ก่อนอื่นเห็นจากข่าวว่า น้องเบ ของเราได้เอ็นไขว้หน้าขาด พอเห็นจากนัดที่ผ่านมาดูจากอาการแล้ว เห็นภาพตัวเองลอยมาเลยครับ รู้เลยว่า อาการหนักแน่ๆ ขอแค่ไม่กระทบส่วนอื่นๆก็พอ
ส่วนตัวผมเองก็ เอ็นไขว้หน้าขาดเหมือนกันครับ เลยจะมาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน เพราะ ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวเลย พวกเราส่วนใหญ่ก็เตะบอลกันอยู่แล้ว ก็สามารถเกิดขึ้นได้เพื่อจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
สิ่งที่จะนำเสนอมาจากประสบการณ์โดยตรงอาจจะผิดบ้างถูกบ้าง นะครับ
ผมตอนนี้อายุ 29 ปี ครับเหตุเกิด เมื่อ ปี 60 ประมาณปลายๆปี ผมเล่นบอลในตำแหน่ง แบ็คซ้าย ปีกซ้าย และกองหน้าด้านซ้าย คือฝั้งซ้ายวิ่งได้ทั้งหมด เล่นที่สนาม super kick ลาดพร้าว เป็นประจำ เล่นก็ไม่ได้หนักมากมายอะไรเพราะ เป็นทีมที่ค่อนข้างมีอายุ คือมีตั้งแต่ 18-45 เลยครับ ก็ปกติ
แต่โดยส่วนตัวเป็นพวกชอบใชเความเร็วและเปลี่ยนทิศทางรวดเร็ว อะไรแบบนีครับ คือถนัดขวา ตัดแล้วยิง อวยตัวเอง 5555
เหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกผิดปกติก็คือ ผมหยีดขาไปสกัดลูก แบบเหยียดขาสุด แล้วโดนฝ่ายตรงข้ามเข้ามาชนบริเวณหัวเข่าจากทางด้านข้างครับ ตอนนั้นจำได้เจ็บมาก โดนห้ามออกมานั้งประคบนำ้แข็ง วันนั้นก็อาบนำ้กลับบ้านเลย ก็มาประคบนำ้แข็ง 2 วัน ต่อด้วยประคบร้อน แล้วก็นวดยากินยาแก้อักเสบไปเรื่อยก็ดีขึ้น ตามลำดับ
แต่ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปคือเหมือนเข่าเราหลวมๆ มีเสียงดังกรอบๆแก๊บๆ ในเข่า ก็ตั้งใจไว้ว่าหยุดไปสักเดือนนึง ก็น่าจะดีขึ้นหลังจากเดือนนึง ก็ลงรายการวิ่งต่างๆในกรุงเทพที่มีเยอะเหลือเกิน ก็ลงวิ่ง 10 กิโล ไป2-3 รายการ เอ๊ะ วิ่งได้นี้น่าาาาา เอาละกลับลงสนามได้แล้วเรา 5555
รอค่อยเวลา เซียนนนน มากก ที่จะได้เล่นบอลอีกครั้ง ไปสนามด้วยความดีใจทุกคนทักทาย แซวกันไปไหนมาเป็นไงบ้างก็ขี้ไม้ ไปตามระบียบ 555
ถึงเวลาลงสนามก็ยืดๆ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจับบอลได้วิ่งประคองได้ จ่ายบอลได้ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
