มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย นับตั้งแต่ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่เคยลงเล่นให้กับสโมสรสตรอมก็อดเซ็ท ที่โบโด กริมม์ ด้วยวัยเพียง 15 ปี
ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมามีการสร้างอัฒจรรย์ใหม่ 2 แห่ง การปรับปรุงสนามเป็นการสะท้อนถึงการกลับมาสู่ความสำเร็จของสโมสรโบโด กริมม์ ที่คว้าแชมป์ลีกนอร์เวย์สองปีติดต่อกันในปี 2020 และ 2021 แต่สิ่งหนึ่งทีไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย นั่นคือพื้นสนามยังคงทำจากหญ้าเทียม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฤดูกาลหนาวอันโหดร้าย กับการตั้งอยู่บนวงกลมอาร์ติก
เดวิด นีลเซ่น อดีตผู้จัดการทีมสตรอมก็อดเซ็ท ที่ส่งโอเดการ์ดลงสนามกับทีมชุดใหญ่ 3 เดือนก่อนที่เขาจะอายุครบ 16 ปี เขากล่าวผ่าน The Athletic ว่า: "ปัญหาของโบโดกริมม์ คือมาร์ติน คือนักเตะอันดับ 1 ของโลกบนสนามหญ้าเทียม"
"โดยปกติ เมื่อทีมอย่างอาร์เซน่อลมาก พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก เพราะสนามหญ้าเทียมมันไม่ใช่ฟุตบอลจริงๆ นักเตตะบางคนอาจจะโดดเด่น แต่ก็มีหลายคนที่ไม่เป็นแบบนั้น มาร์ตินรู้จักสนามแบบนี้เป็นอย่างดี เขาผ่านการลงเล่นมาแล้งหลายครั้ง และการจ่ายบอลของเขาก็น่าเหลือเชื่อ"
"ถ้าคุณเห็นลูกจ่าย แต่คุณไม่เห็นว่าใครเป็นคนจ่ายบอล คุณยังสามารถบอกได้ทันทีว่านั้นคือการจ่ายของ มาร์ตินโอเดการ์ด เพียงแค่มองไปที่บอลที่กำลังกลิ้ง แรงกดที่เขาวางบอลลูกบอลเมื่อสัมผัส"
หนึ่งในอดีตเพื่อนร่วมทีมของโอเดการ์ด ที่สตรอมก็อดเซ็ท ฟลามูร์ คาสตราติ ซึ่งปัจจุบันกองหน้ากองหน้าทีมชาติโคโซโววัย 30 ปีลงเล่นกับสโมสรอ็อดด์ ในลีกสูงสุดของนอร์เวย์ ได้ให้ความเห็นถึงกัปตันทีมอาร์เซน่อลเช่นกัน
เขากล่าวว่า: "มาร์ตินมีพรสวรรค์ที่พิเศษ อย่างที่เราได้เห็นตั้งแต่ตอนนั้น เขามีความเข้าใจเกมส์ที่พิเศษ ความสามารถด้านเทคนิคที่ยอดเยี่ยม และด้วยวัยของเขา เขาเล่นได้เกินวัยไปมากๆ ตอนนี้เขาคือกัปตันทีมอาร์เซน่อล และสิ่งที่ผมชอบคือความรับผิดชอบที่เขาได้รับ นั่นคือหนึ่งในสิ่งที่เป็นเครื่องหมายคำถามสำหรับผม เขามีความคิดมากพอในการนำทีมในฐานกัปตันทีมหรือไม่? คุณจะเห็นได้ว่าเขามีสิ่งนั้น เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม แต่เขาสามารถดีขึ้นได้กว่านี้"
