ทีมวัยรุ่นของมิเกล อาร์เตต้า นำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอยู่ในเวลานี้ ตลาดมกราคมเป็นโอกาสอันดีสำหรับพลพรรคทีมปืนใหญ่ที่จะเสริมแกร่ง เพื่อสานต่อการคว้าแชมป์ลีกหนแรกในรอบ 19 ปี ที่มาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน หากย้อนกลับไปในตอนเริ่มฤดูกาล
เลอันโดร ทรอสซาร์ กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยมวัย 28 ปี คืออาวุธเสริมที่อาร์เซน่อลเลือกเติมเขามา เขามีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก 116 เกมส์กับไบรท์ตัน ยิงไป 25 ประตูกับ 13 แอสซิท แม้มองไปที่ตัวเลขอาจจะดูน้อยเมื่อเทียบกับแนวรุกของอาร์เซน่อล แต่มีเพียงแค่ นีล โมเปย์ ที่ยิงประตูได้มากกว่าเขา (26 ประตู) และปาสคาล กรอสส์ ที่แอสซิทได้มากกว่าเขา (19 แอสซิท) นับตั้งแต่ที่เขาย้ายจากเกงค์มาอยู่กับไบรท์ตันเมื่อปี 2019
ตอนนี้เขากลายเป็นนักเตะใหม่ของอาร์เซน่อลแล้ว ทรอสซาร์เป็นผู้เล่นแบบไหน เขาเหมาะกับอาร์เซน่อลตรงไหน
มิเกล อาร์เตต้า ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนก่อนถึงเป้าหมายในการเสริมทัพช่วงตลาดเดือนมกราคม เขากล่าวว่า: "ต้องเป็นผู้เล่นที่จะพาเราไปอีกขั้น" ทรอสซาร์ อาจจะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่สร้างความฮือฮาแบบ มิคไฮโล มูดริก แต่อาร์เซน่อลต้องการเพิ่มขุมกำลังเชิงลึกในแดนหน้า กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และบูคาโญ ซาก้า ลงเล่นไปมากกว่า 94% ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เป็นกองหน้าตัวเป้า ซึ่งสามารถทดแทนได้ดีในเวลาที่ไม่มี กาเบรียล เฆซุส แต่อาร์เตต้าต้องพึ่งพา 11 ผู้เล่นตัวจริงชุดเดิมอยู่เสมอ ดังนั้นการมาของ ทรอสซาร์ สามารถช่วยให้อาร์เตต้า มีความยืดหยุ่นเชิงแท็กติกที่มากขึ้น และสามารถทดแทนได้ทั้ง มาร์ติเนลลี่, เอ็นเคเทียห์ และโอเดการ์ดได้โดยตรง
สมัยที่เขาเล่นกับไบรท์ตันทั้งในยุคของ แกรม พอตเตอร์ และโรแบร์โต้ เด แซร์บี้ เขาถูกใช้งานในหลากหลายบทบาท ตำแหน่งหลักดั้งเดิมของเขาคือปีกซ้าย แต่ในยุคของเด แซร์บี้ ในระบบ 4-2-3-1 บ่อยครั้งที่ทรอสซาร์ ถูกจับมาเล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 หรือหมาย 9
เขาเริ่มฤดูกาลนี้ ภายใต้การคุมของพอตเตอร์ เขาถูกจับมาเล่นในบทบาท Inverted วิงแบ็คซ้าย แบบ 3 - 3 ยกตัวอย่างในจังหวะที่ทะลวงเกมส์รับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมส์นัดเปิดซีซั่น ทรอสซาร์ จ่ายบอลทะลุแนวรับแมนยูไปให่้กับแดนนี่ เวลเบ็ค ก่อนที่มหาเทพจะเปิดบอลไปเสาสองให้กับ กรอสส์ เข้ามายิงประตู
