[Inside Story] หวิดดราม่าตำแหน่งประตู!! เจาะเบื้องลึกตลาดนักเตะอาร์เซน่อลซัมเมอร์ 2024

[admin 17]

ในช่วง 24 ชั่วโมงสุดท้ายของตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ของอังกฤษ เป็นการดิ้นรนเพื่อแก้ปัญหาของอาร์เซน่อลอย่างแท้จริง

พวกเขาต้องการผู้เล่นในแนวรุกเพิ่มเติม แล้วจบลงด้วยการยืม ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จากเชลชี ซึ่งเป็นดีลที่มีความเสี่ยงต่ำ รวมถึงการยืมตัว เนโต้ ผู้รักษาประตูมือเก๋ามาจากบอร์นมัธ หลังจากความพยายมในการคว้าตัว โจน การ์เซีย ของเอสปันญอล มาถึงทางตัน 

จากแหล่งข่าว ซึ่งของสงวนสิทธิ์ในการไม่เปิดชื่อ เพื่อปกป้องแหล่งข่าวและความสัมพันธ์ เช่นเดียวกับบุคคลอื่นๆ ที่ถูกอ้างถึงในบทความชิ้นนี้ เจ้าหน้าที่ของอาร์เซน่อล รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการมาถึงของ สเตอร์ลิ่ง พวกเขารู้สึกว่าสามารถเพิ่มความหลากหลาย ประสบการณ์ และคุณภาพในการเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้า พร้อมผ่านการคว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 4 สมัย ที่สำคัญพวกเขารับผิดชอบค่าเหนื่อยของสเตอร์ลิ่งน้อยกว่า 50% จากที่รับอยู่กับเชลชี (325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์)

เมื่อสัปดาห์ก่อน อาร์เซน่อลทำใจแล้วว่าพวกเขาคงจะไม่มผู้เล่นตัวรุกเข้ามาเสริมทัพ หลังจากเป้าหมายหลักในตลาดรอบนี้ทั้ง เบนจามิน เซสโก้ และนิโก้ วิลเลี่ยมส์ ต่างไม่ประสบความสำเร็จ แล้วด้วยเหตุผลที่ฤดูกาลก่อน อาร์เซน่อลยิงในลีกไป 91 ประตู ทำให้พวกเขาพร้อมที่จะเก็บเงินเอาไว้เสริมแกร่งแนวรุกในอนาคต

ขณะที่เมื่อเข้าสู่สัปดาห์สุดท้าย ชื่อของ สเตอร์ลิ่ง เริ่มถูกพูดถึงในฐานะนักเตะเป้าหมาย เช่นเดียวกับชื่ออื่นๆ เช่น คิงลีย์ โกม็อง แต่ ณ จุดนั้นไม่มีความตั้งใจที่ชัดเจนที่จะเดินหน้าในการคว้าตัวมาร่วมทีม 

ในมุมของทางสเตอร์ลิ่ง เข้าไม่ปิดบังความชื่นชมที่มีต่ออาร์เซน่อล และมิเกล อาร์เตต้า ซึ่งถือเป็นการย้ายทีมในอุดมคติของปีกวัย 29 ปีรายนี้ ที่ถูกแยกซ้อมจากเพื่อนร่วมทีมเชลชี มาตั้งแต่หลังจบเกมส์แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก ทางสเตอร์ลิ่งมองว่า อาร์เซน่อล เป็นทีมที่มีรากฐานที่แข็งแกร่ง และจะช่วยให้เขาสามารถกลับไปมีชื่อในทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง รวมถึงการได้ใช้ชีวิตในลอนดอนต่อ ก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับครอบครัวของเขาเช่นกัน

นอกจากนี้เขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับมิเกล อาร์เตต้า สมัยที่อาร์เตต้าทำงานเป็นผู้ช่วยของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทางเป๊ป เองเคยชมอาร์เตต้า ผ่านสื่อว่า เขาเป็นคนที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการจบสกอร์ของสเตอร์ลิ่ง

อย่างไรก็ตามข้อตกลงระหว่าง อาร์เซน่อลและสเตอร์ลิ่ง ไม่ได้มีโอกาสจะกลายเป็นจริงได้เลย จนกระท่งไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายของตลาดนักเตะ 