ปีเตอร์ โควัคส์ ดาวซัลโวสูงสุดของสตรอมก็อดเซ็ทในฤดูกาล 2014 ได้เห็นการประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของโอเดการ์ดในกาตเจอกับ อาเลซุนด์ เขาในเวลานั้นที่อายุ 34 ปีต้องหลีกทางให้กับโอเดการ์ดที่ลงสนามเป็นตัวสำรอง และทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในลีกสูงสุดของนอร์เวย์ด้วยอายุ 15 ปีกับ 118 วัน
ก่อนหน้านั้นสองปี โควัคส์ ได้ชื่นชมถึงความสามารถของโอเดการ์ด "ครั้งแรกที่ผมเล่นกับมาร์ตินเป็นช่วงซัมเมอร์ปี 2012 เขายังอายุไม่ถึง 14 ปีเลยด้วยซ้ำ แต่เขาลงเล่นไป 35 นาที มันยังไม่ใช่การลงเล่นในเกมส์อย่างเป็นทางการ แต่เราสามารถเห็นได้ว่าเด็กคนนี้มีอะไรที่พิเศษ ผมต้องขอบคุณเขาที่แอสซิทให้กับผมทำประตู"
สำหรับโอเดการ์ด ย้ายมาร่วมทีมสตอรมก็อดเซ็ทตั้งแต่อายุเพียงแค่ 11 ปี เขาถูกจับตามองตอนที่ลงเล่นให้กับ ดราเมน สตรอง ทีมระดับรากฐานที่ดูแลของ ฮานส์-เอริก พ่อของโอเดการ์ดที่เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ตอนอายุ 14 เขาลงเล่นให้กับทีมชุดที่สามของสตรอมก็อดเซ็ท ที่ลงเล่นในระดับดิวิชั่น 5 หนึ่งเดือนหลังจากที่เขาลงเล่นกับทีมชุดใหญ่นัดชนะอาเลซุนด์ 2-0 เขาก็ได้เซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสร
ในเวลาต่อมา สตอรมก็อดเซ็ท ต้องบุกไปเยือนโบโด กริมม์ ในวันที่ 20 กันยายน ตอนนั้นโอเดการ์ดได้ลงตัวจริงในลีกไปแล้ว 9 นัด แล้วลงเป็นตัวสำรอง 7 นัด เขาทำไป 3 ประตูกับ 5 แอสซิท
ดังนั้นเมื่อทีมอันดับ 5 ของตารางอย่างสตอรมก็อดเซ็ท ตอนไปเยือนโบโด กริมม์ ทางนีลเซ่น ผู้จัดการทีมสตอรมก็อดเซ็ทไม่รอช้าที่จะใส่ชื่อโอเดการ์ดลงเป็นตัวจริง นีลเซ่นกล่าวว่า: "ผมจำเกมส์กับโบโด กริมม์ได้ดีมากๆ เราต้องการชนะเพื่อไล่ตามทีมสามอันดับแรก"
"เรามีเกมส์รุกที่อันตราย เรามีผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนที่ทะลุขึ้นมา ไอเวอร์ ฟอสซัม ที่ต่อมาก็ไปอยู่กับเนิร์กแบร์ก และกุสตาฟ วีไคม์ ที่ไปอยู่กับเกงค์ พวกเขาทั้งหมดยังเด็กมากในตอนนั้น แต่พวกเขาเป็นกลุ่มที่สนิทกัน สำหรับมาร์ติน เขาเหมือนเล่นกับเพื่อน"
เกมส์นัดดังกล่าวฝนตกลงมาไม่หยุด โอเดการ์ดถูกวางให้เล่นในตำแหน่งกองกลางฝั่งขวาในระบบ 4-2-3-1 และเด็กคนนี้ก็ก้าวขึ้นมามีบทบาทอย่างรวดเร็ว ในนาทีที่ 21 ของเกมส์ โอเดการ์ดได้รับบอลอยู่บริเวณริมเส้น มีสองกองหลังของเจ้าถิ่นเพื่อพยายามเข้ามาขวางทางเขาไว้ แต่โอเดการ์ดเลือกเลี้ยงตัดเข้าในด้วยเท้าซ้าย จังหวะนี้ผู้เล่นของโบโด กริมม์ ตอบสนองกันช้าเกินไป ที่จะหยุดโอเดการ์ด
ก่อนที่เขาจะยกบอลข้ามแผงแนวรับไปให้กับ โทมัส เซอรัม กองหน้าของทีมที่จุดนัดพบ แต่จังหวะ พาเวล ลอนดัค เซฟเอาไว้
