Leaderboard
Popular Content
Showing content with the highest reputation since 07/09/2024 in all areas
-
1 pointต้องยอมรับว่าขาดราย่าไม่ได้จริงๆ ถ้าปีนั้นได้ราย่ามาเลยคงแชมป์ไปแล้ว
-
1 pointPREMIER LEAGUE 2024/25 #14 Arsenal 2 - 0 Man Utd Wed 4 December 2024, 03.15 น. GOAL: 1-0 ยูร์เรียน ทิมเบอร์ (นาทีทีที่ 53, ไรซ์) 2-0 วิลเลี่ยม ซาลิบา (นาทีที่ 74, ปาร์เตย์) ดาวิด ราย่า: 7.0 มีต้องออกแรงเซฟหนักๆ 2 หนในครึ่งหลัง โดยเฉพาะลูกโหม่งของเดอ ลิกซ์ ที่ราย่าบินปัดออกไปได้อย่างสวยงาม บอลเท้าก็ยังคงยอดเยี่ยม เก็บคลีนซีตเพิ่มได้อีกนัด ยาคุบ คิวิออร์: 7.0 ต้องลงมาแทนกาเบรียลที่มีปัญหาบาดเจ็บจากนัดก่อน ซึ่งคิวิออร์ก็เล่นได้โอเค ไม่เหมือนที่แฟนบอลหวาดหวั่นในช่วงก่อนเกมส์ การไล่ตามประกบฮอยลุนด์ก็ทำได้ดี จะมีเคลียร์โฉ่งฉ่างหน่อยก็ท้ายครึ่งแรก แล้วทำให้แมนยูได้โอกาสลุ้นประตู วิลเลี่ยม ซาลิบา: 8.5 วันนี้ขาดคู่หูอย่างกาเบรียลไป ซาลิบาก็ต้องแบกภาระมากขึ้นหน่อยกับหน้าที่ในแนวรับ แต่ไม่ใช่ปัญหา ซาลิบาทั้งแข็งแกร่ง และนิ่งมากๆ แนวรุกแมนยูเจอซาลิบากินทุกตัว แล้วยังเป็นคนบวกประตูนำ 2-0 จากลูกเตะมุม โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้: 6.0 ได้กลับมาออกสตาร์ทตัวจริง เรื่องเกมส์รับชินเชนโก้ภาพรวมก็ทำได้ดี แต่ถ้าไม่พลาดเลยไม่ใช่ชินเชนโก้ เขาไปเล่นยากจนโดนฉกบอลหน้าบ้านตัวเอง จนต้องยอมไปตัดฟาล์วเสียใบเหลือง แล้วพอครึ่งหลังแมนยูส่งอาหมัดลงมา ชินเชนโก้ก็ต้องเจองานที่ยากขึ้น ซึ่งอาร์เตต้าไม่เสี่ยง เลือกเปลี่ยนตัวเขาออกไม่นานหลังได้ใบเหลือง ยูร์เรียน ทิมเบอร์: 7.5 ประเดิมประตูแรกให้กับอาร์เซน่อลได้สำเร็จแล้ว ทิมเบอร์เป็นคนขึ้นโขกเตะมุมให้ทีมปลดล็อกขึ้นนำ 1-0 จนได้ เกมส์รับของทิมเบอร์ก็ยังแข็งแกร่ง จังหวะเติมขึ้นหน้า ก็มีทักษะในการพาบอลขึ้นไปเองได้ด้วย โธมัส ปาร์เตย์: 6.5 กลับมาเป็นตัวจริง หลังนัดก่อนไม่มีชื่อ ครึ่งแรกถูกผู้เล่นแมนยูบีบกดดันทุกครั้งที่ได้บอล ทำให้พี่หมึกพลาดเสียบอลง่ายๆ หลายครั้ง และการออกบอลไปข้างหน้าทำได้ช้าเกินไป ทำให้ดูอึดอัดไปหมด ครึ่งหลังคลายบอลได้เร็วขึ้น มียกบอลสวยๆ ให้ทิมเบอร์ได้หลุดไปถึงเส้นหลัง และเป็นคนโหม่งยัดไปโดนซาลิบาเปลี่ยนทางเข้าประตู ให้ทีมนำห่าง 2-0 เดแคลน ไรซ์: 7.5 ด้วยความที่แนวรับฝั่งซ้ายเปลี่ยนยกเซ็ท ทำให้ไรซ์ต้องไป Cover ช่วยระหว่างคิวิออร์และชินเชนโก้ และช่วยได้หลายครั้ง ครึ่งหลังไรซ์เป็นอีกคนที่ยกระดับฟอร์มขึ้นมา ตรงกลางดักตัดได้เนียนกริบ และลูกเตะมุมของเขาได้ลุ้นตลอด มาร์ติน โอเดการ์ด: 7.0 (C) โอเดการ์ด เจอบีบเร็วตลอด เพื่อไม่ให้ทำเกมส์ได้ถนัด แต่โอเดการ์ดก็ยังมีบทบาท และส่วนร่วมกับพื้นที่สุดท้ายอยู่เป็นระยะ และจังหวะดูดีขึ้นในครึ่งหลัง เพียงมันติดเล็กๆ น้อยๆ ในจังหวะจบสกอร์ บูคาโญ ซาก้า: 6.5 ครึ่งแรกเจอมาลาเซีย เข้าติดตัวตลอดเวลาที่ซาก้าได้บอล แล้วยังมีตัวซ้อนอีก 1-2 คนตลอด ทำให้ซาก้าพลิกบอลไปเล่นได้ลำบาก ครึ่งหลังพอเปลี่ยนคู่ประกบมาดวลกับดาโรต์ ซาก้าเล่นได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง Tempo ของทีมก็ดีขึ้น ทำให้ซาก้าดูคุกคามแนวรับแมนยูได้ดีขึ้น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่: 6.0 การเลี้ยงบอลของมาร์ตี้ คู่แข่งดักทางค่อนข้างง่าย บีบไปสุดเส้น พอเปิดเข้ามาก็ไม่มีลุ้นอะไร จุดเดียวที่พอจะเป็นแง่ดีคือการช่วยเกมส์รับ ส่วนหนึ่งที่มาร์ตี้ได้ลงก่อนทรอสซาร์ก็น่าจะเรื่องนี้ เพราะน่าจะเกร็งไว้ว่าจะเป็นอาหมัดลงตัวจริง ไค ฮาแวร์ตซ์: 6.5 ครึ่งแรกบทบาทของฮาแวร์ตซ์ดูจะน้อยไปหน่อย บอลมาไม่ค่อยถึงสักเท่าไร แต่พอที่ขึ้นนำ แล้วมีพื้นที่ให้เล่นมากขึ้น ฮาแวร์ตซ์ก็พักบอล เก็บบอลได้ แล้วมีโอกาสหลุดไปยิงติดเซฟโอนาน่า ตัวสำรอง: เลอันโดร ทรอสซาร์: 6.0 (นาทีที่ 70, มาร์ติเนลลี่) มีพื้นที่ได้ให้ทรอสซาร์ได้สวนกลับ ได้โอกาสลากไปดวลหนึ่งต่อหนึ่งหน้ากรอบเขตโทษได้ แต่ทรอสซาร์หลายจังหวะไปหน่อย ล็อกไปล็อกมา จนจะยิงก็ไม่ถนัด มิเกล เมริโน่: 6.0 (นาทีที่ 70, ชินเชนโก้) ลงมาก็เกือบจะโขกลูกที่สามได้ เมริโน่ได้ขึ้นโหม่งลูกเตะมุมคนเดียวเลย แต่โขกหลุดเสาออกไปแบบได้ลุ้น จอร์จินโญ่: N/A (นาทีที่ 90, โอเดการ์ด)
-
1 pointครึ่งแรก แมนยูมาแบบผิดหูผิดตา เล่นกันแบบมีวินัย ยืนกันเป็นระบบค่อนข้างชัดเจน แล้วมาเล่นรัดกุมเลย ทำให้เกมส์เราอึดอัดมาก แล้วสปีดบอลไม่ดีเลย พูดตรงๆ ว่าผิดคาด และอาร์เซน่อลก็ผิดฟอร์มมากๆ ครึ่งหลัง เราปรับสปีดบอลทำกันเร็วมากขึ้น แต่พระเอกมันก็คือลูกเตะมุมอย่างแท้จริง แม้ไม่มีกาเบรียล แต่ไม่ใช่ปัญหา เปิดเตะมุมแต่ละที กูสงสารโอนาน่าเลย เปิดโค้งแรงๆ เข้ามาตรงกลางตลอด โดยเฉพาะฝั่งไรซ์ ทั้งแม่น ทั้งแรง พอนำ 1-0 เกมส์เราผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย รวมถึง Shape ของแมนยู พอเปลี่ยนตัวเยอะๆ ไม่ได้แน่นเหมือนครึ่งแรก แล้วพอลูก 2-0 มา ก็แทบจะปิดเกมส์ได้เลย จริงๆ ถ้าเด็ดขาดหน่อยน่าจะมีลูกสาม สถานการณ์ลุ้นแชมป์ ตอนนี้ก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป แล้วหลังโปรแกรมส่งท้ายปี ค่อยมาดูว่าเรายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ได้ไหม
-
1 pointKing of Set piece อย่างแท้ทรู รูปเกมน่าอึดอัดมากๆ เจอแพ็คแน่นซ้อนสอง จนเราก็ทำอะไรลำบากพอควร แต่ลูกเตะมุมได้ลุ้นทุกเม็ดนี่ล่ะ ได้เตะแต่ละที น่าตื่นตาจริงๆ ว่าเราจะเล่นแบบไหน ดีได้กองหลัง 2 คนช่วยกันยิง วันนี้เกมรับก็ช่วยซ้อนกันดีมากๆ แทบไม่มีจังหวะสร้างปัญหาให้เราเลย มีราย่าบินเซฟไปนี่ล่ะ ก็ยังเหนียวหนึบ ตอนนี้เป็นเวลาดีๆ ที่เราลุ้นทำแต้มไปทีละนัด ลดช่องว่างให้น้อยที่สุด เดินหน้ากันต่อ GO GO GUNNERS!!!!
-
1 pointPREMIER LEAGUE 2024/25 #12 West Ham 2 - 5 Arsenal Sat 30 October 2024, 00.30 น. GOAL: 0-1 กาเบรียล มากัลเญส (นาทีที่ 10, ซาก้า) 0-2 เลอันโดร ทรอสซาร์ (นาทีที่ 27, ซาก้า) 0-3 มาร์ติน โอเดการ์ด (นาทีที่ 34, จุดโทษ) 0-4 ไค ฮาแวร์ตซ์ (นาทีที่ 36, ทรอสซาร์) 1-4 แอรอน วาน บิสซาก้า (นาทีที่ 38) 2-4 เอเมอร์สัน (นาทีที่ 40) 2-5 บูคาโญ ซาก้า (นาทีที่ 45+4, จุดโทษ) ดาวิด ราย่า: 6.5 มาโดนทางเวสต์แฮมยิงไล่มาสองประตูติดๆ ในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ทั้งสองลูกก็โทษอะไรราย่าไม่ได้เลย โดยเฉพาะฟรีคิกของเอเมอร์สันยิงได้หมดจดจริงๆ ครึ่งหลังไม่ได้มีลูกยากอะไรให้ต้องออกแรง แต่จุดที่ต้องชมคือการออกบอล ราย่าจ่ายทะลุไลน์เพลสเวสต์แฮมได้สวยหลายครั้งเลย กาเบรียล มากัลเญส: 7.5 เวลาอาร์เซน่อลได้เตะมุม ชัดเจนว่าเป้าหมายอยู่ที่กาเบรียล อยู่ที่ว่าเขาจะสลัดหลุดการประกบไปยังจุดนัดพร้อมได้หรือเปล่า ถ้าทำได้ก็เป็นเรื่องแบบลูกนำ 1-0 และลูกที่ 5 ที่เขาเป็นคนเรียกจุดโทษได้ แต่ช่วงพักครึ่งเขาโดนเปลี่ยนตัวออกไป ก็ไม่รู้ว่าเป็นปัญหา Concussion จากจังหวะที่โดนฟาเบียนสกี้มาชกโดนศีรษะหรือว่าเป็นอาการบาดเจ็บเดิมที่มาจากนัดสปอร์ติ้ง วิลเลี่ยม ซาลิบา: 7.5 เกมส์รับโดดเด่นแข็งแกร่งเหมือนเช่นเคย ทางบอล เหลี่ยมบอล ไม่ยากในการตามประกบอันโตนิโอ ครึ่งหลังต้องแบกคิวิออร์ ซาลิบา ช่วยซ้อน จะมาพลาดก็ช่วงทดเจ็บของครึ่งหลัง ที่สื่อสารกับราย่าไม่ดี จนเกือบทำให้เวสต์แฮมยิงไล่ขึ้นมาได้ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี: 6.5 โดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงต้นครึ่งหลัง เหมือนคาลาฟิออรีจะมีปัญหาบาดเจ็บแถวต้นขา ก็ต้องดูว่าจะรุนแรงหรือเปล่า ส่วนฟอร์มการเล่นในสนามถือว่าทำได้ดี คุมโบเว่นจนแผลงฤทธิ์อะไรไม่ออก ยูร์เรียน ทิมเบอร์: 7.0 ต้องถนอมหน่อยสำหรับทิมเบอร์เพราะตอนนี้แบ็คขวาเหลือแค่เขาคนเดียวแล้ว ฟอร์มของทิมเบอร์ยังคงยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเกมส์รับปิดพื้นที่ได้ดีมาก ถ้ามีจังหวะก็พร้อมขึ้นไปสนับสนุนช่วยต่อบอลในเกมส์รุก จอร์จินโญ่: 7.5 ออกสตาร์ทตัวจริงในลีกสองนัดติด เพราะทั้งปาร์เตย์กับเมริโน่นัดกันไม่พร้อมลงสนาม รูปร่างและความแข็งแกร่งของจอร์จินโญ่เป็นรองทางฝั่งเจ้าถิ่นชัดเจน แต่ก็ยังมีลูกเก๋า ลูกนิ่ง ทั้งจังหวะขึ้นเกมส์ และการเก็บบอลสอง ทำได้เนียนมาก มีจังหวะดักสกัดสวยๆ 2 หน ตอนที่เวสต์แฮมมีโอกาสจะได้สวนกลับเร็ว เดแคลน ไรซ์: 6.5 ไรซ์วันนี้มาในรูปแบบสายพลังงานแบบเต็มสูบ เพราะต้องวิ่งชดเชยความสดช่วยเก็บพื้นที่เวลาที่จอร์ขึ้นไปบีบสูง หน้าที่ในการขึ้นบอลทางซ้ายเลยดูเบาไปนิด มาร์ติน โอเดการ์ด: 7.5 (C) การทำทางของประตูที่สองของอาร์เซน่อล ต้องชมตั้งแต่จังหวะยกบอลแบบเหลือกินของโอเดการ์ดไปให้กับซาก้าได้หลุดเข้าไป แล้วเพื่อนก็ให้เรียกความมั่นใจในการสังหารจุดโทษให้ทีมหนีห่าง 3-0 บูคาโญ ซาก้า: 8.5 ครึ่งแรกเล่นเป็นพระเอกเลย ยิง 1 แอสซิท 2 แล้วเป็นคนเรียกจุดโทษเองอีกหนึ่ง พอมีโอเดการ์ดกลับมา ซาก้าเหมือนได้บัฟ ทำให้เขาได้บอลในพื้นที่ที่ได้เปรียบตลอด ไม่ต้องแบกหลังแอ่นเหมือนก่อนหน้านี้ ตอนนี้ซาก้าทำไป 10 แอสซิทในลีกจาก 12 เกมส์แรก แบบนี้มีลุ้นทำลายสถิติแอสซิทสูงสุดต่อซีซั่นของ อองรี กับ KDB (20 แอสซิท) เลอันโดร ทรอสซาร์: 7.5 กลับมาสตาร์ทตัวจริงหลังจากลงมาสำรองแล้วมีสกอร์นัดก่อน นัดนี้ทรอสซาร์เป็นคนยิงจ่อๆ ให้ทีมนำ 2-0 ก่อนจะวางบอลเร็วให้ฮาแวร์ตซ์หลุดไปยิงลูกสี่ แต่ลูกที่โดนเวสต์แฮมตีไข่แตก ทรอสซาร์ ไม่ทันได้สังเกตวาน บิสซาก้า ที่สอดเข้าไปยิงประตู ไค ฮาแวร์ตซ์: 6.5 ยิงประตูในลีกไม่ได้มาพักใหญ่ วันนี้ฮาแวร์ตซ์กลับมายิงประตูได้อีกครั้ง กับการได้หลุดเดี่ยวไปยิงประตูนำ 4-0 หลังจากนั้นก็พอมีลุ้นประตูอีก 1-2 ครั้ง แต่จังหวะเข้าชาร์จ ฮาแวร์ตซ์ไปไม่ถึงบอล การเก็บบอล การต่อเกมส์กับเพื่อนก็ทำได้โอเค อาจมีช้าไปในบางครั้ง ตัวสำรอง: ยาคุบ คิวิออร์: 6.0 (นาทีที่ 46, กาเบรียล) ลงมาเล่นในครึ่งเวลาหลังแทนกาเบรียล ช่วงนี้เห็นชือคิวิออร์ แฟนปืนก็หวาดเสียว ซึ่งก็มีลูกโฉ่งฉ่างให้เห็นอยู่บ้าง ดีที่เวสต์แฮมไม่ได้กดดันอะไรมาก ก็พอให้คิวิออร์ประคองตัวไปได้ โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก: 6.0 (นาทีที่ 56, คาลาฟิออรี) วันนี้ได้ลงมาเล่นเร็ว เพราะเหมือนคาลาฟิออรีจะมีปัญหาบาดเจ็บ ภาพรวมชินเชนโก้ก็ถือว่าทำผลงานใช้ได้ เกมส์รับก็ไม่ได้มีจุดผิดพลาดอะไรมาก จังหวะต่อบอลก็ทำได้ดี กาเบรียล เฆซุส: 6.0 (นาทีที่ 74, โอเดการ์ด) ราฮีม สเตอร์ลิ่ง: 6.0 (นาทีที่ 74, ซาก้า) อีธาน วาเนรี่: N/A (นาทีที่ 84, ทรอสซาร์)
-
1 pointมิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ให้สัมภาษณ์หลังเกมส์บุกไปเอาชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-2 ในเกมส์พรีเมียร์ลีกเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เป็นชัยชนะ 3 นัดรวดของอาร์เซน่อล หลังกลับจากเบรกทีมชาติ ครึ่งแรกยิงประตูรวมกัน 7 ประตู เทียบเท่าสถิติสูงสุดของพรีเมียร์ลีก: ผมไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน แต่มันบอกได้ว่าเป็นเกมส์ที่บ้าคลั่งแค่ไหน ทั้งสองทีมมีความเฉียบคมหน้าปากประตูมาก เพราะในช่วงเวลา 30 นาทีที่น่าตื่นตาตื่นใจ คุณจะเห็นได้ทันทีว่าทีมเราต้องการมันมากแค่ไหน ทั้งเป้าหมาย ความมุ่งมั่น และคุณภาพที่เราแสดงออกมา เราทำได้สามประตูในรูปแบบที่แตกต่างกัน และยังยิงประตูที่ 4 ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่หลังจากนั้น เราเข้าสู่ช่วงที่คุณภาพเฉพาะตัวของคู่แข่งมีบทบาทสำคัญ สกอร์กลายเป็น 4-2 และเกมส์ก็ยังเปิดกว้าง คุณสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วก็มีคำถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ผมคิดว่าการยิงประตู 5 เป็นเรื่องที่ดี เพราะมันช่วยทำให้ทุกอย่างสงบลงได้ สำหรับครึ่งหลัง เราสามารถเล่นในแบบที่เหมาะสมกับเรามากขึ้น คุณภาพของทรอสซาร์ การทำประตู และความจริงที่ทุกคนรู้ว่าต้องพร้อมอยู่เสมอ ทุกคนต้องยกระดับของตัวเอง และพิสูจน์ว่าคู่ควรกับโอกาสลงสนาม และเมื่อพวกเขาได้รับโอกาส นั่นคือเวลาที่พวกเขาได้แสดงศักยภาพออกมา ซึ่งพวกเขาทำได้ดี ทีมจะมีโบนัสให้ นิโคลัส โยเวอร์ไหม? นั่นเป็นคำถามสำหรับเขา และสัญญาของเขา ผมไม่แน่ใจหรอก ผมไม่ได้เป็นคนเจรจาเรื่องสัญญานะ ช่วยบอกแท็กติกเกี่ยวกับลูกตั้งเตะของอาร์เซน่อลหน่อยได้ไหม? ผมไม่เข้าใจ ขอโทษด้วย สถิติส่วนร่วมกับประตูของบูคาโญ ซาก้า: น่าเหลือเชื่อมาก เพราะมันเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในฟุตบอล นักเตะที่สามารถสร้างช่วงเวลาสำคัญและอิทธิพลต่อสกอร์แบบนั้น คุณก็รู้ว่ามันมีคุณค่ามหาศาล แม้ว่าคู่แข่งจะรู้ เขาก็ยังทำได้อย่างต่อเนื่อง นั่นคือเครดิตสำคัญที่ต้องยกให้เขาเลย ขุมกำลังสำรองของอาร์เซน่อล สำคัญมาก เรามีปัญหากับกาเบรียล และมีปัญหากับริคกี้ด้วย เมื่อวานเรายังเสีย โธมัส ปาร์เตย์ กับไมล์สไป ซึ่งเป็นข่าวร้ายมาก แต่สิ่งที่ผมพอใจจริงๆ คือ ยาคุยต้องลงมาและทำได้ดีมาก เช่นเดียวกับอเล็กซื (ชินเชนโก้) ส่วนจอร์จินโญ่ ผมคิดว่าเขาโดดเด่นมากในวันนี้ นั่นคือตัวอย่างของระดับที่เราต้องการ เพราะเราต้องการทุกคนในทีมให้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดทุกสามวัน และมันเป็นสัญญาณที่ดีที่ทีมทำได้แบบนั้น การเปลี่ยนตัวกาเบรียลช่วงพักครึ่ง: มันเกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บก่อนหน้านั้น ที่เขามีในเกมส์กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน กับอาการปวดที่เขารู้สึก เราจึงตัดสินใจเปลี่ยนตัวเขาออก เกี่ยวอาการของคาลาฟิออรี: บูคาโญสบายดี เขา (คาลาฟิออรี) มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แน่นนอว่าเขาเคยได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรงมาก่อน เราจึงต้องจัดการเวลาลงสนามของเขา วันนี้เราก็ทำแบบเดียวกัน ปาร์เตย์กับเมริโน่ไม่มีชื่อในเกมส์นี้: น่าเสียดายที่ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ และเกมส์นี้มาเร็วเกินไป ทำให้พวกเขาไม่ได้มีชื่ออยู่ในทีม บูคาโญ ซาก้า ปีกตัวเก่งของอาร์เซน่อล ที่ได้รับรางวัลแมน ออฟเดอะแมตซ์ ในเกมส์นี้ กับผลงาน 1 ประตูกับ 2 แอสซิท ทำให้เขามีส่วนร่วมไปแล้ว 18 ประตูในฤดูกาล 2024/25 ซาก้ากล่าวว่า: "ผมพอใจกับผลงานจนถึงตอนนี้ แต่ผมต้องเดินหน้าต่อไป ผมประมาทไม่ได้ ฤดูกาลยังยาวไกล และตอนนี้เพิ่งจะเดือนพฤศจิกายน ผมต้องรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไป" อาร์เซน่อล ยิง 10 ประตูในสองเกมส์เยือนหลังสุด ซาก้าเสริมว่า: "มันสนุกมาก เราทำประตูได้เยอะ และใช่เรามีความสุขกับมัน เราทำได้ดีในช่วงไม่กี่เกมส์ที่ผ่านมา ยิงได้หลายประตู เราอยู่ในฟอร์มที่ดี มีความมั่นใจ และสนุกกับการเล่นฟุตบอลของเรา" "เราสร้างโมเมนตั้มได้ดี เราเล่นได้ยอดเยี่ยมในสามเกมส์หลังสุด ไม่ใช่แค่ผลการแข่งขันที่ดี แต่ยังรวมถึงวิธีการเล่นด้วย เรามีความสุขและความมั่นใจ และเราจะนำสิ่งนี้ไปสู่เกมส์ถัดไป ซึ่งเรารู้ว่าเป็นเกมส์ใหญ่ เรารู้สึกดี เราพร้อม และมั่นใจ ดังนั้น ไปลุยกันเลย!!"
