Jump to content



Photo

เจาะเบื้องลึกการพลิกสถานการณ์ของ "อาร์เตต้า" จากตัวเต็งถูกเด้งสู่เก้าอี้ที่มั่นคง

- - - - -

  • Please log in to reply

#1
Admin

Posted 18 November 2021 - 12:36 PM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,455 posts
  • LocationBangkok
5039fe2b427f52d596869ced1eebed88.png


เบื้องหลังประตูที่ลอนดอน โคลนี่ย์ เป็นที่ทราบกันว่า มิเกล อาร์เตต้า เปรียบเสมือนเรือพาย ที่ทุกฝีพายต้องดึงเรือไปในทิศทางเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน ถ้าหากพวกเขาต้องการไปยังจุดหมายที่ต้องการ

ฤดูกาลแรกในการเข้ามาจัดการทีม งานของเขาคือการอุดรูรั่วเรือที่กำลังจะจมในช่วงปลายเดือนธันวาคม อย่างที่สองคือการเปลี่ยนแปลงบุคลากรภายในทีมจำนวนมาก การปรับปรุงลูกเรือ และโยนผู้ก่อกบฏ 2-3 คนลงน้ำไป

อย่างที่สาม ก็ควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการไปยังท่าเรือที่ปลอดภัย แต่การเดินทางในทะเลอันเงียบสงบก็หายไป ในเดือนสิงหาคม เมื่ออาร์เซน่อลแพ้ 3 นัดรวดแบบเจ็บช้ำ อย่างไรก็ตามหลังจากจากนั้นทุกอย่างดีขึ้น

ความโกลาหลในช่วงเปิดฤดูกาล ถูกชำระล้างด้วยการไม่แพ้ใคร 10 นัดติดต่อกันในทุกรายการ และทีมขยับขึ้นมาสู่อันดับ 5 ของตารางคะแนน ก่อนที่จะบุกไปเยือนลิเวอร์พูลในสุดสัปดาห์นี้ แน่นอนว่าเส้นทางยังอีกยาวไกล และอาร์เตต้า ก็เป็นคนแรกที่บอกเองว่า "อาร์เซน่อลยังไม่ได้ทำอะไรสำเร็จเลย"

"เราชนะมาแค่สองนัดติดต่อกัน" เขากล่าวหลังจากเกมส์บุกชนะเลสเตอร์ 2-0 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม "เรายังไม่ได้อยู่ในจุดที่อยู่เฉยๆ ยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องปรับปรุง ถ่อมตน ทำงานให้หนัก และดูกันไปทีละเกมส์"

ความถ่อมตนเป็นเรื่องหนึ่งที่น่าชื่นชม แต่ในอีกแง่ เขาก็พูดถูกว่าอาร์เซน่อลยังไม่ได้ทำอะไรสำเร็จเลย พวกเขาได้ประโยชน์จากโปรแกรมที่ไม่หนักแบบในช่วงเริ่มฤดูกาล และมีเกมส์อย่างไบรท์ตัน และคริสตัล พาเลซ ที่พวกเขาเกือบจะแพ้แต่ก็ได้ผลเสมอกลับมา รวมถึงเกมส์ชนะเลสเตอร์ ผู้รักษาประตูของพวกเขาก็ได้รางวัลแมนออฟเดอะแมตซ์

แต่ในเวลาเดียวกัน อาร์เตต้าได้ทำบางอย่าง ที่ไม่ใช่ครั้งแรกในยุคของเขา ในการทำให้เรือกลับมามั่นคงจากที่เหมือนกำลังจะอับปาง

เวลาที่ทีมเจอการเปลี่ยนแปลงของผลการแข่งขัน สิ่งที่คุณสามารถจินตนาการได้ คือการโยนวิธีเก่าทิ้งไป แล้วเอาวิธีใหม่มาใช้แทน แต่กับอาร์เซน่อลไม่ได้เป็นแบบนั้น แม้ว่าจะมีการปรับแต่งบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งผลการแข่งขัน แต่พวกเขายังยึดมั่นใจแผนและปรัชญาอย่างมั่นคง ทั้งสต๊าฟโค้ช และผู้บริหารระดับสูง ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน หลังจากสามเกมส์แรก

