Jump to content




Sign in to follow this  
admin

"อาร์เตต้า เดอะซีรีย์" ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้นที่ลามาเซีย ฝีเท้าดีแต่มีซาบี้-อินเนียสต้าขวางทางเกิด

Recommended Posts

0320_ArtetaSeries_BarcaPSG-scaled.jpg
 
นี่คือบทความแรกในซีรีย์ยาวเกี่ยวกับ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล จากดิ แอธเลติก (The Athletic)

ขบวนรถสามคันเดินทางออกจาก ซาน เซบาสเตียน มุ่งหน้าสู่บาร์เซโลน่า ในเดือนกรกฏาคม 1997 เด็กสามคนที่มีความฝันในการลงเล่นให้กับ "เบลากรานา" อันโด่งดัง จอน อัลวาเรซ, มิเกล ยานฆวน และมิเกล อาร์เตต้า วัย 15 ปี กำลังมุ่งหน้าไปที่เอฟซี บาร์เซโลน่า
 
ทั้งสามคนเป็นเพื่อนร่วมทีมเยาวชนท้องถิ่นชื่อดังอย่าง "Antiguoko" เป็นเวลา 6 ปี แต่ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินทาง 5 ชั่วโมงครึ่งข้ามคาบสมุทรไอบีเรีย จากตะวันออกเฉียงเหนือไปยังตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน และผ่านการทดสอบฝีเท้า 1 สัปดาห์ที่สถาบันลามาเซีย อันโด่งดัง
 
พวกเขาลงเล่น 3 เกมส์ และทั้งหมดได้รับสัญญาจากบาร์เซโลน่า ที่นี่กลายเป็นบ้านหลังใหม่ของพวกเขา ดังนั้นทั้งสามคน จึงต้องอาศัยอยู่ในห้องพักที่มีเตียง 10-12 เตียงในแต่ละห้อง การเรียน, การฝึกซ้อม, การกิน และการนอน เป็นกิจวัตรใหม่ แต่ในขณะที่บางคนที่รับมือกับชีวิตใหม่นี้ได้ บางคนก็ไม่ได้
 
ยานฆวนให้สัมภาษณ์กับดิแอธเลติกว่า: "มันเป็นเรื่องยากสำหรับผม ผมนอนไม่หลับเลย ดังนั้นในวันรุ่งขึ้น ผมไปโรงเรียนด้วยความอ่อนล้า ผมมีอาการโฮมซิก ผมร้องไห้หนักมากในห้องของตัวเอง ผมอยู่ที่นั่นแค่ปีเดียว เพราะมันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายสำหรับผมจริงๆ ผมไม่เคยบอกมิเกลว่าผมรู้สึกแย่แค่ไหน เพราะผมค่อนข้างชอบที่จะปิดบังความรู้สึกของตัวเอง"

"มันแตกต่างออกไปสำหรับมิเกล เขาเป็นคนที่เปิดกว้าง และพูดคุยกับทุกคนได้ เขามีความสามารถที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ เขามีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งมากๆ คุณสามารถเห็นได้ว่าเขามั่นใจ 100% เกี่ยวกับความสามารถของตัวเองที่จะเล่นและประสบความสำเร็จที่นี่"

5128f00e-85e3-4975-ab57-b7d85d02a051-e16
 
(จากซ้ายไปขวา) มิเกล อาร์เตต้า, มิเกล ยานฆวน และจอน อัลวาเรซ ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก่อนที่จะย้ายไปบาร์เซโลน่า
 
