จากระบบ 4-4-2 มาถึง 2-3-2-3: แท็กติกสุดล้ำลึกของมิเกล อาร์เตต้า ในการขับเคลื่อนอาร์เซน่อล กับความเชื่อเรื่องฟุตบอลของเขา ในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ
มีหลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของอาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้ และสิ่งที่ชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือเวลา มิเกล อาร์เตต้า กำลังจะฉลองครบรอบ 3 ปีที่เขาเข้ามาคุมทีมอาร์เซน่อล ทำให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน ที่คุมทีมยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 6
อาร์เซน่อลชุดปัจจุบัน กำลังเล่นด้วยรูปแบบที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้จัดการทีม ทั้งในเชิงของแท็กติก และโครงสร้างที่แต่ละตำแหน่งเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
ในบรรดาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแต่งตั้ง อาร์เตต้า เข้ามา และมอบสัญญาฉบับใหม่ให้กับเขา ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเมื่อฤดูกาลก่อน หนึ่งในสิ่งที่ผู้คนเหล่านั้นตระหนักได้เป็นอย่างดีคือ อาร์เตต้า เป็นคนที่มีความรู้เรื่องแท็กติก และความเข้าใจเกมส์ในระดับสูง
สิ่งนี้มันโดดเด่นตั้งแต่ที่เขายังเป็นนักฟุตบอลอาชีพอยู่ ในปี 2012 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้โทรหาอาร์เตต้าที่ตอนนั้นเขาอายุ 30 ปี เพื่อขอคำแนะนำของเขาก่อนเกมส์แชมเปี้ยนลีกที่บาร์เซโลน่า จะพบกับเชลชี ไม่กี่ปีต่อมาแน่นอน กวาร์ดิโอล่า แต่งตั้ง อาร์เตต้า ให้เป็นผู้ช่วยของเขาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เมื่อได้คุยกับใครก็ตามที่อาร์เซน่อลตอนนี้ ไม่ว่าจะนักเตะหรือใครก็แล้วแต่ พวกเขาจะบอกคุณในสิ่งเดียวกัน มันสมองด้านแท็กติกของอาร์เตต้านั่นสุดยอด คีแรน เทียร์นี่ย์ กล่าวเมื่อปีก่อนว่า: "ผู้จัดการทีมเป็นอัจฉริยะด้านฟุตบอล" กรานิต ชาคา ก็กล่าวเช่นกันว่า: "ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน"
หนึ่งในนักเตะของอาร์เซน่อลได้บอกกับทีมงาน Telegprah อาร์เตต้าจะอธิบายทีมของเขาว่าจะรับมือกับคู่แข่งที่ต้องเจอได้อย่างไร โดยพิจารณาจากวิธีที่คู่แข่งจะตั้งรับ จากนั้นในสนามฝึกซ้อมพวกเขาจะทำซ้ำๆ กับการเคลื่อนที่แบบนั้น จนทำให้เป็นธรรมชาติที่สุด
แล้วเหตุใดเล่า หากอาร์เตต้ามีความคิดที่ก้าวหน้าในเชิงแท็กติกอย่างมาก แต่อาร์เซน่อลต้องใช้เวลาเกือบสามปีในการพัฒนารูปแบบการเล่นในลักษณะของตัวเอง
ในสนามซ้อม อาร์เตต้าเป็นโค้ชที่เน้นปฏิบัติจริงซึ่งคือกุญแจสำคัญ ยกตัวอย่าง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กล่าวว่าในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง เขาเริ่มเข้าใจได้อย่างเต็มที่กับบทบาทที่ซ้ำซ้อนของเขาภายในระบบ มาร์ติน โอเดการ์ด บอกในสัปดาห์นี้ว่า: "เราทั้งหมดเข้าใจสิ่งที่อาร์เตต้าต้องการจากเรามากขึ้น"
ปัจจัยที่สองคือลักษณะเฉพาะ การสร้างทีมไม่ใช่กระบวนการที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และต้องใช้เวลา 6 ตลาด กับเงินมากกว่า 300 ล้านปอนด์ ที่อาร์เซน่อล ทำให้อาร์เตต้า ได้ผู้เล่นในอุดมคติสำหรับที่จะเล่นในระบบ 4-3-3 ที่เขาต้องการได้
