Jump to content




Sign in to follow this  
admin

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้อาร์เซน่อลผลักดันเด็กปั้นจากอะคาเดมี่สู่ทีมชุดใหญ่ลดลง!?

Recommended Posts

image.png

การพัฒนาของสโมสรอาร์เซน่อลในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่น่าประทับใจอย่างมาก 

พวกเขาก้าวหน้าจากทีมที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกมา 7 ปี จบในอันดับ 8 ในตารางพรีเมียร์ลีกสองฤดูกาลติดต่อกัน กลายมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอดสองฤดูกาลหลังสุด 

อาร์เซน่อล ไม่ได้มีการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากนัก การสร้างทีมชุดใหญ่ของพวกเขาเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ และพวกเขายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในฐานะทีม แม้ว่าพวกเขายังไปไม่ถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่รอคอยกันมายาวนานกว่า 20 ปีก็ตาม 

อย่างไรก็ตาม การดึงแข้งดาวรุ่งที่เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของพวกเขา ขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่กับมีจำนวนที่ลดลง แม้ว่าอาร์เซน่อลจะเป็นทีมที่มีอายุเฉลี่ยน้อยเป็นอันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว (25.1 ปี) แต่โอกาสก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเตะเยาวชน 

อาร์เซน่อล ส่งผู้เล่นที่อายุน้อยกว่า 21 ปีลงสนามในฤดูกาลเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น และหนึ่งในนั้นคือ บูคาโญ ซาก้า ที่ลงเล่นให้กับอาร์เซน่อลไปแล้ว 226 นัด อีกคนคือ อีธาน เอ็นวาเนลลี่ ที่ลงเล่นในวัย 17 ปี กับการลงมาเป็นตัวสำรองช่วงท้ายเกมส์ในนัดบุกชนะเวสต์แฮม 6-0


image.png


โอกาสสำหรับนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของสโมสรอาร์เซน่อล เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันตลอดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่มีกลุ่มดาวรุ่งจำนวนมากตัดสินใจย้ายออกจากสโมสร นั่นทำให้อาร์เซน่อลต้องทบทวนเส้นทางการขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของนักเตะอะคาเดมี่ใหม่อีกครั้ง

บริบทเป็นสิ่งที่สำคัญ อาร์เซน่อลอยู่ในตำแหน่งที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัสมาเกือบสองทศวรรษ และถึงจุดที่กลุ่มผู้เล่นอายุน้อยที่พวกเขาสร้างเติบโตขึ้นมาพร้อมกัน ด้วยความก้าวหน้า ความคาดหวังในการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ทีมของมิเกล อาร์เตต้า อยู่ในจุดที่พวกเขาไม่สามารถผิดพลาดได้เลย มันทำให้โอกาสที่นักเตะดาวรุ่งจะมีโอกาสในเกมส์พรีเมียร์ลีกมีน้อยมาก

แต่เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ มันก็ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงกับการสูญเสียแข้งดาวรุ่งฝีเท้าดีๆ ออกจากทีม ในซัมเมอร์นี้เราได้เห็น อมาริโอ โคเซอร์-ดูเบอร์รี่ ปีกขวาตัวเก่งของทีม U21 ย้ายไปเล่นกับไบรท์ตัน หลังจากปฏิเสธสัญญาใหม่กับอาร์เซน่อล 

กับสโมสรที่เคยมีประวัติศาสตร์และความสำเร็จที่เกี่ยวข้องกับการให้โอกาสกับนักเตะอายุน้อย การที่ไม่มีนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ หลังจากบูคาโญ ซาก้า กลายเป็นสิ่งที่น่ากังวล 

อันที่จริงมีนักเตะจากทีม U21 ขึ้นไปมีชื่อบนม้านั่งสำรองในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับโอกาสในการลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว รูเอล วอลเตอร์ กองหลังที่ย้ายออกจากอาร์เซน่อลในซัมเมอร์นี้เช่นกัน มีชื่อในทีมชุดใหญ่ 21 ครั้งแต่ไม่เคยถูกส่งลงสนาม