 
จากกระทั่งถึงจุดที่คิดบ้านจนทนไม่ไหว ยานฆวน และอาร์เตต้า ดูเหมือนจะเดินทางบนเส้นขนานในชีวิต ยานฆวนกล่าวว่า: "ผมจะเห็นเขาเล่นฟุตบอลที่ชาดหาด เพราะทุกคนเริ่มต้นที่นี่ในซานเซบาสเตียน เมื่อเราเข้าร่วมทีมท้องถิ่น Antiguoko เห็นได้ชัดว่ามิเกล แตกต่างออกไป ความสามารถด้านเทคนิคของเขาน่าทึ่งมาก เขาไม่ได้เร็วหรือว่าแข็งแกร่งมากนัก แต่เขาเล่นบอลฉลาด และเล่นระหว่างกองกลางกับกองหน้า ในแบบที่โอเดการ์ดกำลังทำอยู่ตอนนี้ ผมเองก็มีพรสวรรค์ แต่ไม่ได้เก่งเท่ากับมิเกล"
 
โรแบร์โต้ มอนเทียล บอกเล่าเรื่องราวที่เขารับรู้ได้ทันทีว่า อาร์เตต้า ไม่เหมือนเด็กคนอื่นที่เขาเคยเห็น ทีม Antiguoko ลงเล่นพบกับ เรอัล โซเซียดัด หนึ่งใน 2 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นบาส์ก และเมื่ออาร์เตต้าได้รับบอล เขาเลี้ยงบอลผ่านทุกคนที่ขวางหน้า และตักบอลข้ามหัวผู้รักษาประตูด้วยเท้าข้างที่ไม่ถนัด แม้ว่าลูกนี้จะข้ามคานออกไป แต่เราทุกคนต่างมองหน้ากันว่ามันน่าทึ่งมาก
 
"เขาตัวเล็กเมื่อเทียบกับอายุของเขา และค่อนข้างขี้อายกับเพื่อนร่วมทีม แต่ไม่ใช่ในสนาม เขาเป็นนักสู้" มอนเทียลกล่าวกับดิแอธเลติก "เขาไม่ใช่เด็กที่ต้องพึ่งพาครอบครัว เขาเป็นอิสระมากๆ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น เขาเติบโตด้วยตนเอง เมื่ออายุ 14 ปี เราก็ย้ายเข้าไปอยู่กับรุ่นอายุเดียวกับ ซาบี้ อลอนโซ่ ซึ่งเขาปรับตัวได้เร็วมากๆ "
 
ยานฆวน และอาร์เตต้า เรียนอยู่ที่โรงเรียน Barandiaran Lizeoa ตอนอายุ 13 ปี ในไม่ช้า แอธเลติก บิลเบา อีกหนึ่งยอดทีมประจำแคว้น ก็เชิญพวกเขาไม่ฝึกซ้อมกับสโมสร เป็นเวลา 5 เดือนที่พวกเขาต้องนั่งแท็กซี่ 1 ชั่วโมงไปที่ศูนย์ฝึกเลเซมา หลังเลิกเรียนเวลา 15.00 น. แต่หลังจากสร้างความประทับใจใน อีสเตอร์ ทัวร์นาเมนท์ ที่เจอกับทีมระดับอาชีพ บาร์เซโลน่าก็ได้มีการติดต่อทาบทามพวกเขา 
 
ด้านล่างคือรูปภาพที่ ยานฆวน กับอาร์เตต้า ยืนอยู่เคียงข้างกันที่ลามาเซีย โดยมีฉากหลังเป็นสนามคัมป์นู มีเด็กชาย 39 คน ถ่ายรูปหมู่ ประกอบด้วยทั้งนักฟุตบอล และบาสเก็ตบอล นอกจากนี้ยังมีภาพเด็ก 13 ปีที่ชื่อ "อันเดรส อิเนียสต้า" นั่งอยู่ด้านหน้าตรงกลาง 
  
 
Untitled-design-scaled.jpg
 
การถูกโยนเข้าไปในสภาพแวดล้อมที่เข้มข้นของหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากที่พยายามหาช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในปีนั้น ยานฆวน นึกถึงช่วงเวลาที่พวกเขาเล่นไพ่ และเดินทางไปที่โรงหนังเพื่อดู "ไททานิค" กับเพื่อนๆ ร่วมทีม และหนึ่งในนั้นคือ วิคตอร์ บัลเดส ผู้รักษาประตูของบาร์เซโลน่าและทีมชาติสเปนในอนาคต

