สื่อชั้นนำต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า อาร์เซน่อลกำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะคว้าตัว ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดคนหนึ่งของยุโรป เข้ามาเสริมทัพให้ได้ในตลาดนักเตะเดือนมกราคมนี้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องรอดู วันนี้มาดูความเป็นมาของ ดาวยิงวัย 21 ปีรายนี้กันสักหน่อย
วาเลรี่ โบยินอฟ ตอนนั้นเขาเป็นกองหน้าคนสำคัญของปาร์ติซาน เบลเกรด ในขณะที่เขาได้เห็นเด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ยิงประตูได้ และประเดิมสนามในเกมส์ดาร์บี้แมตซ์กับ เร้ดสตาร์ เบลเกรด
ทุกสัปดาห์ วลาโฮวิช แสดงให้โบยินอฟได้เห็น ไม่นานนักที่ทางอดีตกองหน้าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ติดต่อไปยัง อิตาโล คอนวินโน ผู้อำนวยการกีฬาของฟิออเรนติน่า เพื่อมาซื้อกองหน้าตัวสำรองของเขาด้วยค่าตัว 1.7 ล้านปอนด์
โบยินอฟกล่าวว่า: "เขาบ้ามาก บ้าจริงๆ แต่ผมชอบความเย่อหยิ่งของเขา ผมคิดว่าเขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่ง"
ดาวยิงเซิร์บ เดินไปยังเมืองฟลอเรนซ์เมื่อเขาอายุครบ 18 ปี และทำในสิ่งที่จะทำให้เขาเป็นที่รักของคนท้องถิ่นให้ได้เร็วที่สุดคือ กลางวันเขาเรียนภาษาอิตาเลี่ยน ส่วนกลางคืนเขาลงไปยิงประตู
แล้วเมื่อ อินเตอร์ มิลาน เดินทางมาเยือนฟิออเรนติน่าในเดือนธันวาคม 2019 เป็นเกมส์ที่เขาแจ้งเกิดแบบเต็มตัว เมื่อเป็นคนยิงตีเสมอ 1-1 ให้กับฟิออเรนติน่า ในนาทีที่ 91 ของเกมส์ จากจังหวะที่เขาได้บอลจากกลางสนาม ก่อนที่จะกระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษ และซัดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบเสาสองอย่างสวยงาม
นับตั้งแต่นั่น เขาพุ่งแรงขึ้นไปเรื่อยๆ เขายิงไป 47 ประตูให้กับฟิออเรนติน่า 36 ประตูเป็นการยิงในซีรีย์อาในช่วง 13 เดือนที่ผ่านมา และได้พลิกโฉมทีมม่วงมหากาฬจากทีมที่ต้องดิ้นร้นหนีตกชั้น 2 หน กลายเป็นทีมที่ขึ้นมาลุ้นพื้นที่ฟุตบอลถ้วยยุโรปในฤดูกาลนี้
แม้ว่าเขาจะรูปร่างสูงใหญ่ 6 ฟุต 3 นิ้ว แต่เขาทำประตูได้จากลูกโหม่งเพียงแค่สองประตูเท่านั้น สิ่งที่เขาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และยิงประตูได้จากทุกระยะ การเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู เขาเป็นหนึ่งในคนที่มีสถิติดีที่สุดในอิตาลี ขณะที่การยิงจุดโทษของเขาไม่เคยพลาดเป้าเลย สถิติ 100%
เขามีอะไรมากกว่าที่เห็นด้วยตา อย่างที่ โบยินอฟ ค้นพบ คือความกระหายของเขาที่จะผลักดันตัวเองขึ้นไปในระดับที่สูงที่สุด ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ ซลาตัน อิบราโมวิช ในวัยหนุ่ม
เมื่อฟิออเรนติน่า เปิดบ้านรับเอซี มิลาน ในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน วลาโฮวิช ได้ลงสนามพบกับไอดอลของเขาในสนาม ทั้งเขา และซลาตันยิงได้ แต่ท้ายที่สุดวลาโฮวิชได้บอกว่า "สิ่งที่คุณทำได้ ผมได้มากกว่า" หลังจากที่เขายิงประตูที่สอง เขาชี้ไปยังพื้นสนามของ อาร์เตมิโอ ฟรานซี่ เหมือนกับพูดว่า "นี่คือบ้านของผม" แบบเดียวกับที่ กาเบรียล บาติสตูต้า อดีตกองหน้าดาวดังของฟิออเรนติน่าเคยทำในแบบเดียวกัน
แม้ว่าเขาจะเป็นที่รักของแฟนบอลฟิออ และแม้ว่าบอร์ดบริหารจะยื่นข้อเสนอให้เขาเป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร แต่เขาก็ตัดสินใจจะย้ายออกไปจากทีม ในแบบเดียวกับบาติโกล เพื่อที่จะก้าวไปประสบความสำเร็จในอนาคต
การถูกยกไปเปรียบเทียบกับฮาแลนด์?
