ข้อมูลเบื้องหลัง, 5 รายชื่อตัวเต็งผู้จัดการทีมคนใหม่, ข้อถกเถียงสำหรับการเลือกผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์หรือมีศักยภาพ
นี่คือเบื้องหลังในขณะที่อาร์เซนอลมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี ภายหลังจากการประกาศยุติบทบาทผู้จัดการทีมของอาร์แซน เวงเกอร์ในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลนี้
แต่อะไรที่เป็นข่าวข้อมูลของทีมจากลอนดอนเหนือ? และอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้? เดวิด ออนสไตน์ นักข่าวของบีบีซีจะอธิบายให้ฟัง
โค้ชชื่อดัง หรือโค้ชดาวรุ่ง?
อิวาน กาซิดิส ซีอีโอกล่าวว่าอาร์เซนอลยังไม่ได้เริ่มกระบวนการค้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่ก่อนที่จะมีข่าวในข่วงวันศุกร์และผมเดาว่าเวงเกอร์ก็คงไม่ยุ่งกับเรื่องนี้
กระบวนการนี้นำทีมโดยกาซิดิส ราอูล ซานเญฮี ผู้อำนวยการฟุตบอล และหัวหน้าทีมแมวมอง สเวน มิสลินทาท
อาร์เซนอลถูกเชื่อมโยงกับอดีตโค้ชของโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ โทมัส ทูเคิ่ล ซึ่งเป็นคนที่สโมสรชื่นชอบ แต่มันอาจจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนด้วยความจริงที่ว่าเขามีปัญหาบางอย่างกับมิสลินทาทเมื่อพวกเขาทำงานร่วมกันที่เยอรมัน
นั่นหมายถึงว่าเขาน่าจะไม่เกี่ยวข้อง ในความเข้าใจของผมเขาน่าจะเป็นโค้ชคนต่อไปของปารีส แซงต์-แชร์กแมง
โค้ชชื่อดังคนอื่นอย่างแม็กซ์ อัลเบกรีจากยูเวนตุส และคาร์โล อันเชลอตติ อดีตโค้ชของมิลาน เรอัล มาดริด และเชลซี ถูกเอ่ยชื่อถึงด้วย แต่โค้ชหนุ่ม ซึ่งมีความพร้อมมากกว่าที่จะปรับจูนโครงสร้างของสโมสรน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดมากกว่า
นี่เป็นสาเหตุให้มิเกล อาร์เตต้าอดีตกัปตันทีม ซึ่งตอนนี้เป็นผู้ช่วยของเป๊ป กวาดิโอล่า ที่แมนฯซิตี้และได้รับการชื่นชมจากกาซิดิส รวมถึงปาทริก วิเอร่าอดีตนักเตะของทีมซึ่งทำงานอยู่ที่นิวยอร์คซิตี้เป็นข่าวเชื่อมโยงเช่นกัน แม้ว่าทั้งคู่จะขาดประสบการณ์การบริหารทีมในระดับสูง นอกจากนี้ เธียร์รี่ อองรี ดาวยิงระดับตำนานของสโมสรซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเบลเยียมก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกเช่นกัน
ซานเญฮี และมิสลินทาท มองว่าตัวเลือกที่แนะนำคือลุยซ์ เอนริเก้ซึ่งซานเญฮีเคยทำงานร่วมกันที่บาร์เซโลน่า และจูเลี่ยน นาเกลมันส์ บิ๊กบอสของฮอฟเฟ่นไฮม์ซึ่งมิสลินทาทรู้จักตอนทำงานที่เยอรมันก็เป็นอีกคนที่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
แต่อาร์เซนอลจะไม่เร่งรีบในการแต่งตั้งแต่อย่างใด
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเบื้องหลังเรื่องนี้?