ปัจจัยที่ผมก็คือ อาการบาดเจ็บของ กาเบรียล เฆซุส และมิเกล เมริโน่ ส่งผลให้อาร์เซน่อลมีการปรับเปลี่ยนทีท่า ทางเฆซุส คาดว่าจะกลับมาลงเล่นได้อีกครั้งหลังจากเบรกทีมชาติ แต่ในรายของ เมริโน่ ที่ต้องพักยาว 6 สัปดาห์ มีผลกระทบที่ทำให้บางทีต้องเอา ไค ฮาแวร์ตซ์ ถอยลงมาเล่นกองกลาง นั่นทำให้อาร์เซน่อลเห็นความสำคัญในการเพิ่มผู้เล่นแนวรุก

อาร์เซน่อล เข้าสู่โดมิโน่ในการย้ายทีมที่เกี่ยวข้องกับ สเตอร์ลิ่ง, เจดอน ซานโซ่ และรีสส์ เนลสัน โดยซานโซ่ คือโดมิโน่ตัวแรกที่ล้มเมื่อเขาย้ายจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอยู่กับเชลชี ด้วยสัญญายืมตัว พ่วงออปชันบังคับซื้อขาด นั่นทำให้เชลชี ยิ่งมีความกระตือรือร้นที่จะปล่อยสเตอร์ลิ่งออกจากทีม ก่อนที่พวกเขาจะปิดดีลลงได้สำเร็จ โดยมองว่าดีลดีลนี้มีข้อเสียเพียงเล็กน้อย นั่นคือ ไม่มีออปชันในการเซ็นสัญญาในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลต่อความกระตือรือร้นของนักเตะ

อาร์เซน่อล ปิดตลาดด้วยการเซ็นสัญญากับ ดาบิด ราย่า, เนโต้ ในตำแหน่งผู้รักษาประตู ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี มาเสริมแกร่งแนวรับ, เมริโน่ แดนกลาง และสเตอร์ลิ่ง ในแดนหน้า พวกเขาเชื่อว่าดีลทั้งหมด ช่วยทำให้อาร์เตต้ามีทางเลือกมากขึ้นในทุกตำแหน่ง ขณะที่การขายนักเตะก็ทำให้พวกเขามั่นใจว่าจะช่วยให้พวกเขามีความยืดหยุ่นในตลาดนักเตะมากขึ้นในอนาคต

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ดราม่าในกระบวนการคัดสรรตำแหน่งผู้รักษาประตู:

ที่ลอนดอน โคลนี่ย์ เมื่อวันพฤหัสบดี อาร์เซน่อล พบว่าตัวเองกำลังต้องดิ้นรนกับการแก้ไขปัญหาในเรื่องของผู้รักษาประตู ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พวกเขาเหลือผู้รักษาประตูระดับซีเนียร์เพียงแค่คนเดียว ที่จะลงเล่นกับไบรท์ตันในวันเสาร์นี้ ท่ามกลางเสียงกระตุ้นจากแฟนบอลที่ต้องการให้ทีมเซ็นสัญญาผู้เล่นตัวรุก นั่นทำให้อาร์เซน่อล ต้องไปมุ่งมั่นอย่างจริงจังกับตำแหน่งผู้รักษาประตู

อาร์เซน่อลต้องการผู้รักษาประตูซีเนียร์อีกสองคนเข้ามา แล้วเป็นเรื่องปกติที่โค้ชผู้รักษาประตูจะมีบทบาทในการคัดสรรนักเตะใหม่ในตำแหน่งนี้ อาร์เซน่อลเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เมื่อเขามีการขอคำแนะนำจาก อินากิ คาญา โค้ชผู้รักษาประตูของทีม นั่นทำให้เขามีส่วนอย่างมากในการตัดสินใจดึง ดาบิด ราย่า กับอเล็กซ์ รูนาร์สสัน สองผู้รักษาประตูที่คาญาเคยร่วมงาน

ทั้งอาร์เตต้า และคาญา มีการแบ่งปันแนวความคิดที่พวกเขาต้องการเกี่ยวกับผู้รักษาประตูต้องเลนอย่างไร แต่หนนี้กลับสร้างความขุ่นเคืองอย่างมากทั่วทั้งสโมสร เมื่อคาญา ยืนกรานตัวเลือกที่เฉพาะเจาะจง ในซัมเมอร์นี้เขาเลือก โจน การ์เซีย ผู้รักษาประตูของเอสปันญอลมาแทนแรมส์เดล นอกจากนี้เขายังต้องการ แดน เบนท์ลี่ย์ อีกคนที่เคยทำงานกับเขาสมัยอยู่เบรนท์ฟอร์ด มาเป็นผู้รักษาประตูมือสาม

