังว่าเกมรับจะแน่นขึ้น แต่เปล่าเลย เราเสียประตูเยอะขึ้น จนต้องปรับมาเป็นแผน 3-5-2 ในปัจจุบัน และตอนนี้ก็เหมือนจะเป็นจุดอ่อนอีกครั้ง
เขียนมาซะยาว สรุปเลยแล้วกันนะครับว่าจริงๆ แล้วโทษเรื่องเงินอย่างเดียวไม่ได้ครับ เพราะเวงเกอร์เคยมีเงินน้อยกว่านี้มากๆ ในช่วงสร้างสนาม ที่ต่างคือเวงเกอร์มือตกลงไปมากครับ ทั้งการเลือกนักเตะ การเซ็นนักเตะเข้ามาใหม่ แท็คติกในการเล่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องโทษที่บอร์ดบริหารด้วยที่ไม่แสดงความทะเยอทะยานหรือกดดัน ผจก ทีมให้มากกว่านี้ ถ้าให้เลือกได้ก็คงขอให้โครเอนเก้ยอมขายทีมและเวงเกอร์ยอมวางมือก่อนที่ทีมจะตกต่ำไปมากกว่านี้
โดนใจมากๆครับ ผมนั่งลุ้นทุกปีว่าเวงเกอร์มันคงจะเอาจริงตาสว่างเเล้วมั้งเพราะโดนด่าโดนวิจารย์โดนไล่หนักมาก
เเต่ปรากฎว่ารูปแบบการเล่นทุกอย่างเหมือนเดิมเป๊ะตอนนี้รู้เเล้วว่าฝีมืออีเจ๊มันเเค่นี้จริงๆ
#28
Posted 03 September 2017 - 12:48 AM
#29
Posted 03 September 2017 - 01:45 AM
ส่วนตัวผมอยากให้แฟนๆที่อังกฤษออกมากดดันโครเอนเก้มากกว่าที่จะออกมากดดันเวนเกอร์นะ แม้ว่าผลงานในสนามจะกระทบจากการตัดสินใจของเวนเกอร์ก็จริงแต่ส่วนตัวยังไงก็มองว่าถ้าสามารถบีบให้โครเอนเก้ออกไปได้ยังไงเจ้าของทีมคนใหม่ไม่น่าจะให้โอกาสเวนเกอร์ขนาดนี้ ผมได้ติดตาม denver nugget ที่โครเอนเก้แกเองก็เป็นเจ้าของ บอกได้คำเดียวว่าไม่ได้ต่างอะไรกับปืนในตอนนี้เลย ไม่ได้เป็นทีมที่ลุ้นแชมป์แม้แต่นิดเดียว ได้แต่วัดดวงกับดาวรุ่งทุกๆปี ถึงปืนเปลี่ยน ผจก ทีม ผมเองเชื่อว่าทุกๆอย่างก็ยังเหมือนเดิม เพราะการเซ็นนักเตะแต่ละคนคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ผจก เพียงแค่คนเดียวแน่นอน มุมมองของผมคือโครเอนเก้มองว่าเวนเกอร์คือตัวที่ดึงดูดนักเตะเลยมีโอกาสทำให้ไม่ต้องทุ่มก็สามารถเซ็นนักเตะได้ บวกกับแนวทางในการซื้อนักเตะของเวนเกอร์ที่มองว่ามูลค่านักเตะไม่สมเหตุสมผลเลยทำให้คู่หูนรกคู่นี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ตราบใดที่โครเอนเก้ยังอยู่ตอนนี้ผมไม่เชื่อว่าปืนจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
#30
Posted 03 September 2017 - 07:04 AM
เรื่องต่อสัญญานักเตะไม่ใช่ว่าสโมสรยืดเรื่อง แต่นักเตะมันไม่อยากต่อต่างหาก สโมสรก็พยามยามเจรจานักเตะตลอด
ประเด็นของผมคือสโมสรไม่ทุ่มเทให้กับกาารยกระดับทีมสุดท้ายดึงสตาร์มาเล่นจนจะหมดสัญญายังคว้าแชมป์ลีคไม่ได้เลย
แถมยังไม่ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์ลีคเลยด้วย ปีนี้เริ่มต้นได้ดีในการเสริมสองนักเตะ แต่กลับหยุดอยู่แค่นี้เนี่ยแหละที่
แสดงให้เห็นความทะเยอทะยานของสโมสรอย่างดีเลย ปีนี้แค่จุดเริ่มต้น แต่ปีนี้หายนะแน่เพราะสตาร์จะหายไปหมด
ระดับของทีมจะตกลง
#32
Posted 03 September 2017 - 08:14 AM
ถ้าจะพูดว่า แล้วตอนต่อสัญญาอีเจ้ สโมสรว่ามีงบ200M£ ให้อีเจ้ปรับปรุงทีมล่ะ
เออ...มันปลายฤดูกาลยังไม่รู้ว่าจะตะกายถึงTop4หรือป่าว และถ้าไม่พูดแบบนี้
ฤดูกาลหน้า ยอดตั๋วปีหายแน่ จะใช้คำว่า "หลอกลวงแฟนบอลตัวเอง" ก็หนักไป
แค่เทคนิคทางการตลาดในการรักษายอดตั๋วปีเอาไว้
คงได้แค่รอ แล้วห่วงแบบห่างๆ ให้ทีมตกต่ำมากๆ มูลค่าทีมใกล้ๆติดลบ เราถึงจะเห็นปลิง
ยอมขายทีม แต่ถ้าอีเจ้ยังอยู่อาจต้องรอนานหน่อย
#34
Posted 03 September 2017 - 08:22 AM
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users