-
1 pointเกมรุกยังดุจัดๆ ทำประตูทุกรูปแบบ การเข้าทำดุดันดีมากๆ เลย แต่ลูกเสียประตู ก็โดนแบบไร้ทางป้องกันจริงๆ เกมเหมือนจะง่าย ตอนเรานำโด่ง 4-0 แต่การโดนตี มา 2 ลูกติดก็ไม่ใช่เรื่องดี อาจจะต้องรักษาสมาธิให้มากๆ กันหน่อย ดีที่เกมบุก ชั่วโมงนี้ไว้ใจได้ สู้กันต่อ GO GO GUNNERS!!!!
-
1 pointมิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมส์บุกเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในคืนวันเสาร์นี้ อัพเดทความพร้อมของทีม: ไม่มีอะไรมาก เพราะเรายังมีการฝึกซ้อมอีกครั้ง ต้องดูว่าสภาพของนักเตะวันนี้เป็นอย่างไร เมื่อวานมีบางคนไม่ได้ลงซ้อม แต่หวังว่าวันนี้จะสามารถลงซ้อมได้ เราต้องรอดูและติดตาม เกี่ยวกับกาเบรียล ต้องรอดูก่อน ผมยังบอกอะไรไม่ได้ ไม่ใช่เพราะไม่อยากบอกนะ ผลงานที่ดีขึ้นหลังเบรกทีมชาติ ทีมนี้แสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์ที่น่าทึ่งในเกมส์กับอินเตอร์ ซึ่งเราแพ้ และยังคงแสดงคาแรกเตอร์ที่ยอดเยี่ยมในเกมส์กับเชลชี ซึ่งเราเป็นทีมที่ดีกว่าแต่ไม่ชนะ นักเตะกลุ่มเดิม ความตั้งใจเดิม เพียงแค่ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นและชนะเกมส์ นั่นคือความแตกต่าง ความสัมพันธ์กับโลเปเตกี ผมรู้จักเขา เราเป็นเพื่อนกัน ผมชื่นชมสิ่งที่เขาทำในวงการฟุตบอลอย่างมาก เขามาจากพื้นที่เดียวกับผม ทางตอนเหนือของสเปน ทีมของเขากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจหลังจากบุกชนะนิวคาสเซิ่ลได้ ถือเป็นคู่แข่งที่ยากเสมอ เรารู้ดีถึงความท้าทายนั้น การไล่ตามลิเวอร์พูล ตัวเลขที่พวกเขาทำได้ และจำนวนเกมส์ที่พวกเขาชนะเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือเราโฟกัสกับตัวเราเอง รักษาความสม่ำเสมอโดยเฉพาะในเรื่องของฟอร์มการเล่น ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสชนะมากขึ้น รักษาความพร้อมของทีม และทำให้ทุกคนร่วมมือกัน เพราะนี่คือการแข่งขันระยะยาว 13 เกมส์ถัดไป เล่นนอกลอนดอนแค่นัดเดียว การเดินทางน้อยย่อมดีกว่าเสมอ มันน่าทึ่งที่เรามีเกมส์เยอะขนาดนั้นและอยู่ใกล้กัน ผมคิดว่ามันช่วยได้เพราะช่วงเวลานี้เรามีเกมส์ต้องเล่นเยอะ เกี่ยวกับตำแหน่งของลูอิส สเคลลี่ เขาสามารถเล่นได้สามตำแหน่ง เล่นได้ทั้งกองกลางตัวรับ หรือมิดฟิลด์ตัวรุกทางฝั่งซ้าย ดังนั้นเขามีโอกาสได้เล่นแน่นอน แผนการขึ้นเกมส์ทางฝั่งขวาเป็นหลัก ไม่เสมอไป มันขึ้นอยู่กับคู่แข่ง เคมีระหว่างผู้เล่น และคุณภาพของนักเตะเรา เราจะปรับเปลี่ยนตามคู่แข่ง และสถานการณ์ในแต่ละเกมส์ ฟอร์มของมาร์ติน โอเดการ์ด วิธีที่เขาเตรียมตัว ความทุ่มเทที่เขามีต่อทีมแพทย์ และนักกายภาพ เพื่อให้พร้อมที่สุดสำหรับช่วงเวลาสำคัญของฤดูกาล เขาพร้อมลงสนามได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่เกมส์กับเชลชี และแสดงฟอร์มที่สม่ำเสมอในเกมส์ล่าสุด โอเดการ์ดทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ใช่ นักเตะที่เล่นได้อย่างสม่ำเสมอ และไว้ใจได้ทำให้เกมส์ยกระดับขึ้น และยังช่วยยกระดับผู้เล่นรอบข้างด้วย นี่คือคุณสมบัติที่โดดเด่นของมาร์ติน และใช่ เราคิดถึงเขามาก ซาลิบาลงเล่นครบ 100 นัด ด้วยอายุของเขา ความสม่ำเสมอและคุณภาพในการเล่นถือว่ายอดเยี่ยมมาก มันไม่ง่ายเลยที่จะเล่นในตำแหน่งนี้กับลีกนี้ เขามีคู่หูที่ยอดเยี่ยมด้วย ซึ่งก็ต้องให้เครดิตกับกาเบรียล เพราะเขามีบทบาทสำคัญในการช่วยซาลิบา และแน่นอนว่าตัวเขาก็เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ผลงานที่ยอดเยี่ยมของทิมเบอร์ เรารู้ว่าเขาทำอะไรได้บ้าง เขาเป็นผู้เล่นที่มีคุณสมบัติพิเศษและมีความเป็นผู้นำสูง คุณจะเห็นความกล้าหาญ ความตั้งใจ และเป้าหมายในการเล่นของเขา สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อถึงเพื่อนร่วมทีมด้วย เขายังมีศักยภาพอีกมากที่จะพัฒนา ดังนั้นผมดีใจที่มีเขาอยู่ในทีม ปฏิกริยาของสเตอร์ลิ่งที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมส์เมื่อวันอังคาร เขายิ้มได้ ซึ่งโชคดีสำหรับผม เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ในฟุตบอล น่าเสียดายที่มาเกิดขึ้นกับเขา แต่เขาตอบสนองได้ดี คือเข้าใจสถานการณ์ เขาอยู่ในวงการนี้มานาน และรู้ว่าสิ่งเหล่านี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของผม การที่ลิเวอร์พูลแะซิตี้เจอกันเองในสัปดาห์นี้ มันเป็นแรงจูงใจที่เราต้องชนะในเกมส์ของเรา เพราะหากเราชนะ เราจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้น ได้มีการคุยกับเป๊ปบ้างไหม มันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ผมรู้สึกเห็นใจเพื่อนร่วมอาชีพทุกคน เพราะผมรู้ว่างานนี้มันโหดร้ายแค่ไหน และเราถูกตัดสินจากสิ่งเดียว นั่นคือผลการแข่งขัน ไม่ว่าจะทำเหมอืนเดิมทุกอย่าง ผลลัพธ์อาจจะแตกต่างออกไป เราต้องรับมือกับมัน ผมรู้ว่ามันยากแค่ไหน เพราะผมเคยผ่านมันหลายครั้งและทุกการพ่ายแพ้มันเจ็บปวดเสมอ แค่มองจากมุมมองที่เหมาะสมและเดินหน้าต่อไป เพราะยังมีเกมส์อื่นรอเราอยู่ การต่อสัญญาใหม่กับปาร์เตย์ เรามีเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เขากำลังแสดงความสม่ำเสมอในระดับสูงอีกครั้ง เพราะการรักษาความพร้อม และผมใจกับเรื่องนั้น
-
1 pointUEFA CHAMPION LEAGUE 2024/25 #5 Sporting Lisbon 1 - 5 Arsenal Tue 26 October 2024, 03.00 น. GOAL: 0-1 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (นาทีที่ 7, ทิมเบอร์) 0-2 ไค ฮาแวร์ตซ์ (นาทีที่ 22, ซาก้า) 0-3 กาเบรียล มากัลเญส (นาทีที่ 45, ไรซ์) 1-3 กอนคาโล่ อิกนาซิโอ (นาทีที่ 47) 1-4 บูคาโญ ซาก้า (นาทีที่ 65, จุดโทษ) 1-5 เลอันโดร ทรอสซาร์ (นาทีที่ 82) ดาวิด ราย่า: 7.5 มีจังหวะที่ต้องออกแรงเซฟอยู่ 4-5 ครั้ง แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นลูกส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ราย่าก็ตบออกไปได้หมด การออกมาคว้าบอล และการออกบอลด้วยเท้าก็ยังทำได้ดีเช่นเคย กาเบรียล มากัลเญส: 7.5 ทะยานขึ้นโขกเต็มกระบาลให้ทีมหนีห่าง 3-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ส่วนเกมส์รับกาเบรียลเป็นคู่ประกบหลักกับโยเคเรส กองหน้าฟอร์มฮอตของฝั่งเจ้าถิ่น ครึ่งแรกกาเบรียลเหลี่ยมเหนือกว่าเบียดบัดได้แบบสบาย แต่ครึ่งหลังโยเคเรสก็ยกระดับขึ้นมา ก็ทำให้กาเบรียลเจองานที่ยากขึ้น วิลเลี่ยม ซาลิบา: 7.5 ซาลิบา อ่านเกมส์ดักบอลได้ดีมาก ทำให้เขาดักบอล ตัดเกมส์ รวมถึงเหลี่ยมเวลาเข้าไปแย่งบอลที่ได้เปรียบคู่แข่งเสมอ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี: 6.5 เกมส์รับและการยืนตำแหน่งของคาลาฟิออรียังทำได้แข็งแกร่ง จังหวะที่ต้องสลับกับกาเบรียลก็ดูเนียนตาขึ้น เกมส์รุกก็พอได้เห็นเขาหุบเข้ามารับบอลบริเวณ Half Space อยู่บ้าง ยูร์เรียน ทิมเบอร์: 7.5 มาเล่นฝั่งขวาดูจะเข้าทางทิมเบอร์มากกว่า โดยเฉพาะจังหวะเติมขึ้นมาเล่นเกมส์รุก อาจไม่ใช่แบ็คสายโอเวอร์แล็ป แต่มีประโยชน์มากในการไปต่อบอล Overload ด้วยชุดทักษะการครองบอล และการออกบอลของทิมเบอร์ ส่วนเกมส์รับเขายังทำได้ดี โธมัส ปาร์เตย์: 7.5 ประตูที่สองก็ต้องชมความยอดเยี่ยมในการทำทางของปาร์เตย์ ที่ยกบอลแบบหลุดทั้งแผงไปให้กับซาก้า ครึ่งแรกพี่หมึกคุมจังหวะเกมส์ได้เนียนกริบ ครึ่งหลังสปีดเกมส์ของเจ้าถิ่นดูดีขึ้น เดแคลน ไรซ์: 7.0 หายเจ็บกลับมาเป็นตัวจริงได้อีกครั้งสำหรับไรซ์ ช่วงครึ่งแรกถือว่าทำได้ดี ในการเคลื่อนที่ไปรับบอล หลายครั้งที่เราเห็นไรซ์ขยับไปต่อบอลทางขวาด้วย อย่างจังหวะได้ประตูแรก ประตูที่สามสูตรลูกเตะมุมของไรซ์เข้าเป้าสักที มาร์ติน โอเดการ์ด: 8.0 (C) โอเดการ์ดกลับมา ทำให้บอลของอาร์เซน่อลโหลลื่นขึ้น บอลไปข้างหน้าเร็วขึ้น ส่วนหนึ่งเลยคือเขาพลิกเล่น แล้วหาช่องออกบอลที่ได้เปรียบเสมอ ครึ่งหลังทางฝั่งสปอร์ติ้ง ไม่ปล่อยให้โอเดการ์ดได้เล่นง่ายๆ ทำให้เขามีเสียบอลอยู่ 2-3 จังหวะ แต่ก็เป็นเขาที่เป็นคนเรียกจุดโทษให้ทีมได้ เป็นการคลายความกดดันของทีมได้เลย บูคาโญ ซาก้า: 8.0 ครึ่งเวลาแรกเรียกว่าเล่นงานแบ็คของสปอร์ติ้งจนล้มลุกขลุกคลานทุกครั้งที่ซาก้าได้บอล แล้วซาก้าเป็นคนหลุดไปจ่ายให้ฮาแวร์ตซ์ยิง 2-0 ก่อนที่ซาก้าจะเป็นคนสังหารจุดโทษให้ทีมหนีห่าง 4-1 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่: 6.5 เป็นคนเบิกร่องประตูออกนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 7 จากจังหวะที่เข้าชาร์จลูกเปิดจากด้านข้างเข้าไป มาร์ตี้ถือว่าโดดเดี่ยวไปหน่อย เพราะดูเหมือนทีมจะไปเน้น Overload ผู้เล่นทางกราบขวา อย่างไรก็ตามเขาก็มีโอกาสได้อยู่ในสถานการณ์ 1 ต่อ 1 บ้าง แต่ส่วนใหญ่มาร์ตี้เอาชนะไม่ได้ ไค ฮาแวร์ตซ์: 7.0 แท็ปอินแบบง่ายๆ ทำให้ทีมขยับนำ 2-0 ในครึ่งแรก โอกาสยิงของฮาแวร์ตซ์หลังจากนั้น แทบไม่มี แต่เขาพักบอล และต่อเกมส์กับเพื่อนได้ดีเลย ตัวสำรอง: มิเกล เมริโน่: 6.0 (นาทีที่ 70, ไรซ์) เลอันโดร ทรอสซาร์: 6.5 (นาทีที่ 70, มาร์ติเนลลี่) สงสัยต้องกลับมาบทซูเปอร์ซับอีกครั้ง ลงตัวจริงไม่ค่อยเปรี้ยง นัดนี้ลงมาสำรองแล้ว ทรอสซาร์ เป็นคนยิงลูกที่ 5 ในเกมส์นี้ ในจังหวะที่ตามซ้ำลูกยิงของเมริโน่เข้าไป โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้: 6.0 (นาทีที่ 78, คาลาฟิออรี) อีธาน วาเนรี่: 6.0 (นาทีที่ 78, โอเดการ์ด) วาเนรี่ ได้โอกาสลงเล่น 10-15 นาทีสุดท้าย คงจะเป็นแบบนี้ไปอีกสักพัก เพื่อเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ แต่ข้อดีของวาเนรี่คือ ลงมาแล้วมันสตาร์ทติดทันที ได้เห็นอิมแพ็คในสนาม ยาคุบ คิวิออร์: N/A (นาทีที่ 83, กาเบรียล)
-
1 pointมิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ให้สัมภาษณ์หลังเกมส์บุกเอาชนะสปอร์ติ้ง ลิสบอน 5-1 ในเกมส์ยูฟ่า แชมเปี้ยลีกเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ผลการแข่งขันในเกมส์วันนี้: คุณต้องสนุกกับการเล่นในรายการนี้ สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับทีมคือความไหลลื่นในการเล่น ดีใจมากจริงๆ ถ้าคุณต้องการท้าชิงกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คุณต้องมีความสม่ำเสมอ ชนะและชนะอีกครั้ง มุ่งหน้ากันต่อไป มีความสุขมากๆ นี่เป็นผลการแข่งขันที่สำคัญ กับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง เราต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ผมรู้สึกถึงความเชื่อมั่นอย่างมากก่อนกมส์ แต่คุณจะต้องลงมือทำจริงๆ ครึ่งแรกยอดเยี่ยมมาก มันเป็นฐานที่ทำให้เราชนะในเกมส์นี้ สปอร์ติ้งแพ้ในบ้านนัดแรกของฤดูกาลนี้ ใช่ เพราะพวกเขาเป็นทีมที่อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ผมไม่คิดว่าพวกเขาไม่แพ้ในบ้านมาแล้ว 18 เดือน ซึ่งบ่งบอกถึงระดับและความยากของเกมส์นี้ได้เป็นอย่างดี แต่ผมเห็นทีมเรามีความเชื่อมั่น พลังงานที่ยอดเยี่ยม และเราทำกันได้สำเร็จ สาเหตุที่เปลี่ยนกาเบรียลออก: เรายังไม่รู้แน่ชัด เพราะเขาบอกว่ารู้สึกบางอย่าง ผมกำลังจะเปลี่ยนเอาราฮีม (สเตอร์ลิ่ง) ลงไป แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเราต้องเปลี่ยนคนอื่นแทน ฟอร์มของโธมัส ปาร์เตย์: ผมเห็นด้วยกับคุณนะ ผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดที่ผมเคยเห็นจากเขา โดยเฉพาะวิธีที่เขาคุมเกส์ได้อย่างโดดเด่น นั่นคือระดับที่เขาสามารถเล่นได้ และเขาก็กำลังจะก้าวไปข้างหน้า ฤดูกาลนี้เขาเล่นได้คงเส้นคงวามาก เพราะเขามีบทบาทสำคัญเสมอ เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญสำหรับเรา ความเปลี่ยนแปลงหลังเบรกทีมชาติ: เปลี่ยนไปเยอะมาก เพราะก่อนหน้านี้เราซ้อมกับผู้เล่นแค่ 11-12 มายาวนาน พวกเขาไม่สามารถซ้อมหรือเล่นได้เต็มที่ แต่จู่ๆ เกือบทุกคนก็กลับมาฟิตและพร้อมลงสนามแล้ว แม้ว่าเรายังต้องดูแลผู้เล่นบางคนอยู่ แต่ระดับการเล่นของพวกเขากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่สงสัยในศักยภาพที่เรามี และเราจะกลายเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมได้แน่นอน ไค ฮาแวร์ตซ์ ยิงครบ 100 ประตูในอาชีพ: ผมไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย แฟนบอลที่ตามมาเชียร์: มหัศจรรย์มาก ขอบคุณมากๆ ในการเดินทางมาเชียร์ทีมถึงที่นี่ ผมคิดว่ามีแฟนบอลของเรา 3,000 คนในสนาม ขอบคุณจริงๆ มันสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก และหวังว่าพวกเขาจะสนุกับคืนนี้ได้เต็มที่ บูคาโญ ซาก้า ปีกตัวเก่งของอาร์เซน่อล ที่ยิง 1 จ่าย 1 ในเกมส์นี้ และคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตซ์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมส์ว่า: "ผมคิดว่าประตูของผมช่วยทำให้เรากลับมาหาจังหวะการเล่นเจออีกครั้ง การเจอทีมแบนี้ต้องมีช่วงที่เราโดนกดดันบ้าง เราเสียไปหนึ่งประตู แต่ส่วนที่เหลือเรารับมือกันได้ดี" "คืนนี้เราแสดงให้เห็นถึงระดับการเล่นที่สุดยอดของเรา แฟนบอลที่ตามมาเชียร์ก็สุดยอดมาก ผมได้ยินพวกเขาตลอดทั้งเกมส์ และผมสนุกกับบรรยากาศจริงๆ สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดก็คือเราไม่ปล่อยให้บรรยากาศมาส่งผลต่อเรา เรารู้ว่านี่เป็นเกมส์ใหญ่ เกมส์แชมเปี้ยนลีกที่เกมส์ล่าสุดเราแพ้มา และเราไม่ได้ชนะในเกมส์เยือนยุโรปมานานแล้ว ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเรายิงประตูในเกมส์เยือนหนสุดท้ายคือเมื่อไหร่ ดังนั้นเราจึงลงสนามด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ วันนี้เราเล่นกันได้ยอดเยี่ยมมาก ผมภูมิใจในเรื่องนั้นจริงๆ และเราต้องรักษาผลงานแบบนี้ต่อไป" ปิดท้ายด้วยการพูดถึงการได้มาร์ติน โอเดการ์ด กลับมา เขากล่าวว่า: "เขาเป็นผู้เล่นที่เก่งมากจริงๆ วันที่เขากลับมา ผมหุบยิ้มไม่ได้เลย คุณคงเห็นได้ ถึงเคมีที่เรามีต่อกัน ผมสนุกกับการเล่นของเขามากๆ ผมดีใจที่เขกลับมา และหวังว่าเขาฟิตได้ตลอดทั้งฤดูกาล"
-
1 pointมิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ให้สัมภาษณ์หลังเกมส์พรีเมียร์ลีก ที่เปิดบ้านชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แบบขาดลอย 3-0 รูปเกมส์ที่เกิดขึ้น มีความสุขจริงๆ ผมสัมผัสได้ถึงพลังอันยอดเยี่ยมตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา การที่ทุกคนกลับมา ผมรู้สึกถึงความสามัคคีที่ยอดเยี่ยม กับสถานการณ์ที่เราต้องเจอในช่วงที่ผ่านมา ทันทีตั้งแต่เริ่มเกมส์ มีความกระตือรือร้น นี่คือสิ่งที่ผมเรียกร้อง เมื่อเราทำประตูได้ มันควรจะเป็น 2-3 ประตูในครึ่งแรก ใช่บางอย่างสามารถเกิดขึ้นได้หากสกอร์นำแค่ 1-0 เราพลาดโอกาสจบสกอร์ไปหลายครั้ง แต่ก็ต้องยกเครดิตให้กับฟอเรสต์เช่นกัน พวกขเาเป็นทีมที่ดี พวกเขาจะคุกคามได้เวลาที่มีบอล นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขายังไม่แพ้ใครในเกมส์เยือนเลย และเราเป็นทีมแรกที่ชนะพวกเขาได้ โผรายชื่อแบบเซอร์ไพรซ์ทุกคน การเปลี่ยนแปลงทีมครึ่งนึง ผมรู้ถึงความเสี่ยง เมื่อคุณไม่ส่ง โธมัส, เดแคลน, มาร์ติเนลลี่ และไค ลงสนาม มันจะเกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นเสมอ ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดหรือถูก? ผมต้องการให้ทุกคนรู้สึกถึงความสำคัญของตัวเอง และทั้งหมดจะได้รับโอกาสให้ได้ลงสนามอย่างแท้จริง สำหรับบางคนวิธีที่พวกเขาฝึกซ้อมมันน่าเหลือเชื่อ และผมมอบรางวัลให้แก่พวกเขา การกลับมาของโอเดการ์ด: เราพูดถึงความไหลลื่น และความเข้าใจในเคมี เขาคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดที่จะทำแบบนั้น เพื่อกำหนดจังหวะของเกมส์ เมื่อใดควรเร่งความเร็ว เมื่อใดควรที่จะทำให้ช้าลง ท้ายเกมส์เขาดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย จากนั้นเราก็ส่งอีธานเข้ามา แล้วคุณสามารถสัมผัสเสียงเชียร์ของแฟนบอลในสนาม แสดงให้เห็นว่าพวกเขาชอบดูเด็กคนนี้เล่นมากแค่ไหน การประสานงานระหว่างซาก้ากับโอเดการ์ด นั่นเป็นเรื่องของเคมี บางครั้งคุณเจอกับใครสักคนที่มองตาก็รู้ใจ มันสามารถเกิดขึ้นกับเรื่องอื่นๆ ได้เช่นกัน แต่ในเรื่องของฟุตบอลมันเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย แต่เมื่อคุณจัดวางพวกเขาในพื้นที่ที่เหมาะสม สิ่งต่างๆ จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เราไม่สามารถไปบีบบังคับให้มันเกิดขึ้นได้ อีธานควรได้โอกาสมากกว่านี้ในตอนที่โอเดการ์ดบาดเจ็บ ผมเข้าใจว่าผมต้องมีความรับผิดชอบเกี่ยวกับเขา และคุณต้องวางอิฐทีละก้อน วันนี้เราวางอิฐเพิ่มอีกก้อน ตอนนี้เราต้องการซีเมนต์ ระวังอย่าให้แห้ง จากนั้นเราจะเพิ่มอีกชั้น เชื่อผมเถอะว่าเราไม่สามารถใส่อิฐ 5 ก้อนได้พร้อมกัน มันจะไม่ได้ผล และเราต้องการจัดการเรื่องนั้น ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์สโมสรที่ยิงประตูได้ในพรีเมียร์ลีก และวันนี้เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ผมส่งเขาลงไป มันต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่างที่ผมได้บอกไป บริหารความคาดหมายเกี่ยวกับอีธาน เป็นบางสิ่งที่ผมไม่สามารถไปจัดการกับความคาดหวังได้ ผมพยายามดูแลเขา มอบเส้นทางที่ดีที่สุดให้กับเขา ครอบครัวเขา เอเยนต์ของเขา พวกเขาก็มีความสำคัญเช่นกัน พยายามอย่าไปฟังเสียงรบกวนมากเกินไป โฟกัสกับสิ่งที่เขาทำคือการเล่นฟุตบอล และเขาจะรักมันทุกนาที แล้วสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นกับเขาอย่างแน่นอน ทำไมซาก้าถึงถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษ เราสามารถส่งผล MRI ให้กับคุณได้ มันชัดเจนระหว่างทีมแพทย์ของอาร์เซน่อล และทีมแพทย์ของทีมชาติอังกฤษ เขาต้องการเวลาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และก่อนเกมส์นี้ เขาได้ซ้อมกับทีมไปแค่เซซชันเดียว คุมอาร์เซน่อลครบ 250 นัด มันเป็นวันที่สวยงาม โดยเฉพาะสำหรับผม เพราะมันเป็นเกียรติมากๆ ที่ผมได้อยู่ตรงจุดนี้
-
1 pointถ้าได้คัมโปสมา น่าจะได้เห็นการเซ็นสัญญาดาวรุ่งดีๆ เข้ามา พักหลังเราซื้อตัว 22-24 ที่เอามาใช้งานได้เลย ซึ่งเอดูก็ทำได้น่าพอใจตลอด 5-6 ปีที่อยู่กับทีม แต่ดีลดาวรุ่งพวก 18-21 Scout ของเอดู ยังสอบไม่ผ่านมา ซื้อมาแล้วส่วนใหญ่ก็ต้องขายออกไป โลกองก้า ตาวาเรซ มาควินญอส แป็กหมด ดูแนวทางจากที่ทำลีลส์ กับ PSG คัมโปส จะเน้นเซ็นเด็กที่มี Potential เข้ามา ปั้นต่อ เป็นแนวทางที่เป็นซิกเนเจอร์ของเรา สมัยเวนเกอร์ พอมีชื่อคัมโปสโผล่มาเอี่ยว ก็กลายเป็นน่าสนใจไม่น้อย
-
1 point@Arsenal23Wenger สายวงในของอาร์เซน่อล ออกมาเปิดเผยว่า บูคาโญ ซาก้า, กาเบรียล มากัลเญส และวิลเลี่ยม ซาลิบา สามแข้งคนสำคัญของอาร์เซน่อล ใกล้ที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับทางอาร์เซน่อลแล้ว Sky Sport อาร์เซน่อล พร้อมที่จะมีการเสริมทัพในช่วงตลาดเปิดรอบสองเดือนมกราคมนี้ โดยขึ้นอยู่กับปัญญาบาดเจ็บภายในทีม หรือโอกาสหากนักเตะเป้าหมายที่พวกเขาวางไว้ในช่วงซัมเมอร์หน้า มีโอกาสที่จะย้ายทีมในเดือนมกราคม ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี แบ็คซ้ายของอาร์เซน่อล หายเจ็บกลับมาพร้อมจะช่วยทีมในเกมส์เปิดบ้านรับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากพักไปร่วมเดือนจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า จากเกมส์ชนะเปแอสเช 2-0 เจมส์ แม็คนิโคลัส นักข่าวจาก The Athletic ได้ออกมาเปิดเผยเบื้องลึกเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของ มาร์ติน โอเดการ์ด และการถูกเรียกตัวไปติดทีมชาตินอร์เวย์ในหนล่าสุดที่ผ่านมา เขาบอกว่าในตอนแรก สตาเล่ โซบัคเค่น ตัดสินใจไม่ใส่ชื่อโอเดการ์ดในการเรียกตัว เนื่องจากเชื่อว่านักเตะยังไม่ฟิตพอที่จะลงเล่นให้กับทีมชาติ แต่หลังจากเห็นโอเดการ์ด กลับมาเล่นเต็ม 90 นาทีในนัดที่เสมอ 1-1 กับเชลชี เขาตัดสินใจเรียกโอเดการ์ดเข้ามา โอเดการ์ด ที่เป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบสูงอยู่แล้ว ตกลงที่จะเดินทางไปที่ออสโล่ หลังจากมาถึงช่วงอาหารกลางวันในวันจันทร์ ก็เป็นที่ชัดเจนอย่างรวดเร็วว่า สิ่งที่เป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับการฟื้นฟูร่างกายของเขา ในเรื่องของการบริหารจัดการเกี่ยวกับภาระการลงเล่นและการพักผ่อน ดังนั้นในวันอังคารเขาถึงได้เดินทางกลับมาที่ลอนดอน การที่โอเดการ์ด กลับมาลงเล่นในเกมส์กับเชลชีได้ เป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งและความทุ่มเทในการฟื้นฟูร่างกายของเขา เขาทำตามคำแนะนำของทีมแพทย์อย่างเคร่งครัด เขาทำทุกอย่างเพื่อเร่งการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของตัวเอง แล้วทำให้ตัวเองกลับมาฟิตเพื่อกลับมาช่วยทีมให้ได้เร็วที่สุด นอกจากนี้เขายังคลายข้อสงสัย ในการถ่ายภาพหมู่ว่าทำไมถึงมีลูกบอลมาวางที่ข้อเท้าที่เจ็บของโอเดการ์ด ว่าเป็นเรื่องจริงตามที่แฟนบอลสงสัยกัน ภาพหมู่ถูกถ่ายหลังเกมส์ที่ชนะท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ได้ 2 วัน โดยลูกบอลมาวางเพื่อซ่อนอาการบวมของข้อเท้าที่เขาบาดเจ็บ อาส (AS) สื่อของสเปน รายงานข่าวว่า อาร์เซน่อล ได้เริ่มมีการติดต่อกับ หลุยส์ คัมโปส ผู้อำนวยการกีฬาคนดังของสโมสรปารีส แซงต์แชร์กแม็งแล้ว โดยทางคัมโปสกำลังจะหมดสัญญากับทาง PSG หลังจากจบฤดูกาลนี้ Robin Bairner นักข่าวจาก Transferdotcom ที่เป็นเจ้าแรกที่รายงานข่าวเชื่อมโยงระหว่างอาร์เซน่อล กับคัมโปส ได้บอกเพิ่มเติมว่า มิเกล อาร์เตต้า เป็นผู้ผลักดันอยู่เบื้องหลัง ส่วนทางคัมโปสก็สนใจที่จะไปหาความท้าทายในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เช่นกัน Foot Mercato รายานข่าวว่า เกรกอรี่ โลเรนซี่ ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรแบร็สต์ เป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่จะเข้ามาเป็นผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของอาร์เซน่อล แทนที่ของเอดู ที่ลาออกไป Sky Sport เปิดเผยว่า หลุยส์ คัมโปส ไม่ใช่ชื่อเดียวที่ถูกพิจารณาเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งของเอดู โดยเวลานี้ยังอยู่ในช่วงต้นของการคัดสรรผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของอาร์เซน่อล มีความเข้าใจว่า ไซมอน โรเฟส ของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และโรแบร์โต้ โอลาเบ ของเรอัล โซเซียดัด ก็เป็นตัวเลือกของพวกเขาเช่นกัน
-
1 pointครึ่งแรกเกมส์ดีกว่ามาก โดยเฉพาะหลังโดนตีเสมอ 1-1 ทีมเก็บบอลสองไว้ได้หมด กดลิเวอร์พูลจนมาได้ประตูที่ 2 แต่ครึ่งหลัง สัญญาณไม่ดีตั้งแต่กาเบรียล มาเจ็บตอนครึ่งหลัง ทำให้คู่เซนเตอร์ตัวจริง หายคู่เลย พอเปลี่ยนเป็นคิวิออร์ ก็ว่าน่าห่วงแล้ว ทิมเบอร์มาเจ็บเพิ่มอีกคน ต้องเอาไมล์สลงมา ทำให้กราบซ้ายยวบหนัก แล้วลูกที่เสีย 2-2 โดนแบบง่ายๆ เลย จริงๆ อยากให้ชินเชนโก้ลงมาแทน ไมล์สมากกว่า เพราะเกมส์ใหญ่ ประสบการณ์ของชินเชนโก้น่าจะดีกว่าเด็ก 17 ที่ต้องเจอกับซาล่าห์
-
1 pointอย่างอื่นๆ ในเกมมันโอเคครับ ปืนดีขึ้นทุกปี ดีขึ้นมาก ยกเว้นราฮีม กับเฌซุส ต้าเรียก 2 คนมาปรับสติก่อน มีจังหวะอิหยังวะมากมายกับ 2 ซีเนียร์ ริ่ง~ซุส
-
1 pointตอนริ่งลง ด่าริ่งว่าหวงบอล พอทรอสซาลงมา ชิพหาย หวงบอลเหมือนกัน 555
-