อาร์เซน่อล มีการติดต่อกับการ์เซีย และอธิบายว่าพวกเขาจะสามารถดำเนินการเกี่ยวกับการคว้าตัวเขา ต่อเมื่อมั่นใจแล้วว่าจะสามารถปล่อย แอรอน แรมส์เดล ออกจากทีมได้ การ์เซีย มีค่าฉีกสัญญา 25 ล้านยูโร ในสัญญาของเขา แล้วจะเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านยูโร ในเดือนสิงหาคม ตลอดการไล่ล่า อาร์เซน่อล มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถปิดดีลการ์เซียได้ต่ำกว่าค่าฉีกสัญญา 

ภายหลังจากที่อาร์เซน่อล ปิดดีลการย้ายทีมของ แรมส์เดล ไปเซาแธมป์ตันได้สำเร็จ พวกเขาก็เปิดการเจรจากับเอสปันญอลอย่างรวดเร็ว แต่ทางเอสปันญอลยืนกรานว่าพวกเขาจะไม่ขายนักเตะน้อยกว่าค่าฉีกสัญญา ซึ่งอาร์เซน่อลมองว่าสูงเกินไป สำหรับผู้รักษาประตูวัย 23 ปี ที่โดนวางไว้เป็นมือสอง แะเขามีประสบการณ์ไม่กี่นัดกับลาลีกา สเปน 

ในวันพฤหัสบดี ชัดเจนแล้วว่าแม้ว่าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่อาร์เซน่อลไม่สามารถหาข้อสรุปกับเอสปันญอลได้ แต่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทางทีมคัดสรรได้นำเสนอลิสต์ผู้รักษาประตูมาให้เลือกหลายคน แต่ถูกทางคาญาปัดตกหมด ทำให้อาร์เซน่อลอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ว่าจะยอมจ่าย 30 ล้านยูโรเพื่อการ์เซีย หรือจะล้มแผนปล่อย แรมส์เดล ไปเซาแธมป์ตัน นั่นสร้างความกระวนกระวายให้กับแรมส์เดล ที่เข้าผ่านการตรวจร่างกายกับเซาแธมป์ตันไปแล้ว แต่ต้องรอข้ามคืน เนื่องจากอาร์เซน่อลมีการดึงเรื่องเกี่ยวกับเอกสารบางอย่างเอาไว้

ในที่สุด เอดู แก้ไขสถานการณ์ ด้วยการยื่นขอยืมตัว เนโต้ ผู้รักษาประตูบอร์นมัธวัย 35 ปี ซึ่งเป็นผู้เล่นที่อาร์เซน่อลเคยพิจารณาอย่างจริงจังในช่วงที่เขาเล่นอยู่บาร์เซโลน่า พวกเขาได้ผู้รักษาประตูที่มากประสบการณ์ และมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย แต่ติดอยู่นิดหน่อยตรงที่เขาจะติดคัพไทในรายการ คาราบาว คัพ

ส่วนผู้รักษาประตูมือสาม จากที่อาร์เซน่อลเคยโดนปฏิเสธข้อเสนอไปแล้ว 2 หนกับแดน เบนท์ลี่ย์ พวกเขาได้มีการสอบถามอีกครั้งในวันเดดไลน์ แต่ทางวูลฟ์ไม่สามารถหาใครมาแทนได้ทันเวลา อาร์เซน่อลได้มีการหารือเกี่ยวกับ มาร์คัส เบตติเนลลี่ ของเชลชี และ แซม ทิคเกิล ของวีแกน แอธเลติก แต่ไม่สามารถหาผู้เล่นที่ตรงตามสเปกที่คาญ่ากำหนดเอาไว้ได้

ดังนั้น ทอมมี่ เซ็ตฟอร์ด จะก้าวขึ้นมารับหน้าที่มือสามของทีม มันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่น่าพึ่งพอใจนัก เนื่องจากบางคนภายในสโมสร มองว่ามันจะดีกว่ากับพัฒนาของมือกาววัย 18 ปี ที่จะเล่นกับทีมอะคาเดมี่ไปก่อน 

