#1
Admin
Posted 10 August 2018 - 12:37 PM
Admin
Administrator
-
-
Administrators
-
-
10,468 posts
Premier League 2018-19 preview: Arsenal
Guardian writers’ predicted position: 5th
Last season’s position: 6th
Odds to win the league (via Oddschecker): 20-1
ผู้จัดการทีม: อูไน เอเมรี
อูไน เอเมรี กุนซือชาวสแปนิชวัย 46 ปี เข้ามารับงานต่อจากอาร์แซน เวนเกอร์ ที่อำลาทีมไปหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา หลังอยู่คุมทีมมานาน 22 ปี มีการยกเขาไปเปรียบเทียบกับ เดวิด มอยส์ เมื่อครั้งไปแทนที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แต่ไม่ต้องใช้เวลาในการคิดให้มากมาย แรงกดดันของเอเมรี เทียบไม่ได้กับที่มอยส์ได้รับ เพราะท่านเซอร์จากทีมไปในตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่เวนเกอร์จากทีมไปในช่วงที่ทีมกำลังตกต่ำ ดังนั้นความคาดหวังของทุกคนต่อเอเมรี มันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง การพาทีมกลับสู่ท็อปโฟร์ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
ตัวของเอเมรี แม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงกับการพาเซบีญ่า คว้าแชมป์ยูโรป้าลีก 3 สมัยติดต่อกัน ไปคุมปารีส แซงต์แชร์กแม็ง ก็ได้แชมป์ในประเทศ 7 รายการ แต่กลับไปค่อยเป็นที่ยอมรับเท่าไรนัก เนื่องจากคุณภาพของเปแอสเช เหนือกว่าคู่แข่งในลีกเยอะ ดังนั้นการมาคุมอาร์เซน่อล ก็จะเป็นบทพิสูจน์ฝีมือของเขา ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมระดับแนวหน้าของโลกได้หรือไม่?
การเสริมทัพ:
เอเมรีทราบเงื่อนไขตั้งแต่แรกแล้วว่า เขาจะมีงบประมาณในการทำทีมที่จำกัด ตามข่าวอยู่ที่ราว 70 ล้านปอนด์ และต้องดึงศักยภาพของนักเตะชุดเดิมที่เวนเกอร์ทิ้งเอาไว้ พร้อมกับให้โอกาสนักเตะดาวรุ่ง ตามนโยบายของสโมสร
ทางเอเมรี เองก็ใช้เงินเสริมทัพทั้งหมดตามที่สโมสรให้มาแรกกับนักเตะใหม่ 5 คน หลักๆ ดูเหมือนเขาจะโฟกัสไปที่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลก่อน ในเรื่องของเกมส์รับ ที่ทีมปืนใหญ่เสียไปมากถึง 51 ประตูเมื่อฤดูกาลก่อน และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเขาร่วงไปอยู่อันดับ 6 แบบห่างไกลพื้นที่แชมเปี้ยนลีก
เริ่มจากตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับที่ถูกมองว่าเป็นจุดอ่อน และสิ่งที่ขาดของอาร์เซน่อลมายาวนาน เอเมรีเลือกเซ็น ลูคัส ตอร์เรยร่า กองกลางตัวรับทีมชาติอุรุกวัยจากซามพ์โดเรียด้วยค่าตัว 26 ล้านปอนด์ เขาเป็นกองกลางที่มีสถิติเรื่องเกมส์รับดีในอันดับต้นๆ ของกัลโช่ ซีรีย์อาเมื่อฤดูกาลก่อน
แบรนด์ เลโน่ ประตูมือดีจากเลเวอร์คูเซ่น ถูกดึงมาแย่งตำแหน่งกับปีเตอร์ เช็ก และดูเหมือนว่าการไม่ได้ถูกการันตีมือหนึ่งจะทำให้ เช็ก กลับมามีไฟและมุ่งมั่นอีกครั้งอย่างที่เราได้เห็นในช่วงปรีซีซั่น โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส และสเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ สองกองหลังมากประสบการณ์ จะเข้ามาช่วยประคองบรรดากองหลังอายุน้อยของอาร์เซน่อล