ขณะที่เกมส์แรกของ เด แซร์บี้ ที่เข้ามาคุมทีมแทนแกรม พอตเตอร์ ที่ย้ายไปคุมเชลชี เป็นเกมส์ที่ต้องไปเยือนแอนฟิลด์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมปีก่อน ทรอสซาร์ถูกจับไปเล่นกองหน้าตัวเป้าแทนเวลเบ็ค และเกมส์นี้เขายิงแฮตทริกได้ที่แอนฟิลด์
หนึ่งประตูจาก 3 ประตูที่เขาทำได้ในวันนั้น บ่งบอกถึงคุณสมบัติของกองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยม นั่นคือความว่องไว ความเร็วในการเลี้ยงบอล และเล่นได้ดีทั้งสองเท้า
ไบรท์ตันได้บอลบริเวณเยื้องไปทางริมเส้นฝั่งขวา เวลเบ็คที่เอาชนะเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อโนลด์ ได้ในการเล่นลูกกลางอากาศ และมีประสานงานกับ เปอร์วิส เอสตูปียาน แบ็คซ้ายที่เติมขึ้นมา ก่อนที่เวลเบ็ค จะมองเห็น ซอลลี่ มาร์ช บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ
ตอนแรกจะเห็นว่าทรอสซาร์ วิ่งเพื่อรอลูกเปิดจากด้านของเวลเบ็ค แต่เขามีการเปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร้ว ด้วยการหมุนสะโพก และมาร์ชก็จ่ายบอลจังหวะเดียวให้เขา ก่อนที่ทรอสซาร์จะยิงด้วยซ้าย ที่ไม่ใช่เท้าข้างที่ถนัด ผ่านมืออลิซอนเข้าไป 9 จาก 25 ประตูของทรอสซาร์ในพรีเมียร์ลีก มาจากการยิงด้วยเท้าซ้าย
จังหวะยิงแฮตทริก ทรอสซาร์ถูกขยับไปเล่นวิงแบ็คขวา ไบรท์ตันสร้างเกมส์จากทางฝั่งซ้าย เริ่มจากลูอิส ดังก์ จ่ายบอลให้อดัม เว็บสเตอร์ ก่อนที่บอลจะถ่ายออกไปริมเส้นให้กับ ซอลลี่ มาร์ช
มาร์ช เลี้ยงบอลเข้ามา ก่อนจะจ่ายตัดหลังให้กับ คาโอรุ มิโตมะ ที่วิ่งสอดขึ้นมาจากด้านหลัง อเล็กซานเดอร์-อโนลด์ ขณะที่ทรอสซาร์มาอยู่ในตำแหน่งเสาสอง โดยที่ไม่มีผู้เล่นของลิเวอร์พูลตามประกบ เมื่อมิโตมะ เปิดบอลเข้ามา บอลหลุดมาหมด จนมาถึงทรอสซาร์ยิงแบบไม่จับผ่านมืออลิซอนเข้าไป เป็นการตามตีเสมอ 3-3 ของไบรท์ตัน
อีกหนึ่งตัวอย่าง ในเกมส์ที่ไบรท์ตันเปิดบ้านถล่มเชลชี 4-1 เมื่อเดือนตุลาคม จังหวะนี้มันเริ่มต้นตั้งแต่ที่ ทรอสซาร์ Counter Press ใส่ ติอาโก้ ซิลวา ก่อนที่บอลจะทะลักไปเข้าทางมิโตมะ ก่อนที่มิโตมะจะลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายเข้าในกลับมาที่ทรอสซาร์ ซึ่งเขาใช้ทักษะเลี้ยงบอลแตะหนีเกป้า ก่อนที่จะยิงผ่านบล็อกผู้เล่นเชลชีเสียบมุมประตูอย่างเฉียบขาด
เมื่อพิจารณาจากตำแหน่งการทำประตูของทรอสซาร์ในพรีเมียร์ลีก สังเกตุว่าประตูส่วนใหญ่ของเขาจะเกิดขึ้นบริเวณกรอบเขตโทษ แต่มีเพียงแค่ 3 ประตูที่อยู่ในกรอบ 6 หลา และมีการยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ 4 ประตู
แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับค่า xG (Expected Goal) ทรอสซาร์ในฤดูกาล 2022/23 จะเห็นว่าเขาทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ย เป็นช่วงที่เขาดีที่สุดนับตั้งแต่มาเล่นในอังกฤษ
