แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรที่ทุ่มเงินมากที่สุดในซัมเมอร์นี้ ด้วยตัวเลข 217.3 ล้านปอนด์ กับการเสริมเกมส์รับด้วยการดึง ไคส์ วอล์คเกอร์ (50 ล้านปอนด์) เบนจามิน เมนดี้ (49.2 ล้านปอนด์) ดานิโล่ (26.9 ล้านปอนด์) และเอแดร์สัน (34.7 ล้านปอนด์) ส่วนแนวรุกมีเสริม แบร์นาโด้ ซิลวา (43 ล้านปอนด์) และดั๊กกลาส รุยซ์ (10 ล้านปอนด์)
ตามมาด้วยแชมป์เก่า เชลชี ที่จ่ายเงินไป 202 ล้านปอนด์ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเวลานี้ ที่เสริมเนื้อๆ เน้นๆ ไป 169.5 ล้านปอนด์ กับการดึงโรเมลู ลูกากู (90 ล้านปอนด์) เนมันย่า มาติช (40 ล้านปอนด์) และวิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ (39.5 ล้านปอนด์) รวมถึงการเซ็นสัญญาซลาตัน อิบราฮิโมวิช อีกครั้ง
ขณะที่ทีมในกลุ่ม TOP7 ทีมอื่นก็ใช้เงินเสริมทัพไปไม่ใช่น้อย เอฟเวอร์ตัน (152.9 ล้านปอนด์) ลิเวอร์พูล (89.5 ล้านปอนด์) ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (61.4 ล้านปอนด์) และอาร์เซน่อล (52 ล้านปอนด์)
CASH FROM SALES
เอฟเวอร์ตัน เป็นสโมสรที่ได้เงินจากการขายนักเตะมากที่สุดในซัมเมอร์นี้ โดยพวกเขาขายนักเตะได้ 109.75 ล้านปอนด์ โดยหลักๆ เป็นการขายลูกากูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เชลชี ก็ได้เม็ดเงินกลับมาใกล้เคียงกัน 109 ล้านปอนด์ เนมันย่า มาติช (40 ล้านปอนด์) นาธาน อาเก้ (20 ล้านปอนด์) ฆวน กวาร์ดาโด้ (17 ล้านปอนด์) อัสเมียร์ เบอร์โกวิช (10 ล้านปอนด์) เบอร์ทราน ตราโอเร่ (8.8 ล้านปอนด์) นาธาเนียส ชาโลบาน (7 ล้านปอนด์) และคริสเตียน อัสซู (6.2 ล้านปอนด์)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่าจะทุ่มเงินไปเยอะที่สุดแต่พวกเขาก็ได้เงินคืนจากการปล่อยนักเตะส่วนเกินออกไปได้ถึง 83.24 ล้านปอนด์ ตามมาด้วยอาร์เซน่อล (70.5 ล้านปอนด์) ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (68 ล้านปอนด์) สวอนซี (59 ล้านปอนด์) และเบิร์นลี่ย์ (48.5 ล้านปอนด์)
NET SPEND
แต่เมื่อหักลบยอดซื้อ และยอดขาย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่จ่ายเงินมากที่สุดโดยพวกเขาใช้เงินไปสุทธิ 160.5 ล้านปอนด์ ตามมาด้วยสโมสรร่วมเมืองแมนซิตี้ 134.06 ล้านปอนด์ ตามมาด้วยเชลชี (93 ล้านปอนด์) วัตฟอร์ด (51.7 ล้านปอนด์) ลิเวอร์พูล (46.5 ล้านปอนด์) และเอฟเวอรืตัน (43.15 ล้านปอนด์)
มีเพียงแค่ 5 สโมสรที่ได้กำไรในตลาดนักเตะ สวอนซีมียอดเงินสุทธิ +19.5 ล้านปอนด์ ที่น่าสนใจคือทีมใหญ่ทั้งอาร์เซน่อล และท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ก็ได้กำไรในตลาดรอบนี้