โอมารี ฮัทชินสัน ที่ช่วยอิปสวิช ทาวน์ เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก หลังจากถูกเชลชีปล่อยยืมตัวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว สมัยที่เขาอยู่กับอาร์เซน่อลในฤดูกาลสุดท้าย เขาก็เคยมีชื่อในทีมชุดใหญ่ 9 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นเลย

ชาร์ลี ปาติโน่ กองกลางดาวรุ่งที่ทำประตูให้ทีมชุดใหญ่ได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนาม เขายิงประตูได้ในเกมส์คาราบาว คัพที่ชนะซันเดอร์แลนด์ แต่หลังจากที่เขาทำผลงานได้ไม่ดีนัก ในเกมส์แพ้ฟอเรสต์ ตกรอบเอฟเอ คัพ หลังจากนั้นเขาก็แทบไม่ได้รับโอกาสอีกเลยจากทีมชุดใหญ่

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาร์เตต้า มีชื่อของนักเตะเยาวชนบนม้านั่งสำรอง แต่ทว่าในเกมส์ที่พวกเขายิงนำห่างคู่แข่ง 4-5 ประตูไปแล้ว ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนดาวรุ่งเหล่านี้ให้ได้ลงสัมผัสเกมส์ การปรากฏตัวของ เอ็นวาเนลลี่ ในเกมส์กับเวสต์แฮม นั้นสร้างความประทับใจได้ทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น อาร์เตต้า เองก็ยอมรับว่า มีผู้เล่นชุดใหญ่เป็นคนโน้มน้าวให้เขาส่งเอ็นวาเนลลี่ลงสนาม ซึ่งกลายเป็นจุดสำคัญต่อการตัดสินใจเรื่องสัญญาใหม่ของเจ้าตัว

image.png


การที่อาร์เซน่อล ต้องต่อสู้เพื่อแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก และการกลับไปเล่นในเวทีแชมเปี้ยนลีก มันไม่เพียงแค่ขัดขวางโอกาสลงสนามของนักเตะเยาวชน แต่มันก็รวมถึงโอกาสที่ลดลงของบรรดาแข้งสำรองในโควต้า Home grown ด้วย เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมส์ลีก 10 นัดเมื่อฤดูกาลก่อน แต่พอครึ่งฤดูกาลหลังเขาได้รับโอกาสลดลงอย่างชัดเจน เอมิล สมิธ โรว์ กับริสส์ เนลสัน ก็มีโอกาสเพียงน้อยนิดเช่นกัน

กับอะคาเดมี่ของสโมสรอื่นเอง ก็ไม่ได้การันตีกับการได้เล่นกับทีมชุดใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าแผนการพัฒนานักเตะจะดูมีประสิทธิภาพมากกว่าอาร์เซน่อล กับการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้เล่นในการเล่นฟุตบอลทีมชุดใหญ่ 

ตัวอย่างล่าสุดคือ ในกรณีของ ฮัทชินสัน ที่ย้ายจากอาร์เซน่อลไปอยู่กับเชลชีในปี 2022 ซึ่งถือเป็นการย้ายทีมที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อย เชลชีส่งนักเตะไปเล่นกับอิปสวิช ทาวน์ เมื่อฤดูกาลก่อน ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับอิปสวิชแบบถาวรในซัมเมอร์นี้ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ บวกออปชัน 2.5 ล้านปอนด์ และส่วนแบ่งการขายในอนาคตอีก 20% 

อาร์เซน่อลเองก็ได้รับส่วนแบ่งจากดีลดังกล่าวด้วย จากการใส่ออปชั่นส่วนแบ่งการขาย 15 หรือ 20% ตอนที่ปล่อยไปให้กับเชลชี แต่อาร์เซน่อลควรจะได้ประโยชน์มากกว่านี้จากฮัทชินสัน 