1 pointPREMIER LEAGUE 2024/25 #7 Arsenal 3 - 1 Southampton Sat 5 October 2024, 21.0 น. GOAL: 0-1 คาเมรอน อาเซอร์ (นาทีที่ 55) 1-1 ไค ฮาแวร์ตซ์ (นาทีที่ 58, ซาก้า) 2-1 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (นาทีที่ 68, ซาก้า) 3-1 บูคาโญ ซาก้า (นาทีที่ 88) ดาวิด ราย่า: 6.0 ช่วงนี้ราย่าในลีก กลับมาเหมือนซีซั่นก่อน คู่แข่งมีโอกาสครั้งเดียว เปลี่ยนเป็นประตูได้เลย ในลีกเลยหาคลีนซีตไม่เจอมา 3 เกมส์แล้ว กาเบรียล มากัลเญส: 6.0 ทีมได้เตะมุมเยอะมากวันนี้ แต่กาเบรียลเจอบล็อกแบบสองชั้นเลย ทำให้ทีเด็ดจากลูกเตะมุมไม่ทำงาน เกมส์รับก็ไม่ได้เจอกดดันอะไรมาก เซาแธมป์ตันนานๆ จะมาได้ลุ้นสักที วิลเลี่ยม ซาลิบา: 6.0 จังหวะที่โดนเซาแธมป์ตันยิงขึ้นนำ 1-0 แบบสุดช็อก ซาลิบาคุมหลวมไปหน่อย เจอแตะหนีแล้วยิงง่ายๆ เลย แต่จังหวะอื่นซาลิบาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็จัดการสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี: 7.0 คาลาฟิออรีมีจังหวะเข้าสกัดแย่งบอลสวยๆ ได้หลายครั้ง มีเจอเผาแค่หนเดียวช่วงต้นครึ่งหลังที่เจอดิบบิ้งเลี้ยงผ่านเขาไปได้ จังหวะเติมเกมส์รุกก็ยังทำได้ดี แต่ช่วงที่เล่นกับราฮีม ตีรถเปล่าค่อนข้างบ่อย โธมัส ปาร์เตย์: 6.0 ต้องถูกจับมาเล่นแบ็คขวาจำเป็น เนื่องจากทีมไม่มีทั้งทิมเบอร์และไวท์พร้อมกัน ส่วนโทมิก็เพิ่งหายเจ็บกลับมา ซึ่งวิธีการเล่นของปาร์เตย์เขาไม่ได้ Overlap ช่วยดึงความสนใจจากแนวรับคู่แข่งช่วยซาก้า เขาจะยืนคุมพื้นที่อยู่ด้านนอก แต่ภาพรวมพี่หมึกก็พอเล่นแก้ขัดไปได้ จอร์จินโญ่: 6.0 (C) ช่วงครึ่งแรกก็พยายามที่จะหาช่องจ่ายตัดแนวรับของทางเซาแธมป์ตัน ก็พอได้เห็นบอลสวยๆ จากพี่จอร์ 2-3 หน กับคู่แข่งระดับนี้พี่จอร์ก็ประคองได้สบาย แต่ทีมต้องการประตูเลยถอดพี่จอร์ออก เดแคลน ไรซ์: 7.0 จริงๆ ไรซ์กำลังเร่งได้กลมกล่อมกับการเล่นทั้ง 6 และ 8 วันนี้ดูเหมือนจะหนักไปเล่น 8 ซึ่งพอเจอทีมมารับลึกก็ดูตันๆ เหมือนกัน ตั้งแต่กลางครึ่งหลังถอยไปเล่นเบอร์ 6 ไรซ์ก็ช่วย Cover จังหวะสวนกลับได้ดี ไค ฮาแวร์ตซ์: 7.5 ลุ้นยิงประตูนัดที่ 7 ติดต่อกันในรังเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ช่วงครึ่งเวลาแรกฮาแวร์ตซ์ก็มีโอกาสอยู่บ้าง แต่ไม่ยิงติดบล็อก ก็โหม่งข้ามคาน ครึ่งหลังฮาแวร์ตซ์ทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้เร็วเมื่อเขายิงตีเสมอ 1-1 ได้เร็วหลังจากทีมเสียประตูไปได้ไม่กี่นาที ราฮีม สเตอร์ลิ่ง: 6.0 ได้สตาร์ทตัวจริงนัดแรกในพรีเมียร์ลีกให้อาร์เซน่อล ครึ่งแรกก็มีโอกาสได้ลุ้นประตูอยู่บ้าง แต่จังหวะยิงยังไม่เด็ดขาดมากพอ ประตูที่เซานำ ก็มาจากที่สเตอร์ลิ่งเสียบอลกลางสนาม แล้วกรรมการไม่มองว่าเป็นการฟาล์ว บูคาโญ ซาก้า: 8.0 ครึ่งแรกค่อนข้างน่าผิดหวังในจังหวะเข้าพื้นที่สุดท้ายของซาก้า ครึ่งหลังซาก้าได้บอลน้อยลงไป แต่ประสิทธิภาพสูงมาก ลูกตีเสมอ 1-1 เขาเป็นคนดักบอลกลางทางได้ ก่อนจ่ายเร็วให้ฮาแวร์ตซ์ยิง ประตู 2-1 ต้องชมลูกจ่ายของซาก้าจริงๆ กาเบรียล เฆซุส: 5.0 เป็นอีกคนที่มีโอกาสได้ลงมาเล่นบ้าง แต่เฆซุสก็ยังไม่สามารถคว้าโอกาสของตัวเองมาได้ การตัดสินใจต่างๆ มันเห็นได้ชัดเลยว่าเขาขาดความมั่นใจไปเยอะ จังหวะไหนควรเร่งแกดึงช้า จังหวะไหนควรดึงช้าก็ไปเร่งจนเสีย ตัวสำรอง: กาเบรียล มาร์ติเนลลี่: 7.0 (นาทีที่ 60, สเตอร์ลิ่ง) พอกลับมาทำประตูได้ มาร์ติเนลลี่ก็ผลิตประตูได้อย่างต่อเนื่อง เกมส์นี้มาร์ตี้เปลี่ยนลงมาทำประตูสำคัญ ทำให้ทีมพลิกนำ 2-1 เลอันโดร ทรอสซาร์: 6.5 (นาทีที่ 60, เฆซุส) ทรอสซาร์ลงมาแล้ว ได้น้ำได้เนื้อขึ้นเยอะ จังหวะพุ่งขึ้นหน้าของทรอสซาร์ทำได้ลุ้นตลอด และการเคลื่อนที่ประสานงานกับเพื่อน ทำให้ทีมมีไอเดียเจาะมากขึ้น มิเกล เมริโน่: 6.5 (นาทีที่ 60, จอร์จินโญ่) สถิติแย่งบอลเยอะสุดใน 5 ลีกใหญ่ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เมริโน่แย่งบอลเก่งจริง แล้วมีตัดบอลแล้ว ออกบอลสวยๆ ได้ออยู่ แต่อาจต้องปรับเรื่องสปีดความเร็วของพรีเมียร์ลีกอีกหน่อย ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ: N/A (นาทีที่ 84, ปาร์เตย์) ยาคุบ คิวิออร์: N/A (นาทีที่ 90, คาลาฟิออรี)
-
1 pointเฆซุส-สเตอร์ลิ่ง ได้โอกาสลงเล่น แต่ฉกฉวยโอกาสของตัวเองในวันนี้ไม่ได้ ครึ่งแรกเกมส์รุกทื่อจริง เล่นแบบไม่มีไอเดียเลย แล้วครึ่งหลังก็ยังไม่ดีขึ้น แถมโดนเซาแธมป์ตันมากระตุกหนวดเสือถึงถิ่น ดีที่ฮาแวร์ตซ์มายิงตีเสมอ 1-1 ได้เร็ว ทำให้แรงกดดันลดลงไป แล้วพอเปลี่ยนชุดตัวจริงลงมา ทรอสซาร์-มาร์ตี้ ทำให้เกมส์รุกคนละเรื่องเลย วันนี้ก็เห็นชัดว่า สำรองบางคนยังต้องยกระดับขึ้นมาอีก ขนาดเจอแค่เซาแธมป์ตัน เรายังโรเตชันแล้วมีปัญหาเลย
-
1 pointต้องระทึกทุกนัดหรือยังไง เกมในบ้านเสียประตูง่ายไปหน่อยเรา โดนยิงนำแบบช็อคๆ ดีที่ไคกดสูตรติด ยิงเต็มเท้าตีคืนได้ไว หลังจากชุดหลักลงก็ครองเกมบี้จนยิงแซงจนได้ รูปเกมอึดอัดมาก การเข้าทำขาดๆ เกินๆ จนตัวหลักมาครบนี่ล่ะถึงดูลื่นขึ้น พระเอกก็น้อนบี คนดีคนเดิม ยิง 1 จ่าย 2 พาทีมชนะ อีกคนก็คิงไคที่สู้ทุกจังหวะ และเป็นคนซัดประตูแรก รอตัวหลักกลับมาครบๆ เราน่าจะแกร่งขึ้นไปอีด GO GO GUNNERS!!!!
-
1 pointUEFA CHAMPION LEAGUE 2024/25: Leage Phase#2 Arsenal 2 - 0 PSG Tue 1 October 2024, 02.00 น. GOAL: 1-0 ไค ฮาแวร์ตซ์ (นาทีที่ 20, ทรอสซาร์) 2-0 บูคาโญ ซาก้า(นาทีที่ 35) ดาวิด ราย่า: 7.0 ครึ่งแรกก็มีจังหวะต้องออกแรงอยู่บ้าง ครึ่งหลังมีงานให้ราย่าทำมากขึ้น ด้วยวิธีการเล่นที่แตกต่างไป มีจังหวะต้องพุ่งปัดลูกยิงนอกกรอบของลีคังอินไปหนนึง สุดท้ายเก็บคลีนซีตเอาไว้ได้ กาเบรียล มากัลเญส: 7.0 โชว์ลูกแข็งแกร่งเบียดบังทางใส่ผู้เล่นเปแอสเชให้เห็นเป็นระยะๆ ช่วงครึ่งหลังแผงแบ็คโฟร์มีต้องปรับกัน ทำให้ทีมต้องมาเน้นรัดกุมรักษาสกอร์นำ ทำให้กาเบรียลมีงานต้องทำมากขึ้นกว่าครึ่งแรก แต่ภาพรวมก็รับมือเกมส์รุกของทีมเยือนกันได้ดี วิลเลี่ยม ซาลิบา: 7.0 คู่เซนเตอร์อาร์เซน่อล ซ้อนจังหวะกันได้เป็นอย่างดี อาจมีบางทีที่คู่แข่งหลุดจากกาเบรียลมาได้ก็ยังมีซาลิบา เช่นเดียวกันถ้าหลุดซาลิบาก็ยังมีกาเบรียล ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี: 6.5 ครึ่งแรกคาลาฟิออรี ก็มีถูกเจาะผ่านเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะจังหวะที่ฮาคิมิวิ่งแซงหลุดทะลุเข้าไป จังหวะขึ้นเกมส์แบบ Invert ก็ยังทำได้ แต่กราบซ้ายไม่ไหลลื่นแบบนัดก่อน ครึ่งหลังคาลาฟิออรี ต้องโยกไปเล่นแบ็คขวา แน่นอนว่าไม่ใช่ตำแหน่งถนัด และไม่ใช่เท้าข้างที่ถนัด แต่คาลาฟิออรีก็พยายามปรับตัว เอาตัวรอด เยอร์เรียน ทิมเบอร์: 6.5 ต้องทำหน้าที่ตามประกบ บาโคล่า ปีกตัวอันตรายของ PSG ครึ่งแรกมีจังหวะโดนจี้ 1 ต่อ 1 แต่ทิมเบอร์ดักอยู่เลย แต่ช่วงพักครึ่งทิมเบอร์โดนเปลี่ยนตัวออกไป ต้องรอดูว่ามีปัญหาบาดเจ็บอะไรหรือไม่ โธมัส ปาร์เตย์: 7.0 ปาร์เตย์วันนี้ทำได้ดีเลย ทั้งการ Build up ที่หาช่องจ่ายได้ดี แทบไม่เห็นความผิดพลาด เกมส์รับปาร์เตย์ก็มีจังหวะดักตัดสวยๆ กลางสนามได้หลายหน เดแคลน ไรซ์: 7.5 มีทั้งขยับขึ้นมาเล่นเบอร์ 8 และบางจังหวะไรซ์ก็ถอยไปยืนเป็น Pivot คู่กับปาร์เตย์ เราเริ่มได้เห็นเขาเล่น 6/8 มาตั้งแต่นัดก่อนกับเลสเตอร์ ซึ่งไรซ์กำลังเล่นได้กลมกล่อมเลย ได้ใช้พลังงานอันเปี่ยมล้นของตัวเองเต็มที่ ทั้งเคลื่อนที่รับบอล พาบอลพุ่งพรวดขึ้นไปเอง กลับมาช่วยป้องกันหน้ากรอบเขตโทษ เลอันโดร ทรอสซาร์: 7.5 การเคลื่อนที่ของทรอสซาร์ ทำได้ดีมาก คู่แข่งตามประกบลำบาก ประตูแรกก็ต้องให้เครดิตเข้าตั้งแต่การพาบอล ก่อนวางบอลไปให้ฮาแวร์ตซ์โหม่งประตู การถอยลงไปช่วยเกมส์รับด้วย เหมือนเป็นตัวฟรีที่เพ่นพ่านไปทั่ว กาเบรียล มาร์ติเนลลี่: 6.5 ก็พอมีจังหวะที่สามารถลากจี้เข้าไปเปิดบอลแบบได้ลุ้นที่เส้นหลังได้บ้าง แต่จริงๆ มาร์ตี้ควรจะต้องมีชื่อเป็นคนทำประตู กับโอกาสทอง 2 หนในครึ่งหลัง ที่เขายิงไม่ได้หนีมือดอนนารุมม่าทั้งสองครั้ง เกมส์รับก็ช่วยได้ดีเช่นเดิม บูคาโญ ซาก้า: 7.0 (C) ช่วงต้นๆ เกมส์ซาก้ายังดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางสักเท่าไร ทั้งจังหวะเกมส์รุกและเกมส์รับ แต่พอผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก ซาก้าเริ่มแผลงฤทธิ์ เริ่มกดดันฟูลแบ็คของเปแอสเชได้มากขึ้น ก่อนที่จะมาเรียกฟาล์วแถวริมเส้น แล้วเป็นเข้าที่เป็นคนเปิดฟรีคิก ไม่มีเพื่อนเข้าถึงบอลแต่กลายเป็นทำให้ดอนนารุมม่าเสียจังหวะและบอลหลุดเข้าประตูไปให้ทีมนำ 2-0 ครึ่งหลังพอเปลี่ยนจากทิมเบอร์เป็นริชชี่ ด้วยการที่ไม่เคยเล่นด้วยกัน จังหวะอะไรมันเลยดูกั๊กๆ อยู่ตลอด ไค ฮาแวร์ตซ์: 7.5 ชิงขึ้นโหม่งบอลได้ก่อนดอนนารุมม่า ทำให้ปืนขึ้นนำ 1-0 แม้ว่าจะไม่ได้ยืนหน้าเป้าชัดเจน แต่ก็ซัดลูกที่ 5 ในฤดูกาลนี้ไปแล้ว การพักบอลในแดนหน้าทำได้ดี และพยายามปิดช่องว่างของโอเดการ์ดในการเชื่อมบอลกับซาก้า ตัวสำรอง: ยาคุบ คิวิออร์: 6.0 (นาทีที่ 46, ทิมเบอร์) ลงมาแบบเน้นเล่นเกมส์รับอย่างเดียวเลย ในตำแหน่งฟูลแบ็คฝั่งซ้าย ก็มีจังหวะที่เข้าสกัดได้ดี และก็มีหลายหนอยู่เหมือนกันที่เข้าพรวด แต่ก็ช่วยกันกับเพื่อน Cover ได้ทัน มิเกล เมริโน่: 6.0 (นาทีที่ 64, ปาร์เตย์) ได้ประเดิมสนามกับต้นสังกัดใหม่ หลังจากพักยาวมาเดือนกว่าจากการซ้อมหนแรกกับทีม เวลาเกือบ 30 นาทีในสนามได้เห็นจังหวะดักตัดบอลสวยๆ อยู่ 2-3 หน บอลอยู่กับตัวก็ไม่ได้ลนลาน แต่เราน่าจะได้เห็นอะไรดีๆ จากเมริโน่อีกเยอะหลังจากนี้ กาเบรียล เฆซุส: 6.0 (นาทีที่ 73, ทรอสซาร์) การเก็บบอลของเฆซุส มันเหมือนดาบสองคม ข้อดีมันก็ครองบอลเหนียวพอได้ แต่ข้อเสียคือจังหวะจ่ายมันดันยึกยักจนทำให้เสียโอกาสได้ลุ้นประตูในช่วงท้ายเกมส์ ที่มีพื้นที่เปิดกว้าง ถ้าเฆซุสเลือกจ่ายเร็ว ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่: N/A (นาทีที่ 90+2, ซาก้า)
-
1 pointPSG เล่นเหมือนอาร์เซน่อลยุคปลายของเวงเกอร์เลย ผ่านบอลเยอะเกินแต่เป็นการผ่านสั้น ๆ ขวางไปมา ไม่มีบอลทะลุทะลวง จังหวะเกมช้ามาก ครองบอลเยอะแต่ไม่ได้ดูอันตรายเลย แถมไม่ได้เพรสหนักเหมือนทีมในพรีเมียร์ลีก ทำให้ปาร์เตย์เล่นได้สบายเลย ไม่โดนกดดันมากนัก เกมเมื่อคืนดูแบบสบายใจ ไม่ได้รู้สึกเลยว่าจะโดน PSG ยิงคืน เลสเตอร์ยังดูน่ากลัวกว่าอีก Jesus นี่ยิ่งดูยิ่งน่ารำคาญ หวงบอลเหมือนอยากโชว์ผลงานแต่กลายเป็นยิ่งแย่ ต้องปรับทัศนคติในการเล่นหน่อย เล่นเป็นทีมเล่นเพื่อทีม ไม่ใช่หวังโชว์ผลงานส่วนตัว ถ้าเล่นเพื่อทีมในหลายเกมที่ผ่านมาอาจมี assist ไปแล้ว ถ้ายังเล่นแบบนี้ต่อไปจะขายก็ขายเหอะแล้วไปหากองหน้าใหม่มาดีกว่า โดยรวมอาร์เซน่อลปีนี้มีพัฒนาการดีกว่าเดิม มีความยืดหยุ่นสูง ปรับรูปเกมระว่างแมตช์ได้แบบไม่เสียทรง ถึงแม้ว่าจะเห็นชัดว่าพอเปลี่ยนผู้เล่นบางคนออกแล้วทรงบอลมันเปลี่ยนไปแต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไรนัก ปีนี้ถ้าได้แชมป์สักแชมป์ ทีมน่าจะโตไปอีกระดับเป็นทีมใหญ่ของยุโรปแบบเต็มตัวเลย
-
1 point
-
1 pointครึ่งแรก ค่อนข้างเหนือกว่าทาง PSG อยู่พอสมควร พอนำ 2-0 ทำให้เล่นง่ายขึ้นเยอะ แต่ครึ่งหลังทิมเบอร์เจ็บ แล้วต้องแก้ไขด้วยการเอาริชชี่ไปแทน ส่งคิวิออร์ลงมา ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าบุกได้แบบที่ทำในครึ่งแรก ข้อดีของทีมชุดนี้คือมันปรับโหมดได้ตามใจอาร์เตต้าเลย อยากจะบุกมันก็ทำได้ อยากจะรักษาสกอร์มันก็ทำเป็น มันก็เห็นชัดว่าทีมชุดนี้มันโตขึ้นอีกขั้น การไม่มีโอเดการ์ดคิดว่าจะเป็นปัญหา แต่เราก็รับมือได้ดี ทั้งในลีกและยูซีแอล ยังอยู่ในตำแหน่งที่ดี
-
1 pointเดินหน้าเก็บแต้มใน UCL ปายยย บดชนะจ่าฝูงลีกเอิงไปแบบคลีนชีต วันนี้แนวรุกประสานงานกันสวยๆ หลายที เริ่มเป็นสัญญาณดีๆ มากขึ้น ครึ่งแรกเทพ ครึ่งหลังผ่อนไปหน่อย แต่ก็ได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจ GO GO GUNNERS!!!!