แม้ว่าอาร์เซน่อลจะนอนนิ่งในอันดับสุดท้ายของตารางคะแนน ไม่มีคะแนน หรือแม้กระทั่งยิงประตูคู่แข่ง อาร์เตต้ายังได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากบอร์ดบริหาร และเจ้าของทีม จอร์จ โครเอนกี้ ยังคงมีการสื่อสารโดยตรงกับตัวผู้จัดการทีม ขณะที่สื่อพยายามโยงอาร์เซน่อลกับโค้ชคนอื่น หรือเก้าอี้ของอาร์เตต้ากำลังสั่นคลอน แต่เบื้องหลังอาร์เตต้ายังได้รับความมั่นใจและเชื่อมั่นอย่างเต็มที่

อาร์เซน่อล ทราบดีว่าโปรแกรมเดือนสิงหาคม มีปัจจัยอื่นที่เขามาเกี่ยวข้อง ผู้เล่นตัวหลักอย่าง โอบาเมยอง, ลากาแซตต์ และเบน ไวท์ ต่างติดเชื้อโควิด-19, ปาร์เตย์​และกาเบรียล มีปัญหาบาดเจ็บ และบูคาโญ ชาคา ที่กรำศึกหนักมาตลอดทั้งปี ก็ยังไม่ฟิตเต็มที่ รวมถึงเรื่องการซื้อ-ขายนักเตะของทีมก็ยังไม่เสร็จสิ้น

มีความหวัง หรือความคาดหวังว่าทีมจะพัฒนาขึ้นได้ เมื่ออาร์เตต้า สามารถเรียกได้ว่า นี่คือทีมของเขา

หลังจากแพ้แมนซิตี้ 5-0 ในวันที่ 28 สิงหาคม มีช่วงเบรกสัปดาห์ทีมชาติสองสัปดาห์ ทำให้อาร์เตต้ามีเวลาที่จะหายใจอย่างที่ประเมินค่าไม่ได้ หลังจากลับจากเบรกทีมชาติเขาพูดว่า: "นี่คือ 10 หรือ 15 วันที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เขาอยู่ในวงการฟุตบอล"

มันเป็นความคิดเห็นที่น่าตกใจ และแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่สำคัญของกุนซือหนุ่มชาวสเปน นั่นคือ 10 หรือ 15 วันที่เป็นจุดสำคัญ อาร์เซน่อลได้ผู้เล่นตัวหลักกลับมาจากอาการป่วยและอาการบาดเจ้บ รวมถึงบทสรุปในตลาดนักเตะ

TAKEHIRO-Tomiyasu-ARSENAL-scaled-e163267

พวกเขาหวังเสมอว่าจะได้แบ็คขวาคนใหม่เข้ามา หลังจากฟอร์มการเล่นอันย่ำแย่ของผู้เล่นในตำแหน่งนี้ ทำให้พวกเขาต้องมองหานักเตะใหม่เป็นการด่วน ก่อนที่วันสุดท้ายพวกเขาจะเซ็นสัญญากับ ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ ซึ่งดูจะเป็นการเสริมทัพที่ชาญฉลาดและเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง

นอกจากนั้นอาร์เซน่อลได้มีการปล่อยผู้เล่นอย่าง วิลเลี่ยน, อเล็กซ์ รูนาร์สสัน, เอคตอร์​ เบเยริน, ลูคัส ตอร์เรยร่า และริสส์ เนลสัน ออกไปจากทีม เพื่อทำให้แน่ใจว่าขุมกำลังของทีมมีความสมดุล พวกเขาเลือกที่จะเก็บ เมตแลนด์-ไนล์ส เอาไว้กับทีมต่อ แทนที่จะปล่อยนักเตะออกไปแบบยืมตัว ซึ่งการตัดสินใจในวันนั้นก็ดูสมเหตุสมผลมากขึ้นในวันนี้

ที่สนามซ้อม อาร์เตต้ารู้สึกตื่นเต้นกับความมุ่งมั่นในตัวนักเตะของเขา หนึ่งในข้อดีของนักเตะหนุ่มก็คือบาดแผลจากความพ่ายแพ้อยู่กับพวกเขาไม่นาน ขณะที่สื่อกำลังรุมล้อมมาที่สโมสร แต่ไม่มีสื่อรายใดเจาะเข้ามาถึงในลอนดอน โคลนี่ย์

