ก่อนเกมส์นัดเปิดฤดูกาลกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์นี้ ทาง ESPN ได้เชิญอดีต 5 นักเตะที่เคยทำงานร่วมกับ อูไน เอเมรี เฮดโค้ชของอาร์เซน่อล ถึงสไตล์การทำงาน และเรื่องแท็กติกการเล่น
1. สไตล์การเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ:
เซซาร์ ซานเซซ อดีตผู้รักษาประตูจากบาเลนเซีย: "อูไน เป็นโค้ชเกมส์รุก แต่เขาสามารถที่จะสั่งให้ทีมไม่เสียประตูให้น้อยลงก็ได้เช่นกัน ทีมของเขาลงไปเพื่อชัยชนะ แฟนบอล จะไม่ได้เห็นการครองบอลไปมา พวกเขาจะได้เห็นฟุตบอลในแบบที่คนอังกฤษชอบ เกมส์เปิด และเล่นเกมส์รุกด้วยความดุดัน"
มิเกล อังเคล โคโลน่า อดีตมิดฟิลด์ของอัลเมเรีย มั่นใจว่า เอเมรี กำลังมองหาสมดุลในทีมอาร์เซน่อลที่เสียไป 51 ประตูเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาในยุคของอาร์แซน เวนเกอร์ เขากล่าวว่า: "อูไน ชอบให้ทีมเล่นเกมส์รับอย่างรัดกุม แต่เขาต้องการให้ทีมมุ่งหน้าไปที่การทำประตูของคู่แข่งด้วย"
2. เอเมรีจะใช้แท็กติก 4-2-3-1 แต่ก็ไม่กลัวที่จะปรับเปลี่ยน:
4-2-3-1 คือระบบที่เอเมรี ใช้มาตลอดอาชีพการเป็นโค้ชของเขา แต่ที่ปารีส แซงต์แชร์กแม็ง เขาถูกบีบให้ต้องเปลี่ยนมาเล่นระบบ 4-3-3- เพื่อเปิดพื้นที่ให้กับ เนย์มาร์, เอ็มบัปเป้ และเอดิสัน คาวานี่
เซซาร์กล่าวว่า: "ผมคิดว่าเขาจะรู้สึกอุ่นใจกว่าในการเล่นระบบ 4-2-3-1 และเมซุส โอซิล สามารถปรับตัวเขากับทีมของเขา และมีชาก้า กับตอร์เรยร่า มาสร้างสมดุลในแดนกลาง แต่เขาก็กล้าที่จะให้นักเตะเปลี่ยนไปเล่นระบบอื่นได้เช่นกัน"
ด้าน ซาบี้ โมโร่ อดีตนักเตะจากลอร์ฆ่า เสริมว่า: "อูไน เชื่อมั่นในปรัชญามากกว่าระบบการเล่น เขานิยมจะใช้ระบบ 4-2-3-1 แต่เขาก็มีเปลี่ยนมาเล่น 4-4-2 ในบ้างครั้ง เขาสามารถเลือกระบบที่ดีที่สุดจากคู่แข่งที่ต้องเจอ เพราะเขาศึกษาคู่แข่งเยอะมาก เขาทำงานทั้งในสนาม พูดคุย ดูวีดีโอ จากนั้นเขาจะแผนที่ดีที่สุดในกับทีม"
3. เมซุส โอซิล จะเป็นคีย์แมน
ตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ หมายเลข 10 เป็นบทบาทสำคัญในแผนการเล่นของเอเมรี อย่างที่ได้เห็นตอนที่เขาใช้ โจอาควิน, ฆวน มาต้า, ดาบิล ซิลบา, อีวาน ราคิติช และเอแวร์ บาเนก้า ที่บาเลนเซียกับเซบีญ่า
ดังนั้นโคโลน่า อดีตเพลย์เมกเกอร์จากอัลเมเรียเชื่อว่าโอซิลจะเป็นคีย์แมนของทีม: "อูไน ต้องการให้นักเตะของเขาปลดปล่อยความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ และผมมั่นใจว่าเขาจะงัดฟอร์มโอซิลกลับมาใช้ได้อย่างเต็มที่"
เซซาร์เสริมว่า: "ซิลบา เคยเล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 ให้กับเรา มากกว่าที่จะออกไปเล่นด้านข้าง หมายเลข 10 เป็นคีย์สำคัญของเอเมรี เพราะเขาต้องการนักเตะที่สามารถเชื่อมกองกลางกับกองหน้าได้"