-
1 pointPREMIER LEAGUE 2024/25 #6 Arsenal 4 - 2 Leicester City Sat 28 September 2024, 21.00 น. GOAL: 1-0 กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (นาทีที่ 20, ทิมเบอร์) 2-0 เลอันโดร ทรอสซาร์ (นาทีที่ 45, มาร์ติเนลลี่) 2-1 เจมส์ จัสติน (นาทีที่ 47) 2-2 เจมส์ จัสติน (นาทีที่ 63) 3-2 วีนฟรีด เอ็นดิดี้ (นาทีที่ 90+4, ทำเข้าประตูตัวเอง) 4-2 ไค ฮาแวร์ตซ์ (นาทีที่ 90+9) ดาวิด ราย่า: 6.0 ก่อนเกมส์มีข่าวว่าราย่าจะลงเฝ้าเสาไม่ได้ แต่สุดท้ายผ่านความฟิตลงเฝ้าได้ ครึ่งแรกราย่าไม่มีอะไรต้องทำเลย แต่ครึ่งหลังมาโดนทางเลสเตอร์มายิงสองครั้งเปลี่ยนเป็นสองประตู ลูกแรกบอลแฉลบ ลูกสองต้องยอมจริงๆ กาเบรียล มากัลเญส: 6.0 มีโอกาสขึ้นทะยานโขกลูกเตะมุมในครึ่งเวลาหลัง แต่ถูกประตูของเลสเตอร์เซฟเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ เกมส์รับก็ไม่ได้เจอกดดันมาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นซาลิบาที่รับมือกับวาร์ดี้เป็นหลัก วิลเลี่ยม ซาลิบา: 6.0 ซาลิบาต้องรับหน้าที่ในการตามจับ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าจอมเก๋าของฝั่งเลสเตอร์ที่จะเล่นจังหวะฉาบฉวยในการโต้กลับเร็ว ครึ่งหลังเริ่มมีปัญหากับการจับวาร์ดี้เหมือนกัน ทำให้เขาโดนใบเหลืองตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี: 7.0 ช่วงได้ยืนตัวจริงมา 3 นัดติดต่อกันแล้ว จังหวะทีมได้ครองบอล คาลาฟิออรีจะขยับ Inverted เข้ามาช่วยขึ้นเกมส์ แต่มีเพิ่มมิติการทะลุทะลวงขึ้นหน้าทั้งการเลี้ยง และการวิ่งทำทาง เราได้เห็นเชื่อมบอลระหว่างเขากับมาร์ตี้ได้อยู่เป็นระยะๆ จะมีหวาดเสียวหน่อยก็ตรงหวิดๆ จะเหลืองสองอยู่เหมือนกัน เยอร์เรียน ทิมเบอร์: 7.5 เมื่อเบน ไวท์ ยังไม่สมบูรณ์ ทิมเบอร์ก็ยึดตำแหน่งแบ็คขวาต่อ การเติมเกมส์บุกของทิมเบอร์สนุกมาก มีจังหวะแก Overlap ตลอด ประตูนำ 1-0 ก็มาจากการเติมขึ้นมาตบเข้ากลางของทิมเบอร์ น่าจะเป็นหนึ่งในคนที่สร้างโอกาสทำประตูได้เยอะมาก แต่ในแง่เกมส์รับ พอเกมส์เปิด ทิมเบอร์ยังคุมพื้นที่ไม่แน่นแบบไวท์ โธมัส ปาร์เตย์: 6.0 มีช็อตจ่ายบอลพลาดง่ายๆในช่วงต้นทั้งสองครึ่งเลย โดยเฉพาะครึ่งหลังที่ปาร์เตย์ออกเสีย กลายเป็นเจอโต้กลับแล้วซาลิบาต้องไปตัดฟาล์วเสียฟรีคิก ที่เป็นที่มาของลูกตีไข่แตก ภาพรวมปาร์เตย์ก็ยังพอพักได้ แจกจ่ายบอลได้ แต่บางจังหวะแกอาจจะช้าไปหน่อย หากทิ้งแกตรงกลางคนเดียว พอคู่แข่งหลุดแนวเพลสมาได้ พื้นที่ตรงกลางเปิดโล่งเลย เดแคลน ไรซ์: 7.5 ฟอร์มการเล่นของไรซ์ค่อยๆ กลับมาอยู่ในมาตรฐานที่ดีของตัวเองอีกครั้ง หลังจากเริ่มฤดูกาลแบบติดขัดอยู่หน่อยๆ เป็นหนึ่งในคนที่เด่นที่สุดในสนาม มีหลายครั้งที่บีบแย่งบอลในแดนบนได้หลายครั้ง เลอันโดร ทรอสซาร์: 8.0 บทบาทเป็น False9 ที่มีอิสระในการเคลื่อนที่ได้อย่างเต็มที่ ไปทั้งซ้าย ขวา และตรงกลาง แล้วทรอสซาร์เป็นคนที่ยิงให้ทีมนำ 2-0 ครึ่งหลังทรอสซาร์น่าจะยิงได้อีกสองครั้ง หนหนึ่งไปชนเสา อีกครั้งได้ยิงเหน่งๆ ติดเซฟ สุดท้ายก็เป็นทรอสซาร์ที่มาเป็นฮีโร่มีส่วนกับประตูนำ 3-2 ในช่วงทดเจ็บ เขาเป็นคนยิงยัดจากแถวสอง แล้วบอลไปแฉลบผู้เล่นเลสเตอร์เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่: 7.5 ยุติสถิติปืนฝืดในพรีเมียร์ลีกได้เสียที หลังจากยิงไม่ได้มา 17 เกมส์ มาร์ติเนลลี่ เป็นคนยิงให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ถือว่าแก้ตัวจากการทิ้งโอกาสในช่วงต้นเกมส์ ช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก มาร์ตี้จ่ายให้ทรอสซาร์ยิงลูกสอง บูคาโญ ซาก้า: 7.0 (C) ซาก้าตอนนี้ต้องเจอคู่แข่งขวางอยู่ 2-3 ด่านเสมอ แต่ก็ยังสามารถปั่นป่วนเกมส์รับของทางเลสเตอร์ ได้เป็นระยะ แต่หลายครั้งซาก้าฝืนยิงเองไปหน่อย ทั้งที่มุมไม่ค่อยมี การวางบอลจากลูกเตะมุมของเขายังคงยอดเยี่ยม แล้ว 6 เกมส์แรกเขาทำแอสซิทได้ทุกนัด ไค ฮาแวร์ตซ์: 6.5 แม้ว่าตามผังเหมือนฮาแวร์ตซ์จะยืนหน้าเป้า แต่เล่นจริงเขามาเล่นตรงกลางฝั่งขวามากกว่าในการช่วยเชื่อมกับซาก้า แต่ก็มีจังหวะขึ้นไปลุ้นทำประตู อย่างครึ่งแรกขึ้นโขกหลุดเสาไปนิดเดียว ประตูที่โดนตีไข่แตก ฮาแวร์ตซ์ยืนตำแหน่งไม่ค่อยดี กลายเป็นคนมาแฉลบเข้าเปลี่ยนทางเข้าประตู แต่เขาก็มาแก้ตัวด้วยการยิงประตูปิดกล่อง 4-2 ตัวสำรอง: ราฮีม สเตอร์ลิ่ง: 6.0 (นาทีที่ 74, มาร์ติเนลลี่) อีธาน เอ็นวาเนลลี่: 6.0 (นาทีที่ 85, ปาร์เตย์) เด็กคนนี้ พร้อมแล้วสำหรับการเล่นกับทีมชุดใหญ่ ลงมาแล้วสร้างอิมแพ็คได้ทันที แม้อยู่ในช่วงเวลาที่กดดัน แต่อีธานก็แสดงให้เห็นว่าเขานิ่ง และกล้าเล่น มีโอกาสยิงนอกกรอบ แต่โดนประตูเลสเตอร์เซฟเอาไว้ได้ กาเบรียล เฆซุส: N/A (นาทีที่ 90+6, ทรอสซาร์)
-
1 pointสื่ออังกฤษน่าจะอยากเห็น war ระหว่างต้ากับเป๊ป เอาจริงๆ สู้กันในสนามก็พอและ แต่นักเตะซิตี้หลายคนก็มีพฤติกรรมน่ารังเกียจหลายคน อีโก้จัดเหยียดคู่แข่ง ไร้มารยาท พาเหรดมาสัมภาษณ์ใส่เราอย่างเดียวนี่ล่ะ วอร์มันถึงไม่จบ
-
1 pointมิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ให้สัมภาษณ์หลังเกมส์ที่เปิดบ้านเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 ในเกมส์พรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รูปเกมส์ที่เกิดขึ้น: ผมพอใจกับฟอร์มการเล่นกับวิธีที่เราเล่น เราสร้างโอกาสได้มากมาย เราคุมเกมส์เอาไว้ได้ และหลังจากนำ 2-0 สกอร์มันควรจะไปมากกว่านี้ แต่นี่คือพรีเมียร์ลีก คุณภาพของคู่แข่ง คุณภาพของเลสเตอร์ พวกเขายิงได้ 2 ประตู เราทำบอลเสีย แล้วโดนสวนกลับ เสียฟรีคิก และเหนือไปกว่านั้นบลเปลี่ยนทางเข้าประตู เป็นหนึ่งในการเริ่มครึ่งหลังที่แย่ที่สุด ส่วนลูกสองต้องยอมรับว่าเป็นลูกยิงที่ยอดเยี่ยมมากของจัสติน นั่นทำให้เราต้องกลับมาเริ่มกันใหม่ ในแง่ของความรู้สึก คุณอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างออกไปมากกว่าที่คิดเอาไว้ แต่คุณต้องชนะได้ไว้ว่าจะเป็นบริบทแบบใดก็ตาม และผมพอใจมากกว่ากับวิธีที่เรารับมือกับสถานการณ์หลังจากนั้น ความสม่ำเสมอในการโจมตีพื้นที่ว่าง ผมคิดว่าเราสมควรที่จะชนะในเกมส์นี้ เสียสองประตูในครึ่งเวลาหลัง: น่ากังวลมากๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์นั้น และกับฟอร์มการเล่นที่เราสร้างขึ้น ตามทฤษฏีแล้วเราไม่ควรจะมาอยู่ในจุดนี้ แต่นี่คือฟุตบอล มันคือความสวยงามเมื่อเทียบกับกีฬาชนิดอื่นๆ จากนั้นเราต้องกลับมาคว้าสามแต้มด้วยวิธีการที่แตกต่างออกไป และเราก็ทำได้ กับการสนับสนุนที่น่าเหลือเชื่อจากแฟนบอลของเรา พวกเขาน่าเหลือเชื่ออีกครั้ง ประตูที่สองของทรอสซาร์อาจถูกยกเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง หวังว่าจะไม่ มันน่าผิดหวัง เพราะวันนี้เขามีโอกาสมากมายในการทำประตูในสถานการณ์ต่างๆ ที่เขามี แต่อย่างไรก็ตามผลงานของเขาที่ทำให้กับทีมก็ยอดเยี่ยมจริงๆ มีแผนจะเปลี่ยนทรอสซาร์ก่อนยิงประตูที่สามหรือไม่ ไม่ ความสม่ำเสมอในการวางบอลจากลูกเตะมุมของซาก้า: นั่นคือคนเปลี่ยนเกมส์ นั่นคือสิ่งที่เขาต้องทำได้อย่างสม่ำเสมอในระดับนี้ และคนอื่นด้วยเช่นกัน ผมคิดว่าวันนี้เราได้เตะมุมไป 17 ครั้ง เราควรจะทำประตูได้จากคนอื่น แต่เราจำเป็นต้องใช้ทุกเครื่องมือที่เป็นไปได้ ในการสร้างความคุกคามให้กับคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา ชนะหลังจากแมนซิตี้ทำแต้มหลุดมือ: มันเป็นแค่เกมส์ที่ 6 ของพรีเมียร์ลีก เรายังอยู่ในเดือนกันยายน ดังนั้นเราต้องชนะทุกเกมส์ และทำให้ดีที่สุด ดูกันไปทีละเกมส์ และพยายามพัฒนาในทุกๆ สัปดาห์ คาลาฟิออรีโชคดีที่ไม่โดนใบออก: ผมยังไม่ได้จังหวะนั้น แต่ผมค่อนข้างกังวล เมื่อมันเกิดขึ้น เพราะเขาถูกเป่าฟาล์ว แต่ผมยังไม่ได้เห็นภาพช้า อีธาน เอ็นวาเนรี่ สร้างอิมแพ็คในช่วงท้ายเกมส์ เขาลงสนาม และสามารถเอาชนะผู้เล่นหนึ่ง สอง หรือสามคนได้ทันที ผมชอบมาก หากคุณอยากที่จะเล่นที่นี่ คุณต้องเล่นด้วยความกล้าหาญแบบนี้ ความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับแมนซิตี้ในการสัมภาษณ์หนสุดท้าย ผมสามารถพูดอีกครั้งได้แบบชัดเจนมากๆ ผมรักเป๊ป ผมชื่นชมเขาตั้งแต่ผมอายุ 10 ขวบ ผมเคารพเขา ผมรู้สึกขอบคุณเขาสำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อผม และยังทำอยู่ ผมมองเขาเป็นเพื่อน ผมรักและเคารพสต๊าฟทุกคนที่นั่น เพราะผมทำงานกับพวกเขามา 4 ปี และเมื่อผมบอกว่าผมรู้จักพวกเขา ผมรู้ว่าพวกเขาทำงานกันหนักแค่ไหน ผมไม่เคยเห็นใครที่ทำงานหนักเท่ากับเป๊ป เพื่อให้ได้ชัยชนะอย่างสม่ำเสมอ และเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขายังคงรักษาความกระหาย และนี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้ ผมไม่สามารถบอกอะไรที่ชัดเจนไปกว่านั้นได้อีกแล้ว ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถพูดมันได้อีกรอบ ถ้าใครต้องการทำลายความสัมพันธ์นั้นไม่ใช่เรื่องของผม ความรู้สึกนั้นลึกซึ้ง ผมยังคงรักษาความรู้สึกนั้นกับพวกเขา กับบอร์ด กับเจ้าของทีม และทุกคน มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ หวังว่านั้นจะชัดเจน เลอันโดร ทรอสซาร์ แนวรุกของอาร์เซน่อล ที่มีส่วนร่วมกับประตูนำ 3-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เขาได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมส์ว่า: "มันโล่งใจนะ ผมมีโอกาสดีๆ แต่เมื่อบอลมันยังไม่ตุงตาข่าย ก็ต้องพยายามต่อไป เป็นเรื่องดีที่เราออกนำอีกครั้ง" "ขอยกเครดิตให้กับเพื่อนๆ ทุกคน ยังคงเชื่อมั่นในการเดินหน้า และผลักดันเพื่อสร้างโอกาส นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการ คุณต้องผลักดันต่อไป และนั่นคือสิ่งที่เราทำ สุดท้ายโชคก็เข้าข้าง โดยรวมผมคิดว่าเราเล่นเกมส์ที่ดีมาก โดยขึ้นนำ 2-0 ในครึ่งแรก และหลังจากนั้นประตูที่เราเสีย มันง่ายเกินไปหน่อย เรามีโอกาสยิงหลายครั้ง แต่ผู้รักษาประตูของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมเหลือเกิน แต่ก็เป็นเรื่องดีที่เรามาได้สองประตูในช่วงท้ายเกมส์" 6 เกมส์แรกของฤดูกาลใหม่ อาร์เซน่อลเก็บได้ 14 คะแนน ทรอสซาร์กล่าวว่า: "ผมคิดว่าเราเริ่มต้นได้ดี เรามีโปรแกรมที่หนัก แต่ผมคิดว่าเราออกมาในตำแหน่งที่ดี และผมมีความสุขที่เราชนะในวันนี้ ตอนนี้เราสามารถมองไปข้างหน้าต่อไปได้แล้ว ผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นว่าทีมมีความผูกผันกันอย่างไร ทุกคนต้องการทำผลงานได้ดี มันคือทีมที่ยอดเยี่ยม และทุกคนมีความสุข เรายังมีเกมส์ใหญ่รออยู่ในวันอังคาร"
-
1 pointเตต้าต้องเรียก ราฮีม กับ เฌซุส มาดีดหู คนละสองที ซ้ายขวา เรียกสติหน่อย แล้วสื่ออังกฤษก็เสี้ยมให้เกลียดกับเป๊ป เสี้ยมสองฝั่ง รัวๆ ไม่หยุดไม่พักกันเลย
-
1 pointโกลเลสเตอ ก็เหลือเกินทั้งเหนียวทั้งเซฟอภินิหาร น้องเอ็นวา น่าติดตามมากเลย แม้เกมจะกดดันมากๆแต่กล้าเล่นกล้ายิงแบบนี้ อนาคตไกลแน่ๆ
-
1 pointแต่ไม่ควรต้องลุ้นเยี่ยวเหนียวขนาดนี้นะ 555
-
1 pointหมดครึ่งแรก พับใส่อยู่ข้างเดียว นำสบายๆ 2-0 แต่ครึ่งหลังด้นมาโดนลูกตีไข่แตกเร็ว แล้วมาโดน 2-2 ทำให้ต้องเจอเกมส์ที่กดดันซะแบบนั้น แล้วประตูเลสเตอร์ก็เหนียวเกิน เข้าใจหัวอกซิตี้สัปดาห์ก่อน ฮ่าๆๆๆ แต่สุดท้ายก็มายิง 2 ลูกช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ถ้าไม่ได้สามแต้มวันนี้ถือว่าเสียหาย เพราะซิตี้พลาดแล้ว แต่เราดันมาหลุดในบ้านก็ไม่ใช่เรื่อง สิ่งที่อยากเห็นวันนี้ถ้าในบ้าน เจอทีมที่เป็นรองกว่า แล้วไม่มีโอเดการ์ด เราจะมีปัญหาในการสร้างโอกาสไหม ก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร สร้างโอกาสได้ 20 กว่าครั้ง การเข้าทำสวยๆ ก็มีให้เห็นหลายครั้ง เพียงแต่ต้องเนี้ยบกว่านี้หน่อย มันควรชนะแบบสบายๆ กว่านี้
-
1 pointบริหารหัวใจอีกและ กับรูปเกมปูพรมกดแหลกครึ่งแรกที่คิดว่าจังหวะเดิมๆ เรามาแล้ว แต่ต้นครึ่งหลังดันรั่วเป็นประตูน้ำจนโดนตีเสมอ รูปเกมก็ไม่ดี แต่ทันทีที่เปลี่ยนอีธาน เรากลับมาบุกกดอย่างอดทนแต่กว่าจะได้ประตูก็ยันต่อเวลา แซงชนะแบบดราม่า Open Play: On Set Piece: On แผลงฤทธื์จนได้ ต้องชมความพยายามของทุกๆ คนเลย เหนื่อยยยยมาก แต่สุดท้ายก็กลับมาชนะ GO GO GUNNERS!!!