มีอยู่จังหวะหนึ่ง ผมจ่ายบอลคืนหลังด้วยความแรง แล้วก็ล้มลงไปเลย ไม่มีการเข้ามาปะทะ ใดๆ ทุกคนขำกันกลิ้งว่าหายสนามไปนาน จ่ายบอลยังล้ม ตอนนั้นขำมากกูเป็นไรว่ะแต่ก็เริ่มรู้สึกปวดเข่าแบบตึงๆ ก็ลุกมาเล่นต่อ จีงหวะต่อมา จ่ายบอลเท้าหลักขาซ้ายปักพื้น บรรจงแปลบอลด้วยเท้าขวา บอลออกจากเท้าก็ล้มเลยเหมือนเข่าเราหลุดไปเลย ทุกคนเริ่มเข้ามาดูว่าเอ๊ะมึงเล่าง่ายไปป่ะ จะเอาจุดโทษเหลอ 5555
ตอนนั้นรู้เลยกูไม่ปกติแล้วละตัดสินในอาบนำ้ไปหาหมอเลย ผมมีสิทธ์รักษาอยู่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งครับ ตอนนั้นเย็นแล้ว ไม่มีหมอเฉพาะทางแล้วมีแต่หมอธรรมดาทั่วไปก็ไปเล่าอาการทั้งหมดแล้วก็ตรวจ
หมอก็จับเข่าบิดไปมาแล้วไป เอ๊กซเรย์ ก็ไม่พบความผิดปกติต่อกระดูก แต่หมอบอกว่าเข่าหลวมๆ นะ ให้ดีต้อง MRi ถึงจะรู้ว่าเสียหายแค่ไหน ก็นัดเวลากันเลย
ถึงเวลามาก็ไป MRI เป็นอุโมงเข้าไปนอนสัก 1 ชม. มีหูฟังด้วยสงสัยจะให้ฟังเพลงปล่าวเลย ไอ้เครื่องบ้านั้นเสียงดังมากเหมือนอยู่ในสงครามเป็นเสียงดัง ปังๆๆๆๆๆ เป็นจังหวะการยิง หูฟังเอาไว้อุดหูนั้นเอง ออกมาจากสงครามได้ก็ มานั้นรอผล
หมอก็ชี้ว่าเห็นขาวๆนั้นไม เห็นครับหมอบอกว่านั้นเป็นเอ็นครับ เราก็เอาาปกตินี้หวา หมอบอกว่าเดียวเอาอันคนปกติมาให้ดู แม้งเป็นสีดำ สาสสสสสสสส หมอบอกว่าสีขาวหมายถึงไม่มเอ็นไปแล้ว สาสสสสสสส ตกใจ ก็เถียงไปว่าผมวิ่งได้นะ วิ่งตั้งหลายรายการถ้าขาดจะขับรถมาหาหมอได้เหลอ
หมออธิบายว่า เอ็นในเข้ายังมีเส้นอื่นอีก ไหนจะกล้ามเนื้อไหนจะกระดูก เอ็นขาดไม่ได้ขาขาด ยังใช้กิจวัตรประจำวันได้วิ่งได้ แต่ไม่สามารถใช้งานหนักๆ หรือเปลี่ยนทิศทางได้ขณะวิ่ง เพราะเอ็นเราไม่มีแล้วมันจะล้มไปเลยเหมือน ที่เราเตะบอลเป๊ะะะะะ เราถึงวิ่งได้แต่เล่นบอลไม่ได้นั้นเองงง
เลยถามต้องทำไง หมอบอกว่าถ้าเลิกเล่นบอลใช้ชีวิตตามปกติก็อีก 6 เดือนมาคุยกันใหม่ แต่ถ้าจะให้หายต้องผ่าเท่านั้น แต่ก็จะไม่ 100 เปอร์เซ็น จะกลับมาสัก 80-90 เปอร์เซ็นเต็มที่ เลยบอกว่าขอกลับมาทำใจปรึกษาเครียล์งานแปบ เพราะเรื่องใหญ่แล้วละ
กลับมาก็คิดว่าเอาว่ะขาดแล้วก็ต้องผ่า ไม่ผ่าแก่ตัวไปจะลำบาก เลยมาเคลียล์งาน ศึกษา เรื่องเอ็นไขว้หน้าขาดไปเรื่อย แล้วก็นัดคิวหมอ สอบถามว่า เราจะเลือกวิธีการรักษายังไงแล้วพักฟื้นยังไง ต้องมีขั้นตอนยังไงบ้าง