แม้ว่าการตัดสินใจเลือก เนโต้ จะเป็นการเคลื่อนไหวที่สมเหตุสมผล แต่มันเป็นเพียงวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น พวกเขาจะต้องเข้าตลาดเพื่อหาผู้รักษาประตูอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์หน้า

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แผนกลยุทธ์การเสริมทัพตลาดรอบนี้:

แผนของอาร์เซน่อลในช่วงซัมเมอร์นี้คือการยกระดับทีม เพื่อทำให้ผู้เล่นสำรองสามารถทดแทนผู้เล่นตัวจริงได้ดีกว่าเดิม ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตการเลือกผู้เล่นที่กว้างขึ้นของ มิเกล อาร์เตต้า ฤดูกาลที่แล้ว อาร์เตต้าไว้ใจกลุ่มผู้เล่นหลักแค่ 14 คนเท่านั้น ทำให้อาร์เซน่อลต้องการขยายกลุ่มนี้ให้กว้างขึ้น เพื่อให้อาร์เตต้า รักษาระดับการเล่นในหลายรายการในฤดูกาลนี้

ส่วนที่จำเป็นที่ส่งผลต่อแผนกลยุทธ์นี้ คือการขายนักเตะ อาร์เซน่อลไม่ต้องการให้ขนาดของทีมใหญ่ขึ้น แต่ต้องการให้เป็นที่ที่มีคุณภาพที่ดีกว่า

มีการพิจาณาในแง่ของเศรษฐกิจของสโมสรด้วย ในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว อาร์เซ่อลล้มเหลวเมื่อพวกเขาใช้เงินเสริมทัพไป 200 ล้านปอนด์ แต่พวกเขาไม่สามารถขายนักเตะได้มากอย่างที่คิดไว้ ทำให้อาร์เซน่อลขาดดุลในตลาดอย่างหนัก นั่นไม่ใช่แนวทางที่ยุ่งยืนสำหรับตลาดนักเตะ และความยั่งยืนมีความสำคัญกับอาร์เซน่อล ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงความต้องการ ที่ต้องการให้สโมสรดำเนินงานด้วความรับผิดชอบ 

อาร์เซน่อล ยังคงคำนึงถึงกฏระเบียนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับกฏผลกำไรและความยั่งยืน (PSR) แม้ว่าอาร์เซน่อลจะไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายต่อกาารละเมิดกฏ แต่พวกเขาอยากทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่ส่งผลกับพวกเขาในอนาคต 

ในเดือนเมษายน เอดู และ เจสัน ไอโต ผู้ช่วยของเขาได้บินไปซาอุดิอาราเบีย เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ และประเมินว่ามีผู้เล่นอาร์เซน่อลคนใดบ้างที่มีโอกาสย้ายมาเล่นที่นี่ ในช่วงสัปดาห์แรกของตลาดซื้อขาย เอดู ได้จัดการประชุมหลายครั้งในโรงแรมแห่งหนึ่งในลอนดอน เกี่ยวกับอนาคตของผู้เล่นที่มีเครื่องหมายคำถาม อาทิ เนลสัน, สมิธ โรว์, แรมส์เดล และเอ็ดดี้ อาร์เซน่อลมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้จากพวกเขาเป็นพิเศษ เนื่องจากนักเตะจากอะคาเดมี่ จะถูกบันทึกเป็นกำไร 100% 

อาร์เซน่อลเตรียมพร้อมที่จะมีความยืดหยุ่นที่มากขึ้น พวกเขาปล่อย นูโน ตาวาเรซ ไปเล่นแบบยืมตัวกับลาซิโอ โดยมีเงื่อนขายซื้อขาด และโลอกองก้า ก็ไปเล่นแบบยืมตัวกับเซบีญ่า พ่วงออปชันซื้อขาด 12 ล้านยูโร

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พลาดแนวรุกเป้าหมายหลัก

 

เมื่อพูดถึงขาเข้า หนึ่งในเป้าหมายหลักของพวกเขาในตลาดรอบนี้คือ เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าของไลป์ซิก อาร์เตต้าติดตามดูดาวยิงวัย 21 ปีมาต่อเนื่องหลายปี และมีค่าฉีกสัญญา 65 ล้านยูโร ทำให้เกิดโอกาสที่น่าสนใจ เซสโก้ ยังรู้สึกกับโอกาสที่เขาจะได้ย้ายาร่วมทีมอาร์เซน่อล แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเชลชี ก็แสดงความสนใจอย่างมากเช่นกัน แต่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม คือจุดหมายของเขา หากเขาตัดสินใจย้ายทีม