-
1 pointCARABAO CUP Round 3 Arsenal 5 - 1 Bolton Wed 25 September 2024, 01.45 น. GOAL: 1-0 เดแคลน ไรซ์ (นาทีที่ 16) 2-0 อีธาน เอ็นวาเนลี่ (นาทีที่ 37, สเตอร์ลิ่ง) 3-0 อีธาน เอ็นวาเนลลี่ (นาทีที่ 48, ไรซ์) 3-1 แอรอน คอลลินส์ (นาทีที่ 53) 4-1 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (นาทีที่ 64) 5-1 ไค ฮาแวร์ตซ์ (นาทีที่ 78) แจ็ค พอร์เตอร์: 6.0 ประตูมือ 1 กับ 3 บาดเจ็บอยู่ ส่วนมือสองเนโต้ติดคัพไท ทำให้อาร์เซน่อลต้องเรียก พอร์เตอร์ ประตูวัยเพียง 16 ปี 2 เดือนขึ้นมาเฝ้าเสาในเกมส์นี้ ก็ต้องยอมรับว่าน้องยังตื่นสนามอยู่ และประสบการณ์ยังห่างไกลกับระดับทีมชุดใหญ่ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ากับโอกาสครั้งนี้ ยาคุบ คิวิออร์: 6.5 ต้องขยับออกไปช่วย Cover พื้นที่ของทางจอซ นิโคล อยู่บ้างในช่วงครึ่งเวลาแรก อาจมีไปเสียฟาล์วง่ายๆ อยู่บ้าง ภาพรวมคิวิออร์ก็ทำหน้าที่ได้โอเค ทั้งตอนยืนเซนเตอร์ และมีขยับไปเล่นแบ็คซ้ายในช่วง 30 นาทีสุดท้าย ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี: 6.5 ลงสนามเป็นตัวจริงต่อเนื่องเป็นเกมส์ที่สอง แต่ขยับเข้ามาเล่นเป็นเซนเตอร์ฝั่งซ้าย เกมส์รับก็ไม่ได้เจอกดดันอะไรมาก แล้วดูสไตล์เป็นกองหลังที่ชอบพุ่งไปในกรอบเขตโทษ มีโอกาสเป็นไม่ได้ ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่: 6.5 ลงประเดิมสนามกับชุดใหญ่ไปเมื่อวันอาทิตย์ วันนี้ได้ลงตัวจริงในตำแหน่งแบ็คซ้าย ประตูสองต้องชมลูกจ่ายทะลุช่องของเขาไปให้กับสเตอร์ลิ่ง จังหวะได้ครองบอลก็นิ่งและกล้าเล่นดี แต่อยู่ในสนามได้แค่ 60 นาทีก็เจ็บต้นขาเล่นต่อไม่ไหว จอซ นิโคล: 6.5 แบ็คขวาไม่มีทั้งเบน ไวท์ และทิมเบอร์ ทำให้โอกาสตกมาเป็นของ จอซ นิโคล ที่ได้ประเดิมกับชุดใหญ่ ช่วงต้นเกมส์ ก็เจอกดดันอยู่บ้าง แต่มีรุ่นพี่ประคองช่วยได้ ครึ่งหลังดูปรับตัวได้ดีขึ้นในแง่เกมส์รับ ส่วนเกมส์รุกประตูแรก นิโคลก็มีส่วนที่เขาเติมขึ้นไปเปิดบอลจากด้านข้าง จอร์จินโญ่: 7.0 พอไม่เจอเพลสซิ่งหนักๆ พี่จอร์เล่นแบบสบายเลยเกมส์นี้ จับบอลได้ วางข้ามไลน์ จ่ายทะลุไลน์สนุกเลย แต่อย่าให้พี่จอร์ต้องขโยกวิ่งไกลแบบตอนที่เสียลูกตีไข่แตกนะ รีแอคชันประจำ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าวิ่งตาม เดแคลน ไรซ์: 7.5 สภาพความฟิตของไรซ์ดูจะเข้าที่เข้าทางกว่าช่วงเริ่มซีซั่น พลังงานในการเคลื่อนที่กลับมาแล้ว และเขายิงประตูให้ทีมนำ 1-0 จากลูกยิงนอกกรอบที่สุดเด็ดขาด ต้นครึ่งหลังไปบีบเพลสแดนบนเป็นที่มาของลูกสาม ก่อนบอลจะหลุดไปเข้าทางเอ็นวาเนลี่ยิงเข้าไป อีธาน เอ็นวาเนลี่: 8.0 ได้ลงเล่นตัวจริงกับชุดใหญ่สักที แล้วเอ็นวาเนลี่ ก็เหมาคนเดียวสองประตูเลย เวลาบอลอยู่กับเท้าดูเนียนตาเลย แล้วได้เห็นการประสานงานฝั่งขวาของสองเด็กเฮนเอนด์ระหว่างอีธานกับซาก้า ก็ดูน่าจะเป็นอีกหนึ่งออปชันตอนที่โอเดการ์ดยังเจ็บอยู่ได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง: 7.5 ได้เล่นตัวจริงนัดแรกกับอาร์เซน่อล ภาพรวมของราฮีม ถือว่าใช้ได้ โดยเฉพาะจังหวะสุดท้าย แกทำได้ลุ้นตลอด ทำให้ราฮีมยิง 1 จ่าย 1 ได้ แต่จังหวะลากเลื้อยแกไม่ค่อยผ่านแบบสมัยช่วงพีก บูคาโญ ซาก้า: 7.0 (C) เหมือนได้พักนิดหน่อยจากนัดก่อนที่เล่นแค่ครึ่งเดียว นัดนี้ซาก้าเลยได้มาเล่นตัวจริง ได้บอลแต่ละทีก็กดดันแผงเกมส์รับโบลตันได้ตลอด ช่วงครึ่งหลังมีโอกาสส่อง 2-3 หนแต่เปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ แต่ก็มีส่วนกับประตูที่ 4 ที่เขาเปิดยัดเข้าไป กาเบรียล เฆซุส: 6.5 ครึ่งแรกเฆซุสเป็นคนที่มีโอกาสได้ลุ้นประตูเยอะมาก แต่จังหวะใกล้เคียงสุดก็ที่ไปชิงจังหวะกับกองหลังโบลตัน ก่อนจะตวัดยิงเร็ว แต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว ก็ต้องบอกว่าแกมีส่วนร่วมกับเกมส์พอสมควร แต่การตัดสินใจสุดท้ายยังไม่ดี ตัวสำรอง: กาเบรียล มากัลเญส: 6.0 (นาทีที่ 61, ลูอิส-สเคลลี่) สถานการณ์ที่ ไมล์ส บาดเจ็บ เลยทำให้กาเบรียล ต้องลงมาเล่นในช่วง 30 นาทีสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้มีงานอะไรให้ต้องทำมาก เล่นประคองไปจนหมดเวลา ไค ฮาแวร์ตซ์: 6.5 (นาทีที่ 61, ไรซ์) ลงมาเล่นในช่วง 30 นาทีสุดท้าย และยิงได้ 1 ประตู จากจังหวะไปตามซ้ำลูกยิงของสเตอร์ลิ่งที่กระดอนออกมา มัลดินี่ คาร์รูรี่: 6.0 (นาทีที่ 70, คาลาฟิออรี) หน่วยก้านถือว่าใช้ได้เลย จังหวะรับบอล ออกบอล ดูไม่ตื่นสนาม เพียงแต่เรายังไม่ค่อยได้เห็นแอคชันในจังหวะเกมส์ป้องกันสักเท่าไร กาเบรียล มาร์ติเนลลี่: 6.0 (นาทีที่ 70, ซาก้า) เหมือนกับเฆซุส ปัญหาของมาร์ติเนลลี่ ก็ยังเป็นเรื่องการตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย เขามีโอกาสพาบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายเยอะ แต่ขาดประสิทธิภาพ อิสมาเอล คาเบีย: N/A (นาทีที่ 80, สเตอร์ลิ่ง)
-
1 pointเป็นค่ำคืนของบรรดาเด็กอะคาเดมี่ ที่ได้ประเดิมสนามกับชุดใหญ่กันหลายคน อีธานเหมาสอง, น้องไมล์สก็มีจังหวะแทงสวยๆ ลูกสอง, จอซ นิโคลก็โอเค, ประตูวัย 16 อาจดูตื่นๆ หน่อย แต่ก็เป็นประสบการณ์และโอกาสที่ล้ำค้ากับเส้นทางในอนาคต เรียกได้ว่าพี่ต้าร์เรียกดาวรุ่งคนไหนมานัดนี้ แกส่งลงหมด มัลดินี่ คาร์ชูรี่ ก็ได้เล่น หน่วยก้านดี แต่ยังไม่ได้เห็นจังหวะเกมส์อะไรมากนัก ปิดท้ายด้วยคาเบีย ได้มาเล่น 10 นาที แต่ไม่ค่อยเจอบอล ส่วนพวกซีเนียร์สำรองที่โอกาสลงเล่นอาจยังมีไม่มาก สเตอร์ลิ่ง จังหวะสุดท้ายแกยังพอหวังได้อยู่ แม้ว่าจะไม่จี๊ดจ๊าดแบบตอนพีกๆ ส่วนเฆซุสก็ยังเหมือนเดิมคือมีส่วนร่วม แต่จังหวะสุดท้ายแกยังไม่ดี สองแซมบ้าอาการคล้ายกัน เฆซุสกับมาร์ตี้
-
1 pointกลับมาได้ซ้อมแนวรุกเรียกจังหวะเดิมๆ อีกครั้ง รูปเกมเด็กๆ ก็ฉายแสงกันได้ดี ตรงกลางก็เด่นทั้งพี่จอกับไรซ์ น้องอีธาน ยิงสองลูกแบบเนียนๆ ตัวรุกอย่างริ่ง, ไคก็ทำกันได้ ช่วยเสริมความมั่นใจให้ทีมก่อนสู้ศึกกันต่อ GO GO GUNNERS!!!!
-
1 pointPREMIER LEAGUE 2024/25 #5 Man City 2 - 2 Arsenal Sun 22 September 2024, 22.30 น. GOAL: 1-0 เออร์ริ่ง ฮาลันด์ (นาทีที่ 9) 1-1 ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี (นาทีที่ 22, มาร์ติเนลลี่) 1-2 กาเบรียล มากัลเญส (นาทีที่ 45, ซาก้า) 2-2 จอห์น สโตน (นาทีที่ 90+8) ดาวิด ราย่า: 8.0 จังหวะหลุดเดี่ยวของฮาลันด์ทางราย่าก็หมดสิทธิ์ป้องกันเพราะมุมเปิดกว้างมาก ครึ่งหลังราย่าเปิดโหมดถุงมือทองคำ เซฟไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง แม้ว่าสุดท้ายจะมาโดนตีเสมอนาทีบาป แต่ราย่ายอดเยี่ยมจริงๆ กาเบรียล มากัลเญส: 7.5 จังหวะที่ซิตี้ยิงประตูนำเร็วตั้งแต่ช่วง 10 นาทีแรก กาเบรียลมีลุ้นสมาธิไปเล็กน้อย ทำให้มีช่องว่างระหว่างคู่เซนเตอร์ให้ฮาลันด์วิ่งแทรก แต่ก็มาแก้ตัวด้วยการโขกให้ทีมนำ 2-1 เป็นการทำสองประตูจากเตะมุมสองนัดติดต่อกัน ช่วงที่เหลือ 10 คน กาเบรียลช่วยป้องกันบอลที่พุ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษได้หลายครั้ง วิลเลี่ยม ซาลิบา: 7.5 ทั้งเกมส์ซาลิบาปล่อยให้ฮาลันด์ได้ว่างแค่จังหวะที่หลุดเดี่ยว นอกนั้นซาลิบาประกบฮาลันด์ได้ชิดตลอด ถึงจะพอมีโอกาสให้ฮาลันด์ได้โหม่งบ้าง แต่ก็ทำได้ไม่ค่อยถนัด ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี: 7.0 สตาร์ทตัวจริงในเกมส์ลีกนัดแรกกับอาร์เซน่อล จังหวะเสียประตู คาลาฟิออรีเข้าพรวดไปหน่อย แต่เขาก็มาแก้ตัวด้วยการยิงประตูตีเสมอ 1-1 จากลูกยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ ภาพรวมถือว่าเขาทำได้ดีเลย แต่ช่วง 20 นาทีสุดท้ายเล่นต่อไม่ไหว เยอร์เรียน ทิมเบอร์: 7.0 โดนโยกมาเล่นแบ็คขวา เนื่องจากก่อนเกมส์ทางเบน ไวท์ ไม่สมบูรณ์ เกมส์นี้ต้องรับมือกับทางโดกู ซึ่งถือว่าทิมเบอร์เอาอยู่ และมีจังหวะเติมขึ้นไปเล่นให้เห็นบ้างในช่วงที่ตัวเท่ากัน โธมัส ปาร์เตย์: 7.0 พอไม่ต้องแบกภาระเป็นหมายเลข 6 คนเดียว มีไรซ์มาช่วย ก็ทำให้ปาร์เตย์เล่นง่ายขึ้น ทำให้ฟอร์มกระเตื้องขึ้นมาหน่อย ครึ่งหลังตอนที่เหลือ 10 คน ปาร์เตย์รับหน้าที่ในการป้องกันหน้ากรอบเขตโทษ ซึ่งเขาทำได้ดีเลย ถึงซิตี้ได้มีโอกาสส่องไกล แต่ก็ไม่ได้ลุ้นอะไร เดแคลน ไรซ์: 7.0 ไม่ได้เล่นเป็นหมายเลข 8 ฝั่งซ้าย แต่วันนี้ไรซ์โดนวางให้มาเล่นเป็นเบอร์ 6 คู่กับปาร์เตย์ โดยเขาอยู่ทางฝั่งขวา มีจังหวะประสานงานจนไรซ์ได้หลุดไปถึงเส้นหลังด้วย ครึ่งหลังก็ต้องรับลูกเดียว ซึ่งเขาก็ช่วยคุมพื้นที่ ปิดช่องว่างได้ดี เลอันโดร ทรอสซาร์: 5.0 ทรอสซาร์ไปโดนใบเหลืองที่สองโดนไล่ออกจากสนามในช่วงทดเจ็บของครึ่งเวลาแรก ทำให้อาร์เซน่อลต้องเล่น 10 คนตอลดครึ่งเวลาหลัง โดยข้อหาดีเลย์เกมส์ (ซึ่งแม่งมีผลเฉพาะทีมกู) กาเบรียล มาร์ติเนลลี่: 7.0 มีส่วนร่วมกับประตูตีเสมอ ที่เขาใช้จังหวะฉาบฉวยสอดเติมขึ้นมารับบอลริมเส้น ก่อนจ่ายกลับมาให้คาลาฟิออรีทำประตู ช่วงที่ทีมเหลือ 10 คน มาร์ตี้ถูกวางไว้เป็นตัวส่วนกลับ แต่ก็โดดเดี่ยวเกินไป แถมระยะวิ่งไกลมาก เกมส์รับมาร์ตี้ก็ใส่จนหมดถัง บูคาโญ ซาก้า: 6.5 (C) ซาก้าได้สวมปลอกแขนลงสนามเกมส์นี้ แล้วเขาทำแอสซิทที่ 5 ในฤดูกาลจากการเปิดเตะมุมมาให้กาเบรียลโขกนำ 2-1 แต่พอทีมเหลือ 10 คน ซาก้าเป็นคนที่ถูกเปลี่ยนตัวออก จังหวะรับแล้วโต้ระหว่างซาก้า กับทิมเบอร์ ก็ถือว่าประสานงานกันได้ดี ไค ฮาแวร์ตซ์: 7.0 เห็นแล้วก็เหนื่อยแทนจริงๆ ฮาแวร์ตซ์ ต้องเป็นด่านแรกในเกมส์ป้องกัน แล้วยังต้องตีรถขึ้นไปเป็นตัวเก็บบอลในแดนหน้าอีก ตัวสำรอง: เบน ไวท์: 6.5 (นาทีที่ 46, ซาก้า) ก่อนเกมส์มีปัญหาเรื่องสภาพความฟิต ไวท์มีปัญหาเจ็บเข่าเล็กน้อย แต่ยังพอมีชื่อเป็นตัวสำรอง ครึ่งหลังพอทีมเหลือตัวน้อยกว่า อาร์เตต้าเลือกเปลี่ยนไวท์ลงมายืน และปรับเป็นระบบหลังสาม ซึ่งไวท์แม้ไม่เต็มถัง แต่ก็ทำได้ดี ยาคุบ คิวิออร์: 6.0 (นาทีที่ 74, คาลาฟิออรี) กาเบรียล เฆซุส: 6.0 (นาทีที่ 87, มาร์ติเนลลี่) ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่: N/A (นาทีที่ 90, ทิมเบอร์)
-
1 pointกูเหลือ 10 คน 45 นาที มึงมี 12 คนยังเอากูไม่ลง ถามว่าเสียดายไหม เสียดาย แต่นักเตะมันทำขนาดนี้ จะให้กูไปเรียกร้องอะไรอีก หัวใจพวกมึงทุกคนสุดยอดว่ะ
-
1 pointต้องชื่นชมหัวจิตหัวใจทุกๆ คนเลย เกมรับที่ต้านจนสุดตัวแล้ว กับตัวน้อยกว่าเจอทีมระดับท็อปของโลก แต่เราก็ยิงนำและเกือบชนะด้วยซ้ำ ผมบอกได้เลยว่าแต้มนี้ล้ำค่าแน่ๆ แม่จะไม่ชนะ แต่สถานการณ์เสียเปรีบ อย่างหนักเราก็ทำได้ สู้กันต่อเด็กๆ GO GO GUNNERS!!!!
