Jump to content



Photo

สัมภาษณ์พิเศษ "เฟรดดี้ ลุงเบิร์ก" ประสบการณ์ผู้ช่วยโค้ชที่อาร์เซน่อล

- - - - -

  • Please log in to reply

#1
Admin

Posted 28 November 2020 - 03:21 PM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,453 posts
  • LocationBangkok

84abdf1df77f58300672b248281a4124.jpg


เฟรดดี้ ลุงเบิร์ก เริ่มต้นด้วยเรื่องราวในรากฐานชีวิตและอาชีพของเขา เริ่มต้นในฐานะนักฟุตบอล ต่อมาในฐานะของโค้ช และตอนนี้เขากำลังรอที่จะไปอีกขั้นในฐานะผู้จัดการทีม
 
 
หลังจากแขวนสตั๊ดเลิกเล่น ลุงเบิร์กถูกแต่งตั้งให้เขามาคุมทีมอาร์เซน่อล U15 ในปี 2016 และต้องการปลูกฝังคุณค่าแบบที่เขาได้รับในวัยใกล้เคียงกัน และในการเดินทางสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
 
"ผมกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพเมื่อตอนผมอายุ 16 ปี มันเป็นทีมที่ดีเป็นแชมป์ของสวีเดน เราซ้อมกันตอนบ่ายสาม ผมจำได้ว่าเราออกจากบ้านกันตอน 6 โมงเช้า และผมทำงานในไซต์งานก่อสร้าง เราพักกินข้าวกันตอนบ่ายโมง ตามด้วยนั่งรถบัสอีกกว่าชั่วโมงเพื่อไปซ้อม เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกรำคาญมาก แต่มันก็ทำให้ผมเข้าในว่ามันเป็นสิทธิพิเศษแค่ไหนที่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ตอนนี้ผมยังรู้สึกขอบคุณกับประสบการณ์นั้น"
 
"ที่นี่ (ทีมอาร์เซน่อล) ผมต้องการที่จะพานักเตะไปที่ไซต์งานก่อสร้างสองวัน เพื่อให้พวกเขาเริ่มทำงานตอน 6 โมง จนถึง 4 ทุ่ม และดูว่าชีวิตมันยากแค่ไหน หรือเมือพวกเขามาซ้อมสาย ผมสั่งให้พวกเขาไปช่วยงานสต๊าฟที่ดูแลสนาม ทั้งหมดคือสิ่งที่ผมต้องการที่จะเพิ่มเข้าไปให้กับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเข้าใจว่าเรามีสิทธิพิเศษแค่ไหนในการเป็นนักฟุตบอล"

ลุงเบิร์ก สร้างความประทับใจให้กับ อันเตรีย ยอนเคอร์ ผู้อำนวยการอะคาเดมี่ของอาร์เซน่อล และเมื่อยอนเคอร์ ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมสโมสรโวล์ฟบวร์ก ในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 เขาดึงลุงเบิร์กไปเป็นผู้ช่วย 
 
เขาตอบรับข้อเสนอดังกล่าว และลุงเบิร์ก ได้วางแผนที่จะเดินทางไปเยอรมันล่าช้าสักหน่อย เขาไม่ต้องการไปจนกว่าจะได้คุยกันครั้งสุดท้ายกับ อาร์แซน เวนเกอร์ ลุงเบิร์กกล่าวว่า: "ผมนั่งรอที่สนามบิน และกำลังรอให้ อาร์แซน มา เพราะเขาต้องการนัดพบกับผม เขาบอกกับผมว่า เฟรดี้ ไม่เป็นไร คุณไปได้ แต่พยายามเรียนรู้ เราอยากให้คุณกลับมาในสักวันหนึ่ง"
 