แต่การเสริมทัพที่เซอร์ไพรซ์ทุกคนในช่วงปรีซีซั่นก็คือ มัตเตโอ เกนดูซี่ กองกลางหัวฟูจากลอริยองต์ ที่ย้ายมาด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ โดยถูกวางไว้ว่าจะเป็นอนาคตของทีม แต่ฟอร์มในเกมส์อุ่นเครื่อง เกนดูซี่ ทำผลงานได้โดดเด่นจนหลายคนเชียร์ให้ยึดตำแหน่งตัวจริงไปเลย
ขุมกำลัง:
เกมส์รุกของอาร์เซน่อล เป็นจุดขายมาตลอดในยุคของเวนเกอร์ แม้ว่าเอเมรีจะไม่เซ็นแนวรุกเข้ามาเพิ่ม แต่ดูจากขุมกำลังชุดปัจจุบันก็ต้องบอกว่าเป็นตัวระดับท็อปทั้งนั้น จุดนี้ไม่ได้เป็นรองคู่แข่งร่วมลีกเลย ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง, เมซุส โอซิล, เฮนริค มคิทาร์ยาน และอเลซองเดร์ ลากาแซตต์ อยู่ที่ว่า เอเมรีจะจัดทีมแบบไหนที่ให้ทั้งหมดสามารถเล่นด้วยกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของแต่ละคน
แต่จุดที่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามคือตรงจุดแผงแบ็คโฟร์ ที่ยังดูไม่แข็งแกร่งขึ้นจากเมื่อปีก่อน รวมถึงการตัดสินใจปล่อย คาลัมม์ แชมเบอร์ส ออกไปให้ฟูแล่มยืมตัว ทำให้จะเหลือเซนเตอร์อาชีพในทีม 4 คน โซคราติส, มุสตาฟี่, โฮลดิ้ง และมาฟโรปานอส ซึ่งแต่ละคนก็มีเครื่องหมายคำถามติดตัวกันทั้งนั้น ก็ต้องมารอดูกันว่าพอมีมิดฟิลด์ตัวรับอาชีพแบบ ตอร์เรยร่า เข้ามา จะช่วยป้องกันแนวรับได้ดีแค่ไหน
ขณะที่นักเตะดาวรุ่ง 3 คนที่น่าจะได้รับโอกาสแจ้งเกิดแบบเต็มที่คือ ไรส์ เนลสัน ที่เริ่มต้นในตำแหน่งวิงแบ็คในยุคเวนเกอร์ แต่ในช่วงปรีซีซั่นเขาได้เล่นในตำแหน่งตัวรุกที่ถนัด, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ ดาวยิงชุดเล็กที่ยิงระเบิดในระดับเยาวชนก็จะได้เล่นกับทีมชุดใหญ่มากกว่าปีก่อน คนสุดท้ายคือ เอมิล สมิธ โรว์ กองกลางตัวรุก ที่ยิงประตูสุดสวยใส่แอตเลติโก มาดริด ก็จะได้โอกาสขึ้นสัมผัสเกมส์ชุดใหญ่เป็นปีแรก
เป้าหมายในฤดูกาลนี้:
เรายังไม่อยากพูดถึงการเป็นแชมป์ของอาร์เซน่อล เพราะต้องยอมรับว่า หากเทียบในขุมกำลังและคุณภาพ อาร์เซน่อลยังเป็นรอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า และลิเวอร์พูล สองทีมเต็งอยู่พอสมควร ปีแรกของเอเมรี คือการปรับปรุงทีมให้ดีขึ้น และการจบท็อปโฟร์ ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนลีก นั่นคือความฝันที่เป็นไปได้ของอาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้
ถึงเวลาที่อาร์เซน่อล จะเดินก้าวออกไปจากเงาของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่เปรียบเสมือสัญลักษณ์ของสโมสรมาตลอดสองทศวรรษ เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะดีขึ้นหรือแย่ลง หรือย่ำอยู่กับที่ แต่มันไม่ใช่เวลาหันหลังมองย้อนไปในอดีต ทางเดียวที่เราทำได้คือมองไปข้างหน้า เชื่อมั่นใน อูไน เอเมรี และนักเตะอาร์เซน่อล
#2
ซันจิ
Posted 10 August 2018 - 01:22 PM
ซันจิ
Advanced Member
-
-
Moderators
-
-
8,441 posts
ตั้งแต่อูไนมา แค่ทีมไม่แตกผมก็ดีใจมากแล้ว มันแสดงให้เห็นว่านักเตะก็ไม่ได้ยึดติดกับเวนเกอร์แบบเธอจากไป ฉันจะอยู่อย่างไร อะไรประมาณนี้ 555
#3
bamboo
Posted 10 August 2018 - 01:56 PM
