นักเตะของอาร์เซน่อล และทีมสต๊าฟโค้ชได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ศูนย์ฝึกลอนดอน โคลนี่ย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีก 24 ชั่วโมงสโมสรจะทราบผลการตรวจ และหากพบผู้เล่นติดเชื้อเพิ่มเติม และมีจำนวนผู้เล่นไม่เพียงพอที่จะลงทำการแข่งขันตามระเบียบที่กำหนด ก็สามารถขอยื่นขอเลื่อนโปรแกรมการแข่งขันได้
แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าอาร์เซน่อลจะพร้อมลงทำการแข่งขัน ด้วยขุมกำลังนักเตะที่เหลืออยู่ในตอนนี้ การที่กรานิต ชาคา โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมส์เสมอลิเวอร์พูล 0-0 ในคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เขาติดโทษแบน ไม่สามารถลงเล่นในเกมส์กับสเปอร์ได้อย่างแน่นอน
จากใบแดงของชาคา จะส่งผลกระทบทั้งการลุ้นท็อปโฟร์ และการลุ้นเข้าชิงคาราบาวคัพ เนื่องจากเวลานี้อาร์เซน่อล จะเหลือกองกลางอาชีพแค่ อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกองก้า เพียงคนเดียวเท่านั้น และการเซ็นสัญญากองกลางตัวใหม่ก็ยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นมีทางเลือกใดบ้างสำหรับอาร์เซน่อลในการฝ่าวิกฤตครั้ง
สูตรที่ 1: แซมบี้ โลกองก้า จับคู่ตรงกลางกับ เบน ไวท์
เมื่อถูกถามว่า เบน ไวท์ สามารถเล่นกองกลางได้หรือไม่ ในช่วงก่อนเกมส์ที่จะพบกับลิเวอร์พูล อาร์เตต้าบอกว่า: "มันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เรามี เขาเคยเล่นตรงนั้นมาก่อน" ซึ่งไวท์เขาเคยมีประสบกาณณ์ทั้งการเล่นแบ็คขวา, เซนเตอร์แบ็คในระบบหลังสาม และกองกลางทั้งสมัยที่เล่นกับไบรท์ตัน และลีดส์ ยูไนเต็ด
ครั้งล่าสุดที่เขาได้เล่นกองกลางคือเกมส์ที่ไบรท์ตันแพ้แมนซิตี้ 1-0 เมื่อฤดูกาลก่อน และเขาต้องทำหน้าที่ตามประกบ เควิน เดอ บรอยน์ ขณะที่ตอนไปเล่นยืมตัวที่ลีดส์ เขาลงเล่นทุกนัดในลีก 46 เกมส์ และเขาเคยเล่นกองกลางอยู่ 4 ครั้ง
ไวท์เคยให้สัมภาษณ์กับ The Athletic เมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อนว่า: "ในการฝึกซ้อม ผมมักจะที่จะฝึกซ้อมในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ตั้งแต่ที่ผมเริ่มไปที่นั่น ผมฝึกซ้อมกับคาลเว่น ฟิลิปป์ ดังนั้นผมได้เห็นสิ่งที่เขาทำและเรียนรู้จากเขาในทุกวัน ส่วนในเกมส์ผมยืนอยู่ด้านหลังเขา เมื่อเวลาที่ผมต้องลงเล่นตรงนั้น ผมรู้ว่าผมต้องทำอะไร"
แต่กับอาร์เซน่อล ไวท์ยังไม่เคยเล่นในบทบาทนี้มาก่อน และเขาจะเล่นร่วมกับโลกองก้าได้อย่างไร แน่นอนว่าบ่อยครั้งที่เขาจะขยับขึ้นมาจากตำแหน่งเซนเตอร์ ขึ้นมาจ่ายบอลกลางสนาม แต่เมื่อต้องยืนในตำแหน่งที่สูงขึ้น แล้วระหว่างเขากับโลกองก้า ใครจะเล่นเป็นหมายเลข 8
ตอนที่กรานิต ชาคา เล่นกับโลกองก้า ชาคาจะขยับดึงขึ้นสูง ขณะที่โลกองกน้าจะยืนในตำแหน่งที่ต่ำกว่า ซึ่งด้วยการที่ไวท์เป็นนักเตะที่มีความมั่นใจเวลาที่ครองบอล และมีความสามารถในการอ่านเกมส์ที่ดีเยี่ยม รู้สึกเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผล ถ้าจำเป็นต้องใช้งานเขาในตำแหน่งนี้
แต่การที่ขยับไวท์ขึ้นมา แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบกับตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค ร็อบ โฮลดิ้ง จะเป็นคนที่จะมาทำหน้าที่แทน แต่เขาไม่ได้มีความสามารถในการออกบอลแบบที่ไวท์ทำได้ อาร์เซน่อลจะสูญเสียรูปแบบในการ Build up จากแดนหลังไปอย่างแน่นอน