ลอนดัค ผู้รักษาประตูของโบโด กริมม์ ต้องออกแรงอีกครั้งใน 14 นาทีต่อมา ครั้งนี้เป็นการหยุดของยิงของโอเดการ์ดเอง
อีกครั้งที่เขาได้บอลทางฝั่งขวากับลากบอลเข้ากรอบเขตโทษ โดยมีผู้เล่นฟูลแบ็คคู่แข่งขวางทางอยู่ โอเดการ์ดมองหาทางเลือกของเขา ไอเวอร์ ฟอสซัม ฉีกหนีตัวประกบเพื่อทำให้ตัวเองว่างสำหรับการรับบอล เขาออกบอลมาให้ฟอสซัม ก่อนที่จะเคลื่อนที่ไปรับบอลที่จะรับบอลที่จะถูกส่งกลับมา แล้วยิงด้วยเท้าซ้ายทันที
"มาร์ตินมีความมั่นใจที่จะพยายาามทำอะไรด้วยตนเองตั้งแต่วันแรก " ปีเตอร์ โควัคส์กล่าว โดยเกมส์นั้นเขาเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกส่งลงสนาม "เขาเป็นเด็กที่ถ่อมตัว เป็นเด็กขี้อายไม่ค่อยพูด เขาแสดงความมั่นใจของตัวเองออกมาในสนาม เขามักจะมีแผนอยู่ในหัวเสมอในจังหวะที่เขาได้บอล เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป"
"นั่นเป็นเรื่องยากในการฝึกซ้อม ยิ่งถ้าผมเป็นทีมฝั่งตรงข้าม โดยเฉพาะการเล่นมินิเกมส์ แบบ 4 ต่อ 4 หรือ 5 ต่อ 5 ผมคงคิดว่านี่มันบ้าจริงๆ เพราะผมสูง 6 ฟุต 6 นิ้วแล้วหนัก 100 กิโล และเขามีเทคนิคการเล่นที่มหัศจรรย์"
ก่อนจะหมดเวลาครึ่งแรก โอเดการ์ดได้ช่วยสร้างจังหวะการเคลื่อนที่อีกครั้งให้กับสตอรมก็อดเช็ท เราได้บอลตรงกลางสนาม เขามองทางเลือกที่มี เขาออกบอลขึ้นหน้าไปให้กับฟอร์ซัม ก่อนที่จะขยับเคลื่อนตัวเข้าไปด้านใน เพื่อหวังว่าจะได้รับบอลคืนกลับมา
ฟอร์ซัม จ่ายบอลมาได้อย่างเหมาะสม ทำให้โอเดการ์ด สามารถเล่นซิ่งกับเพื่อนร่วมทีมได้อีกครั้ง ก่อนที่โอเดการ์ดจะสวิทซ์บอลไปทางปีกซ้าย แม้ว่าลูกครอสต่อจากนั้นจะไม่ได้มีอะไร แต่การเล่นของโอเดการ์ด ก็แสดงให้อีกครั้งว่าทำไม นีลเซ่น ซึ่งเป็นเฮดโค้ชถึงเชื่อมั่นอย่างมากกับเด็กอายุแค่ 15
นีลเซ่นกล่าวว่า "นั้นเป็นการจ่ายบอลที่ผมหมายถึง เมื่อผมบอกกับพวกเขาทั้งหมดว่าต้องเล่นร่วมกัน ความเข้าใจที่พวกเขามีมันยอดเยี่ยมมาก มาร์ตินให้บอลและไป มองหาพื้นที่ว่างในการไปรับบอล"
"นี่คือสิ่งที่เราฝึกซ้อมกันมาตลอด ถ้าคุณให้บอล จะไม่มีใครที่คิดถึงคุณอีก พวกเขาจะหันสมาธิไปที่ลูกบอล ดังนั้นเคลื่อนที่เพียงเล็กน้อยแล้วคุณจะได้บอลกลับมา แล้วบางอย่างจะเปิดกว้างขึ้น"
"นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในการจ่ายบอลระหว่างเขาสองคน (โอเดการ์ดและฟอร์ซัม) การจ่ายบอลกลับไปกลับมาระหว่างกัน ซึ่งผมอนุญาตให้ลูกทีมเล่นแบบนั้นได้ แม้ว่าเวลานั้นจะไม่ใช่เรื่องปกติในนอร์เวย์ก็ตาม"
