;?>)
;?>)
ชื่อของ ยูเลียน นาเกิลส์มัน กลายเป็นตัวเต็งผู้จัดการทีมคนใหม่ร่วมกับ มิเกล อาร์เตต้า อดีตกัปตันทีมอาร์เซน่อล ที่ปัจจุบันเป็นมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วันนี้มาทำความรู้จักกับกุนซือหนุ่มไฟแรงวัยเพียง 30 ปี กันให้มากขึ้น
1) ทำลายสถิติกุนซืออายุน้อยที่สุดของบุนเดสลีกา
นาเกิลส์มัน อายุเพียงแค่ 28 ปี ตอนที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชของฮอฟเฟ่นไฮม์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ตอนนั้นเขาเข้ามารับงานต่อจาก ฮุบ สตีฟเว่น ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ตอนนั้นสโมสรรั้งในอันดับที่ 17 ของตารางคะแนน มีโอกาสที่จะตกชั้น แต่เขาก็สามารถพาทีมรอดพ้นการตกชั้นได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามแม้ว่า นาเกิลส์มัน จะเป็นเฮดโค้ชถาวรที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของบุนเดสลีกาเยอรมัน แต่เขาไม่ใช่เฮดโค้ชที่อายุน้อยที่สุด ที่คุมทีมลงสนามในบุนเดสลีกา เมื่อปี 1967 แบรนด์ สตูร์เบอร์ วัย 24 ปี เป็นเฮดโค้ชชั่วคราวของสโมสรซาบรุคเค่น
2) แขวนสตั๊ดตั้งแต่ชีวิตการค้าแข้งยังไม่ทันเริ่ม
เขาเกิดในแคว้นบาวาเรียน เริ่มเล่นกับทีมเยาวชนของสโมสร 1860 มิวนิค แต่เขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่า หลังจากย้ายไปร่วมทีมเอาก์สบวร์กได้เพียงไม่นาน ทำให้เขาต้องยุติเส้นทางค้าแข้งด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น
ภาพเมื่อครั้งที่นาเกิลส์มัน ลงสนามเจอกับ ซานโดร ว๊ากเนอร์ ในระดับทีมเยาวชน ก่อนที่ว๊ากเนอร์จะมาเป็นลูกน้องเขาที่ฮอฟเฟ่นไฮม์
3) ผู้นำด้านเทคโนโลยีการฝึกซ้อม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ เป็นหนึ่งในสโมสรแรกในโลก ที่ใช้ 'Footbonaut' มาช่วยในการฝึกซ้อม เพื่อให้นักเตะสามารถจับบอล และควบคุมบอลได้ดีขึ้น แต่นาเกิลส์มัน ยังนำอีกหลายเทคโนโลยีมาใช้ในการซ้อม เขาใช้โดรน (Drones) ในการถ่ายภาพจากมุมสูงเพื่อดูการเคลื่อนที่ของลูกทีม เขามี Videowall ขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของสนามซ้อมหลัก
ระบบประกอบด้วยกล้อง 4 ตัว สองตัวจากมุมบน และอีกอย่างละตัวที่อยู่ด้านหลังของประตูแต่ละฝั่ง ข้อมูลจากกล้องทั้ง 4 ตัวสามารถไปแสดงที่หน้าจอได้ทุกเมื่อ และกล้องจะถูกควบคุมโดนทีมงานสต๊าฟเทรนนิ่ง มีพโอกาสที่ะพวกเขาจะหยุด ย้อนดูภาพ หรือเลื่อนไปข้างหน้า เพื่อแสดงให้นักเตะเห็นจุดที่น่าสนใจ มันช่วยให้นาเกิลส์มัน มีโอกาสที่จะอธิบายรายละเอียดได้จาก 4 มุมมอง
4) ต้นแบบของนาเกิลส์มัน
โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมคนใหม่ของปารีส แซงต์แชร์กแม็ง มีอิทธิพลอย่างมากต่อนาเกิลส์มัน ในช่วงที่เขาทีมโค้ชเยาวชนของสโมสรเอาก์สบวร์ก ระหว่างฤดูกาล 2007/08 ทูเคิ่ลได้มอบหมายงานให้เขาไปทำการศึกษาคู่แข่ง เขาบอกว่า "นั่นเป็นแสดงทางสู่การเป็นโค้ชของเขา ผมได้เรียนรู้มากมายจากทูเคิ่ล"
ด้านทูเคิ่ลเองก็เคยพูดถึงนาเกิลส์มัน เมื่อตอนที่เขาถูกแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชของฮอฟเฟ่นไฮม์อย่างเต็มตัวว่า: "เขาเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็น และเขาเป็นโค้ชหนุ่มที่ทำงานหนักมาก เขาประสบความสำเร็จในการดูแลทีมเยาวชน และผมมีความสุขกับเขามากๆ และผมเชื่อในตัวเขา"
5) ไม่เล่นโซเซียลมีเดีย
