5 แนวทางในการปรับปรุงสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยมให้รองรับแฟนบอล 80,000 ที่นั่ง

[admin 26]

จอซ ครองกี้ ประธานสโมสรร่วมของอาร์เซน่อล ออกมาส่งสัญญาณถึงแผนการอัพเกรดครั้งใหญ่ของสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม 

สนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม มีการเริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 2006 ด้วยความจุ 60,000 ที่นั่ง มูลค่า 390 ล้านปอนด์ แต่เวลาผ่านมาเกือบ 20 ปี ตอนนี้สนามของพวกเขาเริ่มตามหลังคู่แข่ง และกำลังต้องการที่จะปรับปรุงสนามครั้งใหญ่

"การสนทนาภายในกำลังเริ่มขึ้นเกี่ยวกับสนามกีฬา" จอซกล่าวกับทาง ESPN เมื่อเดือนกรกฏาคม "การปรับปรุงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เรามองเห็นความเป็นไปได้" เป็นที่เข้าใจว่าการเจรจายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นกับสภาเมืองอิสลิงตัน และการคมนาคมของลอนดอน (TFL)  ที่ยังไม่ได้รับการติดต่อจากอาร์เซน่อล แต่ทีมงาน Mail Sport สามารถเปิดเผยว่าทางสภาเมือง มีความกังวลด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นอุปสรรคหากพวกเขาต้องการขยายความจุของสนาม

ความจุสนามตอนที่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยมเปิดใช้งาน พวกเขาเป็นสนามที่จุผู้ชมได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก แต่ปัจจุบันพวกเขาหล่นมาอยู่อันดับ 5 เมื่อเวสต์แฮม (62,850) ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (62,500) และลิเวอร์พูล (61,276) แซงหน้าพวกเขาไปแล้ว

ขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังจะเป็นอีกทีมที่แซงหน้าพวกเขาไป ด้วยการขยายอัฒจรรย์ทางฝั่งเหนือ ที่จะทำให้เอติฮัด จุผู้ชมได้เกินกว่า 60,000 ที่นั่ง ในเวลาเดียวกัน ทีมอื่นๆ กำลังมองหาการขยายธุรกิจให้ดีขึ้นไปอีก หรือย้ายไปที่อื่นเพื่อเพิ่มพื้นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะสร้างเวมบลีย์แห่งภาคเหนือ ด้วยความจุระดับ 100,000 ที่นั่ง ส่วนเวสต์แฮม เองก็เล็งที่จะขยายลอนดอน สเตเดี้ยมเป็น 68,000 ที่นั่ง

มีรายงานข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อาร์เซน่อลตั้งเป้าที่จะขยายสนามของพวกเขาเพิ่มเป็น 80,000 ที่นั่ง นั่นจะทำให้เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของยุโรป เป็นรองแค่ คัมป์นู, เวมบลีย์, ทวิคเกนแฮม และสตาด เดอ ฟร้องซ์ 

ปัจจัยสำคัญที่อาร์เซน่อลต้องการเพิ่มความจุของสนาม เป็นการเพิ่มรายได้ของสโมสรให้มากขึ้น รวมถึงลดจำนวนการรอคิวซื้อตั๋วปี ที่มีปัญหามาร่วม 10 ปี 

ในเชิงตัวเลขจาก Deloitte ในฤดูกาล 2022/23 อาร์เซน่อลมีรายได้ 464 ล้านปอนด์ น้อยกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (712.8 ล้านปอนด์) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (648 ล้านปอนด์) ลิเวอร์พูล (593.8 ล้านปอนด์) ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ (549.6 ล้านปอนด์) และเชลชี (512.5 ล้านปอนด์) พวกเขาตามหลังคู่แข่งในเชิงตัวเลข

คู่แข่งร่วมเมืองอย่างท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทำรายได้เกือบ 6 ล้านปอนด์ต่อเกมส์ และถึงแม้รายได้จากตั่วเข้าชมเกมส์ของพวกเขาจะอยู่ที่ 102.6 ล้านปอนด์ ที่เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ แต่ก็ยังตามหลังยูไนเต็ด (163.4 ล้านปอนด์) และสเปอร์ (117.6 ล้านปอนด์)

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา อาร์เซน่อลขึ้นค่าตั๋วปี 6% นั่นทำให้แฟนบอลต้องจ่ายเงินเพิ่มอย่างน้อย 100 ปอนด์ โดยราคามีตั้งแต่ 461.5 ถึง 2,050.50 ล้านปอนด์
 