สัญชาตญาณในการสร้างสรรค์โอกาสของโอเดการ์ด มาแสดงให้เห็นอีกครั้ง เมื่อเขาได้รับบบอลจาก นานา บัวเต็ง อยู่บริเวณ Half Space ของทางโบโด กริมม์ เขาเลี้ยงผ่านคู่แข่งหนึ่งคน แล้วขยับเข้ามาด้านใน เพื่อประเมินทางเลือกในการออกบอล แล้วเขาก็เลือกแทงทะลุช่องไปให้กับ โซรัม จังหวะนี้ผู้รักษาประตูของโบโด กริมม์ เซฟได้ในจังหวะแรก แต่โซรัม ก็ตามซ้ำดาบสองเข้าไป
ในเกมส์นัดนี้โอเดการ์ด เจอเข้าบอลหนักจากแบ็คซ้ายของโบโด กริมม์ ที่ทำให้เขาโดนใบเหลืองไป มันไม่ใช่หนแรกที่เขาเจอคู่แข่งเข้าบอลลักษณะนี้
"คุณกลัวเสมอว่าอาจจะโดนเข้าสกัดหนัก" คาสตราติ ที่ลงมาแทนโอเดการ์ดในช่วง 10 นาทีสุดท้ายในเกมส์บุกถล่มโบโด กริมม์ 4-0 "ลีกนอร์เวย์มีความคล้ายกับพรีเมียร์ลีก ที่นี่เป็นลีกที่เล่นกันหนัก แต่ไม่ได้เข้มข้นตลอดแบบพรีเมียร์ลีก แต่ก็มีการเข้าบอลที่หนักหน่วง"
"ความเข้าใจเกมส์ของมาร์ตินช่วยเขาได้เยอะ และกับความมั่นใจที่เขามี ถ้าเขาจะต้องดวลแย่งบอลตรงกลางสนาม หรืออะไรแบบนั้น เขารู้สึกว่าเขาสามารถเอาชนะได้ แม้ว่าตอนนั้นกล้ามเนื่อของเขายังไม่โตเต็มที่ก็ตาม"
นีลเซ่นเสริมว่า: "คู่แข่งก็พยายามจะทำแบบนั้นตลอดเวลา การเข้าสกัดของโบโด กริมม์ ไม่ใช่เรื่องปกติ ผมเห็นการเข้าสกัดที่น่ากลัวในบ้างครั้ง บางทีคู่แข่งอาจจะคิดว่า เด็กนี่อายุแค่ 15 มาอัดเขากันเถอะ"
สตอรมก็อดเซ็ท เชื่อว่าด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ของโอเดการ์ด สิ่งที่เขาได้พิสูจน์เพียงแค่ฤดูกาลเดียวบนลีกสูงสุดของนอร์เวย์ ไม่ช้าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปจะเข้ามา แน่นอนว่ามี เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอาร์เซน่อล ที่แสดงความสนใจ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่เวลานั้นมีเจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นผู้จัดการทีม ก็อยากได้โอเดการ์ดไปร่วมทีมเช่นเดียวกัน
เมื่อสัปดาห์ก่อน กุนซือชาวเยอรมันได้พูดถึงโอเดการ์ด ก่อนนำลิเวอร์พูลเยือนอาร์เซน่อล ว่าเขาเคยต้องการเซ็นโอเดการ์ดมาร่วมทีมเขากล่าวว่า: "ผมชอบเขามาก มันมีเรื่องยากหน่อยในช่วงเริ่มต้นเมื่อเขาไปที่เรอัล มาดริด แล้วมันดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ ผมผิดหวังเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพราะเราเคยต้องการเขาที่ดอร์ทมุนด์ ตอนที่เขายังเด็กมากๆ เราได้คุยกันนานเมื่อเขายังเด็ก และได้คุยกับพ่อของเขาด้วย "
