Jump to content






Photo

เบื้องหลังรับผิดชอบลูกนิ่ง!! บทสัมภาษณ์ "เดแคลน ไรซ์" หลังคว้ารางวัลแข้งแห่งปีของลอนดอน

- - - - -

  • Please log in to reply

#1
Admin

Posted 01 March 2024 - 11:26 PM

Admin

    Administrator

  • Administrators
  • 10,472 posts
  • LocationBangkok

GHiVcECWkAAQBYA.jpg
 
 

เดแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษของอาร์เซน่อล ให้สัมภาษณ์หลังจากขึ้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีใน London Football Awards ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงอิมแพ็คที่เขาทำได้นับตั้งแต่ย้ายจากเวสต์แฮม มาอยู่กับอาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 105 ล้านปอนด์ ที่เป็นสถิติของสโมสร 
 

แต่มันก็เป็นการตัดสินใจที่ยากสำหรับเขาในการย้ายทีมครั้งนี้ โรซ์อยู่กับเวสต์แฮมตั้งแต่อายุ 14 ปี หลังถูกเชลชีปล่อยตัวออกจากอะคาเดมี่ เขาสวมปลอกแขนกัปตันทีม และลงเล่นให้เวสต์แฮม 245 เกมส์ ก่อนที่เขาจะย้ายออก เขาพาทีมคว้าแชมป์หนแรกในรอบ 43 ปีของสโมสร ด้วยการชนะฟิออเรนติน่า 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก

 

เมื่อพูดถึงการต้องลงเล่นกับทีมเก่าในฤดูกาลนี้ เขากล่าวว่า: "มันหนัก เราแพ้ในเกมส์ฟุตบอลถ้วย และในลีกที่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ผมเล่นได้ไม่ดีเลย และทำเสียจุดโทษด้วย แฟนบอลเวสต์แฮมล้อเลียนผม และผมรับมันได้ 100% ผมลงเล่นให้กับเวสต์แฮมมา 10 ปี ผมรู้ว่ามันเป็นยังไงตอนที่ผมไปเตะมุม ก็มีเสียงโห่อยู่บ้าง แต่ก็มีเสียงปรบมือด้วยเช่นกัน"

 

"ผมรู้ว่าความรักที่ผมมีต่อพวกเขาไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ความรักที่พวกเขามีให้ผมก็ไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณต้องเดินหน้าต่อไป แน่นอนว่าผมยิงประตูที่ยอดเยี่ยมได้ แม้จะมาพูดตอนนี้มันก็ยังแปลกๆ เพื่อนร่วมทีมหลายคนถามกับผมว่ารู้สึกยังไงบ้าง? มันเป็นความรู้สึกที่หวานอมขมกลืนแปลกๆ"

 

"ผมบอกเสมอว่าผมจะไปฉลองในการเจอกับเวสต์แฮม พวกเขาทำให้ผมเป็นผมอย่างทุกวันนี้ ผมใช้เวลาที่นั่น 10 ปี ผมเป็นหนี้บุญคุณพวกเขามากๆ ผมจะไม่ฉลอง ผมคิดว่ามันเป็นการไม่ให้ความเคารพ โดยรวมมันเป็นวันที่ดีที่ชนะ และทำประตูได้ แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่แปลกๆ"

 

 

ที่ผ่านมาไรซ์ ถูกมองว่าเขาเป็นกองกลางตวรับ และมักจะโดนวิจารณ์ว่าการจ่ายบอลของเขามันเพลย์เซฟมากเกินไป แต่ภายใต้การดูแลของ มิเกล อาร์เตต้า ไรซ์ถูกปรับเปลี่ยนบทบาทระหว่าง ตำแหน่งกองกลางหมายเลข 6 และขยับขึ้นไปเล่นกองกลางหมายเลข 8 ที่ต้องเล่นเกมส์รุกด้วย การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เขามีส่วนร่วมกับประตูมากขึ้น  

 

"ในการทำประตูนั้น และย้อนกลับไปดูมันอีกครั้ง คุณไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย" ไรซ์พูดถึงประตูที่เขายิงใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อต้นเดือนกันยายนปีก่อน "อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผมจนถึงตอนนี้ บทบาทของผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากสิ่งที่ผมเคยทำที่เวสต์แฮม และมันต้องใช้เวลาในการปรับตัว พัฒนา ด้วยเงินจำนวนมหาศาลที่สโมสรซื้อผม ผมอยากพาสโมสรแห่งนี้คว้าแชมป์"
 
หลังจากกลับจากแคมป์ที่ดูไบ สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ไรซ์ ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบลูกเตะมุม และลูกฟรีคิก และเป็นทีเด็ดทันทีในเกมส์ชนะคริสตัล พาเลซ 5-0 เขากล่าวว่า: "จริงๆ แล้ว เราได้พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้กับ นิโก้ (โยเวอร์) โค้ชลูกตั้งเตะ นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล"
 
"เห็นได้ชัดว่าส่วนสูงของผม (6 ฟุต 1) เขาต้องการให้ผมไปอยู่ในกรอบเขตโทษ ผมเพียงแค่รู้สึกว่าเขาต้องการปรับเปลี่ยน ถ้าหากผมไม่ได้แอสซิทในเกมส์กับพาเลซ คงไม่มีใครพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้"
 