อาร์เซนอลได้กลายเป็นสโมสรที่มีการเมืองในระดับบอร์ด พวกเขาแยกเป็นฝั่งที่สนับสนุนให้เวงเกอร์ต่อสัญญา2ปีเมื่อซัมเมอร์ก่อนและฝั่งที่ไม่เห็นด้วย และสถานการณ์ดังกล่าวก็ไม่ได้เปลี่ยนไป
ความแตกต่างของอาร์เซนอล 1 ปีก่อนคืออาร์เซนอลมีโครงสร้างใหม่ในฝ่ายบริหาร โดยซานเญฮีมาจากบาร์เซโลน่า มิสลินทาทมาจากดอร์ทมุนด์ หัวหน้าฝ่ายเจรจา ฮัส ฟาห์มี่จากทีมสกาย และดาเรน เบอร์กี้หัวหน้าทีมประเมินผลงานเตะจาทีมรักบี้ของออสเตรเลีย
ทั้ง4คนเข้ามามีบทบาทสำคัญและมีอิทธิพลในการบริหารสโมสรร่วมกับสแตน โครเอนเก้ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของทีม เพื่อผลักดันโครงสร้างสำหรับการทำงานหลังการจากไปของเวงเกอร์
มีเพียงแค่หัวหน้าแผนกเดียวที่ยังไม่ได้แต่งตั้งใหม่คือผู้จัดการทีม คำถามเดียวคือควรจะเป็นเวงเกอร์หรือไม่
จนกระทั่งล่าสุด แม้กระทั่งคนมีอำนายหลายๆคนในสโมสรไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น จริงๆพวกเขามีความรู้สึกว่าเวงเกอร์น่าจะเลือกอยู่จนหมดสัญญามากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม ผมได้ยินมาว่า 5 รายชื่อผู้จัดการทีมได้ถือเสนอไปให้โครเอนเก้แล้วหลังจากที่เวงเกอร์ลาออก
เวงเกอร์ใกล้เคียงที่จะโบกมือลาในซัมเมอร์ก่อนหน้ามากกว่าที่พวกเรารุ้
ความเป็นไปได้ของเวงเกอร์ในการลาจากเริ่มต้นจากไม่กี่เดือน และก็มีหลายๆปีที่เกิดเหตุการ์ณเช่นนี้ ทุกๆครั้งที่ทีมมีช่วงที่ผลงานแย่ ข่าวลือจะเกิดขึ้นและผลงานแย่ๆจะไม่ได้ช่วยให้รู้สึกแตกต่าง
แม้แต่การประชุมทีมงานและนักเตะซึ่งจัดในช่วง 9:45 ในวันศุกร์ในวันพักฟื้นร่างกายสำหรับนักเตะ ทุกคนยังคงคิดว่าเขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง
ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสไม่เคยฉีกสัญญาและตามความเข้าใจของผม สโมสรได้เตรียมการเพื่อจะดูว่าฤดูกาลนี้จะมีบทสรุปอย่างไร ซึ่งถ้าสรุปว่ามันยังไม่ใช่หายนะ จะปล่อยให้เขาคุมทีมต่อจนถึงสิ้นสุดสัญญาในซัมเมอร์ปีหน้า
ผมได้รับการบอกเร็วๆนี้ว่า เวงเกอร์เป็นคนดื้อ จดจ่อและมีพลังงานล้นเหลือตลอด และถ้าเขาต้องจากไปเขาคงจำเป็นต้องเตะถ่วงยืดเวลาและโวยวายแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม ตามความเข้าใจของผม เวงเกอร์ใกล้เคียงมากๆที่จะยุติบทบาทผู้จัดการทีมในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลก่อน ใกล้เคียงมากกว่าที่พวกเรารู้ในตอนนี้ คนที่ใกล้ชิดเขาให้ข้อมูลว่าเขาอยากจะยุติบทบาทด้วยความสำเร็จที่พาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพในการเอาชนะเชลซีในเดือนพฤษภาคม
แต่ในช่วงเวลานั้น อาร์เซนอลยังไม่มีแผนหาคนมาแทนเขา พวกเขายังไม่เริ่มต้นกระบวนการค้นหาผู้จัดการทีมคนใหม่ เวงเกอร์รู้เรื่องนี้อย่างดีและรู้สึกว่ามันจะถูกหรือผิด ถ้าเขาทิ้งอาร์เซนอลไปโดยที่สโมสรยังไม่มีแผนงานหลังจากนั้น เขารู้สึกว่ามันเป็นภาระอันหนักอึ้งที่จะคุมทีมต่อไปและเขาจะคิดว่าเขาน่าจะขาดความสามารถในการนำทีมให้ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรจะเป็น
เวงเกอร์เป็นผู้รอดชีวิตของอาร์เซนอลมาตลอด เขารับทุกคำโจมตีที่ถาโถมเข้ามาและเดินหน้าต่อไป เป็นเสมือนโล่กำบังให้กับบอร์ด นักเตะและสโมสร แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเขาเริ่มรู้สึกโดนคำโจมตีกรีดแทงตัวเขาเอง
นี่เป็นการตัดสินใจร่วมกันอย่างแท้จริง
มันยังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นคนเริ่มก่อนในเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้ถูกพูดคุยกันมาต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่ง มันกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
มีความรู้สึกในฝั่งเวงเกอร์ว่า มันน่าจะดีที่สุดที่จะประกาศตอนนี้ เพื่อการทำงานร่วมกันกับฝ่ายบริหารของสโมสร เพื่อเป็นการส่งท้ายตัวเขาอย่างเหมาะสม
ถ้าพวกเขาล้มเหลมอย่างหนักในยูโรป้าลีก มีโอกาสที่การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมจะทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกละหุก ไม่มีใครต้องการแบบนั้น และหากพวกเขาชนะได้ อาร์เซนอลก็อาจจะพบกับสถานการณ์แบบนี้ได้เช่นเดียวกัน
ความรู้สึกที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและความเข้าใจของผมคือมันเป็นการตัดสินใจร่วมกัน
โดยการทำให้ชัดเจนแต่แรก ซึ่งทำให้อาร์เซนอลสามารถเริ่มต้นกระบวนการค้นหาโดยไม่ต้องทำอะไรลับหลังเวงเกอร์ หรือเริ่มต้นกระบวนการช้าเกินไป
แฟนบอลมีปฎิกิริยาอย่างไร?