อาเซน่อลภาคใหม่
รูปเกมจะยืดหยุ่นขึ้นไหม(ปีก่อนๆทีมหน้าเก่าดักทางเราถูกหมด)
เมื่อนำแล้ว จะเล่นเกมรับปิดเกมได้ดีไหมหรือจะเดินหน้าแลกต่อ
ปัญหารูปเกมช่วงครึ่งหลังจะมีการแก้เกมไหมหรือรอนาทีที่ 70 ก่อน
ผจก. กระตุ้นสื่อสารกับนักเตะได้ดีแค่ไหน
ดาวรุ่ง สมิธ โรว์, เก็นดูซี่, มาโรปานอฟ, โฮลดิ้ง, ไมลันไนล์ จะเกิดฤดูกาลนี้ได้ไหม
ปล. ปีหน้าจบที่3-4ได้ถ้วย FA ก็ประสบความสำเร็จแล้ว
#4
tedybeer
Posted 10 August 2018 - 02:19 PM
ดีสุดเท่าที่จะทำได้แล้วตอนนี้ จิงๆ การกลับไป top4 ไม่ได้ยากอะไรมากนะ
หลักๆ ทีมเล็ก เราต้องชนะให้ได้ทุกนัด (ข้อนี้ปรกติทีมเราถนัด)
และ ทีมใหญ่เราเน้นผลเสมอให้ได้ (อันนี้ปรกติเราแพ้หมด) ถ้าทำได้ตามนี้ กลับไปได้แน่ๆ
การทำจริงมันยากกว่าคำพูดมาก แต่ก็หวังว่าจะได้นะ
------------------------
https://www.taxiKingdom.com https://www.taxiChiangmaiDelivery.com
https://www.taxiChiangmai24Hour.com https://www.lannaTaxiChiangmai.com
https://www.TravelChiangmaiTaxi.com
#5
hfluke {ฟลุ๊คคุ}
Posted 10 August 2018 - 02:28 PM
ชอบประโยคสุดท้าย
เชื่อมั่นในอูไน เอเมรี่ และนักเตะอาร์เซนอล
ปีแรกของอูไนถือว่าโหดที่สุดละ ไหนจะโค้ช , ไหนจะนักเตะบิ๊กเนม ปีแรกขอติดท็อป 4 พอใจละ ที่เหลือคือกำไร
#6
merson
Posted 10 August 2018 - 02:31 PM
merson
-
LocationBangsean Chonburi TH
ปีนี้แค่รูปเกมส์ดูดีขึ้น ดูมีความหวังก็พอ ปีแรกก็ให้เอเมรีลองทีมไปก่อน ปีหน้าค่อยเอาจริง
#7
Gunny XO
Posted 10 August 2018 - 02:39 PM
ยังไม่พอใจเรื่องการเพรสซิ่งเท่าไร ดูดูเหมือนนักเตะมันเพรสกันเป็นทีมไม่เป็นอะ ยังดูไม่ต่างจากยุคเจ๊เท่าไร
#8
Admin
Posted 10 August 2018 - 02:46 PM
Admin
Administrator
-
-
Administrators
-
-
10,468 posts
อยู่ที่สองเกมส์แรก ถ้าเปิดหัวมาดีๆ แบบไม่แพ้ หรือได้สัก 4 แต้ม โมเมนตั้มในทีมกำลังดี แต่ถ้าเกิดแพ้สองนัดติดนี่ กลัวนักเตะเราจะเสียสูญจริงๆ ยิ่งจิตใจบอบบางเหลือเกิน แต่ก็ต้องให้เวลาอูไน ในการทำทีมบ้าง ปีแรกของแค่ Top4 ก่อน ปีถัดไปน่าจะมีเงินได้ใช้มากขึ้น สปอนเซอร์เพิ่ม 50 ล้านต่อปี ได้เงินจากยูซีแอล
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง....
#9
kenny
Posted 10 August 2018 - 03:34 PM
รอติดตามผลงานครับ อูไนเข้ามาคุมปืนใหญ่ ก็ต้องไปด้วยกันครับ
'In Unai We Trust'
#10
nutpu_afc
Posted 10 August 2018 - 04:49 PM
2นัดแรก เหมือนโดนแกล้งจิงๆง่ะ โหดจิงๆ ถ้าไม่แพ้เลย กำลังใจมาแน่ แต่ถ้าแพ้คู่นี่จิตใจหดเหี่ยวแน่ๆ -.-
#11
Cannon Londoner
Posted 10 August 2018 - 04:52 PM
เป็นบทวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
ภายใต้การคุมทีมของอูไนดูมีทิศทางที่ดีขึ้น ดาวรุ่งอย่างเนลสัน เอ็นเคเทียร์ที่ยังก้าวข้ามดาวรุ่งไม่พ้นและเหมือนจะหยุดอยู่แค่นั้น มาในยุคอูไนเริ่มฉายแววทะลุดาวรุ่งออกมาแล้ว ต้องติดตามดูความก้าวหน้ากันต่อไป ปีนี้น่าจะมีโอกาสได้ลงอย่างต่อเนื่องในบอลถ้วยนะ
#12
TaoGunner
Posted 10 August 2018 - 05:33 PM
TaoGunner
Newbie
-
-
Members