เชื่อว่าทรอสซาร์ จะปรับตัวเข้ากับสโมรใหม่ได้ไม่ยาก เพราะทางไบรท์ตัน มีสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกับอาร์เซน่อลในการใช้ระบบแบ็คโฟร์ มีการเล่นเพลสซิ่งสูง และเน้นครอบครองบอล ทั้งสองสโมสรมีค่าเฉลี่ยในการครองบอลจาก 18 เกมส์แรกที่ใกล้เคียงกันมากๆ (อาร์เซน่อล 57.1% และไบรท์ตัน 56.9%)
จากการประเมินวิวัฒนการในเรื่องการยิงประตูของทรอสซาร์ เขามีความเติบโตมากขึ้นในฐานะตัวรุก จะเห็นได้โอกาสยิงประตูเฉลี่ยต่อ 90 นาทีของเขา เพิ่มมากขึ้นเรื่อยตั้งแต่ฤดูกาลแรกของเขาในพรีเมียร์ลีก จนถึงตอนนี้ที่มีค่าเฉลี่ย 2.6 ครั้งต่อ 90 นาที
เมื่อพิจารณาจากความเข้มข้นในความพยายามที่จะทำประตู มีความหนาแน่นบริเวณกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย นั่นชี้ให้เห็นว่าเขาน่าจะเหมาะกับการหมุนเวียนบริเวณปีกซ้าย และกองหน้าหมายเลข 9
แม้ว่าความถี่ในการสัมผัสบอลของเขาจะค่อนข้างคงที่ตลอด แต่ในฤดูกาล 2022/23 การสัมผัสบอลของทรอสซาร์มีความกระจัดกระจายน้อยลง ทางด้านขวาน้อยลง แต่จะเพิ่มขึ้นในกรอบเขตโทษ และทางกราบซ้าย
ทรอสซาร์ ไม่ใช่คนที่จะเล่นแบบหันหลังให้ประตูแบบ เฆซุส หรือกระชากบอลด้วยความเร็วแบบมาร์ติเนลลี่ แต่เขาเป็นคนที่หาช่องว่างระหว่างไลน์ได้ดี และสามารถเชื่อมบอลกับเพื่อน หรือพาบอลเข้าไปใกล้กับกรอบเขตโทษ ทำให้รู้สึกว่าเขามีความเป็นลูกผสมระหว่าง ซาก้า-มาร์ติเนลลี่-โอเดการ์ด
นอกจากนี้เขายังมีสถิติที่ดีมากในการเจอกับทีมระดับ Big 6 มีเพียงแค่ โม ซาล่าห์ (23) และแฮร์รี่ เคน (14) ที่ยิงได้มากกว่าทรอสซาร์ (13) ในการเจอกับทีม Big 6
จากข้อมูลของ Smarter Scout เพื่อใช้ดูวิวัฒนาการของทรอสซาร์ นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก โดยกำหนดเรตติ้ง 0 ถึง 99 ในแง่มุมต่างๆ ในการเล่นของนักเตะ ค่อนข้างชัดเจนว่ารูปแบบการเล่นของเขามีความเปลี่ยนแปลง จากแนวรุกสารพัดประโยชน์ เป็นตัวจบสกอร์ที่แท้จริง หากนับตั้งแต่ต้นฤดูกาลก่อน เขายิงไป 15 ประตู 5 แอสซิท
แม้ว่าการเลี้ยงบอล หรือพาบอลของเขาจะลดลงจาก 82 เป็น 72 แต่จะเห็นว่าการรับบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่งสูงขึ้นคนละเรื่องกับปีกแรกที่เขามา และมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสทำประตูที่เพิ่มมากขึ้นจาก 51 เป็น 78
ขณะที่เรื่องเกมส์รับเขาอยู่ในระดับ 69 จาก 99 นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถเล่นแบบเพลสซิ่งสูงในสไตล์ของอาร์เซน่อลได้
ทรอสซาร์ ดูเหมือนจะเป็นการเซ็นสัญญาที่ตอบโจทย์กับอาร์เซน่อล เขาจะเป็นขุมกำลังชั้นเยี่ยมของอาร์เซน่อลในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง กับเดิมพันในตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 19 ปี