สูตรที่ 2: โลกองก้าจับคู่กับคาลัมม์ แชมเบอร์
คล้ายกับไวท์ แชมเบอร์ มีประสบการณ์ในการเล่นแบ็คขวา, เซนเตอร์ และกองกลางตัวรับ สมัยที่เขาถูกปล่อยไปให้ฟูแล่ม ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2019/20 เขาลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ไป 22 จาก 33 เกมส์ที่ลงเล่นให้ทีมเจ้าสัวน้อย
เขาเคยกล่าวในเดือนธันวาคม 2020: "ช่วงเวลาของผมที่ฟูแล่ม มันมหัศจรรย์มาก ผมได้เรียนรู้เยอะในการเล่นในตำแหนงกองกลาง ผมเข้าใจบทบาทของมิดฟิลด์ ทั้งเวลาที่มีบอล และไม่มีบอล การสื่อสารที่จำเป็น แน่นอนการได้เรียนรู้ในตำแหน่งอื่นมันช่วยทำให้คุณได้พัฒนาขึ้น"
ถ้าอาร์เตต้าเลือกที่จะส่งแชมเบอร์ มาเล่นกองกลาง ซึ่งเขาจะเหมาะกับการเล่นเป็นตัวตัดเกมส์ โดยมีโลกองก้าที่ขยับขึ้นมาเล่นเบอร์ 8 แต่การจะใช้แชมเบอร์ได้นั้น ก็ต้องดูว่า ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ จะสามารถฟิตกลับมาลงเล่นได้หรือไม่ เพราะเวลานี้เอง อาร์เซน่อลก็ไม่มีผู้เล่นในตำแหน่งแบ็คขวาเช่นเดียวกัน
สูตรที่ 3 เปลี่ยนระบบการเล่นไปเลย
มิเกล อาร์เตต้า เคยพยายามทดลองจะเล่นในระบบ 4-3-3 อยู่หลายหนในฤดูกาลนี้ อย่างในช่วงต้นฤดูกาลที่ไปเยือนเบิร์นลี่ย์ในเดือนกันยายน รวมถึงล่าสุดที่ใช้ สมิธ โรว์ กับโอดการ์ด ในบทบาทคู่เบอร์ 8 โดยมีกองกลางตัวรับยืนอยู่หลังพวกเขา ในเกมส์ที่ชนะซันเดอร์แลนด์ 5-1 ในลีกคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตามผลการทดลอง ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีนักในแง่ของความสมดุล และตรงกลางเผยให้เห็นช่องโหว่
หรือจะใช้ระบบการเล่นเดิม แล้วหากสมิธ โรว์ ฟิตกลับมาลงเล่นได้ ก็ขยับเข้าลงมาต่ำ ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพียงแต่ถ้า สมิธ โรว์คู่กับโลกองก้า จะไม่มีคนที่มีความโดดเด่นเรื่องเกมส์รับเลย แตกต่างหากจะใช้ ไวท์ หรือแชมเบอร์ ที่ดูจะเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า
หรืออีกวิธีนึงคือการปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบหลัง 5 แบบที่พวกเขาใช้เป็นการเฉพาะกิจที่แอนฟิลด์เมื่อคืน เพื่อลดจุดอ่อนในการขาดกองกลางอาชีพ อย่างไรก็ตามอาร์เตต้า ไม่ได้ใช้แผนนี้มาตั้งแต่ที่บุกชนะเชลชีเมื่อปลายฤดูกาลก่อน และหากเลือกได้เขาก็จะไม่ใช้แผนนี้
สูตรที่ 4 ใช้ดาวรุ่งมาทดแทนไปเลย
แน่นอนว่าต้องมีเสียงก่นด่า หากจะใช้งานนักเตะดาวรุ่งขึ้นมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ กับเกมส์ที่สำคัญแบบนี้ ซึ่งได้เห็นมาแล้วกับผลการแข่งขันกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าไม่ง่ายสำหรับการดันดาวรุ่งขึ้นมา และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น พวกเขายังต้องการความช่วยเหลือจากนักเตะรุ่นพี่ และทำให้รู้สึกว่าพวกเขาสามารถเล่นได้ผ่อนคลายมากขึ้น
และด้วยแรงกดดันของเกมส์ที่กำลังจะมาถึง มันหนักหนากว่าเกมส์กับฟอเรสต์หลายเท่าตัว นี่น่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ สำหรับมิเกล อาร์เตต้า ที่จะใช้งาน ชาร์ลี ปาติโน่ หรือซาล่าห์ อูลาร์ด สองกองกลางวัย 18 ปี ที่เป็นคู่กลางตัวหลักของทีม U23
4 สูตรแก้ไขปัญหาขาดแคลนผู้เล่นแดนกลางของอาร์เซน่อลก่อนบุกเยือนสเปอร์
Started by
Admin
, Jan 14 2022 09:01 PM, 3 replies to this topic
#1
Posted 14 January 2022 - 09:01 PM
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users