แล้วพวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง? ต่อไปนี้เป็นตัวเลือกบางอย่าง โดยอ้างอิงจากการสนทนากับนักพัฒนาการก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญ 

1. เก้าอี้ของสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม มีความกว้างกว่าทุกสนามในประเทศนี้ การปรับขนาดเก้าอี้ให้เล็กลงกว่าเดิม โดยหากลดลง 1 นิ้ว จะทำให้สามารถเพิ่มความจุได้ 2-3 พันที่นั่ง 

2. การลดระดับของสนามในระดับพื้นดินให้ต่ำลง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจำนวนแถวที่นั่ง สนาม SoFi ของแอลเอ แรมส์ ก็ถูกออกแบบให้อยู่ต่ำกว่าพื้นดิน 100 ฟุต แต่จะกระทบกับมุมมองของผู้ชมที่อยู่แถวด้านล่าง และด้วยสนามเอมิเรสต์ ที่ถูกกั้นด้วยสภาพแวดล้อมโดยรอบ มีเส้นทางรถไฟอยู่ใกล้อัฒจรรย์ฝั้งตะวันตกและตะวันออก ทำให้พวกเขาไม่มีทางขยายสนามออกด้านข้างได้เลย 

3. การเพิ่มความสูงของหลังคา โดยจะมีการปรับปรุงไปที่ละฝั่งอัฒจรรย์ ซึ่งจะทำให้สโมสรขาดรายได้เป็นชั่วเวลานึง แต่ความยากในการปรับปรุงจะอยู่ที่อัฒจรรย์ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องแต่งตัว 

4. สนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม มีพื้นที่ระหว่างหลังคากับที่นั่งแถวบนสุดค่อนข้างมาก ดังนั้นพวกเขาสามารถเติมที่นั่งให้เต็มพื้นที่ แต่ก็อาจจะกระทบกับตำแหน่งในการวางสกอร์บอร์ดขนาดใหญ่ ที่ปัจจุบันตั้งอยู่ด้านบนระหว่างที่นั่งแถวสุดท้ายกับหลังคา

5. การย้ายไปสร้างสนามแห่งใหม่ในพื้นที่อื่น นี่จะเป็นทางเลือกที่มีค่าใช้จ่ายสูงมากที่สุดในบรรดาทางเลือกต่างๆ แล้วพวกเขาเพิ่งใช้งานสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยมได้เพียง 18 ปีเท่านั้น และเป็นการย้ายออกจากย่าน N5 ที่สโมสรเล่นที่นี่มา 111 ปี
 

ไม่ว่าอาร์เซน่อลจะเลือกทางใด สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าแล้วผ่านให้ได้ คือการเจรจากับสภาเมืองและการคมมนาคม เป็นที่เข้าใจว่าสภาเมืองมีข้อจำกัดนานแล้ว เกี่ยวกับความจุ เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยของชุมชม และการขนส่งสาธารณที่ไม่เพียงพอในวันที่มีการแข่งขัน

ความสัมพันธ์ของสภาเมืองและ TFL กับอาร์เซน่อลนนั้นมีความซับซ้อน และมีมาก่อนที่ตระกูลครองกี้จะเข้ามาซื้อหุ้นของสโมสรเสียอีก อาร์เซน่อลได้ยื่นเรื่องในการขอสร้างสนามใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2000 แต่กว่าจะได้รับการอนุมัติต้องรอจนถึงธันวาคม 2001 รวมถึงการเจอการต่อต้านของชุมชมท้องถิ่นในการย้ายจากไฮบิวรี่มาสนามแห่งใหม่ 

การขออนุมัติและการวางแผนเป็นกระบวนการที่ยุ่งยาก และยาวนาน เป็นที่เข้าใจว่าอาร์เซน่อล ได้มองเงินจำนวนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยให้กับ TFL ในการปรับปรุงสถานีรถไฟใต้ดิน Holloway Road ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดในการเดินทางไปยังเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม แต่เชื่อกันว่าเงินที่อาร์เซน่อล มอบให้ ถูกใช้ไปกับสถานีไฮบิวรี่ และอิสลิงตันแทน ซึ่งห่างจากเอมิเรสต์ 15 นาที