ปัญหาใหญ่ที่สุดของอาร์เซน่อล คือจังหวะเวลา เซสโก้ต้องการเคลียร์อนาคตของตัวเองก่อนวันที่ 14 มิถุนายน อย่างไรก็ตามอาร์เซน่อลต้องการให้รายจ่ายที่เกิดขึ้น อยู่ในกรอบบัญชีของฤดูกาล 2024/25 ที่จะตัดรอบในวันที่ 30 มิถุนายน

ยิ่งไปกว่านั้น อาร์เซน่อลต้องการที่จะปล่อย 1 ในกองหน้าเดิมออกไปให้ทันก่อน 30 มิถุนายนเช่นกัน แต่ในช่วงแรกไม่มีความสนใจ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ในช่วงต้นตลาด มีความสนใจจากซาอุกับ กาเบรียล เฆซุส แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม

นั่นทำให้อาร์เซน่อล ไม่ได้มีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ และท้ายที่สุด เซสโก้ เลือกต่อสัญญากับไลป์ซิกต่อ แต่พวกเขาก็ยังคงจะติดตามดูพัฒนาการของนักเตะในเยอรมันต่อไป และอาจหวนกลับมาอีกครั้งในซัมเมอร์หน้า

อาร์เซน่อล ค่อนข้างผ่อนคลายเกี่ยวกับการตัดสินใจของเซสโก้ เนื่องจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ ทำได้ดีกับการเล่นกองหน้าตัวเป้า และยังมี เฆซุส, ทรอสซาร์ และเอ็นเคเทียห์ ที่เล่นตรงนี้ได้ หากต้องการ 

ดีลแรกประจำซัมเมอร์ จึงเป็นการเซ็นสัญญาถาวรกับ ดาบิด ราย่า ในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฏาคม ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ จากนั้นหัวข้อที่มีการพูดถึงกันบ่อยในทีมบริหารของอาร์เซน่อล นั่นคือกองกลาง โดยเฉพาะเกี่ยกวับตำแหน่งของเดแคลน ไรซ์ จากเดิมที่เขาโดนวางไว้ในบทบาทหมายเลข 6 แต่ครึ่งฤดูกาล หลังเขากลับไปได้สวยกับบทบาทหมายเลข 8

การกำหนดบทบาทที่ชัดเจนของไรซ์ เป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดจุดมุ่งเน้นในการคัดสรรกองกลางของอาร์เซน่อล แต่ถึงแม้จะมีการถกเถียงกันภายใน แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่ได้ความชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นผลของความปราถนาของอาร์เซน่อลเอง ที่เปิดทางสำหรับความยืดหยุ่ที่เป็นส่วนสำคัญในแผนของอาร์เตต้า

อาร์เซน่อล ได้มีการหารือเกี่ยวกับกองกลางตัวรับอย่าง มาร์ติน ซูบิเมนดี้ และเจา เนเวส แตสุดท้ายตัดสินใจเลือกออปชันอื่น เพราะพวกเขาใช้เงินไป 100 ล้านปอนด์กับการเซ็นไรซ์ ในบทบาทเบอร์ 6 เมื่อปีก่อนไปแล้ว ทางอาร์เตต้า สนับสนุนอย่างเต็มที่ในการเซ็นสัญญากับ มิเกล เมริโน กองกลางที่มีความโดดเด่นในด้านกายภาพ ซึ่งเล่นได้ทั้งบทบทบาทกองกลางฝั่งซ้าย และกองกลางตัวรับ และมองว่าเมริโน่ จะช่วยแก้ไขปัญหาในการขึ้นเกมส์ทางกราบซ้ายของอาร์เซน่อลได้ 

เมริโน่ เหลือสัญญาอีก 12 เดือน ดังนั้น อาร์เซน่อลจึงเชื่อว่าพวกเขา จะสามารถบรรลุข้อตกลงที่สมเหตุสมผลได้ อีกตำแหน่งที่อาร์เซน่อลคาดหวังไว้คือแบ็คซ้าย พวกเขาได้มีการเริ่มติดต่อเอเยนต์ของ คาลาฟิออรี ตั้งแต่เดือนมกราคม ก่อนจะเจรจาอย่างจริงจังในเดือนพฤษภาคม