โวล์ฟบวร์ก ตัดสินใจปลด ยอนเคอร์ และทีมสต๊าฟ หลังผ่านไปเพียงแค่ 6 เดือน ในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 ลุงเบิร์กกลับมาเป็นโค้ชทีมอาร์เซน่อล U23 ซึ่งเป็นแผนที่ เวนเกอร์ ริเริ่มก่อนที่เขาจะอำลาตำแหน่งเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนั้น เป็นการยุติบทบาท 22 ปีในฐานะผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล
 
"เขาแนะนำให้ผมทำทีมในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ผมก็ได้เรียนรู้เพื่อนเพิ่มเติม นักเตะเองก็ได้เรียนรู้จากผม และเป็นพื้นฐานที่ดี และเป็นเหตุที่ผมรู้สึกว่าการทำทีม U23 เป็นเรื่องสำคัญมาก ในการบอส มีสต๊าฟของตัวเอง และเหมือนการเตรียมตัวก่อนที่จะขยับขึ้นมารับงานคุมทีมชุดใหญ่ในสักวัน"
 
"ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคุณมองดูตอนนี้ โฟลาริน บาโลกัน, ไทรีส จอห์น-จูซ, บูคาโญ ชาคา และคนอื่นๆ บางคนอยู่ในทีม U15 ตอนที่ผมเริ่มต้น และตอนนี้พวกเขาอยู่ในทีมชุดใหญ่ ผมต้องการเรียนรู้จากพวกเขา อะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้เล่นดาวรุ่ง ผมเป็นเหมือนไดโนเสาร์กับวิธีคิดที่แตกต่างไปจากที่เด็กเหล่านั้นคิดอย่างไม่น่าเชื่อ"
 
"ผมต้องการเรียนรู้ว่าอะไรที่ทำให้พวกเขาเข้าใจ และผลักดันพวกเขาไปข้างหน้า ดังนั้นผมมีวิธีที่ง่ายกว่าในการสื่อสารกับพวกเขา สำหรับผมมันเหมือนการเข้าเรียน เป็นช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผมสนุกและได้เรียนรู้มากมาย"
 
 
GettyImages-1214272325-e1606498308790.jp
 
สมัยที่ลุงเบิร์ก เป็นนักเตะอาร์เซน่อล เขาพาทีมปืนใหญ่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย และพาทีมเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ในนามทีมชาติเขาพาสวีเดนไปเล่นฟุตบอลโลก 2 ครั้ง และฟุตบอลยุโรป 3 ครั้ง 
 
นับเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับอาร์เซน่อล แต่เวลานี้อาร์เซนอลอยู่ในอันดับ 12 ในพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตามพวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 4 สมัยจาก 7 ฤดูกาลหลังสุด แต่พวกเขาก็ไม่ได้เล่นในแชมเปี้ยนลีกตั้งแต่ฤดูกาล 2016/17
 
มีหลายเหตุผลที่จะอธิบายถึงการตกต่ำของอาร์เซน่อล และการใช้เวลา 1 ปีในการทำงานกับทีมชุดใหญ่ ก่อนที่จะอำลาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาเป็นผู้ช่วยของทั้ง อูไน เอเมรี และมิเกล อาร์เตต้า และระหว่างรอยต่อเขาเป็นเฮดโค้ชชั่วคราว 
 
"ชัยชนะมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับผมมันเกี่ยวกับจิตใจ ผมไม่ได้หมายความว่านักเตะไม่ต้องการที่จะชนะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมกำลังจะบอก ผมเพียงแค่บอกว่าถ้าคุณมองไปที่ตัวบุคคลที่มีจิตใจแบบนั้น เมื่อสมัยที่ผมเล่น ยกตัวอย่าง มีบางคนทำได้ไม่ดีและแพ้ในตอนซ้อม แต่เมื่อถึงวันเสาร์ ไม่มีอะไรนอกจากชนะ ผมเห็นมันในตัวนักเตะบางคง ดังนั้นนั่นเป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก" 
 