สรุปก็คือ เราจะผ่าด้วยวิธีการส่องกล้องเข้าไปในหัวเข่า แล้วเอาเอ็น จากทางด้านหลังของเข่าตัดออกมาต่อแทนเอ็นที่ขาด ส่วนเอ็นที่โดนตัดไปจะค่อยๆฟื้นตัวกลับมาเองได้ ง่ายๆคือวิชาย้ายเอ็นนั้นเอง
พักโรงพยาบาล 3 วัน ที่เหลือไปกายภาพที่บ้านส่วนมากก็ทิ้งไม้เท้าภายใน 14 วัน กลับมาเดินปกติใน 1 เดือน วิ่งได้ใน 3 เดือน เล่นกีฬาได้ใน 9-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ครับ
ค่าใช้จ่ายแล้วแต่ที่ครับของผมตีคร้าวๆ ก็แสนกว่าบาทแต่จ่ายจริงไป 6 พันกว่าบาทค่าห้องพิเศษที่เราเพิ่มไปเอง
ก็ตกลงรักษา ของยากที่หมอแนะนำคือเรื่องฉี่ เพราะเราต้องผ่าโดยการบล๊อคหลัง ออกมาจากห้องภายใน 4-5 ชั่วโมงเราต้องฉี่ให้ออก ไม่นั้นโดนสวนฉี่ จบกันชีวิต อันนี้ยอมรับกังวลโดนสวนฉี่มากกว่าผ่าอีก 5555 กับอีกอย่างคือการกายภาพหลังผ่าจะเป็นตัวชี้วัดว่าเราจะกลับมาได้เมื่อไร
ถึงวันผ่าก็ตามขั้นตอนทั่วไป เสียบนำ้เกลือ ล้างท้อง โกนขนขา นอนพัก จนเบื่อไปเรื่อยพอถึงเวลาก็มีคนมาเข็นเราเข้าห้องเชือด ก็โดนถอดเสื้อผ้านอนทำตัวเหมือนกุ้งเพื่อที่จะแทงเข็มเข้ากระดูกสันหลังตามข้อต่อเพื่อบล็อคหลัง ตอนนี้แม้งเจ็บมาก เข็มยาวแทงไปที่ไขสันหลังดังปึกๆๆๆ นำ้ตาเล็ด แต่แป็บเดียวเท่านั้นท่อนล่างทั้งท่อนก็หายไปแบบไม่รู้สึกไรอีก เลยแม้แต่ไข้ก็ไม่รู้ 5555
หมอก็เข้ามาคุยอธิบายว่าจะทำไรใช้เวลาเท่าไรโน้นนี้นั้น คร่าวๆก็คือจะเอากล้องเข้าไปในเข่าแล้วถึงจะบอกได้ว่าเราจะทำยังไงต่อ แล้วก็บอกว่าจะดูว่าเราไหวแค่ไหนถ้าไม่ไหวขอวางยาสลบต่อเลยหลังจากบล็อคหลัง เราก็ครับๆ ตอนนั้นหนาวมากกกก ไม่รู้กลัวหรือแอร์เย็น
ก็นอนเหมือนโดนหั่นศพไปเรื่อยก็ยังไม่หลับแต่รู้ว่าแม้งท่อนล่างกูโดนกระทำอย่างหนักมีพยบาลสาว 5-6 มุงดูท่อนล้างเรา หมดแล้วล่ะ ไข่เขย อะไร เห็นหมดแล้ว สักพักหมอบอกว่าขอวางยานะคะ เราบอกว่าเออผมไหวนะ ไม่เจ็บเลย เพราะถ้าวางยาจะฟื้นตัวช้ากว่า จากที่ศึกษามาก่อน หมอบอกใช้ค่ะคุณไม่เจ็บเพราะโดนบล็อคหลัง แต่ความดันคุณเริ่มสูงแล้ว วางยาดีกว่าค่ะ เราก็ครับๆ ก็กูไม่เจ็บนี้หว่า ยังจะเปรี้ยว555
แป๊บเดียวสลบ หายไปนานขนาดไหนไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีหมอมาปลุกบอกเสร็จแล้วก้มไปดูขาตัวเองโดนพันทั้งแต่ข้อเท่าขึ้นมาโคนขาแน่นมากแล้วก็บวมใหญ่แบบขายักเลย เห็นก็สลบต่อ ไปตื่นอีกที่ ที่ห้องพักฟื้นก็มี พี่ๆ น้องๆ พ่อแม่มาดูไรงี้ พอเริ่มหมดยา สิ่งแรกที่คิดคือ
