By คุณอาร์ต เด รอเซ่ จากดิแอธเลติก
การได้กลับมาในสนาม ที่เขาเข้ามาคุมอาร์เซน่อลเป็นนัดแรก แต่หนนี้ อาร์เซน่อลของมิเกล อาร์เตต้า แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของทีมในการควบคุมทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จกับชัยชนะหนือบอร์นมัธ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
บทบาทในการขยับขึ้นสูงของ กรานิต ชาคา ไม่ใช่เรื่องใหม่ เขาเริ่มทำแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงท้ายฤดูกาลก่อน แต่กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ขาดความคล่องตัว เมื่อไปเปรียบเทียบกับมาร์ติน โอเดการ์ด ที่ทำเกมส์อยู่อีกฝั่งของ Half Space มันเลยดูเหมือนการวางสีเหลี่ยมไว้ตรงรูที่เป็นรูปวงกลม
อาร์เตต้าเคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคมเมื่อถูกถามถึงบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปของชาคา เขากล่าวว่า: "บางครั้งผู้เล่นก็ต้องก้าวออกจาก Comfort Zone และเปิดประตูอีกด้านเพื่อไปค้นหาว่าทีมจะมีปฏิกริยาอย่างไร คู่แข่งจะทำอะไร"
แต่เวลานี้ ชาคา กำลังก้าวหน้าอย่างมากกับบทบาทนี้ เขามีประสิทธิภาพมากขึ้น และการเล่นของเขาถูกคาดเดาได้น้อยลง นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบในเชิงบวกกับผู้เล่นที่อยู่รอบๆ ตัวเขาด้วย
เขายิงประตูและแอสซิทในเกมส์เดียวกันได้เป็นครั้งแรก ในนัดที่ทีมชนะเลสเตอร์ 4-2 ก่อนที่เขาจะแอสซิทอีกครั้งให้กับวิลเลี่ยม ซาลิบา ในเกมส์กับบอร์นมัธ
วิธีการเล่นที่เปลี่ยนแปลงของชาคา เวลาที่เขาไม่มีบอล เมื่อชินเซนโก้ได้รับบอลจากโธมัส ปาร์เตย์ ในตำแหน่งกองกลาง ดาวเตะวัย 29 ปีจะพุ่งไปข้างหน้า และอยู่ในไลน์เดียวกับ กาเบรียล เซซุส กองหน้าของทีม
เมื่อบอลมาถึง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่อยู่ตรงริมเส้น ชาคากำลังจะพุ่งเข้าไปในเขตโทษ พร้อมๆ กับเซซุส
จังหวะนี้อาจจะไม่ได้จบลงด้วยโอกาสยิงประตูที่ชัดเจน แต่มันก็ช่วยให้เราเห็นตั้งแต่ต้นเกมส์กับวิธีการเล่นของอาร์เซน่อล ในการตรึงบอร์นมัธให้อยู่แต่ในแดนตัวเอง ตำแหน่งการเล่นของ ชินเซนโก้ ในบทบาทแบ็คซ้าย ช่วยพัฒนาเรื่องการครอบครองบอลของอาร์เซน่อลได้อย่างมาก เขาถูกพัฒนาในการเล่นเป็น Inverted full-back มาตั้งแต่ตอนที่อยู่กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
การเล่นของชินเซนโก้ ที่ขยับเข้ามาเล่นตรงพื้นที่แดนกลาง เป็นเสมือนใบอนุญาตที่ทำให้ ชาคา สามารถเติบขึ้นหน้าได้ โดยที่เขาไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่ของตัวเองจะเปิดสำหรับการโจมตีของคู่แข่ง มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเห็นการเล่นแบบนี้ เราเคยเห็นมาในเกมส์กับพาเลซ และเลสเตอร์ด้วย
ตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ได้เห็นในเกมส์กับเลสเตอร์ ชินเซนโก้ขยับจากแบ็คซ้ายมายืนตรงกลาง ระหว่างคู่เซนเตอร์ ก่อนที่จะออกบอลต่อไปให้กับปาร์เตย์ที่แดนกลาง
เมื่อปาร์เตย์ได้รับบอล การเคลื่อนที่ของชาคา ไม่เพียงแค่จะเอาตัวเองวิ่งเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายของอคู่แข่ง แต่เขาวิ่งไปตรงพื้นที่ว่างระหว่างแผงแนวรับของเลสเตอร์ได้ด้วย น่าเสียดายที่จังหวะนี้ ชาคาเข้าไปถึงบอล ในจังหวะจ่ายตัดแนวรับของปาร์เตย์
หากเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เราเห็นเคมีที่เข้ากันระหว่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และบูคาโญ ซาก้า ในการทำเกมส์ทางฝั่งขวาให้กับอาร์เซน่อล ตอนนี้ดูเหมือนว่าเคมีทางฝั่งซ้ายจะมีเข้ากันอย่างลงตัวไม่แพ้กัน
มีความชัดเจนว่านั่นไม่ใช่รูปแบบเดียวในการเล่นระหว่าง ชาคา และชินเซนโก้ ที่ขินเซนโก้จะขยับเข้าใน แล้วชาคาเติมขึ้นไปข้างหน้า มีบางจังหวะที่ทั้งคู่กต่างอยู่ในแดนเดียวกัน เมื่อชาคาขยับไปยืนตรงตำแหน่งแบ็คซ้าย ขณะที่ชินเซนโก้ก็วิ่งมาทางด้านขวาของปาร์เตย์
การเคลื่อนที่แบบนี้ช่วยให้อาร์เซน่อล สามารถหลีกหนีจากการกดดันจากการเพลสซิ่งได้ อย่างจังหวะนี้ในครึ่งแรกที่ชินเซนโก้จ่ายบอลให้ปาร์เตย์ ก่อนที่ตัวเองจะขยับย้ายมาที่ฝั่งขวาของสนาม
ส่วนชาคา เขาก็ถือว่าคุ้นเคยกับบทบาทการเล่นแบบแบ็คซ้ายเป็นอย่างดี เพราะเขาเคยถูกใช้งานในบทบาทนี้มาทั้งในยุคของ อูไน เอเมรี และมิเกล อาร์เตต้า
เมื่อบอลกลับมาหาชินเซนโก้อีกครั้ง โอเดการ์ดก็เป็นอีกคนที่ขยับตัวเองมาในพื้นที่ ทำให้ชินเซนโก้สามารถฝากบอลไปที่จอมทัพกัปตันทีมได้
ขณะที่ผู้เล่นของบอร์นมัธไล่บีบเข้ามา ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของชินเชนโก้ทั้งหมด คู่แข่งกำลังโฟกัสกับพื้นที่ตรงกลาง ดังนั้นเขาจ่ายบอลออกด้านข้างไปให้กับโอเดการ์ด ก่อนที่จะฝากบอลต่อไปให้กับ เบน ไวท์ ที่มีพื้นที่ว่างในการพาบอลขึ้นไปข้างหน้า
จากจุดนี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งกองกลางของอาร์เซน่อล จะเดิมที่พวกเขามี ปาร์เตย์ เป็นเสมือฐาน และมีโอเดการ์ดกับซาก้าอยู่ด้านข้างสองฝั่ง ตอนนี้พวกเขามีชินเซนโก้เป็นฐาน แล้วมีปาร์เตย์กับโอเดการ์ดอยู่คนละด้านแทน มันไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อะไร แต่มันก็สร้างปัญหาให้กับบอร์นมัธ ในการรับมือกับความยืนหยุ่นในเกมส์ของอาร์เซน่อล
ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ชินเชนโก้ใช้เวลาในช่วง 15 นาทีแรกในการเล่นเกมส์รับ เขาไม่ได้มีการครอบครองบอล ทำให้การขึ้นเกมส์ทางฝั่งขวามีความน่าสนใจมากกว่า จังหวะที่เบน ไวท์ กำลังจะทุ่มบอลเข้ามา
เขารับบอลสองจากปาร์เตย์ ก่อนที่จะจ่ายบอลคืนหลังไปให้กับกาเบรียล ขณะนั้นผู้เล่นบอร์นมัธ กำลังเข้ามาบีบ ชินเซนโก้เคลื่อนตัวกลับมาอยู่ตรงกลางสนาม ชาคาขยับไปในตำแหน่งแบ็คซ้ายอีกครั้ง แล้วเป็นการช่วยดึง เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา ให้ตามไป เป็นการเปิดช่องว่างให้กับกาเบรียลในการจ่ายบอลมาที่ชินเซนโก้ ที่ไม่มีใครประกบ เป็นอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าอาร์เซน่อล สร้างปัญหาให้กับทางบอร์นสมัธอย่างมาก กับการสลับตำแหน่งในสนาม แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้เจอกับคู่แข่งในกลุ่ม Top 6 ด้วยกันจากสามเกมส์แรกของฤดูกาล แต่พวกเขากำลังสร้างโมเมนตั้ม และยกระดับความสัมพันธ์ของผู้เล่นในแต่ละเกมส์ ดังนั้นพวกเขาจะผ่อนคลายมากขึ้นเวลาที่ครอบครองบอล