"อาร์เซน่อลมีนักเตะที่ดีมากๆ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เขาคือนักเตะระดับท็อป ผมยกตัวอย่าง คีแรน เทียร์นี่ย์ เขายอดเยี่ยมสำหรับสโมสร เขามีความมุ่งมั่นที่จะชนะอย่างที่คุณได้เห็นหลังเกมส์ที่เจอกับลีดส์ ผมไม่สามารถพูดอะไรได้มากทางทีวี (ลุงเบิร์กเป็นนักวิเคราะห์กับสกายสปอร์ตในเกมส์วันอาทิตย์ที่ผ่านมา)"
  
และแบรนด์ เลโน่ ที่ช่วยเซฟทีมไว้ได้บ่อยครั้ง แล้วพวกเขาก็มีนักเตะดาวรุ่งที่ทะลุขึ้นมา ในมุมมองของผมพวกเขามีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อ พวกเขายังมีนักเตะระดับท็อปอีกบางคน คุณสามารถที่จะสร้างทีมขึ้นมาได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นให้เวลากับพวกเขา และหวังว่ามันจะมาถึง
 
หนี่งในนักเตะอาร์เซน่อล ที่ประสบความสำเร็จที่สุดทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติอย่าง เมซุต โอซิล แต่เขาถูกตัดชื่อออกจากทีมในฤดูกาลนี้ ทั้งในพรีเมียร์ลีก และยูโรป้าลีก
 
"เมซุตคือนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม เราทราบเรื่องนั้น เราทั้งหมดมีมุมมองที่แตกต่าง และทุกคนต้องยอมรับกับความคิดเห็นที่แตกต่าง สำหรับผมบางทีในวิถีของฟุตบอลที่ผ่านมา เขาไม่ใช่นักกีฬาที่เล่นเกมส์รับ ดังนั้นเมื่อคุณต้องเล่นกับแมนซิตี้ คุณไม่มีบอล และคุณต้องวิ่งตามพวกเขา บางทีคุณต้องการผู้เล่นที่เป็นนักกีฬามากกว่านั้น"
 
"แต่เมื่อคุณเจอกับคู่แข่งที่เป็นรอง และถอยลงไปตั้งรับต่ำ และคุณต้องการใครบางคนที่จะปลดล็อกมัน เมซุตมีคุณภาพอย่างเต็มที่ในการทำสิ่งนั้น ผมคิดว่ายังมีพื้นที่ให้นักเตะแบบเขาในเกมส์ลักษณะแบบนั้น"
 
"แต่คุณต้องมีการสื่อสารกับผู้เล่น ไม่เพียงแค่เมซุต เกมส์ที่แตกต่างเหมาะกับนักเตะบางคน และอีกเกมส์เหมาะสมกับคนอื่น วันที่ได้ลงเล่นทุกนาที ลงเล่นทุเกมส์ บางทีมันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยเหมือนแต่ก่อน"
 
"เมื่อตอนที่ผมออกมาจากทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ เขายังอยู่ในทีม และตอนนี้เขาไม่อยู่ เกิดอะไรขึ้นที่นั่น ผมไม่สามารถตอบได้ ในตอนที่ผมขึ้นไปคุมทีมชั่วคราว ผมส่งเขาลงเล่นเมื่อผมคิดว่าเขาสามารถปลดล็อกเกมส์รับของคู่แข่งได้ แม้ว่าผมจะรู้ว่าการทำหน้าที่ในเกมส์รับของเขาจะไม่ดีเหมือนนักเตะคนอื่น ดังนั้นในมุมของผม ยังมีพื้นที่สำหรับเมซุต ในบางเกมส์"
 
นิโกล่า เปเป้ ปีกทีมชาติไอวอร์รี่โคสต์ เจ้าของค่าตัวสถิติสโมสร 72 ล้านปอนด์ เมื่อตอนย้ายจากลีลส์มาอยู่กับอาร์เซน่อลในซัมเมอร์ปี 2019 แต่เขามีปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอ และล่าสุดโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมส์กับลีดส์
 