การตัดสินใจดังกล่าวได้รับการชื่นชมอย่างดี ภาวะที่บางคนกลั้นน้ำตาไม่ได้กับความเศร้าและความรู้สึกใจหายกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หวังและมองโลกในแง่ดีว่าอาร์เซนอลจะสโมสรรวมแฟนบอลให้กลับมาเป็นหนึ่งและให้การสนับสนุนกับผู้จัดการทีมคนใหม่
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีหลายๆครั้งที่เกิดสภาวะที่น่าอึดอัดใจ แฟนบอลแบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีการไล่จวกกันระหว่างแฟนบอลในสนาม การประท้วงทั้งในและนอกสนาม ป้ายโฆษณา "มันถึงเวลาต้องไป" และคำคม "เราเชื่อในอาร์แซน" ที่ถูกแทนที่ด้วย "ในอาร์แซน พวกเราอึดอัดใจ"
ที่นั่งว่างในสนามเอมิเรตต์สเตเดียมเป็นแถบๆเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความไม่พอใจซึ่งกลายเป็นการขาดความสนใจที่จะเข้าร่วมชมเกม
อาร์เซนอลซึ่งเคยทำลายสถิติที่ดีในหลายๆอย่าง กลับทำลายสถิติที่แย่อย่างหนึ่งคือ พวกเขาเป็นทีมเดียวในลีกท็อปโฟร์ที่แพ้เกมเยือนทุกเกมในปีนี้
เกมกับเวสต์แฮมในวันอาทิตย์คือเกมต่อไปในบ้านในยุคของเวงเกอร์
แม้ว่าจะมีการเพิิ่มขึ้นของฝ่ายต่อต้านในช่วงหลัง แต่เกมนี้จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ความเคารพและความรู้สึกขอบคุณจากแฟนบอลส่วนใหญ่
"มีอาร์แซน เวงเกอร์แค่คนเดียว" น่าจะเป็นเพลงที่ถูกร้องเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
การตัดสินใจครั้งนี้ปลุกแฟนบอลให้กลับมาหนุนหลังสโมสรและช่วยผลักดันชัยชนะในยูโรป้าลีก
เวงเกอร์จะทำอะไรต่อไปหลังจากนี้?
เวงเกอร์เคยได้รับข้อเสนอดีๆ แต่ยังไม่ใช่ข้อเสนอที่ทำให้เขารู้สึกว่าดีเกินกว่าจะปฎิเสธได้ลง มันดูเหมือนว่าเขาจะพักเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี มันเป็นสิ่งที่คนใกล้ชิดเขาบอก
เราแน่ใจว่าจะเห็นเขาที่ฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ซึ่งเขาถูกคาดว่าจะทำงานให้กับสื่อของฝรั่งเศส แต่หลังจากนั้นเขาน่าจะกลับมาคุมทีมอีกครั้ง
แน่นอนว่ายังไม่มีอะไรชัดเจน มันอาจจะเป็นสโมสรหรือระดับทีมชาติ แต่อาจมีสิ่งที่จี้จุดจินตนาการของเขา เพราะว่าสภาพแวดล้อมหรือศักยภาพ ผมสามารถเห็นเขาไปทำงานในที่แบบนั้นได้
แต่เขาจะไม่รีบเพื่อจะกลับมาเร็วๆนี้ แต่ใครจะว่าเขาได้หละ?