กูต้องเยี่ยวให้ออกๆๆๆๆๆๆ เร็วที่สุด อีสัสสสส ขอหยาบ แม้งท่อนล่างกูไม่รู้สึกไปแล้วแถมนอนอยู่กับที่ ขาเริ่มปวดนิดๆ เบ่งแรงก็ปวดแล้วต้องนอนเยี่ยวบนเตียง มึงเอ้ยยยย ยอมแล้วว่าแม้งยากกว่าผ่า แบ่งอยู่นานมากจนหมอมาบอกว่าเดียวเข้ามาอีกครั้งไม่ออกต้องสวนนะ
กูเบ่งแม้งหน้าแดงขาเจ็บกูไม่สนแล้ว แค่พวกพยาบาลเห็นไข่กูหมดทั้งห้องก็เกินพอแล้วยังจะมาแทงสายเข้าไปในไข่อีก กูจะไม่ทน กลั้นใจเบ่งงงงง สุดท้ายออกดีใจมากกกกกกก
แป๊บเดียวหมอเข้ามา อ้าวออกแล้วนิอุส่าไปเอาอุปกรณ์มาแม้งมองไปในถาดเข็มใหญ่มากกกกก รอดไปแล้วกู หมอก็บอกว่าการฉี่เป็นการขับยาอีกสักพักยาหมดเราจะปวดทนได้เท่าที่ทนไม่ไหวกดเรียกนะ เราก็อ่าวกูเอายาออกแล้วต้องมาทนเจ็บอีกเหลอชีวิต
ผ่านไป 2 ชม นรกมีจริงมีเจ็บมากกดเรียกมาอัดยาจนพยาบาลบอกว่ารับยามากกว่านี้ไม่ได้แล้วแม้งนอนไม่หลับเจ็บจนได้ยินเสียงหัวใจเต็นยันเช้า ก็เริ่มดีขึ้น รอดมาได้แล้ววันนรก
วันต่อมาแม้งต้องไปกายภาพเลย ถามหมอว่าถามจริงพึ่งผ่าเมื่อวานจะให้เดินเลยเหลอ นี้กระดิกนิ้วโป้งยังเจ็บเลย หมอบอกว่าเจ็บต้องเดินต้องทนเราผ่าเกี่ยวกับเอ็นกายภาพสำคัญ แม้งฝึกเดินแบบเกาะราวทุกๆก้าวคือนำ้ตา
*** เราจะเห็นว่าน้องเบ ผ่าแล้วเดินถือไม้เท้ากลับได้เลยเพราะก่อนที่เค้าจะผ่าร่างกายเค้าพร้อมกว่าเราอยู่แล้ว และได้รับการรักษาทันทีหลังจากเกิดอาการ ทุกอย่างได้รับการดูแลอย่างดีเลยบอบชำ้น้อย ก็จะกลับมาได้เร็ว
หลังจากนั้นสามวันก็กลับมาพักต่อที่บ้าน ฝึกใช้ไม้เท้า นั้งรถเข็น แล้วก็กายภาพตามท่าที่เค้ากำหนดครับ ยอมรับว่าเจ็บมากแล้วไม่คุ้มเลยครับกับที่ต้องเป็นแบบนี้ ผมหยุดงานไปเดือนนึงเต็มๆ
ทุกวันนี้ผ้านไปประมาณ 9 เดือน ตามเวลาที่ แพทย์คาดการ น้องเบ เป๊ะๆ แต่ผมกลับทำได้แค่การวิ่งเองครับ นำ้หนักขึ้นมา 10 กิโล ไม่กล้าไปเตะบอล กลัวว่ายังไม่พร้อมแล้วจะเป็นอีก คิดว่า จะให้ครบ 1 ปีก่อน แล้วพยายามลดนำ้หนักให้กลับไปปกติ
ทุกๆวันนี้วิ่งยังปวดๆตึงๆ อยู่เลย
พวกนักกีฬาที่ผ่านการเจ็บหนักมา ไม่ใช้แค่ร่างกายที่ต้องหายครับ แต่ใจด้วยครับที่ต้องหายและมั่นใจในทุกๆการเคลื่อนไหว ถ้าผ่านไปไม่ได้ก็จะกลายเป็นเล่นไม่เป็นธรรมชาติ ความสามารถก็ลดลงไป
เป็นกำลังใจให้น้องเบ และ คนอื่นๆที่เจ็บยาวในทีม ร่วมถึงเพื่อน อเซนอลทุกคนครับ สู้ๆ