มีความกังวลเกี่ยวกับคาลาฟิออรีอยู่เล็กน้อย เพราะเขาเคยบาดเจ็บหนักที่หัวเข่า และมีคำถามว่าเขามีร่างกายที่แกร่งพอสำหรับพรีเมียร์ลีกหรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขส่วนแบ่ง 40% ของเอฟซี บาเซิ่ล ที่อาจเป็นตัวแปรที่จะทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น แต่อาร์เตต้าเป็นคนยืนกรานว่าคาลาฟิออรี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอาร์เซน่อล

เมื่อความสนใจของอาร์เซน่อลมีความจริงจังและเข้มข้นมากขึ้น ทางเชลชีได้เข้ามาสอบถามถึงความเป็นไปได้ แต่ทางเอเยนต์ของคาลาฟิออรี ปฏิเสธที่จะเจรจากับฝั่งเชลชี เนื่องจากต้องการแสดงความเคารพกับฝั่งอาร์เซน่อล

ตรงกันข้ามเมื่อมี เรอัล มาดริด กระโดดเข้ามา ซึ่งไม่มีใครกล้าปฏิเสธเรอัล มาดริด แบบทันทีทันใด แต่ทางอาร์เซน่อล แสดงความมั่นใจกับแคมป์ของคาลาฟิออรี ว่าพวกเขาจะดำเนินการเซ็นสัญญาทันที เมื่อมั่นใจว่าจะมีการขายนักเตะบางคนออกไปอย่างมีนัยยะสำคัญ นั่นก็คือการปล่อย เอมิล สมิธ โรว์ ไปให้ฟูแล่ม

 

ฟูแล่ม เป็นตัวเลือกที่ดีสุดสำหรับ สมิธ โรว์ การได้เล่นกับสโมสรที่อยู่ในลอนดอน ทำให้เขาไม่ต้องมีการปรับตัวอะไรมาก และเขารู้ว่าจะได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ตามที่เขาต้องการ การได้อยู่กับฟูแล่ม จะทำให้เขามีเวทีได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมาให้เห็นอีกครั้ง แล้วเป็นโอกาสที่จะย้ายไปทีมที่ใหญ่กว่าได้ในอนาคต

คาลาฟิออรี บินไปร่วมทีมอาร์เซน่อลที่สหรัฐอเมริกา ในวันเดียวกัน สมิธ โรว์ ก็กลับมาอังกฤษ เพื่อตรวจร่างกายกับฟูแล่ม อันที่จริงอาร์เซน่อลวางแผนงานอำลาให้กับสมิธ โรว์ เพื่อยกย่องการมีส่วนร่วมของเขากับสโมสร แต่ด้วยความซับซ้อนเรื่องการเดินทางทำให้งานดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้น

ข้อเสนอ 34 ล้านปอนด์ เป็นการขายนักเตะที่เป็นสถิติของสโมสรอาร์เซน่อล และอีกหนึ่งเป้าหมายที่อาร์เซน่อลอยากทำให้ได้คือ ต้องการสลัดชื่อเสียงของตนในฐานะทีมที่ขายนักเตะได้ในราคาที่สุดย่ำแย่ และค่าตัวของสมิธ โรว์ ก็จะเป็นมาตรฐานในดีลถัดๆ ไปของพวกเขา 

อาร์เซน่อล ยังคงพอใจกับการปล่อยนักเตะเยาวชนที่ได้ราคาที่ดีอย่าง มิก้า เบียเร็ตต์ 4 ล้านปอนด์ และบรูค นอร์ตัน-คัฟฟี่ 3.5 ล้านปอนด์ ชาร์ลี ปาติโน่ 1 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตามทั้งสามกรณี อาร์เซน่อลได้ใส่เงื่อนไขส่วนแบ่งการขายในอนาคตเอาไว้ทั้งหมด 

ดีลขาออก ไม่ใช่ทุกดีลนักที่ราบรื่น การย้ายทีมของ แรมส์เดล ลากยาวจนเกือบวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ต้องอดทนกับซัมเมอร์ที่วุ่นวาย ในตอนแรก เขาเกือบจะย้ายไปเล่นในต่างแดน เพียงแต่ดีลในการย้ายไปมาร์กเซยล่มเสียก่อน 