ยานฆวน พยายามดิ้นร้นเพื่อค้นหาความสุข และทนทุกข์กับการอยู่ห่างจากครอบครัวของเขา "ครั้งสุดท้ายที่ผมได้คุยกับเขาคือเมื่อตอนที่ผมกล่าวคำอำลา และกลับบ้าน" ยานฆวนกล่าว
 
ยานฆวน ย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของสโมสรแอธเลติก บิลเบา แล้วก็ย้ายไปที่เออิบาร์ ก่อนที่จะลงเล่นกับหลายสโมสรในแคว้นบาส์ก จนกระทั่งอายุ 30 ปี ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่นอกมืองซาน เซบาสเตียน กับภรรยาและลุกๆ โดยทำงานเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจและเป็นโค้ชทีมบียาโบนา ในท้องถิ่นอีกด้วย
 
อัลวาเรซยังคงอยู่กับบาร์เซโลน่า แม้ว่าเขาจะไม่เคยสร้างชื่อในฐานะของนักเตะก็ตาม เขากลายเป็นนักกายภาพบำบัดที่สนามคัมป์นูตั้งแต่ปี 2005
 
 
84b9abac-cefd-465f-adbf-a317adeb2657-102
 
อาร์เตต้า เติบโตอยู่ระหว่าง 2 กองกลางระดับตำนานของบาร์เซโลน่า ซาบี้ เอร์นานเดช และอินเนียสต้า 
 
"เราซ้อมกันอย่างหนัก" โรแบร์โต้ ทราซอร์ราส อดีตเพื่อนร่วมทีมของอาร์เตต้า เขาลงเล่นมากกว่า 300 เกมส์ให้กับเซลต้า บีโก้ และราโย บาเยกาโน่ และลงเล่นให้กับทีมชาติสเปน รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี เขาย้ายมาอยู่กับบาร์เซโลน่าก่อนอาร์เตต้า 2 ปี เขาย้ายมาจากแคว้นกาลิเซีย ที่ไกลกว่าซาน เซบาสเตียน ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของสเปน เขาจึงรู้ว่าการมาอยู่ที่นี่นั้นยากเพียงใด
 
"ปีนั้นเป็นปีที่ดีมาก ซึ่งมีผู้คนมาจากทั่วทั้งสเปน มันยากสำหรับพวกเราทุกคนในตอนแรก ที่ไม่มีครอบครัวและเพื่อนฝูง การเปลี่ยนเมืองและวัฒนธรรม การปรับตัวให้เข้ากับประเพณีอื่นๆ แต่หลายสัปดาหืผ่านไปทุกอย่างก็สงบลง"
 
"แต่อาร์เตต้าเป็นคนที่ชอบเข้าสังคมมาก ขี้เล่นอยู่ตลอดเวลา เขาเข้ากับพทุกคนได้ โดยเฉพาะกับผมและนาโน" นาโน เล่นในตำแหน่งกองหน้า เขากับอาร์เตต้า เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปน ที่คว้าแชมป์ยูโรในปี 1999 
 
โจฟรา มาตูร์ เป็นเด็กฝึกของลามาเซีย เขาอายุมากกว่าอาร์เตต้า 2 ปี และอยู่ในระบบเยาวชนลามาเซียมาแล้ว ผู้เล่น 6-7 คน มักจะถูกตัดออกเมื่อจบฤดูกาล โดยผู้เล่นที่ดีที่สุดจากทั่วประเทศจะถูกส่งมาแทนเพื่อยกระดับทีมขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของความท้าทายและอาร์เตต้ายอมรับมัน เขาได้เลื่อนมาเล่นกับทีมบาร์เซโลน่า เบ
 