ไม่ต่างจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ โคเซอร์-ดูเบอร์รี่ และรูเอลล์ วอลเตอร์ ทั้งคู่เป็นดาวรุ่งที่อาร์เซน่อลควรทำเงินได้ มากกว่าเพียงได้รับเงินเล็กน้อยจากค่าชดเชย ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐานของสโมสรอาร์เซน่อล จำเป็นต้องมีความชัดเจนมากขึ้นในการเตรียมความพร้อมนักเตะในการขึ้นมาเล่นในระดับทีมชุดใหญ่ หรือฟุตบอลอาชีพ ประเด็นเรื่องคุณภาพของผลผลิตจากอะคาเดมี่ก็ยังเรื่องที่ถกเถียง แต่คำตอบที่แท้จริงจะไม่เกิดขึ้นเลย จนกว่านักเตะเหล่านั้นจะได้รับโอกาสว่าพวกเขาดีพอจริงหรือไม่

ไม่ใช่นักเตะเยาวชนของทุกคนจะสามารถเลียนแบบซาก้าได้ แต่จะต้องมีช่วงเวลาหนึ่งที่จะจุดประกายให้เห็นความเปลี่ยนแปลงกับเส้นทางขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นหลังากพวกเขาคว้าแชมป์เมเจอร์ เพื่อให้สถานการณ์มันผ่อนคลายมากขึ้น หรือมีนักเตะพรสวรรค์ที่ยากที่จะมองข้าม อย่างเช่น เอ็นวาเนลี่ 

หรือกับโอกาสในช่วงปรีซีซั่นนี้ ที่อาจจะมีผู้เล่นทีมชุดใหญ่บางคนที่ไม่ได้ไปทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา มันก็เป็นโอกาสดีที่จะมอบโอกาสให้กับนักเตะดาวรุ่งได้พิสูจน์ตัวเอง 

 

 

 




 

 

 

 

 

  • Like 1

Share this post


Link to post
Share on other sites




 Hi88    King88    ok9    สล็อตเว็บตรง    สล็อตเว็บตรง    Đăng nhập SHBET    คาสิโน  

บ้านผลบอลวันนี้ Ball7m | ผลบอลสด Bankeela

ไม่่เน้นดาวรุ่งจากคาเดมี่ แต่เน้นซื้อดาวรุ่งจากทีมอื่น อย่าลืมว่าตัวหลักเราส่วนใหญ่ก็ดาวรุ่งทั้งนั้น ก่อนจะดันดาวรุ่งขึ้นมาอีก ก็ให้ตัวหลัก มันเก๋า มันแกร่งพอก่อน

Share this post


Link to post
Share on other sites

ด้วยความคาดหวัง ระดับมาตรฐานทีม เข้าใจว่าเราคงให้โอกาสดาวรุ่งไม่ได้มาก เหมือนสมัยเล่นยูโรป้าลีก หรือแค่ลุ้นท็อปโฟร์ คุณภาพก็ส่วนหนึ่ง จากที่ดูมาตอนนี้มีแค่ เอ็นวาเนลลี่ ที่พอจะเบียดขึ้นชุดใหญ่ได้ นอกนั้นผมว่ายังไม่ถึง เจ้าโอบี มาร์ติน กับแม็กซ์ ดาวน์แมน มีแวว เป็นตัววันเดอร์คิดส์ แต่อายุน้อยมากๆ ยังเร็วไปสำหรับชุดใหญ่

แต่เราก็ไม่ควรเสียดาวรุ่งไปแบบฟรีๆ ดูอย่างซิตี้ น้อยมากที่เขาจะดันเด็กขึ้นมา ตัวที่จะขึ้นต้องเก่งจริงๆ เท่านั้น แต่ดาวรุ่งที่ขึ้นไม่ได้ เค้าปล่อยทำเงินได้เยอะมาก ขายได้ตัวละ 5-10 ล้าน ก็ช่วยเรื่อง PSR ได้เยอะแล้ว เราต้องบริหารให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ กับผลผลิตอะคาเดมี่

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...