นิตยสารคิกเกอร์ ของประเทศเยอรมัน ได้สัมภาษณ์พิเศษกับ "ไดมอนต์อาย" สเวน มิสลินสแตท สุดยอดแมวมองแห่งวงการลูกหนังเมืองเบียร์ ที่ออกจากโบรุยเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปทำงานเป็นหัวหน้าแมวมองของอาร์เซน่อล เมื่อเดือนที่ผ่านมา
เขาเริ่มงานวันแรกกับสโมสรแห่งใหม่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และวันเสาร์เขาได้เข้ามาชมเกมส์ที่อาร์เซน่อลเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย
Q: การตัดสินใจย้ายออกจากโบรุยเซีย ดอร์ทมุนด์?
ผมเกิดและโตที่ดอร์ทมุนด์ เรียนหนังสือที่นั่น แน่นอนว่าผมไม่ปิดประตูที่จะกลับมาที่นี้อีก แต่ผมไม่ได้ย้ายออกมาเพื่อที่จะรอเวลาที่จะกลับไป ผมกำลังเดินตามเส้นทางของตัวเอง และผมต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ที่อาร์เซน่อล ผมต้องการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ผมตื่นเต้นกับความท้าทาย และง่ายที่จิตนการเห็นตัวเองอยู่กับอาร์เซน่อล ในลอนดอน ไปอีก 10-12 ปี กับครอบครัวของผม และผมรู้สึกว่าที่นี้คือบ้าน
Q: ทำไมถึงมาเริ่มต้นกับอาร์เซน่อลในช่วงกลางฤดูกาล?
การเริ่มต้นในช่วงเดือน ตุลาคม, พฤศจิกายน หรือธันวาคม เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด มันเป็นช่วงที่ตลาดเงียบที่สุด คุณมีเวลาในการเขียนเอกสารของนักเตะเป้าหมาย
Q: ฐานะที่ถูกยกย่องว่าเป็น "กูรูในการซื้อนักเตะ" มันกดดันมากกว่าที่ดอร์ทมุนด์หรือเปล่า?
ตอนที่ผมเริ่มงานที่ดอร์ทมุนด์ เกือบทุกคนตั้งคำถามกับผมว่า ผมจะสามารวิเคราะห์ หรือวิเคราะห์คู่แข่งได้ดีพอหรือ? แต่ผมก็โชคดีมากที่ได้เข้ามาในช่วงที่ดอร์ทมุนด์กำลังเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ การเซ็นสัญญาผมเข้ามา มันไม่ได้การันตีว่าคุณจะซื้อนักเตะดีๆ เข้ามาในทีม สิ่งที่จำเป็นการคือทีมงานที่จะช่วยกันขับเคลื่อน ทำงานอย่างหนัก เพื่อบรรลุเป้าหมายในการหานักเตะดีเข้ามาสู่สโมสร
Q: คุณขึ้นชื่อว่าหานักเตะดาวรุ่งดีๆ มาให้ดอร์ทมุนด์ได้อยู่เรื่อยๆ งานของคุณกับอาร์เซน่อลมันจะแตกต่างจากเดิมหรือไม่?
ผมไม่สามารถประเมินความเหมื่อนหรือต่างได้ทั้งหมด แต่อาร์เซน่อลเป็นสโมสรที่มีนโยบายการเสริมทัพคล้ายกับดอร์ทมุนด์
Q: คุณทำงานกับอาร์แซน เวนเกอร์ โดยตรงเลยหรือเปล่า?
แน่นอน อาร์แซน และอีวาน กลาซิดิช ซีอีโอของสโมสร เป็นคนที่ผมจะรายงานความคืบหน้าต่างๆ ด้วย นอกเหนือจากนั้นมันขึ้นอยู่กับการพูดคุยกับอาร์แซน ว่าสโมสรต้องการอะไร? คุณภาพแบบไหนที่มองหา? คาแร็กเตอร์ของนักเตะแบบไหนที่เราควรเซ็น? หาตัวแทนนักเตะคนไหน? อันดับแรกสุดคือเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของทีมก่อน และเรียนรู้ปรัชญาที่อาร์แซนต้องการ
Q: ในระยะเวลา 11 ปีกับการเซ็นสัญญามากมายที่คุณมีส่วนร่วม นักเตะคนไหนที่คุณต้องต่อสู้มากที่สุดเพื่อให้ทีมคว้าตัว?
ถ้าหากพูดถึงเรื่องนี้ การย้ายทีมที่ผมดื้อรั้นมากที่สุดก็คือ ชินจิ คากาวะ และปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง
Q: ทำไมถึงเป็นคากาวะ?
Thomas Kroth ไม่เห็นด้วยกับเรา จนผมเข้าไปคุยกับหัวหน้าเขาแล้วพูดว่า: "นี่เป็นนักเตะญี่ปุ่นที่เล่นอยู่ในเจลีก 2 รีบเซ็นเขามาเลย!!" ผมทำหลายอย่างในการโน้วน้าว เราไปญี่ปุ่น 6 ครั้งเพื่อดูเขา และเราเซ็นคากาวะมาแค่ 350,000 ยูโร
Q: แล้วโอบาเมยองล่ะ?
เราค้นหานักเตะที่จะเข้ามาแทนที่ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่ในสายตาของเราเขาไม่ใช่ เขาไม่ได้มีจุดแข็งแบบเดียวกับเลวานดอฟสกี้ เพราะเป็นกองหน้าในสไตล์ที่แตกต่าง ดังนั้นมันต้องใช้เวลานานกว่าจะตัดสินใจเซ็นสัญญากับเขา ช่วงแรกของออกไปเล่นริมเส้น