-
1 pointฟาบริซิโอ โรมาโน่ บอกว่า อาร์เซน่อล กำลังมองในแง่ดีเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาคว้าตัว มิเกล เมริโน่ กองกลางทีมชาติสเปนของเรอัล โซเซียดัด เข้ามาเสริมทัพ พวกเขามีความรู้สึกว่าจะสามารถคว้าตัวดาวเตะวัย 28 ปี ในราคาที่ดี ตอนนี้ทั้งบาร์เซโลน่า และแอตเลติโก มาดริด เชื่อว่า ทาง มิเกล เมริโน่ ให้ความสำคัญในการย้ายไปร่วมทีมอาร์เซน่อล และทางนักเตะมองว่า มิเกล อาร์เตต้า เป็นโค้ชที่เหมาะสมสำหรับเขา หลังจากที่อาร์เซน่อล ได้เงินจากการขาย สมิธ โรว์ ไปที่ฟูแล่ม อาร์เซน่อลจะเริ่มเจรจาอย่างเป็นทางกับทางโซเซียดัด โรมาโน่ยังบอกอีกว่า ถ้าหากอาร์เซน่อลสามารถปล่อยนักเตะอย่าง ริสส์ เนลสัน และเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ออกไปได้ พวกเขาจะประเมินโอกาสในการเสริมผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า แต่ไม่คิดว่าจะเป็น วิคตอร์ เกียวเกเรส เพราะค่าฉีกสัญญาของนักเตะนั่นสูงเกินไป แต่บางทีพวกเขาอาจจะเซ็นสัญญากับผู้เล่นริมเส้น ที่จะดึงพลังงานใหม่ๆ เข้ามาได้ Sports Zone บอกว่า อาร์เซน่อล บรรลุเงื่อนไขส่วนตัวสัญญายาว 4 ปีกับ มิเกล เมริโน่ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนต่อไปคือการเจรจาเรื่องค่าตัวกับทางต้นสังกัดนักเตะคือเรอัล โซเซียดัด Catalunya Radio สถานีวิทยุประจำแคว้นคาตาลัน บอกว่า ตอนนี้การย้ายทีมของ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ปีกทีมชาติสเปนของแอธเลติก บิลเบา ไปบาร์เซโลน่านั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อน และตอนนี้ทางบาร์ซ่ามีการมองโลกในแง่ร้ายมากๆ เดวิด ออร์นสตีน นักข่าวดังจาก The Athletic รายงานข่าวว่า โอลิมปิก มาร์กเซย ขยับความพยายามในการคว้าตัว เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กองหน้าของอาร์เซน่อล หลังจากมีการยื่นข้อเสนอรอบใหม่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทีมจาลีกเอิงได้ยื่นสัญญาใหม่ที่เป็นตัวเลขราว 20 ล้านยูโร (16.8 ล้านปอนด์) เป็นมูลค่าที่ใกล้เคียงกับที่ยื่นมารอบก่อน แต่ใกล้เคียงกับโครงสร้างการจ่ายเงินที่อาร์เซน่อลต้องการ แต่ในมุมของมูลค่า ยังดูไม่สมเหตุสมผลสำหรับพวกเขา อย่างไรก็ตาม มาร์กเซยยังคงพยายามแก้ไข และทั้งสองสโมสรยังคงเจรจากันอยู่ ทางด้านกองหน้าวัย 25 ปี ได้มีการบรรลุข้อตกลงเงื่อนไขส่วนตัว สัญญายาว 5 ปีกับทางมาร์กเซยไปแล้ว และเขาอยากที่จะร่วมงานกับ โรแบร์โต้ เดอ แซร์บี้ Sky Sport รายงานข่าวว่า เอมิล สมิธ โรว์ ได้ผ่านการตรวจร่างกายกับสโมสรฟูแล่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เหลือขั้นตอนด้านเอกสาร ก่อนที่จะมีการยืนยันการย้ายทีมอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นเขาจะเดินทางไปเข้าแคมป์ฝึกซ้อมที่โปรตุเกสกับต้นสังกัดใหม่ มิเกล อาร์เตต้า พูดถึงตำแหน่งถัดไปที่พวกเขาจะเสริมทัพ หลังการเซ็นสัญญากับ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี กุนซือหนุ่มชาวสเปนกล่าวว่า: "เราจะต้องรอดูความเคลื่อนไหวของนักเตะ เราได้มีการระบุสิ่งที่เราสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นเอาไว้แล้ว เรามีการประชุมกันตั้งแต่เดือนมีนาคมและเมษายน และถ้าหากมีโอกาสเราก็จะพยายามเสริมแกร่งทีม ผมเชื่อว่าเราสามารถทำให้ทีมดีขึ้นได้กว่านี้ แต่ที่ผ่านมา ผมก็พอใจกับขุมกำลังที่ทีมมีตอนนี้" Tomasz Wlodarczyk นักข่าวดังจากโปแลนด์ เปิดเผยว่า ยาคุบ คิวิออร์ จะมีการเคลียร์อนาคตกับอาร์เซน่อลหลังจากเดินทางกลับจากทัวร์ปรีซีซั่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทีมปืนใหญ่จะเดินทางกลับมาลอนดอนในวันพฤหัสบดีนี้ และคิวิออร์ อาจได้รับไฟเขียวให้ย้ายทีมได้ Daily Mail เปิดเผยว่า มิเกล อาร์เตต้า และสต๊าฟโค้ชของอาร์เซน่อล เชื่อว่าฤดูกาลนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีของ อีธาน เอ็นวาเนลลี่ กองกลางดาวรุ่งอนาคตไกลวัย 17 ปีที่จะก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อล ทีมงานข่าวของ Mail Sport รับทราบข้อมูลมาว่า อาร์เตต้า รู้สึกถึงความรับผิดชอบอย่างมากกับนักเตะอะคาเดมี่ของทีม ถ้าหากผู้เล่นดาวรุ่งถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เร็วเกินไป อาจส่งผลกระทบในระยะยาวกับผู้เล่นได้ อาร์เตต้ายังตระหนักดีว่าเขาคือความที่ต้องถูกตำหนิ ถ้าหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ส่วนการสูญเสีย ชิโด้-โอบี มาร์ติน กองหน้าดาวรุ่งวัย 16 ปี ของอาร์เซน่อล มีเบื้องหลังอยู่ว่า อาร์เซน่อล ได้เสนอนักเตะลงเล่นระหว่างทีม U18 และ U21 ในฤดูกาลหน้า และขึ้นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ในระหว่างฤดูกาล แต่ทางด้านนักเตะอยากที่จะข้ามขึ้นมาเล่นกับทีม U21 ในทันที อย่างไรก็ตามปัจจัยหลักๆ ในการตัดสินใจของนักเตะคือเรื่องของเงิน มีรายงานข่าววว่าตัวแทนของนักเตะ เรียกร้องเงินจำนวนนึงที่ห่างไกลจากข้อเสนอที่ทางอาร์เซน่อลยินดีที่จะจ่าย ดังนั้นอาร์เซน่อลจึงตัดสินใจถอนตัว แม้ว่าพวกเขาจะอยากจะเก็บโอบี-มาร์ติน เอาไว้ เพราะเป็นดาวรุ่งมีศักยภาพสูง จอซ ครองกี้ ประธานสโมสรร่วมของอาร์เซน่อล ออกมาเปิดเผยว่าสโมสรกำลังมีความคิดที่จะปรับปรุงสนามเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการขยายความจุของสนาม เขากล่าวกับทาง ESPN ว่า: "อาจยังเร็วเกินไปที่จะพูดคุยถึงแผนในเชิงลึก แต่มีการเริ่มพูดคุยเบื้องต้นเกี่ยวกับสนาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายในการปรับปรุงสนาม แต่เราเห็นความเป็นไปได้ของสิ่งที่มีอยู่" นอกจากนี้จอซ ยังบอกถึงเป้าหมายของสโมสรอาร์เซน่อล และพร้อมสนับสนุนทีมฟุตบอลหญิงต่อไป เขากล่าวว่า: "เป้าหมายของเราคือการแข่งขันเพื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาโดยตลอด ผมคิดว่าทีมพร้อมสำหรับความท้าทายนี้ เราพยายามที่จะเติมคุณภาพให้ทีมต่อไป เพื่อทำให้เรามีโอกาสมากขึ้น ที่จะส่งมอบการเฉลิมฉลองให้กับแฟนบอลของเรา" "ส่วนในทีมฟุตบอลหญิงของเราก็เช่นกัน คุณจะเห็นได้ว่ากีฬาของผู้หญิงกำลังได้รับความนิยมจากทั่วโลก เราตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมกับธุรกิจนี้" ธีโอ วัลคอตต์ อดีตปีกของอาร์เซน่อล ซึ่งปัจจุบันเดินทางมาทัวร์ปรีซีซั่นกับทีมในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ เขาบอกว่า มิเกล อาร์เตต้า คือคนสำคัญในการเข้ามาปรับเปลี่ยนทัศนคติของสโมสรให้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขากล่าวว่า: "มิเกล คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสโมสรแห่งนี้" "ตอนนี้พวกเขากำลังขึ้นไปท้าทายในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างต่อเนื่อง และนั่นเป็นแนวความคิดที่แตกต่างไปจากเราเคยคิดเพียงแค่การจบในอันดับท็อปโฟร์" อาร์เซน่อล จะมีการเปิดตัวชุดแข่ง Third Kit สำหรับฤดูกาลใหม่ ในวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม
-
1 pointแซม ดีน สายข่าวอาร์เซน่อลจาก The Telegraph รายงานข่าวว่า อาร์เซน่อล กำลังวางแผนที่จะขยับไปหา มิเกล เมริโน่ กองกลางทีมชาติสเปนของเรอัล โซเซียดัด ทางทีมปืนใหญ่สนใจนักเตะตั้งแต่ก่อนยูโร 2024 แล้ว แต่ความสนใจมีมากขึ้นหลังผลงานของเขาในทัวร์นาเมนท์ดังกล่าว กองกลางวัย 28 ปี เหลือสัญญากับทางต้นสังกัดอีกแค่ปีเดียว และทางโซเซียดัด ตั้งค่าตัวนักเตะไว้ราว 20 ล้านปอนด์ แต่พวกเขาอาจต้องเจอการแข่งขันกับ บาร์เซโลน่า และแอตเลติโก มาดริด สองทีมชั้นนำของลาลีกา ที่ก็อยากได้ เมริโน่ ไปร่วมทีมเช่นกัน ขณะที่อาร์เซน่อล ยังคงมีการเจรจากับโบโลญญ่า เกี่ยวกับ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี เซนเตอร์แบ็คทีมชาติอิตาลี ข้อตกลงนี้อาจมีมูลค่า 45 ล้านปอนด์ ขณะนี้มีความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นว่าข้อตกลงจะเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ทางแซม ดีน ยังได้บอกว่า อาร์เซน่อล ได้มีการปฏิเสธข้อเสนออย่างเป็นทางการจากฟูแล่มที่ยื่นเข้ามาขอซื้อ เอมิล สมิธ โรว์ แต่ยังไม่ทราบชัดเจนเกี่ยวกับตัวเลขค่าตัวที่ยื่นเข้ามา คงต้องรอดูว่าฟูแล่มจะกลับมาพยายามอีกครั้งหรือไม่ และยังมีคริสตัล พาเลซ ที่แสดงความสนใจเช่นกัน Mundo Deportivo กระบอกเสียงประจำแคว้นคาตาลัน หลังจากเกส์นัดชิงชนะเลิศยูโร 2024 อนาคตของ มิเกล เมริโน่ ได้รับการตัดสินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากได้มีการหารือกับเรอัล โซเซียดัด โดยนักเตะต้องการย้ายทีม แอตเลติโก มาดริด และบาร์เซโลน่า สนใจในตัวเขา แต่อาร์เซน่อลก็มีความเข้มแข็งในการแข่งขันล่าตัว และอาจจะเสนอสัญญาที่ดีกว่าสองทีมดังจากสเปน James Benge จาก CBS Sport ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า การที่อาร์เซน่อลสนใจในตัว มิเกล เมริโน่ กองกลางวัย 28 ปีของเรอัล โซเซียดัด เนื่องจากพวกเขาต้องการเพิ่มแข้งประสบการณ์สูงเข้ามาเพิ่มในทีม ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับนโยบายการเสริมทัพของพวกเขาที่จะเซ็นผู้เล่นที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี แต่ก็เคยละเว้นไปในกรณีที่เซ็นกับ จอร์จินโญ่ และเลอันโดร ทรอสซาร์ มาแล้ว Sky Sport อาร์เซน่อล ได้ปฏิเสธข้อเสนอจากทั้ง ฟูแล่ม และคริสตัล พาเลซ ที่ยื่นข้อเสนอมาซื้อ เอมิล สมิธโรว์ ทั้งสองสโมสรยังมีการหารือว่าจะมีการปรับปรุงข้อเสนออีกครั้งหรือไม่ ทางด้าน สมิธ โรว์ ต้องการประเมินทางเลือกทั้งหมดที่เขามี และการลงเล่นอย่างต่อเนื่องเป็นเงื่อนไขสำคัญ Daily Mail รายงานข่าวว่า ฟูแล่ม พร้อมที่จะขยับข้อเสนอซื้อ เอมิล สมิธ โรว์ ไปที่ระดับ 40 ล้านปอนด์ ตามที่อาร์เซน่อลต้องการ ขณะที่ทางคริสตัล พาเลซ ไม่สามารถขยับข้อเสนอขึ้นไปสูงเท่านั้นได้ OFFICIAL - อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกองก้า ย้ายไปเล่นกับสโมสรเซบีญ่า ด้วยสัญญายืมตัว พ่วงออปชันในการซื้อขาด 12 ล้านยูโร โดยทางเซบีญ่าจะรับผิดชอบค่าเหนื่อยทั้งหมดของนักเตะ และหากพวกเขาใช้ออปชันซื้อขาด ทางอาร์เซน่อลจะได้รับส่วนแบ่ง 25% ในการขายนักเตะ OFFICIAL - นูโน ตาวาเรซ แบ็คซ้ายทีมชาติโปรตุเกส ย้ายจากอาร์เซน่อลไปเล่นกับลาซิโอ ด้วยสัญญายืมตัว พ่วงออปชันบังคับซื้อขาด 9 ล้านยูโร ทางตาวาเรซได้มีการตกลงเงื่อนไขสัญญาระยะยาว 5 ปีกับทางลาซิโอ Santi Aouna นักข่าวจาก Foot Mercato บอกว่าทาง โอลิมปิก มาร์กเซย ยังคงมีการเจรจาเพื่อคว้าตัว เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กองหน้าของอาร์เซน่อลไปเสริมทัพ และพวกเขาเตรียมที่จะปล่อย ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ไปเล่นในลีกซาอุกับ Al Qadsiah ซึ่งคาดว่าโอบาเมยองจะเซ็นสัญญา 2 ปี นักเตะทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อล กลับมารายงานตัวฝึกซ้อมปรีซีซั่นเป็นวันแรก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
-
1 pointMundo Deportivo สื่อดังประจำแคว้นคาตาลัน รายงานข่าววว่า อาร์เซน่อล ได้เริ่มมีการแสดงความสนใจในตัว ชูเอา เฟลิกซ์ แนวรุกทีมชาติโปรตุเกสของแอตเลติโก มาดริด โดยระบุว่า มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลชื่นชอบในตัวนักเตะ และเฟลิกซ์เองก็อยากย้ายไปเล่นในลอนดอนเช่นกัน โดยก่อนหน้านี้ มัตเตโอ โมเร็ตโต้ นักข่าวดังจาก Relevo ก็เปิดเผยว่า อาร์เซน่อลให้ความสนใจในการเซ็นสัญญากับ ชูเอา เฟลิกซ์ วัย 24 ปีไปร่วมทีมเช่นเดียวกัน Team News and Ticks แอคเคานต์ทวิตเตอร์สายวงในได้มีการออกมาอัพเดทหลายๆ ประเด็นเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา - อาร์เซน่อล อาจจะกลับมาทาบทาม บรูโน่ กริมาไรส์ กองกลางทีมชาติบราซิลของนิวคาสเซิ่ลอีกครั้ง ก่อนที่ตลาดนักเตะซัมเมอร์จะปิดตัวลง - มิเกล เมริโน่ กองกลางทีมชาติสเปนของเรอัล โซเซียดัด เป็นหนึ่งในเป้าหมายของอาร์เซน่อลจริง - โอกาสในการคว้าตัว เจา เนเวส กองกลางดาวรุ่งวัย 19 ปีของเบนฟิก้า หากว่ามันจะเกิดขึ้น จะไม่ใช่ตัวเลขค่าฉีกสัญญา 120 ล้านยูโร - อมาดู โอนาน่า (ที่กำลังจะย้ายไปวิลล่า 50 ล้านปอนด์) อยู่ในลิสต์ของอาร์เซน่อลจริง แต่เป็นตัวเลือกอันดับล่างๆ - นิโก้ วิลเลี่ยมส์ คาดว่าจะย้ายไปเล่นกับบาร์เซโลน่า แต่ถ้าหากการย้ายทีมไม่เกิดขึ้น อาร์เซน่อลก็จะลองพยายามคว้านักเตะรายนี้มาร่วมทีม - โอกาสในการเซ็นสัญญากองหน้าของอาร์เซน่อล ขึ้นอยู่กับค่าตัวของนักเตะเป้าหมาย ถ้ามีการลดลงของราคา มันก็มีความเป็นไปได้ - อาร์เซน่อล จะไม่ขาย กาเบรียล เฆซุส ออกไปในตลาดซัมเมอร์นี้ เว้นแต่จะมีข้อเสนอที่บ้าคลั่งระดับ 60 ล้านปอนด์เข้ามา - แข้งทีมชาติเยอรมันปริศนา จะเป็นผู้เล่นที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง - เซาเกตต์ ไม่ต้องการให้ผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ พูดถึงเกี่ยวกับเรื่องการย้ายทีมระหว่างลงเล่นในยูโร 2024 นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้การย้ายทีมของ เอเซ่ ไม่คืบหน้า - อีธาน เอ็นวาเนลลี่ กองกลางดาวรุ่งวัย 17 ปีของอาร์เซน่อล คาดว่าจะเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นที่อเมริกา กับทีมชุดใหญ่ด้วย แม้ว่าเมื่อคืนเขาจะลงเล่นเกมส์อุ่นเครื่องกับทีม U21 และทำไปได้หนึ่งประตู จิอันลูก้า ดิมาซิโอ บอกว่า ข้อเสนอของอาร์เซน่อลอยู่ต่ำกว่าที่โบโลญญ่าต้องการอีกเล็กน้อย แต่พวกเขาคิดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ ใช่ที่ตัวของ คาลาฟิออรี ต้องการย้ายไปเล่นกับอาร์เซน่อล ในใจเขามีแค่อาร์เซน่อลทีมเดียวเท่านั้น 1000 Curoi Rossublu สื่อท้องถิ่น ระบุว่า ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี ได้แจ้งกับต้นสังกัดโบโลญญ่าให้ปล่อยเขาย้ายทีมไปอาร์เซน่อล ขณะที่โบโลญญ่าก็กำลังเจรจากับ Diogo Leite ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของคาลาฟิออรี Goal Brazil รายงานข่าววา อาร์เซน่อล แสดงความสนใจอย่างจริงจังในตัว เจา โกเมส กองกลางทีมชาติบราซิลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางฝั่งต้นสังกัดวูลฟ์รู้ว่าเขามีมูลค่าที่ดีในตลาด และพวกเขาไม่ขวางทางในการย้ายทีมของนักเตะรายนี้ จิอันลูก้า ดิมาซิโอ นักข่าวจาก Sky Italia บอกว่า นูโน ตาวาเรซ ได้เซ็นสัญญากับทาง ลาซิโอ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการยืมตัว พ่วงออปชันบังคับซื้อขาดหลังจบฤดูกาลหน้า และอาร์เซน่อลจะได้รับส่วนแบ่งการขายนักเตะในอนาคตด้วย Diario De Sevilla สื่อท้องถิ่นบอกว่า เซบีญ่า จะยังไม่มีการเปิดตัว อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกองก้า จนกว่าจะถึงวันจันทร์ เนื่องจากเป็นคำร้องขอจากผู้บริหารฝั่งอาร์เซน่อล Telegraaf สื่อของเนเธอร์แลนด์ รายงานข่าวว่า อาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัม ได้ปฏิเสธข้อเสนอ 350,000 ปอนด์ บวกโบนัส จากอาร์เซน่อล พวกเขาต้องการที่จะเก็บ ทอมมี่ เซ็นฟอร์ด ผู้รักษาประตูดาวรุ่งชาวอังกฤษวัย 19 ปี เอาไว้จนถึงฤดูกาลหน้า หลังจากที่นักเตะหมดสัญญา พวกเขาจะได้รับเงินค่าชดเชย 350,000 ปอนด์ แต่จะไม่มีโบนัส มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล พูดถึงตลาดนักเตะในซัมเมอร์นี้ เขากล่าวว่า: "มันเป็นซัมเมอร์ที่แตกต่างมากๆ กับการมียูโร และโคปปา อเมริกา ผมคิดว่าคุณสามารถบอกได้ว่าทุกอย่างมันช้าลงไปนิดหน่อย ตลาดนักเตะ และกฏใหม่ที่สโมสรต้องระมัดระวัง และการทำธุรกิจมีความละเอียดมากขึ้น" "เราต้องปรับตัวกับสิ่งนั้น และเรายังคงต้องการส่งมอบสิ่งที่เราต้องการในช่วงตลาดซื้อขาดนักเตะ เพื่อให้ทีมมีการแข่งขันได้มากขึ้น และปรับปรุงทีมในทุกด้านเท่าที่ทำได้" เอ็มมานูเอล เปอตีต์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเสริมทัพของอาร์เซน่อลในช่วงซัมเมอร์นี้ว่า: "การเซ็นสัญญาในฝันของอาร์เซน่อลในซัมเมอร์นี้คือ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ผมได้ดูเขาเล่นในสเปนกับสโมสร แต่เขาประทับใจผมมากในยูโร 2024 ผมคิดว่าเขาจะเป็นคนที่สร้างอิมแพ็คอย่างมากที่อาร์เซน่อล" "ผมคิดว่าอาร์เซน่อล ต้องมองไปที่ วิคตอร์ โอซิมเฮน ของนาโปลี ชายคนนี้มีคาแรกเตอร์ทุกอย่างที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จ มีความทะเยอะทะยานที่ยอดเยี่ยม และเมื่อผมพูดถึงคาแรกเตอร์ของเขา เขาทำให้ผมนึกถึงผู้เล่นที่เคยอยู่ในพรีเมียร์ลีกสมัยนั้น เขาจะทำงานหนักอย่างไม่น่าเชื่อในสนาม และอาร์เซน่อลจะหมดปัญหาเรื่องกองหน้าตัวเป้าไปเลย เขาสามารถรั้งคู่เซนเตอร์เอาไว้กับเขาได้อย่างสบายๆ เขาเล่นบนพื้นก็ได้ กลางอากาศก็ดี มันสำคัยมากๆ เช่นกันกับการเล่นลูกตั้งเตะ" แมตต์ ลอว์ นักข่าวดังจาก Daily Telegraph บอกว่า แกเร็ต เซาเกตต์ จะยึดผู้เล่น 11 ตัวจริงเหมือนเกมส์กับเนเธอร์แลนด์ สำหรับลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2024 ในค่ำคืนนี้ อาร์เซน่อล U21 ลงประเดิมสนามอุ่นเครื่องปรีซีซั่นด้วยการบุกชนะโบรแฮม วู๊ด 4-2 เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา อาร์เซน่อลได้ประตูจาก ซาล่าห์-เอ็ดดิน ในนาทีที่ 4, โอมาน เรกิก ในนาทีที่ 8, ซาล่าห์ เอ็ดดิน มาบวกลูกที่สองของตัวเองในนาทีที่ 44 และอีธาน เอ็นวาเนลลี่ ยิงปิดท้ายในนาทีที่ 49