ช่วงเวลานี้ยังให้เวลากับอาร์เตต้าในการทำงานร่วมกับทีม และได้ประเมินผู้เล่นใหม่ มันเป็นเหมือนปรีซีซั่นรอบสองก็ว่าได้ อาร์เซน่อลมีเกมส์อุ่นเครื่องแบบปิดกับเบรนท์ฟอร์ด นั่นเป็นการได้ทดสอบการจับคู่ระหว่าง กาเบรียล และเบน ไวท์ รวมถึงเป็นโอกาสได้เห็น แอรอน แรมส์เดล ลงเฝ้าเสา

เมื่อฟุตบอลลีกกลับมา อาร์เซน่อลได้เล่นในบ้านกับนอริช ซิตี้ ในวันที่ 11 กันยายน อาร์เตต้าเลือกปรับผู้เล่นในแนวรับใหม่เกือบยกทีม แรมส์เดล, กาเบรียล, ไวท์ และโทมิยาสุ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทั้งหมด

การตัดสินใจเลือกที่จะส่ง แรมส์เดล, กาเบรียล และไวท์ ลงเกิดขึ้นในช่วงเบรกทีมชาติ เลโน่ได้รับแจ้งว่าเขาจะไม่ได้ลงเล่น 48 ชั่วโมงก่อนที่เกมส์จะเริ่มต้นขึ้น ขณะที่โทมิยาสุ ก็สร้างความประทับใจให้กับสต๊าฟโค้ชตั้งแต่การซ้อมในวันแรกกับทีม การตัดสินใจในครั้งนั้น อาร์เตต้ามองถึงโครงสร้างในระยะยาวของเกมส์รับของทีม

ในช่วงเวลานั้น อาร์เตต้า มีการสื่อสารที่ดีกับเหล่าบรรดาผู้บริหาร จอร์จ โครเอนกี้, วิไน เวสเกตทราม ซีอีโอ และทิม ลูอิส ได้เข้ามาที่สนามซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เมื่อไม่นานมานี้ทั้งสามผู้บริหาร ได้มานั่งทานข้าวเที่ยงกับ อาร์เตต้า, เอดู และการ์ลิค ที่โคลนี่ย์ เมื่อเป็นการฉลองการคุมทีมครบ 100 นัดของอาร์เตต้า

หนึ่งในจุดแข็งของอาร์เตต้า นั่นคือการสื่อสารกับผู้เล่นของเขา อดีตกัปตันทีมอาร์เซน่อล ได้มีการพูดคุยสื่อสารกระตุ้นลูกทีมก่อนเกมส์ที่พบกับนอริช และเกมส์ที่ชนะท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3-1 ในอีกสองสัปดาห์ต่อมา นอกจากนี้เขายังเปิดโอกาสให้คนอื่นได้ขึ้นมาพูดด้วย หนึ่งในการสัมภาษณ์หลังเกมส์ของ แรมส์เดล เขาบอกว่าตัวเองได้พูดกับทีม จากความผิดหวังที่มาเสียประตูตีไข่แตกในเกมส์ชนะวิลล่า 3-1

ในช่วงเวลาที่อาร์เตต้า ถูกแรงกดดันมากมายจากภายนอก แต่เขาพบว่าเขาได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากภายใน มันคือเหตุผลว่าทำไมช่วงเวลาดังกล่าวจึงพิเศษมากสำหรับตัวเขา


กับทีมที่เต็มไปด้วยดาวรุ่ง บทบาทของผู้เล่นซีเนียร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน

aubameyang-celebrates-blog-scaled.jpg

โอบาเมยอง และลากาแซตต์ สองกองหน้าซีเนียร์ของทีม เป็นเหมือนตัวจุดประกายซึ่งกันและกัน และเป็นผู้นำในห้องแต่งตัวของอาร์เซน่อล อย่างที่อาร์เตต้ายืนยันว่า: "พวกเขาคือแบบอย่าง ไม่เพียงแค่ในสนาม แต่รวมถึงในสนามซ้อมด้วย"