"เขาเป็นคนที่จริงจังมาก สำหรับคนที่อายุยังน้อย" มาตูร์กล่าว
 
 
GettyImages-1213096475.jpg
 
"ธิอาโก้ ม็อตต้า เข้ามาร่วมทีมเบ ในเวลาต่อมา พวกเขามีความคล้ายกันมาก พวกเขามีความคิดที่ชัดเจน และรู้บทบาทหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี"
 
การเข้าใจปรัชญาลูกหนังของบาร์เซโลน่า และทำตามแนวความคิดของ โยฮันส์ ครัฟฟ์ มาใช้ มีความสำคัญมากพอๆ กับพรสวรรค์ตามธรรมชาติ นี่คือโรงงานผลิตนักเตะเพื่อป้อนสู่ทีมชุดใหญ่ ซึ่งเวลานั้น หลุยส์ ฟาน กัล เป็นผู้จัดการทีม 
 
"เราฝึกซ้อมโดยไม่มีทฤษฏี" มาตูร์อธิบาย "การฝึกซ้อมทุกครั้งจะเกี่ยวกับการรับรู้ว่าคุณอยู่ตรงไหนในสนาม ลูกฟุตบอล และคู่แข่ง คุณต้องเรียนรู้วิธีและเวลาที่จะมองไปรอบๆ ตัวคุณ ตอนนั้นไม่ได้มีเซซซั่นในการศึกษาวีดีโอ มันเป็นการแค่ครองบอลและครองบอล พวกเขาต้องการให้คุณคิดออกเอง พวกเขาให้ความอิสระแก่คุณ แต่ความอิสระที่ถูกบังคับให้อยู่ในกฏและบริบทของพื้นที่ขนาดเล็ก ซึ่งคุณต้องคิดใ้ห้เร็วและรู้วิธีแก้ไข มันเกี่ยวกับการทำซ้ำเรื่อยๆ"
 
"มิเกล ไม่ใช่ผู้เล่นตัวรับ แต่เขาเล่นในตำแหน่งหมายเลข 4 เขามีความสามารถในการคิดเร็ว เขามีพลังงานและความเข้มข้นมากกว่าคนอื่นๆ เขาเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองมากๆ"
 
"เกิดการต่อสู้ระหว่างผู้เล่น 2 คนในการฝึกซ้อม คนหนึ่งเข้าเสียบสกัดอย่างหนัก กับอีกคนที่บ่นไม่พอใจ มิเกล เป็นคนแรกที่เข้ามา แล้วบอกว่า 'ไม่ นายเล่นแบบนี้ในวันอาทิตย์ได้ แต่ที่นี่มีแต่เพื่อนร่วมทีม ดังนั้นเก็บแรงและความรุนแรงของนายเอาไว้ หรืออะไรก็ตามเพื่อตอนนั้น นั่นเป็นเวลาที่เราทุกคนอยู่กับนาย' "
 
"เขามีความเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อเขาเริ่มเรียนขับรถ ผมถึงยอมปล่อยให้เขาได้ใช้ของผม เขาบอกว่า โจฟีร์ แค่นาทีเดียว ฉันจะแสดงให้นายเห็นว่าฉันขับรถเก่งแค่ไหน แต่แล้วเขาก็ขับไปชนรถอีกคัน ดีที่ไม่มีอะไรเสียหายร้ายแรง แต่เขาก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ"
 
GettyImages-112057260-scaled.jpg
 
อาร์เตต้า ได้ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมกับทีมชุดใหย่ของบาร์เซโลน่า ซึ่งมี กวาร์ดิโอล่า, หลุยส์ ฟิโก้, หลุยส์ เอ็นริเก้, แพทริค ไคลเวิร์ต และริวัลโด้ นี่คือปี 1999 ซาบี้ และคาร์เลส ปูโยล ได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ รวมถึงนาโน เพื่อนของอาร์เตต้า ก็ได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ แต่หลุยส์ ฟาน กัล ไม่เป็นที่ชื่นชอบจากแฟนบอลบาร์เซโลน่า แม้ว่าจะพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัยใน 2 ปีแรกของเขา ก่อนที่เขาจะออกจากทีมไปในฤดูกาล 1999/2000 
 
มีผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางเข้ามาเพิ่มในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น อีวาน เด ลาเปนญา, เอ็มมานูเอล เปอตีต์ และเคราร์ด โลเปซ ถูกเติมเข้ามาในทีมของ โลเรนโซ่ เฟร์เร่ นั่นหมายความว่า อาร์เตต้า จะต้องแข่งขันแย่งตำแหน่งกับทั้ง กวาร์ดิโอล่า, เอ็นริเก้, ฟิลิปป์ โคคู, เดลาเปนญา, เปอตีต์, โลเปซ, ซิเมา, เซนเด้น และยารี่ ลิตมาเน่น รวมถึงรุ่นพี่จากลามาเซียอย่าง ซาบี้, กาบรี้ และเซอร์คิโอ ซานตามาเรีย แล้วยังต้องไม่ลืมว่ามี อินเนสต้า อีกคน

 มาตูร์กล่าวว่า: "ผมไม่เห็นทางที่มิเกล จะขึ้นสู่ชุดใหญ่บาร์เซโลน่า ทุกคนรู้ว่าเขามีโอกาส เพราะด้วยคุณภาพของเขา แต่ซาบี้ก็โดดเด่นเหลือเกิน และอินเนียสต้าสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง แล้วกับยุคของเฟร์เร่ เราเคยมีโมเดลสัญญาที่เราจะเซ็นสัญญากัน 5 ปี และระบุสิ่งที่จะได้รับในแต่ละปี อาร์เตต้า, ทราซอร์ราส และนาโน เลือกที่จะเซ็นสัญญาที่สั้นลงแต่รับเงินมากขึ้น พวกเขาเริ่มตระหนักว่าอนาคตของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่บาร์เซโลน่า มันเป็นการเริ่มต้นสู้ยุคใหม่ในอะคาเดมี่"
 
กลางฤดูกาล 2000/01 อาร์เตต้า ย้ายไปเล่นกับปารีส แซงต์แชร์กแม็งด้วยสัญญายืมตัว 18 เดือน พ่วงออปชันในการซื้อขาดเอาไว้ด้วย เขาไม่มีที่ว่างในทีมชุดใหญ่ และไม่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่าเลย
  
โลเรนโซ่ เซอร์ร่า เฟร์เรร์ กล่าวว่า "อาร์เตต้า เป็นผู้เล่นที่ผมคิดว่ามีความสามารถที่จะเป็นนักเตะบาร์เซโลน่า แต่เรามีผู้เล่น 4 หรือ 5 คนที่สามารถเล่นในตำแหน่งกองกลาง เขาเข้าใจคอนเซ็ปและสไตล์การเล่นอย่างสมบูรณ์แบบ เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่มีร่างกายที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงใช้ความฉลาดในการเล่นฟุตบอล และความสามารถในการควบคุมบอล และเลือกจังหวะการจ่ายที่ถูกต้อง"
 
"ฟาน กัล คิดว่าเขายังเด็ก และซาบี้ก็ก้าวกระโดดไปแล้ว มิเกลมีความชัดเจนว่าถ้าหากเขาไม่ได้เล่นกับทีมชุดใหญ่ เขาต้องการย้ายออกไป"
 
ในช่วงเวลาหนึ่งฤดูกาลครึ่งของเขาที่ปารีส เขาอายุเพียงแค่ 18 ปี และได้อยู่ในทีมที่มีสตาร์ดังอย่าง เมาริสซิโอ โปเซ็ตติโน่, กาเบรียล ไฮน์เซ่, เจย์ เจย์ โอโคชา และนิโกล่า อเนลก้า ต่อมาในซัมเมอร์ปี 2001 เปแอสเช ได้ดึง โรนัลดิญโญ่ มาจากเกรมิโอ ในบราซิล
 