ถ้าหากปี 2020 เป็นปีของเออร์ริ่ง ฮาแลนด์ ในปี 2021 ก็ควรเป็นของวลาโฮวิช เขายิงไป 33 ประตูในซีรีย์อา เป็นรองเพียงแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จากบรรดา 5 ลีกชั้นนำของยุโรป และทำสถิติเทียบเท่ากับ คริสเตียนโน โรนัลโด้ ที่ยิงประตูได้มากที่สุดในปีปฏิทิน
เขาเคยถูกถามให้เปรียบเทียบตัวเองกับฮาแลนด์ เขากล่าวว่า: "บางทีเขาอาจจะเร็วกว่าผมเท่านั้น แต่ที่เหลือเราเจอกันได้"
สูง ร่างกายแข็งแกร่ง เลือดเย็น มีความกระหาย และถนัดเท้าซ้าย เหมือนทั้งคู่ถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน แต่ฮาแลนด์ จะเป็นผู้เล่นที่เคลื่อนที่ และมีส่วนร่วมในการ Build-up แต่วลาโฮวิช จะเป็นกองหน้าสไตล์ Target Man มากกว่า
การแข่งขันแย่งตัวฮาแลนด์ จะร้อนแรงขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ เมื่อค่าฉีกสัญญา 75 ล้านยูโร (62.5 ล้านปอนด์) ของเขาจะมีผลบังคับใช้ แต่ทาง มิโน ไรโอล่า เอเยนต์ของเขาบอกว่าจะมีเพียงแค่ 4 สโมสรเท่านั้นที่เขาจะเลือกไปอยู่ด้วยนั่นคือ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ดังนั้นทีมที่อกหักจากฮาแลนด์ ก็อาจจะลงสนามแข่งขันอย่างเข้มข้นในการคว้าตัว วลาโฮวิช ที่จะเหลือสัญญาอีกแค่ 12 เดือนเมื่อถึงซัมเมอร์หน้า ก็ไม่แปลกใจที่อาร์เซน่อล พยายามอย่างหนักในการที่จะคว้าตัวนักเตะให้ได้ตั้งแต่เดือนมกราคมนี้เลย เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะลงแข่งขันในศึกที่พวกเขาไม่มีวันชนะ
เราเคยวิเคราะห์เกี่ยวกับสไตล์การเล่นของวลาโฮวิชไปแล้ว จากสถิติของ Smarter Scout ที่บ่งบอกว่าจุดเด่นของ วลาโฮวิช คือความอันตรายในกรอบเขตโทษ ดูจากการรับบอลในกรอบเขตโทษ (68 เต็ม 99) และจำนวนการยิงในกรอบเขตโทษ (78 เต็ม 99)[/size]
จากตำแหน่งที่เขายิงประตูได้ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณกรอบเขตโทษ แต่จะมีแค่ลูกเดียวเท่านั้นที่ยิงจากระยะ 6 หลา อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่กองหน้าที่จะถอยลงต่ำมาเชื่อมเกมส์กับเพื่อนร่วมทีม เหมือนที่เรากำลังได้เห็นจาก อเลซองเดร์ ลากาแซตต์ กองหน้าตัวเป้าของอาร์เซน่อลในเวลานี้ [/size]การเชื่อมเกมส์กับเพื่อนร่วมทีมอยู่ในระดับ 10 คะแนนจากคะแนนเต็ม 99[/size] ชี้ให้เห็นชัดว่าเขาคือกองหน้าสไตล์ Target Man อย่างแท้จริง [/size]
ดังนั้นถ้าอาร์เซน่อล ต้องการกองหน้าตัวเป้า ที่มีความชาญฉลาดในการหาพื้นที่กรอบเขตโทษ และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม วลาโฮวิชสามารถตอบโจทย์ตรงนี้ให้กับพวกเขาได้ รวมถึงการพักและเก็บบอลในแดนหน้า