-
-
6 posts
บางคนบอก ปีนี้กองหลังน่อลปีนี้ก้ยังเหมือนเดิม แต่ผมเชื่อน่ะ เชื่อว่า คนเราสามารถพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นได้ ไม่แน่น่ะ กองหลังอาร์เซน่อล ปีนี้ อาจจะแข็งแกร่งที่สุดในพรีเมียร์ ฤดูกาลใหม่นี้ก้ได้
#13
kangjang
Posted 10 August 2018 - 06:20 PM
#14
Megami Tensei
Posted 10 August 2018 - 06:37 PM
มีหงส์ที่น่ากลัวขึ้น ส่วนทีมอื่นใน Top 6 ขยับน้อย น่าจะกลับคืนท็อปโฟร์ได้ไม่ยาก
#15
Season Change (ปลัดมุข)
Posted 10 August 2018 - 06:59 PM
ยังไม่พอใจเรื่องการเพรสซิ่งเท่าไร ดูดูเหมือนนักเตะมันเพรสกันเป็นทีมไม่เป็นอะ ยังดูไม่ต่างจากยุคเจ๊เท่าไร
เห็นด้วยครับ หวังว่าเวลาจะทำให้นักเตะเข้าใจระบบมากขึ้น
#16
Liu de hua
Posted 10 August 2018 - 10:16 PM
ติดท็อป4ก็พอใจเเล้วครับปีเเรก ถ้าได้เเชมป์ถ้วยซักใบก็ถือว่ากำไร ให้เวลาเเกดู ปี2ก็น่าจะพอรู้ละทีมจะไปทิศทางไหน
#17
convoy
Posted 10 August 2018 - 11:20 PM
" เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะดีขึ้นหรือแย่ลง หรือย่ำอยู่กับที่ แต่มันไม่ใช่เวลาหันหลังมองย้อนไปในอดีต "
เราจะไม่หันหลังไปมองย้อนอดีต แต่เรากลับพาดพิงถึงอดีตทุกวัน วันละหลายทู้ แล้วเราจะตัดขาดอดีตออกไปได้อย่างไรกันล่ะ
อดีตเหมือนกับเงา เราอยู่ที่ไหนเงาก็อยู่ที่นั่น ตัดยังไงก็ไม่ขาด หันหลังกลับไปมองเถอะ แล้วเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา
เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เรารู้ว่าอดีตเคยทำให้เราเป็นอย่างไร ถ้าเราเจอปัญหาจึงไม่ควรเป็นปัญหาเดิมที่เคยเจอ ครับ
#18
Cannon Londoner
Posted 10 August 2018 - 11:42 PM
" เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จะดีขึ้นหรือแย่ลง หรือย่ำอยู่กับที่ แต่มันไม่ใช่เวลาหันหลังมองย้อนไปในอดีต "
เราจะไม่หันหลังไปมองย้อนอดีต แต่เรากลับพาดพิงถึงอดีตทุกวัน วันละหลายทู้ แล้วเราจะตัดขาดอดีตออกไปได้อย่างไรกันล่ะ
อดีตเหมือนกับเงา เราอยู่ที่ไหนเงาก็อยู่ที่นั่น ตัดยังไงก็ไม่ขาด หันหลังกลับไปมองเถอะ แล้วเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมา
เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่เรารู้ว่าอดีตบางอย่างทำให้เราเป็นอย่างไร ถ้าเราเจอปัญหาก็ไม่ควรเป็นปัญหาที่เคยเจอ ครับ
ถูกต้องครับ ต้องเอาอดีตมาปรับปรุงเพื่อให้ปัจจุบันและอนาคตดีขึ้น
แต่เดาว่าอดีตที่อูไนพูดถึงอาจหมายความถึงความสำเร็จในอดีตจะไม่เอามาเปรียบเทียบกับอนาคตที่จะเกิดขึ้น มันจะทำให้กดดันตัวเองมากกว่า
อันนี้แค่เดาเอาตามความรู้สึกตัวเองนะครับ
#19
pao_love_arsenal
Posted 11 August 2018 - 12:08 AM
ปีแรกก็คว้าแชมป์เลยจะว่ายังไง อะไรก็ไม่แน่นอน
เกมส์รุกเราเหนือกว่าคู่แข่งเยอะถ้าจูนกันติดจิงจิง
เป็นห่วงแต่หลังบ้านนี่แหละคับ กาก
#20
ปืนเก่า55
Posted 11 August 2018 - 08:42 AM
ผมวิเคราะห์มาตลอดว่าปัญหาและจุดสำคัญของทีมฟุตบอลคือกองกลาง..ฉะนั้นถ้าเอเมรี่แก้ตรงจุดนี้ได้ปืนจะเป็นปืนกระบอกใหม่อย่างน่าเกรงขาม...ดังนั้นยังไม่อาจคิดมากไปกว่านี้ครับ