เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ไฮไลท์สำคัญของแฟนบอลอาร์เซน่อล คือ การกลับมาลงสนามเล่นอีกครั้งของ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ กองหลังตัวใหม่ ที่เจ็บหนักที่หัวเข่าจนต้องพักยาวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ทิมเบอร์ ลงเล่นไป 45 นาทีให้กับอาร์เซน่อล U21 ในเกมส์ที่บุกเสมอแบล็คเบิร์น โรเวอร์ 2-2 แค่ 9 นาทีของเกมส์ ทิมเบอร์ ก็พลิกปั่นบอลโค้งๆ เสียบเสาอย่างสวยงามให้อาร์เซน่อล ออกนำ 1-0 แต่สิ่งที่สนใจนอกเหนือจากประตูสุดสวยนี้
คือวิธีการเล่นของ ทิมเบอร์ ที่ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย แบบเดียวกับที่เขาเล่นในช่วงปรีซีซั่น ในจังหวะเกมส์รับอาร์เซน่อลจะยืนเป็น Shape แบ็คโฟร์ แต่เวลาที่ได้ครองบอล กองหลังจะปรับมายืนเป็นหลังสาม แล้วทิมเบอร์จะ Inverted เข้ามาเล่นเป็นกองกลาง มันก็อาจจะเป็น Shape ปกติที่เราเห็นกันจนชินตา เวลาที่ใช้งาน ชินเชนโก้
แต่สิ่งที่เห็นถึงความแตกต่างเลยคือ ทิมเบอร์ เขาไม่ได้แค่ปักหลักจ่ายบอลอยู่ตรงกลางสนามเป็นหลัก แต่เราได้เห็นทิมเบอร์ ขยับขึ้นไปช่วยทำเกมส์ตรงบริเวณ Half Space ฝั่งซ้ายด้วย ในจังหวะที่เขายิงประตูได้ เขาก็รับบอลตรงพื้นที่ตรงนี้
พูดแล้วมันก็น่าเสียดายที่เราแทบไม่ได้ใช้งานเขาเลยในฤดูกาลนี้ แล้วถ้าได้ทิมเบอร์มายืนตรงฝั่งซ้าย น่าจะทำให้การประสานงานและขึ้นเกมส์ทางกราบซ้ายไหลลื่นมากกว่านี้ ส่วนเรื่องสภาพร่างกาย ก็ค่อนข้างสมบูรณ์ เขาไม่ได้หวั่นกับจังหวะเข้าปะทะเลย การลงเคาะสนิมกับเกมส์ U21 ก็ถือเป็นก้าวสำคัญ ในการกลับมาช่วยทีมชุดใหญ่ แต่เราก็ไม่รู้ว่า อาร์เตต้า จะใช้งานทิมเบอร์ในช่วง 4-5 นัดสุดท้ายหรือไม่ หรือจะถนอมไว้สำหรับฤดูกาลหน้า และไม่เสี่ยงให้นักเตะโดนเลือกไปติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่จะลุยยูโร 2024 กลางปีนี้
นอกจากจะโฟกัสไปที่การกลับมาลงสนามของทิมเบอร์แล้ว ผมยังได้เห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวของ อีธาน เอ็นวาเนลลี่ เจ้าหนูวัย 17 ปี เห้ย...นี่มันร่างทรงกัปตันโอเดการ์ดเลยนี่หว่า
เรื่องทักษะความสามารถ และเซนต์บอลไม่มีข้อสงสัยกับเด็กคนนี้เลย มันเก่งแบบโดดเด่นที่สุดในอะคาเดมี่ตอนนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อคืนสิ่งที่ผมเห็นเพิ่มเติมคือเรื่องการเล่นเกมส์รับของ เอ็นวาเนลลี่ เราได้เห็นเขาวิ่งไล่เพลส ไล่บีบแย่งบอล และวิ่งกลับมาช่วยเกมส์รับ
เรื่องเกมส์รับสำคัญมากในการมาเล่นกับระบบของ มิเกล อาร์เตต้า จุดที่ทำให้อาร์เซน่อลมีเกมส์ที่แข็งแกร่งที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ ไม่ใช่แค่คู่เซนเตอร์เก่ง แต่นักเตะทั้งทีมพร้อมที่จะเล่นเกมส์รับ พวกตัวรุกก็ต้องเล่นเกมส์รับได้
ตามข่าวบอกว่า มาร์ติน โอเดการ์ด ทำหน้าที่เป็นเมนเทอร์ส่วนตัวให้กับเอ็นวาเนลลี่ ฤดูกาลหน้าเราน่าจะได้เห็น เอ็นวาเนลลี่ กับทีมชุดใหญ่มากขึ้น และถ้าจะคาดหวังผลผลิตจากเฮล เอนด์ ที่จะสร้างอิมแพ็คได้แบบ บูคาโญ ซาก้า มันก็ต้องเป็นเด็กคนนี้นี่แหละ....