ส่งผลให้สถานี Holloway Road และ Drayton Park ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดถูกปิดในวันที่มีการแข่งขัน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดความแออัด ในขณะที่สถานีไฮบิวรี่ และอิสลิตัน จะมีคิวที่ยาวหลังจบเกมส์ 

ดังน้นหากสโมสรดังจากลอนดอนเหนือ ต้องการขออนุญาตในการวางแผนและได้รับไฟเขียวจากสภาเมือง พวกเขาจำเป็นต้องใช้เงินสำหรับการขยายสถานี Holloway Road ในการรองรับผู้โดยสารให้ได้มากขึ้น ซึ่งนั้นคือสิ่งที่ต้องดูกันต่อไป ว่าทางตระกูลครองกี้จะทำอย่างไร 

พื้นหลังของตระกูลครองกี้ พวกเขาร่ำรวมหลายพันล้านดอลล่าร์จากธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ จากการสร้างศูนย์การค้า และอพาร์ทเมนต์ เขาได้พัฒนาศูนย์การค้าหลายแห่งใกล้กับวอลมาร์ท ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การสร้างสนามกีฬามีค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้น ในเดือนสิงหาคม แอลเอ แรมส์ ได้ย้ายไปศูนย์ฝึกแห่งใหม่ใน Woodland Hills ซึ่งสแตน ครองกี้ ต้องควักเงิน 650 ล้านดอลล่าร์ (507 ล้านปอนด์) ในการพัฒนาซึ่งประกอบด้วยสนามฝึกซ้อม สำนักงาน และโรงแรม

ในเดือนตุลาคมปีนี้ สภาเมืองเดนเวอร์ อนุมัติแผนของสแตน ครองกี้ ในการเปลี่ยนลานจอดรถขยาย 64 เอเคอร์ ที่ในรังเหย้าของทีมบาสเกตบอลเดนเวอร์ นักเกตต์ และทีมฮ็อกกี้นำ้แข็ง โคโลราโด ให้กลายเป็นที่พักอาศัย 6,000 ยูนิต และโรงแรมแห่งใหม่

แล้วพวกเขายังมีสนาม SoFi ที่เป็นอัญมณียอดมงกุฏ สนามแหงนี้เปิดใช้งานในปี 2020 โดยมีพื้นที่ 3.1 ตารางฟุตอันล้ำสมัย พร้อมด้วยบอร์ดวีดีโอรูปไข่สองด้าน ซึ่งเป็นสนามกีฬาแห่งแรกที่มี และเป็นแรงบันดาลใจให้เรอัล มาดริด ในการปรับปรุงสนามใหม่ 

ทางทีมงานข่าวของเดลี่ เมล์ ได้ไปเยี่ยมชมสนาม SoFi ขณะที่ตามไปอาร์เซน่อลไปปรีซีซั่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สนามแห่งนี้มีความโดดเด่นและลักษณะเฉพาะตัว เป็นสัญลักษณ์ของความทะเยอะทะยานของเจ้าของสนาม 

แม้ว่าการพูดคุยในโปรเจคขยายสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เชื่อว่านี่จะเป็นโปรเจคใหญ่ถัดไปของตระกูลครองกี้ ไม่ว่าการขยายสนามจะต้องใช้เงินมากแค่ไหน แต่ด้วยการแข่งขันที่สูงของพรีเมียร์ลีก การยืนอยู่นิ่งๆ จะทำให้ต้องไล่ตามหลังคู่แข่ง ซึ่งอาร์เซน่อลไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้

 

 

[admin 26]

ด้วยการออกแบบสนามตั้งแรก ไม่ง่ายเหมือนกันในการเพิ่มความจุอีก 20,000 สภาพแวดล้อมรอบสนามไม่สามารถขยายออกแทบไม่ได้ น่าจะต้องรื้อ Design สนามครั้งใหญ่เลย หลังคามีรื้อใหม่แน่ๆ ต้องดูว่าจะทยอยทำ หรือว่าเราต้องไปเช่าเวมบลีย์เล่นชั่วคราวสักปี เรื่องเงินคงไม่กระทบแบบสมัยเมื่อ 20 กว่าปีก่อนตอนสร้างเอมิเรสต์ สมัยนี้รายได้พรีเมียร์ลีกสูงที่สุดในโลก แล้วครองกี้เป็นเจ้าพ่ออสังหา ไม่น่าจะบานปลายเหมือนเจ้าของคนก่อน