ในช่วงหน้าหนาวปี 2020 เมื่อเขาเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงปี เขาเคยกล่าวว่า: "เราต้องการเปลี่ยนมาเล่น 4-3-3 แต่คุณจำเป็นต้องการผู้เล่นที่เฉพาะเจาะจงในทุกๆ ตำแหน่ง ตอนนี้มี 5 หรือ 6 ตำแหน่งที่เรายังไม่มี"
นับตั้งแต่ตอนนั้นพวกเขาเซ็นผู้เล่นอย่าง โอเดการ์ด, เบน ไวท์, แอรอน แรมส์เดล, กาเบรียล เซซุส และโอเล็กซานเดอร์ ชินเซนโก้ คุณสมบัติที่เฉพาะเจาะจงอย่างที่เขาว่า ถูกเติมเข้ามาทีละชิ้น ทำให้ระบบการเล่นของทีมถูกพัฒนามากขึ้น ขณะที่ผู้เล่นดั้งเดิมอย่าง มาร์ติเนลลี่ และชาคา สามารถกำหนดรูปแบบการเล่นของตัวเอง ภายในระบบการเล่นใหม่ได้
ตำแหน่งการยืนโดยเฉลี่ยระหว่างปี 2021 (ภาพซ้าย) และปี 2022 (ภาพขวา) เราจะเห็นว่าตำแหน่งผู้เล่นของอาร์เซน่อลจะขยับสูงมากขึ้น
ระบบการเล่นของมิเกล อาร์เตต้า ถูกสร้างขึ้นมาจากความเข้าใจเรื่องตำแหน่งเป็นหลัก ความเชื่อของเขาคือผู้เล่นทุกคนจะรู้ว่าเพื่อนร่วมทีมอยู่ตรงไหนตลอดเวลา โดยไม่ต้องคิด อย่างที่เขาเคยพูดกับทีมผ่านการทางสารคดี All or Nothing ของ Amazon
วิธีการของเขาต้องการอารมณ์ร่วม และความต้องการเชิงกายภาพจากผู้เล่น ดังนั้นอาร์เตต้าชอบคนที่ทำงานหนัก เข้าใจเกมส์ และต้องการเรียนรู้ ไม่แปลกใจเลยที่เขามอบปลอกแขนกัปตันทีมให้กับโอเดการ์ด ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยอีกคนของเขาที่อยู่ในสนาม
อีกด้านเราจะเห็นการดิ้นร้นของอาร์เตต้า กับการจัดการผู้เล่นที่ไม่เข้ากับแม่พิมพ์นี้ออกไป เขากล้าตัดผู้เล่นระดับซุเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆ ของทีมไม่ว่าจะเป็น เมซุต โอซิล และปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ออกไป นักเตะที่ก่อปัญหาไม่หยุดอย่าง มัตเตโอ เกนดูซี่
อีกหนึ่งเครื่องหมายคำถามที่สำคัญของอาร์เตต้า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากเรื่องของแท็กติกแล้ว ก็เป็นเรื่องการบริหารจัดการทีม เมื่อต้นสัปดาห์มีคลิปหลุดที่โอบาเมยองเคยให้สัมภาษณ์โจมตีอาร์เตต้าออกมาว่า: "เขาไม่สามารถรับมือกับผู้เล่นระดับสตาร์ได้ เขาต้องการเพียงแค่เด็ก ที่มันไม่พูดอะไร พวกนั้นแค่ฟังอย่างเดียว"
สารคดี Amazon ได้จับภาพการสนทนาระหว่าง เอดู กาสปาร์ ผู้อำนวยการเทคนิค กับ สตีฟ ราวด์ ผู้ช่วยโค้ชในห้องอาหาร ราวด์พูดว่า: "ผมพูดเสมอเมื่อเขาเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้เล่นมากขึ้น เขาสามารถไปได้อีกระดับ เพราะความเข้าใจเรื่องแท็กติกของเขามันระดับสูงมาก"
เมื่อเอาตัวปัญหาโยนออกไป และอาร์เตต้ามีสิทธิ์มากขึ้นในการเลือกทีมของตัวเอง ดูเหมือนว่ากุนซือหนุ่มชาวสแปนิชจะประสบความสำเร็จ "ผมไม่เคยอยู่ในห้องแต่งตัวที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว" เขากล่าวหลังเกมส์ชนะลิเวอร์พูล 3-2 เมื่อสัปดาห์ก่อน
วิวัฒนาการของทีม ทำให้เขาสามารถปรับแต่งทีมได้มากขึ้น กับการออกสตาร์ทฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นในรอบหลายปีของสโมสรอาร์เซน่อล ชาคา ขยับขึ้นไปสูงขึ้น ขณะที่ ชินเซนโก้ และเบน ไวท์ ขยับเข้ามาเล่นเป็นเหมือนกับผู้เล่นกองกลาง บางครั้งการขึ้นเกมส์ของอาร์เซน่อลจะยืนกันแบบ 2-3-2-3 โดยที่แนวรับมี วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่เพิ่มความเร็ว และความนิ่งให้กับแนวรับ
การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เหล่านี้ทำให้อาร์เซน่อล พาบอลไปอยู่ในพื้นที่อันตรายได้มากขึ้น และพวกเขาก็ควบคุมเกมส์ได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อนในยุคของอาร์เตต้า ผลลัพธ์ในฤดูกาลนี้จะเป็นเรื่องพิสูจน์ความสามารถในการเป็นโค้ชของเขา และความอดทนของผู้บริหารด้วย ที่ให้เวลากับอาร์เตต้า รวมถึงทรัพยากรด้านการเงิน ที่ทำให้เขาสามารถสร้างทีมในแบบของตัวเอง ตอนนี้มันถึงเวลาที่อาร์เซน่อลจะเก็บเกี่ยวรางวัลกันเสียที
-------------------------------------
สมัครสมาชิกกับ sboaaaa ปั่นสล็อตได้ทุกค่ายดัง โบนัสแตกหลักแสนหลักร้าย เราก็จ่าย สมัครตอนนี้ฝากขั้นต่ำแค่ 100 เท่านั้น

จาก 4-4-2 สู่แผน 2-3-2-3 : พื้นฐานแท็กติกที่ "อาร์เตต้า" ใช้เวลา 3 ปีในการปั้นอาร์เซน่อล
#1
Posted 15 October 2022 - 10:13 AM
PG SLOT แทงบอลออนไลน์
#3
Posted 15 October 2022 - 10:52 AM
ตอนนี้ผลงานดีอะไรก็สวยหรูดูสดใสซาบซ่าไปหมด แต่ก็อย่าลืมว่าถ้าไม่มีปาเตย์ก็อาจจะไม่มีปาร์ตี้ ถ้าอยากให้ทีมสำเร็จได้แชมป์กับเขาบ้าง ขอกลางรับกับหน้าดีๆ มาเสริม โลคอนก้ายังไม่สุกงอมตอนนี้และก็ไม่รู้ว่าจะสุกตอนไหน บังแอลก็ยังคุณภาพไม่ถึง และน้องเอ็นก็ยังไม่สุกและไม่รู้ว่าจะสุกตอนไหนเหมือนกัน
ขอบคุณแอดที่เอาข้อมูลแท็คติกของทีมมาให้แฟนๆ ได้อ่านกันครับ
#6
Posted 15 October 2022 - 12:27 PM
ข้อสังเกตของผมที่ยังคาใจคือ แต้มเราเยอะขึ้นก็จริง แต่อัตราได้-เสียประตูต่อเกมยังเท่าเดิม (ไม่ได้โหดขึ้น หรือเหนียวขึ้น) ต่อมา ฟอร์มเราไม่คงเส้นคงวา ในบางเกมอย่างล่าสุด มันแบบเฮ้ยทีมเดียวกันหรือเปล่ส และเราค่อนข้างพึ่งผู้เล่นมากกว่าระบบ ถ้าขาดปาเตย์หรือมาตี้เราลำบากแน่ จะใช้แผนปาเตย์ 70 นาที (เปลี่ยนออก) คงไม่ได้นาน
#7
Posted 15 October 2022 - 01:24 PM
ชุดหลักตอนนี้ ผมว่าค่อนข้างลงตัว
ความพร้อมและจำนวนผู้เล่น แนวรับ ถือว่าดีและยืดหยุ่น (กับจำนวนเกมตอนนี้)(โกลมือสอง แอบใจสั่นหน่อยๆ)
สำหรับตลาดฤดูหนาวนี้ ส่วนตัวคิดว่าต้องได้ กองกลางอายุน้อยตัวทดแทน(ปาเตย์)กับกองหน้าสักคนถ้าให้ดีขอ2(ตัวแนวเก็บบอลชิ่งบอลเก่งกับกึ่งปีก)
น่าจะเพียงพอกับTop4ฤดูกาลนี้ และ ลุ้นถ้วย(ถ้าได้ประมาณนี้ผมว่า น่าประทับใจมากครับ)
ตลาดฤดูร้อนใหญ่รอบหน้าค่อยว่ากันกับนักเตะเหล่านี้
เทอเนอร์, เอลเนนี้, เนลสัน, มาควิยอส(จะปล่อยยืมหรือเก็บไว้ใช้), เอมิล(จะกลับมาแข็งแกร่งได้ไหม),เอ็นเคเทียร์, โลกงก้า(แอบเชียร์น่ะดูยังไม่เข้าใจตำแหน่ง(เบอร์6)สักเท่าไหร่ และ พวกปล่อยยืม
ทั้ง เปเป้, เสี่ยไนล์, มารี, รูนาสัน (4คนนี้คิดว่าหมดอนาคตแล้ว), ตวาเรซ, ทรัสตี้(การตลาดหรือว่ามีของ), บาโลกุน และบรรดาดาวรุ่ง
#9
Posted 16 October 2022 - 09:57 AM
กาเบรียล ถามว่าจุดอ่อนไหม ผมว่าแกเล่นลูกโด่งได้ดีอยู่นะ แต่ลูกพื้นดินอาจพลาดบ่อย เสียจุดโทษบ่อยมาก แต่ข้อดี คือ พลาดแล้วยังกลับมาได้ ไม่หมดความมั่นใจ
อยากให้เพิ่มความละเอียดอีกนิดหน่อยในการเข้าสกัด ส่วนชาก้ากองกลางร่างเทพ ตอนนี้บางเกมส์โอกาสยิงเยอะกว่ากองหน้าอีก อยากให้พัฒนาเรื่องการยิงประตูให้คมๆหน่อย เผลออาจจะกลายเป็นแลมป์พาด 2 ได้นะ
ส่วนกาเบรียลเซซุส บางเกมส์แกก็ฝืนไปหน่อยนะ จนสุดท้ายการยิงประตูไม่คม ช่วงหลังเลยมีประตูน้อยลง
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users