เดอะเทเรกราฟ รายงานข่าวว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล สองสโมสรยักษ์ใหญ่ เป็นแรงผลักดดันอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของฟุตบอลอังกฤษ และการยกเครื่องพรีเมียร์ลีก
สองสโมสรกำลังทำงานร่วมกันในการชุดข้อเสนอสุดโต่งที่เรียกว่า "Project Big Picture" ที่จะพลิกโฉมการเงินของเกมศ์พรีเมียร์ลีก ที่เป็นลีกที่กำไรมากที่สุดในโลก ให้ลดจาก 20 ทีมเหลือ 18 ทีม และอำนาจการควบคุมจะอยู่ในมือของสโมสรที่ใหญ่ที่สุด
ทางเทเรกราฟ ได้รายละเอียดของเอกสารที่ถูกเขียนขึ้นโดย Fenway Sport Group ของเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล โดยได้รับการสนับสนุนจากยูไนเต็ด คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากบรรดาทีม Big 6 อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลชี, อาร์เซน่อล และสเปอร์ ด้วย
ภายใต้ข้อเสนอใหม่ ฟุตบอลลีกคัพ และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ จะถูกยกเลิก โดยจะมีการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวการให้ลีกคัพยังคงมีอยู่ แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับโควต้าฟุตบอลยุโรป
การเลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพสู่พรีเมียร์ลีก ยังคงให้สองทีมเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติเช่นเดิม แต่ทีมอันดับ 3, 4 และ 5 จะต้องมาเตะเพลย์ออฟกับทีมในอันดับที่ 16 ของพรีเมียรืลีก
9 สโมสรที่อยู่ในพรีเมียร์ลีกมายาวนานที่สุด ซึ่งรวมถึงกลุ่ม Big 6 จะเป็นผู้กำหนดการดำเนินการในทุกๆ ด้าน และมีอิสระในการเล่นเกมส์อื่นๆ ในการขยายตัวของแชมเปี้ยนลีก ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในฤดูกาล 2024/25
เช่นเดียวกับทีมพรีเมียร์ลีกจะลดจาก 20 สโมสรเหลือ 18 สโมสร และจะมี 24 สโมสรในแชมเปี้ยนชิพ, ลีกวัน และลีกทู รวมเป็น 90 สโมสร แผนการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก ริค แพร์รี่ ประธานอีเอฟแอล ที่ได้มีการพูดคุยกับเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ และแพร์รี่ ยังได้คุยกับครอบครัวเกลเซอร์ เจ้าของยูไนเต็ด
การพูดคุยมีขึ้นตั้งแต่ปี 2017 แต่ได้รับการเร่งรัดให้เร็วขึ้นจากวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบให้ฟุตบอลเข้าสู่สภาวะวิกฤตโดยไม่มีแฟนบอลเข้ามาชมในสนาม ลิเวอร์พูลและยูไนเต็ด พรร้อมสำหรับการถกเถียงที่ดุดเดือนเกี่ยวกับข้อเสนอของพวกเขา แต่พวกเขาต้องการให้มีการนำมาใช้ให้ทันฤดูกาล 2022/23
เอกสารฟื้นฟูเรียกร้องให้มีการทดำเนินการนทันทีเพื่อลดช่องว่างในรายกได้จากสัญญาถ่ายทอดสดระหว่างพรีเมียร์ลีก และอีเอฟแอล เพื่อกีดกันสโมสรในแชมเปี้ยนชิพจากการเล่นการพนัน โดยส่วนแบ่ง 25% ของรายได้ของพรีเมียร์ลีก จะถูกแบ่งให้กับสโมสรในอีเอฟแอลอย่างเท่าเทียม