ตลอดช่วงซัมเมอร์ โอบาเมยองที่อายุ 32 ปี เขาได้มีการพูดคุยกับทีมงานสต๊าฟโค้ชเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมฝึกซ้อมของตัวเอง เขาต้องการผลลัพธ์ทางกายภาพ เพื่อเป้าหมายในการกลับมามีส่วนร่วมและจุดไฟให้เขาอีกครั้ง หลังจากฤดูกาลอันน่าผิดหวัง ที่เขายิงได้แค่ 10 ประตูในพรีเมียร์ลีก อาร์เตต้าพอใจมากกับการตอบสนองจากโอบาเมยอง ไม่เพียงแค่เขายิงประตูได้มากขึ้น (7 ประตูจาก 11 เกมส์) แต่รวมถึงการฟอร์มการเล่นของเขาก็พัฒนาขึ้นด้วย

ลากาแซตต์ สร้างความประทับใจให้กับสต๊าฟโค้ชกับทัศนคติของเขา แม้ว่าเขาจะอายุเข้าเลขสามแล้ว และเหลือสัญญาเป็นปีสุดท้ายกับทีม แต่ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อความมุ่งมั่นในการเล่นเพื่อทีมเลย ซึ่งอาร์เตต้า เป็นคนที่ใส่ใจอย่างมากกับการซ้อม ไม่แปลกใจที่ ลากาแซตต์ กลับมาเป็นตัวจริงของทีมอีกครั้งในช่วงหลัง

หลังจากส่ง ลากาแซตต์ ลงเล่นร่วมกับโอบาเมยอง ในเกมส์กับวิลล่าเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ในการต่อกรกับเกมส์ป้องกันแบบหลังสามของวิลล่า มันมีประสิทธิภาพมากจนอาร์เตต้ายึดแผนการเล่นดังกล่าวมาอีกสองเกมส์ถัดมา ด้วยระบบการเล่นที่วิวัฒนาการมาจาก 4-4-2 แบบดั้งเดิม มาเป็นแผน 4-2-2-2 ทำให้พวกเขาเก็บได้ 9 คะแนนเต็มจาก 3 เกมส์ลีกที่ผ่านมา

กรานิต ชาก้า ห้องเครื่องทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บหนักตั้งแต่เกมส์ชนะท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3-1 แต่เขาก็ยังอยู่ฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ลอนดอน โคลนี่ย์ และยังเป็นหนึ่งในผู้นำที่สำคัญของทีม

แม้กระทั่งผู้เล่นสำรองก็ถูกดึงไปในทิศทางที่ถูกต้อง เลโน่ และร็อบ โฮลดิ้ง พยายามที่จะทำผลงานในการซ้อมให้ดีเพื่อโอกาสในการแย่งตำแหน่งในทีม เมตแลนด์-ไนล์ส ที่แสดงท่าทีไม่พอใจกับการไม่ได้ย้ายไปเอฟเวอร์ตันในช่วงซัมเมอร์ ก็กลับมามุ่งมั่นในการเล่นเพื่อทีมอีกครั้ง และเขาก็ได้รับโอกาสจาก อาร์เตต้า ให้ลงเล่นมากขึ้น

เมื่อ ดาวิด ลุยซ์ ย้ายออกไปในช่วงซัมเมอร์ มันช่วยให้ผู้เล่นคนอื่นก้าวขึ้นมาและแสดงความเป็นผู้นำ อย่างบุคลิกของ แรมส์เดล ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน กาเบรียล ก็มีความรับผิดชอบในสนามที่มากขึ้นกับซีซั่นที่สองกับอาร์เซน่อล และเขากำลังพัฒนาเรื่องการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ

การพัฒนาของ ชาคา และสมิธ โรว์ สองดาวรุ่งผลผลิตของอะคาเดมี่ของสโมสร ก็ดึงความรู้สึกดีๆ ให้เกิดขึ้นรอบสโมสร

อาร์เซน่อล อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็มีแคมป์นักเตะที่มีความสุข ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม หลังจากชนะเลสเตอร์ 2-0 นักเตะทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อลได้ไปร่วมงานฮาโลวีนที่จัดขึ้นใน Thorpe Park ที่แม่งานคือ โอบาเมยอง กับชาก้า

หนึ่งในประเด็นสำคัญของอาร์เตต้า เวลาที่พูดผ่านสื่อก็คือ ความสามัคคีของผู้เล่นในทีม ความสำคัญในการเชื่อมต่อของการเป็นทีมเดียว สโมสรเดียว


สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาร์เซน่อลในอดีตและปัจจุบัน

SM2_3727_2021110591651752-scaled.jpg

หลังจากที่อาร์แซน เวนเกอร์ อำลาทีมไปในปี 2018 หลังจากคุมอาร์เซน่อลมายาวนาน 20 กว่าปี มีแนวโน้วมที่เข้าใจได้ว่าสโมสรต้องการที่จะแยกตัวออกจากกรอบแนวความคิดเดิมๆ แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีแรงผลักดันในการปิดช่องว่างดังกล่าว และภูมิใจกับประวัติศาสตร์ของสโมสร

The Athletic เคยรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่า มีการติดภาพของ เวนเกอร์ ขนาดใหญ่ ที่เหมือนกำลังทักทายทุกคน ไว้ที่หน้าทางเข้าสนามซ้อม แต่มันยังมีมากกว่านั้น ในเกือบทุกมุมของลอนดอน โคลนี่ย์ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของอาร์เซน่อล ยกตัวอย่างในห้องของโค้ช มีจิตรกรรมฝาผนังของเวนเกอร์ในยุคไร้พ่าย 2003/04 ซึ่ง เอดู และอาร์เตต้า มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ พวกเขามองว่าความสำเร็จของเวนเกอร์คือแรงบันดาลใจมากกว่าที่จะเป็นความกลัว

มีการเชิญเหล่าบรรดาตำนานของสโมสรให้กลับเข้ามามีส่วนร่วมภายในสโมสร แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ได้เชิญ เดวิด ซีแมน อดีตยอดผู้รักษาประตูสโมสร เข้ามาทำงานที่อะคาเดมี่ ที่ทำงานอย่างไม่เป็นทางการกับผู้รักษาประตูดาวรุ่งของทีม

ก่อนหน้านั้นก็มีการเชิญอดีตนักเตะของทีมอย่าง มาร์ติน คีโอวน์, จิลแบร์โต้ ซิลวา และโบโร่ พรีโมลัค อดีตมือขวาของอาร์แซน เวนเกอร์ ในอนาคต ลี ดิ๊กซั่น และอลัน สมิธ จะเป็นแขกรายต่อไป

อาร์เตต้า เคยพูดว่าเขาอยากให้ อาร์แซน เวนเกอร์ มาปรากฏตัวที่สโมสรอาร์เซน่อลมากขึ้น หลังจากที่เขาเลือกที่จะเว้นระยะห่างจากสโมสรนับตั้งแต่อำลาทีมไป และมีแนวความคิดอย่างน้อยจะเชิญเวนเกอร์ มาเยี่ยมสนามซ้อม จะเป็นประโยชน์อย่างประเมินค่าไม่ได้สำหรับนักเตะดาวรุ่งของทีม


ฤดูกาลที่สำคัญของอาร์เตต้า

นี่จะเป็นฤดูกาลที่สำคัญสำหรับโปรเจคของอาร์เตต้า หลังจากเข้ามาคุมทีมในช่วงกลางซีซั่น ก่อนที่ฤดูกาลที่สองจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการไม่ชนะใครในลีก 7 นัดติดต่อกัน ก่อนที่จะมาทำผลงานได้ดีหลังจากบ็อกซิ่งเดย์ ก่อนที่จะมาแพ้บียาร์เรอัล ของอูไน เอเมรี ร่วงรอบรองชนะเลิศยูโรป้าลีก

ตอนนี้ผู้บริหารของอาร์เซน่อล ได้จัดหาผู้เล่นอย่างที่อาร์เตต้าต้องการ ออกแบบมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ความตั้งใจของสโมสรในภายภาคหน้าคือการเซ็นสัญญาผู้เล่นสำคัญ 1-2 คนต่อรอบตลาดนักเตะ เพื่อเสริมสร้างแกนเดิมของทีมที่มีอยู่ ด้วยการสนับสนุนทางด้านการเงินของเจ้าของทีม มองหาโอกาสในตลาดที่สามารถใช้กำลังเงินที่พวกเขามีได้ อย่างเช่นโอกาสในการฉีกสัญญานักเตะอย่าง โธมัส ปาร์เตย์ มาจากแอตเลติโก มาดริด 45 ล้านปอนด์

สโมสรอาร์เซน่อลเกิดความผันผวนขึ้นมาตลอดช่วงหลายปี และต้องยอมรับว่าพวกเขาได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดลงไปในการเสริมทัพ อาร์เซน่อลได้ทบทวนกระบวนการภายใน และที่ผ่านมาการตัดสินใจดึงนักเตะก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อาร์เซน่อล หวังที่จะเรียนรู้จากทีมอย่างเชลชี ในการขยายสัญญาเพื่อรักษามูลค่าทางการตลาดเอาไว้

อย่างในกรณีของ วิลเลี่ยม ซาลิบา กองหลังดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ที่เหลือสัญญากับทีมอีก 2 ปีครึ่ง ซึ่งอาร์เซน่อลต้องการที่จะต่อสัญญายาวฉบับใหม่กับปราการหลังวัย 20 ปี เพื่อปกป้องมูลค่าของซาลิบา ซึ่งเมื่อซาลิบากลับมาจากการยืมตัวที่มาร์กเซย จะเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่สำคัญของอาร์เซน่อลในปี 2022

เรือของอาร์เตต้า ยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกล และยังมีก้อนหินอีกมากมายรออยู่ สิ่งที่สำคัญคือการรักษาสภาพแวดล้อมที่กำลังพัฒนาแบบนี้ต่อไป ความพ่ายแพ้ในครั้งต่อไป ควรเป็นแค่การเตือนสติมากกว่าทำให้เกิดวิกฤต เกิดการขบคิดมากกว่าเกิดจลาจร

#2
magnum112

Posted 18 November 2021 - 02:13 PM

magnum112

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 5,894 posts

อ่านเพลินดีครับ



#3
Jataz_

Posted 18 November 2021 - 02:40 PM

Jataz_

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 553 posts
ราวกับไปนั่งในสนามซ้อม พื้นหญ้ามันจะเนียนนุ่มขนาดไหนนะ อยากลองเตะสักที

#4
rut-gunner

Posted 18 November 2021 - 06:25 PM

rut-gunner

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 783 posts
รอนัดเจอ คลอบ นี้แหละว่าจะออกแนวไหน

#5
mr.mc

Posted 18 November 2021 - 08:12 PM

mr.mc

    Mr.Mc

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,395 posts
  • Locationเวียงโกศัยนคร

กลับมาตั้งไข่  เจอทีมแข็งอย่างลิเวิอร์พูล  อะไรน่าจะออกมาให้เห็นชัดเจนขึ้น

ยังไงก็เชียร์ก็ลุ้น ให้มายืนด้านบนเร็วๆ 1-4 ก็พอใจละครับ 



#6
kakai

Posted 18 November 2021 - 09:46 PM

kakai

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,079 posts
อยากให้ฟูลทีม จะได้ไม่มีปัญหาในการเซ็ตทีม

#7
nathan_nui1979

Posted 18 November 2021 - 10:02 PM

nathan_nui1979

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 757 posts
กองหลังเหนียวแน่น ยันหงษ์ แล้วสวนกลับสวยๆ