"ผมคิดว่านิโก จะกลับมาทำได้ดี นักเตะทุกคนทำความผิดพลาดได้ ผมเคยถูกไล่ออกที่สเปอร์ อย่าถึงขั้นเอากันให้ตายเลย เพราะมันเกิดขึ้นได้กับเราทุกคน สิ่งสำคัญคือพวกเขาจะตอบสนองอย่างไรหลังจากนั้น เขาเพียงแค่ทำงานให้หนักขึ้น และพยายามพิสูจน์ตัวเอง เขาไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่าย เพราะทุกสายตา ต่างเจาะมาที่เขา"
 
"คุณสามารถพูดง่ายๆ ได้แบบว่า ก็ให้เขาได้ลงเล่นสิ โอเค แต่คุณก็มีนักเตะคนอื่นอีกหลายคนที่ต้องการลงเล่นเช่นกัน นั่นเป็นสิ่งที่ยาก เมื่อคุณมาจากลีกเอิง มาที่พรีเมียร์ลีก คุณต้องปรับตัว ฟุตบอลมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นคุณต้องการเกมส์ แต่คุณก็ต้องการผลลัพธ์ในเวลาเดียวกัน"
 
ลุงเบิร์ก ถูกดันขึ้นมาทำงานกับทีมชุดใหญ่ ในซัมเมอร์ปี 2019 โดยเขาสลับตำแหน่งกับสตีฟ โบลด์ ที่กลับไปคุมทีม U23 แทน โดยสโมสรต้องการให้เขาเข้ามาช่วยเชื่อมโยงกับนักเตะดาวรุ่งที่ทีมดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ เช่น ชาคา, ริสส์ เนลสัน และโจ วิลล็อค
 
ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ผลการแข่งขันของทีมย่ำแย่ และบรรยากาศต่าง ๆ กลับเป็นพิษ และอูไน เอเมรี เฮดโค้ชของทีมในเวลานั้น ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากแท็กติกที่เขาใช้ และปัญหาในการสื่อสารภาษาอังกฤษ จนสุดท้ายกุนซือชาวสเปนถูกปลด และลุงเบิร์ก ถูกดันให้ขึ้นมาคุมทีมชั่วคราว
 
"ผมคิดว่าเหตุผลหลักคือเราสูญเสียการเชื่อมต่อกับแฟนบอลของเรา ผมไม่คิดว่ามันเพราะเรื่องภาษาของอูไน แต่มันเหมือนกับเราติดกับอะไรบางอย่าง เช่น อาร์แซน ที่หลายคนพูดถึงเรื่องการรูปซิปแจ็คเกตของเขา บอกครั้งที่ผมได้ยินเรื่องล้อเลียนภาษาของอูไน แต่ผมรู้ว่าเขาเข้าเรียนภาษาอังกฤษ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และเขาก็พัฒนาเรื่องภาษาขึ้นมาเยอะ"
 
"สำหรับผม ผมได้เรียนรู้เยอะมาก อูไนเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยม เขาได้แสดงให้เห็นมาตลอดหลายปีกับสโมสรอื่น และที่อาร์เซน่อลเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น ผมพยายามเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด และผมคิดว่ามันวิเศษมาก ตัวอย่างเช่น โค้ชที่ผมเคยทำงานด้วยก่อนหน้านี้อาจจะมีวิธีการเล่น 1-2 วิธี และพวกเขาก็เล่นแบบนั้นเสมอ ในขณะที่อูไน เขาใช้แท็กติกที่แตกต่างมากมาย ผมได้เรียนรู้หลายแท็ตติก และผมไม่เคยเห็นวิธีแบบนั้นมาก่อน"
 
"เขามีทีมงานโค้ชเป็นชาวสเปนหลายคน และผมก็ได้เรียนรู้ว่าเขาทำงานกับทีมงานอย่าไงร ฆวน คาร์ลอส คาร์เซโด เป็นผู้ช่วยของเขา และผมทำงานอย่างใกล้ชิดมากๆ กับเขา เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม และสอนผมเยอะมาก"
 