ภายใต้ข้อเสนอสำหรับการกระจายรายได้จากการถ่ายทอดสดของทาง เฟนเวย์ กรุ๊ป ยืนยันว่าจะไม่มีการให้ส่วนแบ่งทีมากขึ้นกับทีม Top 6 เป้าหมายของพวกเขาคือการลดช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างทีมในพรีเมียร์ลีก และสโมสรอีเอฟแอล ในขณะที่กลับมามีการควบคุมอำนาจการตัดสินใจของพรีเมียร์ลีกได้มากขึ้น
เอกสาระบุว่าเป็นการ รีเซ็ทเศรษฐกิจ และการปกครองในรูปแบบปิรามิคของฟุตบอลอังกฤษที่ค้างชำระมาอย่างยาวนาน
ข้อเสนอดังกล่าวยยังได้เขียนถึงระบอบประชาธิปาไตย 20 สโมสรของพรีเมียร์ลีก เพื่อสนับสนุนให้มีอำนาจกับ 9 สโมสรที่อยู่ในพรีเมียร์ลีกมายาวนานที่สุด นอกจากทีมในกลุ่ม Top 6 แล้ว ยังมีเอฟเวอร์ตัน เซาแธมป์ตัน และเวสต์แฮม ที่ถือเป็นผู้ถือหุ้นระยะยาว จะมีอำนาจอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนด้วยเพียงแค่ 6 จากพวกเขาก็เพียงพอสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวาง สโมสรเหล่านี้ยังสามารถยับยั้งการเจ้าของใหม่ที่จะเข้ามายึดสโมสรคู่อริอีกด้วย
ข้อเสนอที่มีอยู่ในโครงการประกอบด้วย:
- เงินจำนวน 250 ล้านปอนด์จะถูกจ่ายให้กับสโมสรอีเอฟแอลในทันที เพื่อชดเชยรายได้ที่สูญเสียจากค่าตั๋วเข้าชมเกมส์ หักจากรายได้ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดในอนาคต และเงินที่กู้ยืมจากพรีเมียร์ลีก
- สถานะพิเศษกับ 9 สโมสรที่อยู่มายาวนานที่สุด การโหวตต้องการเพียงแค่ 6 เสียงจากกลุ่มผู้ถือหุ้นระยะยาว ในการเปลี่ยนแปลงครั้งหฬย่ รวมถึงการแก้ไขกฏและข้อบังคับการตกลงสัญญา, การถอดถอนหัวหน้าผู้บริหาร และการยับยั้งในวงการ รวมถึงการเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร
- พรีเมียร์ลีก ลดลงเหลือ 18 สโมสร จากเดิม 20 สโมสร
- 100 ล้านปอนด์สำหรับให้กับเอฟเอ เพื่อช่วยเหลือทีมนอกลีก, ฟุตบอลลีกหญิง และฟุตบอลระดับรากฐาน
- รายได้ที่เหลืออยู่ 25% จากของพรีเมียร์ลีก และฟุตบอลลีกรวมกันทั้งหมด เพื่อเข้าสู่สโมสรอีเอฟแอล
- 6% จากรายได้รวมพรีเมียร์ลีก จะใช้จ่ายสำหรับการปรับปรุงสนามของ 4 ดิวิชั่น โดยคำนวณที่ 100 ปอนด์ต่อที่นั่ง
- กฏใหม่สำหรับการกระจายรายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ
- ยกเลิกฟุตบอลลีกคัพ และคอมมิวนิตี้ ชิลด์
- สโมสรในแชมเปี้ยนชีพ, ลีกวัน และลีกทู จะเหลือลีกละ 24 สโมสร จะลดจำนวนสโมสรฟุตบอลจาก 92 เหลือ 90 สโมสร
- ฟุตบอลลีกหญิงอาชีพ จะไม่ขึ้นกับพรีเมียร์ลีก หรือเอฟเอ
- สองสโมสรจะตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกโดยอัตโนมัติทุกฤดูกาล และสองทีมจากแชมเปี้ยนชิพจะเลื่อนชั้นขึ้นมา ทีมอันดับ 16 ของพรีเมียร์ลีกจะไปเล่นเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 3, 4 และ 5 ของแชมเปี้ยนชิพ เพื่อหาอีก 1 ทีมที่จะได้เล่นพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า
- กฏการเงินที่ยุติธรรมจะสอดคล้องกับทางยูฟ่า และสามารถเข้าถึงบัญชีผู้บริหารของสโมสรได้อย่างเต็มรูปแบบ
- การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการยืมตัว ทำให้สโมสต่างๆ มีนักเตะ 15 คนถูกยืมตัวในแต่ละครั้ง และสามารถมี 4 คนในสโมสรเดียวกันในอังกฤษได้