"กองกลางสองคนทำให้ทีมมีความสมดุล และหนึ่งคนสามารถเติมขึ้นไปข้างหน้าได้ ถ้าใครสักคนจะเรียกฟอร์มที่ดีที่สุดของโอซิลออกมา คนนั้นก็คืออูไน เอเมรี"
4. ฟูลแบ็คจะเติมขึ้นไปเล่นเกมส์บุก
เอเมรี เป็นผู้จัดการทีมที่มักจะเปลี่ยนตัวริมเส้นอย่าง จอร์ดี้ อัลบา และอัลแบร์โต้ โมเรโน่ ให้กลายมาเป็นฟูลแบ็ค และกลายเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของพวกเขาไปเลย เขายังเคยได้ใช้งานฟูลแบ็คสายบุกอย่าง ดานี่ อัลเวส หรือมาเรียโน่
ยูริ เบร์ชิเช ที่ทำงานกับเอเมรีในเปแอสเช กล่าวว่า: "เอเมี ชอบให้ฟูลแบ็คเติมขึ้นไปเล่นเกมส์รุก และให้ทั้งทีมเพลสซิ่งสูงในแดนของคู่แข่ง เขาบอกกับเราว่าอย่าได้กลัวที่จะเติมเกมส์รุก เพราะพวกเขาต้องการให้ฟูลแบ็คมีส่วนในเกมส์บุก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าตัวเองคือกองหลัง"
5. ผู้รักษาประตูต้องมีส่วนกับเกมส์รุกของทีมด้วย:
อูไน เอเมรี มีบางอย่างที่คล้ายกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือเขาชอบผู้รักษาประตูที่สามารถเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี ซึ่งทางเซซาร์ เชื่อว่า เลโน่ เหมาะกับสไตล์การเล่นของเอเมรี
"อูไน ไม่ต้องการให้ผู้รักษาประตูจับบอล 30 ครั้งแบบบาร์เซโลน่า แต่เขาต้องการให้ผู้รักษาประตูสามารถเล่นบอลได้ทั้งสองเท้า เพื่อจ่ายบอลตัดทะลุไลน์ของคู่แข่ง และรีบมองไปยังประตูของคู่แข่ง"
"เอเมรี ชอบที่จะสร้างทีมจากด้านหลัง แต่เขาไม่ได้ต้องการให้ผู้รักษาประตูรับความเสี่ยงที่มากเกินไป ผมไม่รู้ว่า เลโน่ จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก่อน ปีเตอร์ เช็ก หรือเปล่า แต่มองว่ามันเป็นปัญหาที่ดีสำหรับอูไนนะ เพราะเขาไม่มีปัญหาที่จะโรเตชั่นผู้รักษาประตู อย่างตอนคุมบาเลนเซีย เขาก็สลับใช้งานระหว่างผมกับ กูเอต้า"
6. เป็นคนที่เข้าถึงนักเตะได้เป็นอย่างดี
เอเมรี อายุ 46 ปี แต่เขาเคยผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน เขาเริ่มต้นคุมทีมลอร์ฆา คุมทีมซ้อมนักเตะที่มีอายุเท่ากับเขา ประสานรอยร้าวในห้องแต่งตัวของบาเลนเซีย ที่มีปัญหาในยุคของโรนัลด์ คูมัน
"เขาพยายามที่จะใกล้ชิดกับนักเตะ และเข้าใจพวกเขา เพราะเขาจิตวิทยาก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากในเกมส์ของเขา" นิโกลาส ปาเรฮากล่าว
"ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนักเตะดีมากๆ และเขาพยายามที่จะกระตุ้นเรา เขาต้องการให้เราซ้อมหนักๆ เพื่อให้เราเติบโต เขาชอบที่จะคุยกับเราเยอะๆ เขาทำงานอย่างมืออาชีพ นั่นทำให้นักเตะได้รับความช่วยเหลือจากเขา เพราะเขาพยายามสอนทุกแง่มุม เพื่อดึงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมา"