เบนจามิน ไวท์ จะเดินทางมาไกลมาก นับตั้งแต่การประเดิมสนามกับอาร์เซน่อลในเกมส์ที่แพ้เบรนท์ฟอร์ด 2-0 เมื่อฤดูกาลก่อน
วันนั้นเขาเหมือนเจอฝันร้ายกับการเจอเล่นงานด้วยบอลไดเร็กซ์ของทางเบรนท์ฟอร์ด และการทำหน้าที่ประกบกับ ไอแวน โทนี่ ไวท์เคยนิยามวันนั้นว่าตัวเขาเหมือนถูกทุบ ทั้งผลงานในสนาม และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ถาโถมใส่เขาอย่างหนัก จากการย้ายมาอยู่กับอาร์เซน่อลด้วยค่าตัวระดับ 50 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตามจากวันนั้นจนถึงตอนนี้ ไวท์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือผู้เล่นคีย์แมนภายใต้การทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า และสามารถเอาชนะใจแฟนบอลของอาร์เซน่อลได้ ที่อาจจะไม่มั่นใจในตัวเขาในตอนเริ่มต้น
แต่ฤดูกาลนี้ ไวท์ก็ต้องเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงกับบทบาทการเล่นของตัวเอง จากเดิมที่เขาเป็นคู่เซนเตอร์หลักร่วมกับ กาเบรียล มากัลเญส มาตลอดทั้งฤดูกาลที่แล้ว เขาต้องเปลี่ยนมาเล่นแบ็คขวา เพื่อหลีกทางให้กับ วิลเลี่ยม ซาลิบา กองหลังดาวรุ่งอนาคตไกลที่ทีมดึงกลับมาจากการยืมตัว
เขาต้องเจอกับบททดสอบหนักๆ ตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล กับการต้องดวลกับ วินฟรีด ซาฮา หนึ่งในปีกที่อันตรายที่สุดในลีกกับสถานการณ์ 1 ต่อ 1 แม้ว่าเขาจะมีช่วงเวลาที่อึดอัดอยู่บ้าง แต่เขาก็รับมือกับซาฮาได้เป็นอย่างดี และพาทีมบุกมาเก็บสามคะแนนเหนือคริสตัล พาเลซได้สำเร็จ เขาเข้าแท็กเกิ้ลมากถึง 8 ครั้ง และทั้งเกมส์ซาฮา มีโอกาสยิงครั้งเดียว
จากผลงานของเขา แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็คขวาของแมนยู ที่ก็เคยวิจารณ์เขาอย่างหนักในตอนที่ย้ายมาอยู่กับอาร์เซน่อล ตอนนี้บอกว่าไวท์ ควรที่จะมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 เริ่มมีเชียร์ที่มากขึ้นสำหรับไวท์ที่สมควรจะเข้าไปเป็น 1 ใน 26 นักเตะสิงโตคำราม
ความยืดหยุ่น และความแข็งแกร่งในเกมส์รับ
ซาฮา ไม่ใช่คนเดียวที่เข้ามาทดสอบไวท์ กับการขยับมาเล่นแบ็คขวาในฤดูกาลนี้ เกมส์ล่าสุดที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขามีส่วนสำคัญในการทำให้ เมสัน เมาท์ และปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ซึ่งทั้งคู่เล่นบริเวณกราบซ้าย แทบจะหายไปจากเกมส์ดังกล่าว
หรือเกมส์ที่อาร์เซน่อล เปิดบ้านทุบท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3-1 ที่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยมเมื่อเดือนตุลาคม เขาจัดการปิดตาย ซอน เฮือง มิน ปีกซ้ายตัวเก่งของสเปอร์ จนไม่มีโอกาสยิงแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งเกิดขึ้นกับเขาเพียงแค่สองหนเท่านั้น นับตั้งแต่ฤดูกาลก่อน
จากตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อนของอาร์เซน่อล กลายเป็นพื้นที่ที่มีเกมส์รับแข็งแกร่ง เมื่อดูจากตำแหน่งที่คู่แข่งสร้างโอกาสทำประตูใส่อาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้ เห็นได้ชัดเจนว่าสัดส่วนที่สูงกว่าจะอยู่ทางฝั่งตรงข้าม
ไวท์ ยังช่วยเหลือ วิลเลี่ยม ซาลิบา เซนเตอร์แบ็คที่ยืนอยู่ข้างกับเขาด้วย
เซนเตอร์แบ็คทีมชาติฝรั่งเศสวัย 21 ปี ถูกเลือกให้เป็น Man of the match ในเกมส์ชนะเชลชี แต่ไวท์ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน กองหลังวัย 25 ปี เป็นคนที่เข้าแท็กเกิ้ลมากที่สุดในทีมอาร์เซน่อลฤดูกาลนี้ การป้องกันการคลอสจากด้านข้างของคู่แข่ง รวมถึงการเข้ามาช่วย Cover ซาลิบา อย่างในจังหวะที่เข้าขยับเข้ามาเคลียร์ลูกเปิดของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ในช่วงท้ายๆ เกมส์ที่พบกับเชลชี
ผลงานของไวท์น่าประทับใจมากกับบทบาทใหม่นี้ ฤดูกาลที่แล้วเขาเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คมาตลอด แต่สิ่งที่ช่วยทำให้เขาสามารถปรับตัวได้กับบทบาทดังกล่าว ก็มาจากการที่เขาเคยเล่นเป็นเซนเตอร์ฝั่งขวา ในระบบหลังสามของไบรท์ตันมาก่อน
สามารถในการปรับตัวให้เข้ากับบทบาทที่แตกต่างได้ดีของไวท์ มันสะท้อนถึงความเก่งกาจ และความฉลาดในเรื่องแท็กติกของเขา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่น่าสนใจมากสำหรับทีมชาติอังกฤษ และแกเร็ต เซาเกตต์
ในเรื่องจุดอ่อนของไวท์ เคยมีการพูดถึงมาตั้งแต่ต้นฤดูกาลที่แล้วในเกมส์ที่แพ้เบรนท์ฟอร์ดว่ามันคือการป้องกันลูกกลางอากาศ แต่จากสถิติเมื่อปีก่อน เขามีสถิติชนะในการดวลกลางอากาศคิดเป็น 57% ซึ่งเป็นอัตราความสำเร็จที่ใกล้เคียงกับ กาเบรียล มากัลเญส ปราการหลังเพื่อนร่วมทีม และรูเบน ดิอาซ กองหลังจากแมนซิตี้
เทคนิคการเล่นและการจ่ายบอล
ฤดูกาลที่แล้ว เราจะเห็นได้ชัดเจนว่า ไวท์ คือคนที่มีผลกระทบอย่างมากในการ Build up เกมส์จากแดนหลัง แต่การที่เขาขยับมาเล่นแบ็คขวา ก็ไม่ได้ทำให้เขาถูกลดความสำคัญลงไปเลยแม้แต่น้อย
เขายังคงอยู่ในอันดับ 3 ในการสัมผัสบอล และการจ่ายบอล แต่สิ่งที่บ่งบอกได้มากกว่านั้นคือเขาออกบอลอย่างไร เขาเป็นนักเตะอาร์เซน่อลที่จ่ายบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายมากที่สุดในทีมฤดูกาลนี้ ความสามารถในการจ่ายบอล เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของเขามาตั้งนานแล้ว ซึ่งเป็นผลจากที่เขาเคยเล่นในตำแหน่งกองกลางมาก่อนนั่นเอง
นอกจากนี้ในเรื่องของเทคนิคความสามารถเฉพาะตัว และความนิ่งในการหนีเพลสซิ่งของคู่แข่ง ก็มาจากประสบการณ์ในการเล่นกองกลางมาก่อนด้วยเช่นกัน อย่างที่แฟนบอลอาร์เซน่อลเห็นกันจนชินว่า ไวท์ ไม่เคยแสดงอาการตื่นตระหนกกับการโดนคู่แข่งเข้าเพลสซิ่ง
ไวท์ ยังมีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์โอกาสทำประตูด้วยเช่นกัน เข้าทำไปแล้วสองแอสซิทในฤดูกาลนี้ เขาเป็นคนจ่ายให้ โธมัส ปาร์เตย์ ยิงประตูนำ 1-0 ในเกมส์ที่พบกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ และเป็นคนเปิดบอลเข้ามาให้ กรานิต ชาคา ยิงประตูใส่เซาแธมป์ตันเมื่อเดือนก่อน
ในบางครั้ง เขาได้ช่วยเปิดทางฝ่ายตรงข้ามโดยที่ไม่ได้สัมผัสบอลด้วยซ้ำ เราได้เห็นการวิ่ง Overlap และ Underlap ของเขา ที่มักจะช่วยดึงตัวประกบ และดึงสมาธิของคู่แข่งให้ออกจาก บูคาโญ ซาก้า ปีกตัวเก่งของอาร์เซน่อล ที่ต้องคู่แข่งอย่างน้อย 2-3 คนตามประกบอยู่ตลอด
ขณะที่เวลาที่เขาไม่ได้เติมขึ้นไปสูง ปกติไวท์จะรักษาตำแหน่งบริเวณตรงกลางสนาม ใกล้กับ โธมัส ปาร์เตย์ ด้วยเทคนิคและความสามารถในการจ่ายบอล ทำให้อาร์เซน่อลมีอีกทางเลือกตรงกลางสนาม และทำให้แน่ใจว่าเวลาที่พวกเขาโอเวอร์โหลดเกมส์รุกใส่คู่แข่ง จะไม่เจอจังหวะที่โดนสวนกลับมา
เรื่องสภาพร่างกายที่ยอดเยี่ยมก็เป็นอีกจุดที่น่าสังเกตุของไวท์ เมื่อเราพิจารณาจากจำนวนเกมส์ที่เขาลงเล่นตลอดทั้งอาชีพของเขา ฤดูกาล 2019/20 ที่เขาถูกปล่อยตัวไปให้กับลีดส์ยืมใช้งาน เขาเป็นนักเตะที่ลงเล่นมากที่สุดในทีม และตลอด 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาลงเล่นเป็นตัวจริง 127 เกมส์จากทั้ง 135 เกมส์ ไม่ว่าจะทำงานกับ บิเอลซ่า ที่ลีดส์, แกรมแฮม พอตเตอร์ ที่ไบรท์ตัน และอาร์เตต้า ที่อาร์เซน่อล เขากลายเป็นผู้เล่นที่ผู้จัดการทีมเรียกใข้งานเสมอ

[[บทความ]] "เบนจามิน ไวท์" กองหลังอาร์เซน่อล ที่ถูกมอง Underrated แต่สุดสำคัญกับทีม
#1
Posted 08 November 2022 - 02:41 PM
PG SLOT
#3
Posted 08 November 2022 - 06:18 PM
พวกนี้ผ่านการทดสอบกันหมดแล้ว คนไม่ผ่านก็ต้องจบไป (มารี โดนไอ้รถถังกระแทก เสียศูนย์ไป กลับไม่ได้) เหลือแค่ซาลิบา จะโดนใครทดสอบหรือไม่
ผมเลยบอกงัยว่า ให้กำลังใจกาเบรียลด้วย พี่แกเหวอบ้างจริง แต่หลายๆ นัดทีนึง (ไม่รู้ใส่คอนแทคเลนส์ป่าว) แต่มาตรฐานแกสูงมาก ลูกโหม่งทั้งรุก/รับ 80% แกกินเรียบนะ
เข้าบอลก็มีวินัยมาก มือไขว้หลังตลอด แล้วดูเกมที่ไม่มีกาเบรียล (PSV) เราโดนลูกเตะมุมยิงเข้าไปเฉย ง่ายๆ เลย เกมนั้นซาลิบา-โฮลดิ้ง ลงนะ (ถ้าจำไม่ผิด)
แต่พี่ไวท์นี่ นึกไม่ถึงว่าจะเล่นขวาดีนะ เติมเกมรุกดีเลย แกนิ่งมากเล่นเหมือนไม่ตื่นเต้นอะไรเลย ผมเชียร์แกเป็นกัปตันทีมมานานแล้ว เสียดาย
#5
Posted 08 November 2022 - 10:28 PM
กลายเป็นว่าไวท์ช่วยเติมเต็มจุดอ่อนแบ็คขวาให้กับเราได้ดีเกินคาด ยิ่งเล่นยิ่งดีวันดีคืน ความผิดพลาดแทบจะไม่มีให้เห็น ตอนนี้ตำแหน่งแบ็คขวาซ้ายที่เคยห่วงเราแทบจะไม่มีแล้ว ถ้าไม่เจ็บหนักกันจนหมด (ไม่รู้ว่าโทมิจะเจ็บหนักแค่ไหน) วิกฤติที่ทั้งโทมิกับซัสเรซเจ็บสามารถสร้างวีรบุรุษแบ็คขวาให้กับเราได้อย่างเซอร์ไพรส์จริงๆ แถมยังเบียดโทมิให้ต้องเป็นเล่นด้านซ้ายแทนอีกต่างหาก ตอนนี้่ก็ต้องชื่นชมฝีเท้าน้องขาวจริงๆ
ขอบคุณแอดที่เอาข้อมูลดีๆ มาให้ได้อ่านกันครับ
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users