อาร์เตต้ากล่าวหลังจบเกมส์ว่า: "วิธีที่ผมต้องการเล่น ต้องมีบางพื้นที่ที่เราสามารถครอบครองได้ตลอดเวลา อย่างที่คุณเห็นมีการหมุนวนภายในกลุ่ม อย่างเช่น ชินเซนโก้, มาร์ติเนลลี่ และชาคา เขามีความสามารถและศักยภาพที่จะทำแบบนั้น เขามาอยู่ในตำแหน่งที่ดีอีกครั้งในวันนี้ มันเป็นวิวัฒนาการของผู้เล่น"
"ขินเซนโก้ มอบความยืดหยุ่นในเกมส์บุกที่หลากหลายขึ้นอยู่กับสิ่งที่คู่แข่งต้องการทำ และช่องว่างที่เราต้องการเจาะ มันเป็นเรื่องดีที่มีเขาอยู่ในทีม"

[Tactic Analysis] วิธีการเล่นของ "ชินเซนโก้" ที่ช่วยปลดล็อกสกิลทอง "กรานิต ชาคา"
#1
Posted 22 August 2022 - 01:38 PM
PG SLOT
#5
Posted 22 August 2022 - 03:46 PM
แผนนี้ขึ้นเกมส์แบบ 2-3-5 จากที่ดูจากเกมส์กับที่ซิตี้เล่น ต่างตรงที่ Inverted Full-back เขาเหมือนมีชินเซนโก้อยู่สองด้านเลย เนียนจัด ข้อดีคือมัน Overload กองกลางใส่คู่แข่ง เหมือนออกแบบมาเพื่อครองเกมส์ให้เหนือกว่าคู่แข่งโดยเฉพาะ คู่แข่งไล่เพลสซิ่งเรายาก แต่ต้องอาศัยการฝึกซ้อม ความเข้าใจของผู้เล่นค่อนข้างเยอะทีเดียว
ส่วนข้อเสียคิดว่า ถ้าเกิดพลาดเสียบอลกันง่ายๆ พื้นที่ด้านกว้างตรงที่ฟูลแบ็คหุบเข้าในมันจะเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งค่อนข้างเยอะ อย่างเมื่อคืน แม็กซิแม็ง เล่นงานย้ำตรงไคส์ วอคเกอร์ จนเห็นแผลชัดเจนในเกมส์รับเลย
#6
Posted 22 August 2022 - 06:51 PM
ผมว่ามันเป็นแผนใหม่ของทีมเรา เวลาบุกให้ชินเซนโก้มาแทนชาก้า แล้วชาก้าแทงขึ้นไปเป็นตัวเซอร์ไพส์ ทางขวาก็เหมือนกันให้ไวท์มาแทนปาเตย์ แล้วปาเตย์แลบไปยิง แต่โดยสไตล์ชาก้าเล่นเกมบุกได้ดีว่า เลยเห็นด้านซ้ายได้ยิงบ่อย แล้วได้ผลดีด้วยช่วงนี้ (เดิมเราจะให้หลังซ้าย-ขวา ขึ้นสุด ลงสุด แล้วเจ็บบ่อย ผมว่าเค้าน่าจะมาสลับกับแผนนี้ ลดปัญหาการเจ็บแบ็คซ้ายขวาได้ด้วย)
เพียงแต่ช่วงนี้เราเล่นเกมบุกเป็นส่วนใหญ่ ต้องดูเจอทีมสูสีตอนเล่นเกมรับจะมีปัญหาป่าว
#9
Posted 23 August 2022 - 09:28 AM
ก็ว่าอยู่...ว่าแปลนเดียวกันกับซิตี้เลย บุกแบบ 2-3-5 นัดล่าสุดเจอบอร์นมัธ เลยทำให้เห็นชัดเจนขึ้นครับ กลายเป็นกลางเราข่มเค้าซะมิดเลยในครึ่งแรก
แต่ก็อย่างแอด. ว่าครับ แผนนี้ครองบอลได้เยอะก็จริง แต่พื้นที่ตรงฟูลแบ็คค่อนข้างเปิด ถ้าเจอปีกแข็ง ๆ อาจโดนลงโทษหนักได้
การได้ชินเซนโก้มา ผมว่าสไตล์และพื้นที่ในการเล่นเค้าไม่เหมือนกับเทียร์นี่ย์ซึ่งเป็นฟูลแบ็คขนานแท้ อย่างบทวิเคราะห์ก่อนหน้าที่แอด. แปลมาให้อ่านกัน
ทำให้อาร์เตต้าสามารถพลิกแพลงและยืดหยุ่นแผนตามทีมคู่แขงที่เราเจอได้ เกมส์บุกกลายเป็นสมดุลย์กันทั้งซ้าย - ขวา ซึ่งผมมองว่าค่อนข้าคุ้มค่ามากครับ
สำหรับดีลชินเซนโก้
#10
Posted 23 August 2022 - 10:27 AM
มันเป็นวิธีใหม่ดีก็จริงแต่?
1. ชินเซ้นโก้ต้องใช้พลังมากๆๆแล้วจะไหวตลอดฤดูกาลหรอ
2. คู่ต่อสู้ก็รู้แผนนี้..แล้วเขาต้องมีวิธีกำจัดจุดอ่อนนี้แน่ๆๆ(นิวบุกแมนซิจุดนี้จนเกือบตาย)
3 จังหวะโดนเลสเตอร์ลูกที่2ก็เพราะจุดนี้รั่ว(เพราะชาก้าตามเมดิสันไม่สุด)
4. อาจได้เห็นเทียร์นี่ลงพร้อมชินเซ็นโก้(แต่กลางก็แน่นไป)
คิดแล้วปวดหัว(ตัวดีมันเยอะเกิน)พี่ต้าแก้เอาเองแล้วกัน
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users