คงมีไม่เยอะนักที่คนในยุคนี้ จะไม่เล่นโซเซียลมีเดีย เมื่อตอนที่เขาแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชฮอฟเฟ่นไฮม์ เขาเปิดบัญชีอินสตาแกรม และเฟชบุ๊ค ไม่นานมีคนติดตาม 42,000 คน ก่อนที่เขาจะปิดทั้งหมดลง
"ในฐานะโค้ช ผมไม่คิดว่าคุณจำเป็นต้องใช้โซเซียลมีเดีย"
6) มันสมองไม่ธรรมดา
เขาได้รับเกรด A ในการอบรมโค้ชฟุตบอลอาชีพ จบในอันดับ 2 ในชั้นเรียน เป็นรองเพียงแค่ โดเมนิโก้ เทเดรโก้ กุนซือหนุ่มวัย 32 ปี ที่ปัจจุบันเป็นเฮดโค้ชของสโมสรชาลเก้ 04 (รองแชมป์บุนเดสลีกา ฤดูกาลล่าสุด)
7) แฟมิลี่แมน
หากมีช่วงเวลาว่าง เขาจะกลับไปอยู่บ้านกับครอบครัว แฟนสาว เวเรน่า ที่คบกันมาอย่างยาวนาน และลูกชายแม็กซิมีเลี่ยน เขาพูดถึงครอบครัวว่า: "มันช่วยได้เยอะเมื่อกลับบ้านมาในตอนกลางคืน และเจอกับภรรยาและลูก เพราะฟุตบอลมักไม่ใช่ความรู้สึกอันแท้จริง เวเลน่า สนับสนุนผมอย่างเต็มที่ และผมสามารถมีสมาธิกับงานของตัวเอง"
8) ผลงานไม่ธรรมดา
เกือบ 70 เกมส์นับตั้งแต่ที่เขาประเดิมคุมทีมในเกมส์นัดที่ 21 ของฤดูกาล ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ในช่วง 2 ปีกว่า เขาพาฮอฟเฟ่นไฮม์เก็บคะแนนได้ 116 คะแนน เป็นรองเพียงแค่สองมหาอำนาจลูกหนังเมืองเบียร์อย่าง บาเยิร์น (173) และดอร์ทมุดน์ (134) เท่านั้น
ทำคะแนนได้มากกว่าทีมใหญ่ทีมอื่นทั้ง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (104), โบรุสเซีย มึนเซ่นกลัดบัค (99) และชาลเก้ (96)
9) ไม่ต้องใช้เงินเยอะพาทีมประสบความสำเร็จได้
ฤดูกาล 2016/17 ที่เขาพาฮอฟเฟ่นไฮม์ กระโดดขึ้นมาจบในอันดับ 4 ของตารางคะแนนบุนเดสลีกา ปีนั้นเขาใช้เงินซื้อนักเตะเข้ามาเพียงแค่ 20 ล้านปอนด์เท่านั้น พร้อมทั้งขายสตาร์ดังของทีมอย่าง เควิน โฟลันด์ ไปให้เลเวอร์คูเซ่นด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์
เช่นเดียวกับฤดูกาลล่าสุด 2017/18 เขาใช้เงินไป 13 ล้านปอนด์ แล้วขายสามนักเตะตัวหลักไปให้กับบาเยิร์น มิวนิค นิคลาส ชูร์เล่, ซานโดร ว๊ากเนอร์ และเซบาสเตียน รูดี้ รวมถึง เจเรมี่ โทยาน แบ็คที่ปล่อยให้ดอร์ทมุนด์ เบ็ดเสร็จทีมได้เงินเข้ากระเป๋ากลับมา 40 ล้านปอนด์
แม้จะเสียตัวหลักไปหลายคน แต่นาเกิลส์มัน ก็ยังพาฮอฟเฟ่นไฮม์ จบในอันดับ 3 ของตารางคะแนนบุนเดสลีกา และผ่านเข้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกได้เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน
10) เจาะแท็กติดของนาเกิลส์มัน
ระบบการเล่นที่ฮอฟเฟ่นไฮม์ใช้คือ 3-1-4-2 ในมุมด้านแท็กติกเกมส์รุก นาเกิลส์มัน ใช้ระบบกองหน้าคู่ โดยจะใช้กองหน้าเป็นตัวสร้างพื้นที่ให้กับเพื่อนร่วมทีม นอกจากนี้ยังเป็นทีมที่เน้นครองบอล และใช้การโต้กลับเร็วเล่นงานคู่แข่ง อาวุธทีเด็ดอีกอย่างคือลูกยิงไกล
ส่วนทางด้านเกมส์รับ จะใช้ระบบหลัง 3 แต่เวลาที่ต้องการรับมากก็จะปรับเปลี่ยนมาเป็นหลัง 5 ตัว เน้นการป้องกันบริเวณตรงกลาง จุดแข็งอีกอย่างคือการป้องกันลูกกลางอากาศดีมาก น้อยมากที่พวกเขาจะเสียประตูจากลูกกลางอากาศ
การแก้เกมส์ของนาเกิลส์มัน เขาเป็นผู้จัดการทีมที่มีสถิติการเปลี่ยนตัวเร็วที่สุดในบุนเดสลีกา และได้ประตูจากบรรดาตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนามอยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจที่รวดเร็ว และการแก้เกมส์ที่ดี
นาเกิลส์มันเคยให้สัมภาษณ์ว่า: "ผมชอบที่จะโจมตีใกล้กับเขตประตูของคู่แข่ง เพราะพื้นที่ไปถึงประตูเหลือไม่มากถ้าคุณพาบอลขยับขึ้นไปได้สูงกว่าเดิม ผมชอบแนวทางการเล่นของบียาร์เรอัล และแนวทางด้านการโค้ชนักเตะดาวรุ่ง ผมยังชอบบาร์เซโลน่า และอาร์เซนอ่ล กับการทำงานของ อาร์แซน เวนเกอร์"