 
GettyImages-650978798-scaled.jpg
 
เฟอร์นันเดส ผู้จัดการทีมเปแอชเชในเวลานั้น และอาร์เตต้าเคยบอกว่าเขาหนึ่งเป็นผู้จัดการทีมที่มีอิทธิพลที่สุดในเส้นทางอาชีพของเขา กล่าวว่า: "ผมได้คุยกับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ แต่เรามีผู้เล่นที่พูดภาษาสเปนได้หลายคนในทีมทั้ง โปเซ็ตติโน่ คริสโตบัล และผมด้วย ดังนั้นมันจึงทำให้สิ่งต่างๆ ง่ายขึ้น แต่เขาก็เรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสได้อย่างรวดเร็ว"  
 
"มิเกล เป็นเด็กที่ฉลาด เขาปรับตัวได้อย่างชาญฉลาดทั้งในและนอกสนาม เขาเป็นคนที่เรียบร้อย มีสัมมคารวะ ที่เปแอสเช เราขอให้เขารับบอล พลิกบอลไปเล่น ด้วยคุณภาพของเขาและทักษะในการครองบอล มันทำให้เขาทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น เขาเป็นเด็กที่ฉลาดมาก"
 
อาร์เตต้า รับบทบาทเพลย์เมกเกอร์ แม้ว่าเขาจะเป็นสมาชิกในทีมที่อายุน้อย แต่ทางเฟอร์นันเดส ไม่ได้มีความกังวลกับความรับผิดชอบที่เขามอบให้กับอาร์เตต้า "ผมอยู่ในฐานะโค้ช ผมพยายามสร้างกลุ่มผู้เล่นที่เข้ากันได้ดี ที่อยากเล่นฟุตบอลด้วยกัน มีสภาพจิตใจที่ดี ทีมมีสไตล์การเล่นในสนามที่ตอบสนองต่อความคาดหวังของผมได้เสมอ เกี่ยวกับระบบ และการยืนตำแหน่ง เราสามารถทำให้พวกเขาสามารถเติบโตขึ้นในฐานะของผู้เล่น ดังนั้นผมจึงมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือพวกเขาและมิเกลด้วย"
 
ด้วยฝึเท้าของซาบี้ และอินเนียสต้า บีบโอกาสของอาร์เตต้าที่บาร์เซโลน่า แน่นอนว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกองกลางแห่งยุคของบาร์ซ่า เคียงคู่กับ เซอร์คิโอ บุสเกตต์ แต่มันจะมีที่ว่างสำหรับอาร์เตต้า หากไม่มีผู้เล่นถูกดึงเข้ามาในทีมมากเกินไป มันทำให้เขาขึ้นมาช่วงที่มีการแข่งขันภายในทีมมากที่สุด
 
เซอร์ร่า เฟร์เรร์ กล่าวปิดท้ายว่า: "ผมชอบที่จะดูทีมของเขา (อาร์เซน่อล) และวิธีที่เขาเป็นในฐานะของผู้นำ มันสะท้อนให้เห็นว่าเขาเคยเป็นนักเตะอายุน้อยที่บาร์เซโลน่า เขามีความเชื่อมั่นในตัวเอง และสามารถถ่ายทอดมุมมองของเขาเกี่ยวกับเกมส์ได้ ด้วยโชค ผมหวังว่าผมจะได้เห้นเขากลับมาที่นี่ในฐานะของโค้ชทีมชุดใหญ่ในสักวัน"

Share this post


Link to post
Share on other sites




 Hi88    สล็อตเว็บตรง    สล็อตเว็บตรง    คาสิโน  

สล็อต PGSLOT350   สล็อต PGSLOT920   สล็อต PGSLOT699   สล็อจโจ๊กเกอร์ JOKER350   ซื้อหวย 24 ชั่วโมง  



บ้านผลบอลวันนี้ Ball7m | ผลบอลสด Bankeela

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...