"ในท้ายที่สุด เขาตัดสินใจไปที่เรอัล มาดริด แต่ผมก็ยังติดตามดูเขามาตลอด ผมมีความสุขที่เขาได้กลายเป็นผู้เล่นอยากที่เขาควรจะเป็น หรือดีกว่านั้นด้วยซ้ำ เขามีบทบาทสำคัญในทีม อาร์เซน่อล ที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ"
โอเดการ์ดย้ายไปในถิ่นเบอร์นาบิว ในเดือนมกราคมปี 2015 ด้วยค่าตัว 4 ล้านยูโร แต่เส้นทางอาชีพของเจ้าหนูมหัศจรรย์รายนี้กับเจออุปสรรค "มีช่วงเวลาที่น่ากังวลเล็กน้อย" นีลเซ่นกล่าว "เขาไปเล่นแบบยืมตัวที่ฮอแลนด์ และไม่ค่อยได้เล่นมากนักกับฮีเรนวีน แต่นับตั้งแต่นั้นเหมือนทุกอย่างกำลังจะมา เขาไปเล่นกับวีเท็กซ์ แล้วก็ที่โซเซียดัด แต่มันก็มีเครื่องหมายคำถามเมื่อเขามาที่พรีเมียร์ลีก ทุกคนจะบอกว่ามันต้องใช้พละกำลังอย่างหนัก แต่ตอนนี้เขาคือกัปตันทีมอาร์เซน่อล"
นีลเซ่น เฝ้ารอที่จะได้เห็นโอเดการ์ด กลับมาเล่นที่นอร์เวย์ในคืนวันพฤหัสบดีนี้ เขากล่าวว่า: "มันจะเป็นคือของมาร์ติน เขาเติบโตขึ้นมาในตอนนี้ และเขาเจอบทบาทของตัวเองที่อาร์เซน่อล แต่ผมยังเห็นผู้เล่นคนเดิม ที่ไม่มีคำถามไหนเกี่ยวกับเขา แล้วเขาจะตอบไม่ได้"
"ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่ง เราเคยกับ Videoton สโมสรจากฮังการี ที่แคมป์ฝึกซ้อม ในเวลานั้น พวกเขาเป็นทีมที่ดีได้เล่นในถ้วยยุโรป เป็นทีมที่มีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง เราจับมาร์ตินไปเล่นเบอร์ 6 เพื่อดูสิ่งที่เขาสามารถทำได้ ปกติเมื่อคุณเป็นผู้เล่นตัวเล็กแล้วมาเล่นในตำแหน่งนั้น กับทีมที่ดี คุณจะต้องถูกทุบจนเละ แต่พวกเขาไม่สามารถไล่จับเขาได้เลย"
"เขาเป็นผู้นำบนเวทีด้วยอายุเพียงแค่ 15 ปี ผมไม่เคยเห็นนักเตะคนไหนตอนอายุ 15 ที่ดีกว่ามาร์ติน โอเดการ์ด"

เส้นทางวันเดอร์คิดส์วัย 15 ปีที่สร้างปรากฏการณ์ในยุโรป กับการกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นในรอบ 8 ปี
Started by
Admin
, Oct 13 2022 04:26 PM, 4 replies to this topic
#1
Posted 13 October 2022 - 04:26 PM
PG SLOT
#3
Posted 13 October 2022 - 09:15 PM
สมกับที่เป็นวันเดอร์คิดจริงๆ ตอนนี้เราก็มีวันเดอร์คิดอยู่ในทีมหลายคน จะคอยดูการเติบโตของทีมๆ นี้ ก็หวังว่าตระกูลเก้จะไม่เปลี่ยนใจเห็นเงินจนตาลุกวาวแล้วเน้นขายนักเตะกินไม่สนแชมป์ไร้ความทะเยอทะยาน จนทีมต้องตกต่ำอับเฉาอีก เพราะมันแสดงให้เห็นแล้วว่าความเสียหายที้เกิดขึ้น...มันได้ไม่คุ้มเสียเอาเสียเลย...
ขอบคุณแอดที่อัพเดตข่าวก่อนแมตช์แข่งกับบทความโอเดการ์ดมาให้แฟนๆ ได้อ่านกัน ได้อ่านข่าวทีมรักแล้วชื่นใจสุดๆ ครับ
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users