เมื่อลุงเบิร์ก เข้ามาขัดตาทัพ เขาดึงสปิริตของทีมกลับมา แต่ผลการแข่งขันของทีมยังไม่ใกล้มา เขายังแค่เกมส์เดียวจากการคุมทีม 6 นัด 
 
"เมื่อผมขึ้นมาคุมทีม เราสูญเสียการเชื่อมต่ออย่างสิ้นเชิง ในมุมมองของผมกับแฟนบอล มันเป็นเรื่องยากลำบากที่ได้เห็น เพราะผมรักแฟนบอล และผมก็เป็นแฟนบอล ใน 6 เกมส์ของผมมีเกมส์เยือน 4 นัด และเราไม่ชนะใครเลยในเกมส์เยือนพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่นัดแรกของซีซั่น ผมเห็นว่าเราถูกโจมตีจากการโต้กลับเยอะมาก และผมต้องการแก้ไข จากนั้นก็อยากให้ผู้เล่นมีอิสระในการเล่น เช่นเดียวกันเราดูเหนื่อยล้าหลังผ่านไป 60-70 นาที เราไม่ฟิตจริงๆ
 
"มันคือสามสิ่งที่ผมพยายามแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลาอันสั้น และเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากที่ได้คุยกับทีมงาน โอเคผมไม่สามารถให้พวกเขาซ็อมหนักได้ ผมชอบการซ้อมที่จริงจัง สั้นและกระชับ ผมไม่ต้องการให้ซ้อมนาน และเราไม่ผลักดันพวกเขามากเกินไปจนเกิดอาการบาดเจ็บ เราพยายามเปลี่ยนแปลงบางอย่างเบื้องหลัง"
 
"ความโล่งใจเมื่อเราชนะ 3-1 ที่เวสต์แฮม และวิธีการเล่นของเรา ทุกคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ผมได้แรงบันดาลใจจากคล็อปป์ และกวาดิโอล่า และผมรู้สึกหลังจากนั้น เมื่อเราทำให้เวสต์แฮมล้า เราเล่นได้ดีมากในช่วง 20-30 นาทีสุดท้าย"
 
"หลังเกมส์เมื่อนักเตะเขามา และกอดผม มี 1-2 คนที่มีน้ำตา คุณสามารถรู้สึกถึงแรงกดดันที่พวกเขามี ความวิตกกังวลที่พวกเขามี มันจะเป็นสิ่งที่จะติดตัวผมไปตลอดกาล และผมเข้าใจว่านักเตะรู้สึกอย่างไรในทุกวันนี้ เมื่อสมัยผมเป็นนักเตะ ยังไม่มีโซเซียลมีเดีย และผมคิดว่ามันมีความกดดันที่มากกว่ากับนักเตะในวันนี้ พวกเขารู้สึกถึงแรงกดดันนี้ และความวิตกที่ผมไม่เคยเจอ"
 
GettyImages-1192960755-scaled-e160649855

หลังจากนั้นลุงเบิร์ก ไม่ได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังในการคุมทีมแบบถาวร สโมสรเลือก มิเกล อาร์เตต้า ที่เป็นผู้ช่วยของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่อายุน้อยกว่า และมีประสบการณ์ที่ไม่ได้แตกต่างจากลุงเบิร์กเลย

"ผมแค่คุมทีมชั่วคราว ผมคิดว่าอาร์เซน่อลมีความชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนั้น พวกเขาจะมองหาโค้ชในระหว่างที่ผมช่วยคุมชั่วคราว ผมได้ถามว่าผมสามารถหาผู้ช่วยของตัวเองได้ ที่สามารถช่วยผมได้นิดหน่อย ซึ่งผมไม่ได้รับสิ่งนั้น จากนั้นผมก็รู้แล้วว่ามันเป็นระยะสั้นมาก และนั่นก็ดีสำหรับผม ผมรู้และผมพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อสโมสรที่ผมรัก"
 