ถัดจากนั้น ดูเหมือนว่าเขาเตรียมจะย้ายไปเล่นกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งเอดูมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของสโมสรฟอเรสต์ เขาได้ถูกเชิญให้ไปเป็นแขกในงานวันเกิดเจ้าของสโมสรฟอเรสต์ด้วย สองสโมสรสามารถตกลงค่าตัว 30 ล้านปอนด์กันได้แล้ว แต่ท้ายที่สุด เอ็นเคเทียห์ ปฏิเสธข้อเสนอจากฟอเรสต์ เมื่อเห็นถึงความสนใจของคริสตัล พาเลซ

แม้ว่าจะเจอกับช่วงเวลาที่วุ่นวาย แต่สุดท้ายก็เป็นการย้ายทีมที่น่าพึ่งพอใจสำหรับเจ้าตัว คนสุดท้ายคือ รีสส์ เนลสัน ที่ต้องรอจนถึงวันสุดท้าย ทีมที่สนใจเขาอย่างต่อเนื่องคือ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ด้วยสถานการณ์เกี่ยวกับ PSR ทำให้ไม่สามารถเซ็นสัญญาถาวรกับเนลสันได้ 

การที่อาร์เซน่อลปล่อย ฟาบิโอ วิเอร่า ไปให้ปอร์โต้ยืมตัว มันก็ดูเหมือนว่าเนลสันจะต้องอยู่กับทีมต่อไป แต่โอกาสเซ็นสัญญากับราฮีม สเตอร์ลิ่ง เกิดขึ้นมา ก็เหมือนเป็นการเปิดประตูในการย้ายทีมของเนลสัน แล้วเขาได้ย้ายไปเล่นกับฟูแล่มแบบยืมตัว ได้ไปเล่นกับเพื่อนเก่าทั้ง สมิธ โรว์, อิโวบี้ และเลโน่

อาร์เซน่อล มีความตั้งใจที่จะขาย คีแรน เทียร์นี่ย์ ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายจากยูโร 2024 ทำให้เขาไม่สามารถย้ายทีมในหน้าร้อนนี้ได้ เขายังต้องพักอีกหลายสัปดาห์กว่าจะกลับมาลงเล่นได้ ดังนั้นคงต้องรอจนถึงตลาดเดือนมกราคม






 

 

 

 

 

[elitegun 0]

1 hour ago, admin said:

เมื่อพูดถึงขาเข้า หนึ่งในเป้าหมายหลักของพวกเขาในตลาดรอบนี้คือ เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าของไลป์ซิก อาร์เตต้าติดตามดูดาวยิงวัย 21 ปีมาต่อเนื่องหลายปี และมีค่าฉีกสัญญา 65 ล้านยูโร ทำให้เกิดโอกาสที่น่าสนใจ เซสโก้ ยังรู้สึกกับโอกาสที่เขาจะได้ย้ายาร่วมทีมอาร์เซน่อล แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเชลชี ก็แสดงความสนใจอย่างมากเช่นกัน แต่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม คือจุดหมายของเขา หากเขาตัดสินใจย้ายทีม

ปัญหาใหญ่ที่สุดของอาร์เซน่อล คือจังหวะเวลา เซสโก้ต้องการเคลียร์อนาคตของตัวเองก่อนวันที่ 14 มิถุนายน อย่างไรก็ตามอาร์เซน่อลต้องการให้รายจ่ายที่เกิดขึ้น อยู่ในกรอบบัญชีของฤดูกาล 2024/25 ที่จะตัดรอบในวันที่ 30 มิถุนายน

 

ถ้าเราวางแผนเพื่อจ่ายค่าฉีกสัญญา 65 ล้านยูโร ในรอบบัญชีนี้ ก็ไม่แปลกใจที่เราจะไม่กล้าใช้จ่ายในช่วงซัมเมอร์นี้

ส่วนตัวตลาดรอบนี้ ผมค่อนข้างพอใจกับนักเตะขาเข้า แต่รู้สึกว่าขาออกดูจะมากเกินไป 2-3 คน ต้องหวังว่านักเตะทีมเราจะไม่มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นหลายคนนะครับ

Edited August 31 by elitegun