ขอให้พลิกชนะ เพื่อสร้างความฮึกเหิมให้กับทีม

#8
Chillchillmonster

Posted 19 November 2021 - 02:08 AM

Chillchillmonster

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 48 posts
ทีมที่เด็กที่สุดในพรีเมียร์ลีก จะเจอกับทีมที่เล่นเกมเพรสซิ่งได้ดีที่สุดในลีก ยิงประตูได้มากที่สุดในลีก 11 นัด 31 ลูก จากเกมส์หงส์พบกับเวสแฮม ณ ตอนนี้ที่ดูว่าน่าจะลงไม่ได้ก็มีแค่เฟอร์มิโน่ และเล่นในแอนฟิลด์ที่เราไม่เคยชนะมา 9 ฤดูกาล ตั้งแต่อาเตต้ายังเป็นนักเตะ
แน่นอนว่าเกมส์รับเราแน่นขึ้นมาก เกมส์เซ็ทพีทเราพัฒนาขึ้น แต่ฟอร์มทีมเราก็ไม่ได้เล่นแบบเพอเฟ็คเกมได้ทุกนัด อย่างเกมที่เราเจอไบรท์ตันทีมที่เพรสซิ่งดี ก็ออกอาการมีปัญหา ความคาดหวังจะทำให้ผิดหวังและสุดท้ายก็มาโจมตีทีมรึเปล่า
เราแพ้แบบทำที่ทำให้หงส์เล่นยากก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว ยังเหลือเกมส์ให้เก็บแต้มอีกมาก คงไม่คิดว่านัดเจอหงส์ ถ้าแพ้จะทำให้เราหมดอนาคตไปเลย
แต่ถ้าเราเสมอหรือพลิกชนะได้ แน่นอนว่ามันคือชัยชนะที่หอมหวานสุดๆ
แต่หลังจากนั้น เราก็จะเจอเกมส์อีก 9 เกมส์ใน 34 วัน ก่อนจบสิ้นปี ถ้าตัวหลักเจ็บ จะกระทบกับฟอร์มรึเปล่า ยังมีอะไรให้เราต้องผ่านไปอีกมาก
ส่วนตัวยังเลือกที่จะมอง เหมือนกับความรู้สึกแรกตอนแรกที่ทีมเลือกจะทำทีม U23 มาสู้ในลีค เพราะตอนนั้นคงไม่มีใครหวังติดท็อปโฟร์แน่นอน แค่เท่าที่ผ่านมา เด็กๆเล่นได้ขนาดนี้ก็ดีใจแล้ว แค่อันดับดีกว่าปีที่แล้ว ติดอันดับ6 ได้ไปบอลยุโรป แล้วต่อยอดเด็กๆชุดนี้ไปเรื่อยๆ มันก้อสนุกมากพอแล้ว และสุดท้ายถ้าทีมทำได้ดีกว่านั้นมันก็เป็นความสุขที่เซอร์ไพรส์สุดๆ และผมคงไม่คาดหวังให้มาก โดยที่ถ้าผิดหวังแล้วจะต้องมาโจมตีทีม เพราะแค่ตัวเองคาดหวังมากเกินไปหรอก

#9
niicl

Posted 19 November 2021 - 09:46 AM

niicl

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 490 posts

ผมว่าภาพรวมเหมือนจะดูดีด้วยผลการแข่งขัน แต่ในรายละเอียดรูปเกมในแต่ละนัดยังเป็นฟอร์มของทีมระดับกลางที่พอจะลุ้นพื้นที่ยุโรปได้ และยังคงต้องอาศัยโชคมากเกินไป

 

เมื่อไปมองทีมอย่างเชลซี แมนซีตี้ หรือลิเวอร์พูล ทีมเรายังห่างอยู่มาก

 

แต่สิ่งที่ชอบคือบรรยากาศของทีมที่ดูเหมือนจะสามัคคี คอย support ซึ่งกันและกัน และมีความใจสู้มากกว่าแต่ก่อน คงด้วยปัจจัยจากปรัชญาของพี่ต้าและ character นักเตะที่ดึงเข้ามาและปล่อยออกไป ซึ่งเหมือนจะเป็นเรื่องที่พี่ต้าค่อนข้างให้ความสำคัญ ต้องให้เครดิตพี่ต้าจริงๆ



#10
jakkritakeng

Posted 19 November 2021 - 10:36 AM

jakkritakeng

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 616 posts

    คหสต.  ผมยังไม่ไว้ใจพี่ต้าเท่าไร  ผมยังมองเป็นแค่จังหวะของทีมเท่านั้น  ขอรอดู 6 นัดที่จะมาถึงนี่แหละ  ว่าทีมเราพัฒนาขึ้นจริงๆ หรือเปล่า  เพราะดูในตารางทีมเรายิงได้น้อยมากๆ (เทียบกับหงส์ยิงได้มากกว่าเราเกือบ 3 เท่า) 

    รอลุ้นครับ โดยเฉพาะนัดหงส์นี่แหละ (เสียดายดึกไปหน่อย) เอาใจช่วยเต็มที่ ขอให้สู้ได้อย่างสนุกแม้แพ้ก็ไม่ว่ากัน  ค่อยไปเก็บแต้มจากผีแทน 555  (แต่ถ้าแพ้ขาดลอย เตรียมโดนวิจารณ์ได้เลย)






0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users