เมื่ออาร์เตต้าเขามา ลุงเบิร์ก ถูกส่งขึ้นไปอยู่บนอัตจรรย์ แทนที่จะนั่งอยู่ซุ้มม้านั่งข้างสนาม เริ่มมีการตั้งคำถามว่าเขามีส่วนร่วมตรงจุดไหนในทีมงานสต๊าฟของอาร์เตต้า
 
"สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในวันแข่งคือผมไปนั่งอยู่บนอัฒจรรย์และมองลงมา ผมมีหูฟังสำหรับติดต่อกันข้างสนาม ผมสามารถบอกได้ว่าคู่แข่งเพลสแบบไหน หรือคู่แข่งมีช่องโหว่ตรงไหนที่เราสามารถโจมตีได้ หรือเรากำลังมีปัญหากับบางสิ่งบางอย่างที่ผู้เล่นของเราไม่ได้ทำ แบบที่เราซ้อมกันเอาไว้ในสัปดาห์นั้น"
 
"มันเป็นเรื่องยากที่จะเห็นทุกอย่างจากการนั่งอยู่ข้างสนาม ดังนั้นผมจดบันทึก วาดรูป สื่อสารกับม้านั่งสำรอง และเดินลงมาในช่วงพักครึ่งและบอกสิ่งที่ผมได้เห็น มันคือสิ่งที่ทีมงานของมิเกลต้องการ และผมก็พร้อมที่จะทำ"
 
"ผมชอบที่จะอยู่ข้างสนาม และรู้สึกมีอารมณ์ร่วม กับความคาดหวัง ความกังวล ผมรักความรู้สึกเหล่านั้น ดังนั้นมันเหมือนจะถูกตัดขาดนิดหน่อยในวันแข่งขัน แต่อีกครั้ง ผมพยายามที่จะเข้าถึงมุมมองจากการเรียนรู้ ผมไม่เคยมีโอกาสแบบนี้มาก่อน และหวังว่าเมื่อผมรู้สึกพร้อม ผมสามารถใช้ความรู้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะพยายาม และเปลี่ยนมันออกในเชิงบวก"
 
ลุงเบิร์ก ตัดสินแยกทางกับอาร์เซน่อล และรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเป็นผู้จัดการทีมแบบเต็มตัว แม้ว่าการอยู่กับอาร์เซน่อลจะเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า แต่เขามีอิสระมากกว่าในการรับตำแหน่งใหม่ เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมเข้ามา
 
"ผมเพียงคิดว่ามันดีกว่าสำหรับผมในการเดินออกมา และผมคิดว่าผมพร้อมที่จะเป็นผู้จัดการทีม"
 
ลุงเบิร์กเชื่อว่าเวลาของเขากำลังจะมาถึง



#2
nnnggg

Posted 28 November 2020 - 03:45 PM

nnnggg

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,847 posts

เอาใจช่วยเฮียนะ ให้เป็น ผจก.ทีม ที่ดี และรุ่งๆนะ



#3
Admin

Posted 28 November 2020 - 06:17 PM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,453 posts
  • LocationBangkok
ทัศนคติแกดีนะลุงเบิร์ก หวังว่าจะไปได้สวยในการคุมทีม

#4
magnum112

Posted 28 November 2020 - 06:44 PM

magnum112

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 5,894 posts
จากที่อ่านพยายามพัฒนาตัวเองตลอดเลย เอาใจช่วยครับ

#5
WatGunner

Posted 28 November 2020 - 10:30 PM

WatGunner

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 968 posts

นี่ล่ะคือทัศนะคติของคนที่ประสบความสำเร็จ เอาใจช่วยคุณนะ ลุงเบิร์ก



#6
bcc153room

Posted 29 November 2020 - 12:36 AM

bcc153room

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 102 posts
เวงเกอร์เห็นอะไรในตัวลุงเบิร์ค นีาอาจจะเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าสของเวงเกอร์




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users