"ผมสามารถเปิดบอลเข้าไปที่ใกล้ๆ กับตรงกลางกรอบเขตโทษ และเสาไกล ตอนนี้ผมตื่นเต้นที่ผมทำแอสซิทได้ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม เมื่อก่อนการทำประตูและการแอสซิทไม่ใช่สิ่งที่ผมทำได้บ่อยๆ แต่ตอนนี้ผมมีทั้งประตู และแอสซิท ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมมีพลังงานพิเศษในสนามผมมีเป้าหมายของตัวเอง และผมอยากทำให้สำเร็จ"
 
เป้าหมายของอาร์เซน่อล คือการทำให้ดีขึ้นกว่าปีก่อน และคว้าแชมป์ลีก พวกเขาเคยนำ 8 แต้มก่อนเริ่มเดือนเมษาบน แต่พวกเขาชนะได้เพียงแค่ 3 จาก 9 เกมส์สุดท้าย จนถูกแมนซิตี้ปาดหน้าคว้าแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลก่อน
 
เขากล่าวว่า: "ผมคิดว่าอาร์เซน่อลเป็นทีมที่ดีที่สุดในลีกเมื่อฤดูกาลก่อน แต่พวกเขาสะดุดในช่วงท้าย สิ่งที่พวกเขาพูดในตอนนี้คือ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเขาจะพลาดแชมป์ลีก หลังจากนำ 8 คะแนน"
 
"ปีนี้ ผมรู้สึกว่าทุกคนในทีม รวมถึงผู้จัดการทีม สต๊าฟโค้ช ต้องการเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น เราแข็งแกร่งขึ้น เรามีความเชื่อ ถ้าเราตามหลัง 1-0 เรามีความมั่นใจ และความแข็งแกร่งด้านจิตใจ ว่าเราสามารถกลับมาชนะในเกมส์ได้ ลีกในฤดูกาลนี้มีความแข็งแกร่ง อะไรก็เกิดขึ้นได้ ในช่วงคริสมาสต์เรามีอาการโยกเยกเล็กน้อย เราแพ้สองเกมส์ติดต่อกัน ซึ่งไม่ดีเลย แต่เราก็กลับมาชนะเกมส์สำคัญในบ้านได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ"
 
"ช่วงท้ายฤดูกาล เราจะได้เห็นว่าใครจะเป็นผู้ชนะ แต่การเล่นกับทีมที่ยอดเยี่ยมในทุกสัปดาห์ และแรงกดดันมันเป็นเรื่องดี และผมรู้ว่าผมและทุกคน สนุกกับมันจริงๆ ดังนั้นเราจะทำมันต่อไป แล้วดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น"
 
แล้วยังมีระดับที่เขาจะก้าวขึ้นไปได้อีกหรือไม่?

"ผมได้คุยบทสนทนานี้กับผู้จัดการทีมอยู่ตลอดเวลา สองสามสัปดาห์ก่อนเขาพูดว่า คุณไม่ตระหนักถึงศักยภาพว่าคุณจะไปได้ไกลแค่ไหน สิ่งต่อไปคือการคว้าแชมป์"
 
ในช่วงซัมเมอร์นี้ ไรซ์และทีมชาติอังกฤษ จะไปที่เยอรมัน เพื่อลงเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ในฐานะเต็งแชมป์ ซึ่งทาง แกเร็ต เซาเกตต์ หวังว่าจะได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของไรซ์ ที่อาร์เซน่อล, จู๊ด เบลลิงแฮม ที่กำลังโดดเด่นที่เรอัล มาดริด และแฮร์รี่ เคน ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำที่บาเยิร์น มิวนิค ต้องมารอดูกันว่าทีมชาติอังกฤษ จะกลับมาคว้าแชมป์ได้ในรอบ 58 ปีหรือไม่
 
"ผมรู้สึกว่าเรื่องที่ถูกหยิบยกมาพูดทุกครั้งที่ทัวร์นาเมนท์กำลังจะมาถึง นักเตะหลายคนกำลังเล่นได้ดีมาก หลายคนเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก อย่าง จาร็อด โบเว่น ที่เวสต์แฮม, รอส บาร์คลี่ย์ ที่ลูตัน, โคล พาร์เมอร์, เคอร์ติส โจนส์ และอีกหลายคนกำลังเล่นได้ดีมาก"
 
"แต่เรามีเกมส์สำคัญในเดือนมีนาคม (พบกับบราซิล และเบลเยี่ยม) ซึ่งเป็นบททดสอบที่ดี ถ้าเราเรียนรู้จากฟุตบอลโลก และยูโรครั้งที่ผ่านมา อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าคุณสามารถแสดงผลงานได้ และรับมือกับความกดดันได้ ผมเชื่อว่าเราทำได้ (คว้าแชมป์)"



#2
WatGunner

Posted 04 March 2024 - 10:08 AM

WatGunner

    Advanced Member

  • Members
  • PipPipPip
  • 971 posts

ยินดีกับน้องไรซ์ด้วยกับรางวัลนี้ กองกลางไดนามิคของแท้ที่เราตามหามานาน และทีมเราควรจะมีกองกลางแบบนี้ตั้งนานแล้ว ในที่สุดก็ได้กองกลางแบบนี้มาซักที แพงแต่คุ้มมาก ขออย่าเจ็บง่ายก็แล้วกัน ไรซ์เจ็บไปกลางยวบเหมือนเดิมแน่ๆ ถึงในนัดที่ไรซ์เล่นไม่ดียังไง กลางเราก็โดนกดแทบไม่เสียทรง อย่างน้อยก็ยังยืนพื้นสู้ฟัดได้

 

ขอบคุณแอดสำหรับบทสัมภาษณ์น้องไรซ์ครับ ชอบน้องมากๆ






1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users