-
1 pointเดวิด ออร์นสตีน นักข่าวดังจาก The Athletic พูดถึง ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี ว่าที่กองหลังคนใหม่ของอาร์เซน่อล ผลงานของ คาลาฟิออรี กับทีมชาติอิตาลีในศึกยูโร 2024 เป็นที่ถูกจับตามอง แต่ผลงานของเขา ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับ มิเกล อาร์เตต้า แต่อย่างใด อาร์เตต้าเป็นแฟนตัวยงของคาลาฟิออรี และนักเตะโบโลญญ่า เป็นเป้าหมายหลักของสโมสร ในขณะที่พวกเขาต้องการเสริมแกร่งเกมส์รับ แม้ว่าอาร์เซน่อลจะเป็นทีมที่มีสถิติเกมส์รับดีที่สุดในลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม นักเตะวัย 22 ปี ถนัดเท้าซ้าย และสามารถเล่นได้ทั้งแบ็คซ้าย และเซนเตอร์แบ็ค และสามารถเล่นแบบ Inverted full-back ได้ด้วย เมื่ออิตาลีตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูโร 2024 อาร์เตต้า ต้องมีการโน้มน้าวคนอื่นๆ ภายในสโมสร ว่าคาลาฟิออรี เป็นดีลที่ดีของสโมสร มีความเป็นไปได้ที่จะมีนักเตะของอาร์เซน่อลจะถูกขายออกไป แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเซ้น คาลาฟิออรี ทางยาคุบ คิวิออร์ และโอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ คือตัวเต็งที่ชัดเจนที่จะโดนขายออกไป ซึ่งทางคิวิออร์มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะเขาได้รับความสนใจจากหลายทีมยักษ์ใหญ่ในกัลโช่ ซีรีย์อา สิ่งที่คาลาฟิออรี จะมอบให้กับอาร์เซน่อลได้? การเล่นเซนเตอร์แบ็คเท้าซ้าย จะทำให้คาลาฟิออรี เป็นกำลังเสริมชั้นเยี่ยมสำหรับอาร์เซน่อล แล้วเขาเล่นแบ็คซ้ายเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง ทำให้อาร์เตต้าสามารถจับเขาเล่นตรงนี้ได้ เมื่ออยากที่จะส่งคาลาฟิออรี ลงเล่นพร้อมกับ กาเบรียล มากัลเญส และวิลเลี่ยม ซาลิบา กับการเล่นให้โบโลญญ่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว จะมีหนึ่งในกองกลางของโบโลญญ่าถอยต่ำลงมา เปิดทางให้คาลาฟิออรี ดันขึ้นสูงไปทางกราบซ้าย บางทีก็สามารถขยับเข้าตรงกลางได้ด้วย ทำให้เขาทำไป 3 แอสซิท จากการลงเล่น 30 เกมส์ ซึ่งตอบโจทย์กับตำแหน่งแบ็คซ้ายของอาร์เซน่อล แต่เขาจะต้องมีหน้าที่ในเกมส์รับมากขึ้น เมื่อดูสถิติเกมส์รับ และการจ่ายบอลของเขาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถือว่ามีความโดดเด่นทีเดียว ขณะที่การมีส่วนร่วมกับเกมส์รุก เขาสร้างโอกาสในการทำประตู 0.3 ครั้งต่อ 90 นาที มากพอๆ กับโอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ และการสวิตซ์บอล เขามีสถิติ 0.6 ครั้งต่อ 90 นาที มากกว่า กาเบรียล, ซาลิบา และชินเชนโก้ รวมกัน (0.4) คาลาฟิออรี มีความมั่นใจอย่างมากเวลาที่ได้ครองบอล แล้วเขามีสถิติการพาบอลขึ้นหน้า 49.5 ครั้งต่อ 90 นาที และพาบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย 1.1 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มผู้เล่นกองหลังระดับท็อป 12% ของซีรีย์อา นอกจากนี้เรามีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการเลี้ยงบอลคิดเป็น 62% อย่างไรก็ตามก็ยังมีจุดที่เขาทำได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของลีก ก็คือการครองบอลผิดพลาด 1.2 ครั้งต่อ 90 นาที และการทำฟาล์ว 1.3 ครั้งต่อ 90 นาที สำหรับประวัติอาการบาดเจ็บของ คาลาฟิออรี ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น ตอนที่เขาเป็นนักเตะดาวรุ่งของเอเอส โรม่า เขาเคยบาดเจ็บหนักที่หัวเข่า จนเกือบทำให้เขาแขวนสตั๊ด และพักยาวไปร่วมหนึ่งปีเต็ม แต่สังเกตว่าอาการบาดเจ็บของเขาลดลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยิ่งในฤดูกาลล่าสุดกับโบโลญญ่า เขาแทบไม่พลาดลงสนามเลย
-
1 pointEd Aarons นักข่าวจาก The Guardian รายงานข่าวว่า อาร์เซน่อล หวังที่จะปิดดีลคว้าตัว ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ การเจรจากับโบโลญญ่าในเรื่องของโครงสร้างการจ่ายเงิน มีความคืบหน้าเป็นอย่างดีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คาดว่าโบโลญญ่าจะได้รับค่าตัวนักเตะราว 42 ล้านปอนด์ โดยพวกเขาจะต้องแบ่งเงินให้กับเอฟซี บาเซิ่ล 50% ทางมิเกล อาร์เตต้า ต้องการให้ คาลาฟิออรี เดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกากับทีมในสัปดาห์หน้า คาลาฟิออรี เล่นในระบบหลังสามกับโบโลญญ่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เขาสามารถเล่นแบ็คซ้ายได้ ซึ่งอาร์เตต้า มองว่าเขาสามารถเล่นแบบ Inverted Fullback ได้ รวมถึงสามารถเล่นในตำแหน่งกองกลาง กับเซนเตอร์ได้ด้วย การมาของเขาจะกระทบโดยตรงต่ออนาคตของ ยาคุบ คิวิออร์ และโอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้ ที่เป็นตัวเลือกในตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีมจากเมื่อฤดูกาลก่อน นอกจากนี้ The Guardian ยังเปิดเผยว่า อาร์เซน่อล เป็นหนึ่งในสโมสรที่ให้ความสนใจ เอเรซี่ เอเซ่ กองกลางทีมชาติอังกฤษของคริสตัล พาเลซ โดยนักเตะมีค่าฉีกสัญญา 60 ล้านปอนด์ แล้วพวกเขามีแผนจะเซ็นผู้รักษาประตูสำรอง ถ้าหากพวกเขาปล่อย แอรอน แรมส์เดล ออกไปจากทีม Sky Sport ฟูแล่ม เป็นหนึ่งในสโมสรในพรีเมียร์ลีก ที่ให้ความสนใจ เอมิล สมิธ โรว์ ผู้เล่นแนวรุกของอาร์เซน่อล พวกเขาจะแสดงความสนใจนักเตะอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ เป็นที่เข้าใจว่า สมิธ โรว์ ต้องการประเมินทางเลือกทั้งหมดที่เขามี โดยแรงจูงใจหลักคือโอกาสในการลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ในรายของ อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกองก้า ก็ใกล้ที่จะย้ายไปเล่นกับเซบีญ่าด้วยสัญญายืมตัว โดยเบื้องต้นจะเป็นการยืมตัว โดยมีเงื่อนไขระบุเอาไว้ หากนักเตะทำผลงานได้ตามเงื่อนไข ทางเซบีญ่า จะถูกบังคับให้ใช้ออปชันซื้อขาดนักเตะไปร่วมทีม Alan Nixon อาร์เซน่อล และวูลฟ์ ยังมีความแตกต่างค่อนข้างมากเกี่ยวกับการประเมินค่าตัว แดน เบนทลี่ย์ ผู้รักษาประตูวัย 30 ปี โดยทางวูลฟ์ต้องการค่าตัว 1 ล้านปอนด์ เพราะพวกเขาต้องการนำเงินไปซื้อผู้รักษาประตูสำรองมาแทน อาร์เซน่อลหวังว่าจะได้ตัว เบนทลี่ย์ มาด้วยราคาที่ถูกกว่านั้นมากๆ แต่ทั้งสองสโมสรกำลังดำเนินการอยู่ มัตเตโอ โมเร็ตโต้ นักข่าวจาก Relevo ผมไม่เคยรับรู้ว่า กุนเด้ อยู่ในแผนการเสริมทัพของอาร์เซน่อลในช่วงซัมเมอร์นี้ ตอนนี้พวกเขาม่งความสนใจไปที่ คาลาฟิออรี ดังนั้นชื่อของกุนเด้ คงจะไม่อยู่ในการพิจารณาของอาร์เซน่อลอย่างจริงจังในตอนนี้ นักเตะอาร์เซน่อล ทีมชุดใหญ่จะกลับมารายงานตัวฝึกซ้อมปรีซีซั่นในวันที่ 15 กรกฏาคม นี้ คาดว่าพวกเขาจะเกมส์อุ่นเครื่องแบบปิดอย่างน้อย 1 เกมส์ ก่อนที่จะบินไปทัวร์ปรีซีซั่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเกมส์แรกพวกเขาจะอุ่นเครื่องกับบอร์นมัธ ในวันที่ 25 กรกฏาคม OFFICIAL - เบย์เดน คล้าร์ก กองหลังดาวรุ่งทีมชาติเวลส์ U17 จรดปากกาเซ็นสัญญาอาชีพกับสโมสรอาร์เซน่อล หลังจากที่เขาย้ายจากวูลฟ์มาอยู่กับอาร์เซน่อลในช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา OFFICIAL - อาร์เซน่อล ยืนยันการปล่อยตัว มิก้า เบียเรตต์ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติเดนมาร์กรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ไปให้กับสโมสรสตรวมกราซแบบถาวรด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์ และมีการใส่ออปชันส่วนแบ่งในการขายนักเตะในอนาคตเอาไว้ด้วย เอดู กาสปาร์ ผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เซน่อลกล่าวว่า: "เราภูมิใจมากกับความก้าวหน้าของ มิก้า เบียเรตต์ บับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมกับเรา กับโอกาสครั้งใหม่กับสตรวมกราซเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับมิก้า และเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับแผนการยืมตัวในการพัฒนาฝีเท้าของนักเตะ มิก้า จะได้เล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกในฤดูกาลใหม่ ซึ่งเขาสมควรได้รับจากผลงานของเขาเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา "
-
1 pointการพัฒนาของสโมสรอาร์เซน่อลในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่น่าประทับใจอย่างมาก พวกเขาก้าวหน้าจากทีมที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกมา 7 ปี จบในอันดับ 8 ในตารางพรีเมียร์ลีกสองฤดูกาลติดต่อกัน กลายมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอดสองฤดูกาลหลังสุด อาร์เซน่อล ไม่ได้มีการตัดสินใจที่ผิดพลาดมากนัก การสร้างทีมชุดใหญ่ของพวกเขาเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ และพวกเขายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในฐานะทีม แม้ว่าพวกเขายังไปไม่ถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่รอคอยกันมายาวนานกว่า 20 ปีก็ตาม อย่างไรก็ตาม การดึงแข้งดาวรุ่งที่เป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของพวกเขา ขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่กับมีจำนวนที่ลดลง แม้ว่าอาร์เซน่อลจะเป็นทีมที่มีอายุเฉลี่ยน้อยเป็นอันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว (25.1 ปี) แต่โอกาสก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักเตะเยาวชน อาร์เซน่อล ส่งผู้เล่นที่อายุน้อยกว่า 21 ปีลงสนามในฤดูกาลเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น และหนึ่งในนั้นคือ บูคาโญ ซาก้า ที่ลงเล่นให้กับอาร์เซน่อลไปแล้ว 226 นัด อีกคนคือ อีธาน เอ็นวาเนลลี่ ที่ลงเล่นในวัย 17 ปี กับการลงมาเป็นตัวสำรองช่วงท้ายเกมส์ในนัดบุกชนะเวสต์แฮม 6-0 โอกาสสำหรับนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของสโมสรอาร์เซน่อล เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันตลอดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่มีกลุ่มดาวรุ่งจำนวนมากตัดสินใจย้ายออกจากสโมสร นั่นทำให้อาร์เซน่อลต้องทบทวนเส้นทางการขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของนักเตะอะคาเดมี่ใหม่อีกครั้ง บริบทเป็นสิ่งที่สำคัญ อาร์เซน่อลอยู่ในตำแหน่งที่พวกเขาไม่เคยได้สัมผัสมาเกือบสองทศวรรษ และถึงจุดที่กลุ่มผู้เล่นอายุน้อยที่พวกเขาสร้างเติบโตขึ้นมาพร้อมกัน ด้วยความก้าวหน้า ความคาดหวังในการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ทีมของมิเกล อาร์เตต้า อยู่ในจุดที่พวกเขาไม่สามารถผิดพลาดได้เลย มันทำให้โอกาสที่นักเตะดาวรุ่งจะมีโอกาสในเกมส์พรีเมียร์ลีกมีน้อยมาก แต่เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ มันก็ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงกับการสูญเสียแข้งดาวรุ่งฝีเท้าดีๆ ออกจากทีม ในซัมเมอร์นี้เราได้เห็น อมาริโอ โคเซอร์-ดูเบอร์รี่ ปีกขวาตัวเก่งของทีม U21 ย้ายไปเล่นกับไบรท์ตัน หลังจากปฏิเสธสัญญาใหม่กับอาร์เซน่อล กับสโมสรที่เคยมีประวัติศาสตร์และความสำเร็จที่เกี่ยวข้องกับการให้โอกาสกับนักเตะอายุน้อย การที่ไม่มีนักเตะดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ หลังจากบูคาโญ ซาก้า กลายเป็นสิ่งที่น่ากังวล อันที่จริงมีนักเตะจากทีม U21 ขึ้นไปมีชื่อบนม้านั่งสำรองในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับโอกาสในการลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว รูเอล วอลเตอร์ กองหลังที่ย้ายออกจากอาร์เซน่อลในซัมเมอร์นี้เช่นกัน มีชื่อในทีมชุดใหญ่ 21 ครั้งแต่ไม่เคยถูกส่งลงสนาม โอมารี ฮัทชินสัน ที่ช่วยอิปสวิช ทาวน์ เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก หลังจากถูกเชลชีปล่อยยืมตัวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว สมัยที่เขาอยู่กับอาร์เซน่อลในฤดูกาลสุดท้าย เขาก็เคยมีชื่อในทีมชุดใหญ่ 9 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ลงเล่นเลย ชาร์ลี ปาติโน่ กองกลางดาวรุ่งที่ทำประตูให้ทีมชุดใหญ่ได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนาม เขายิงประตูได้ในเกมส์คาราบาว คัพที่ชนะซันเดอร์แลนด์ แต่หลังจากที่เขาทำผลงานได้ไม่ดีนัก ในเกมส์แพ้ฟอเรสต์ ตกรอบเอฟเอ คัพ หลังจากนั้นเขาก็แทบไม่ได้รับโอกาสอีกเลยจากทีมชุดใหญ่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาร์เตต้า มีชื่อของนักเตะเยาวชนบนม้านั่งสำรอง แต่ทว่าในเกมส์ที่พวกเขายิงนำห่างคู่แข่ง 4-5 ประตูไปแล้ว ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนดาวรุ่งเหล่านี้ให้ได้ลงสัมผัสเกมส์ การปรากฏตัวของ เอ็นวาเนลลี่ ในเกมส์กับเวสต์แฮม นั้นสร้างความประทับใจได้ทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น อาร์เตต้า เองก็ยอมรับว่า มีผู้เล่นชุดใหญ่เป็นคนโน้มน้าวให้เขาส่งเอ็นวาเนลลี่ลงสนาม ซึ่งกลายเป็นจุดสำคัญต่อการตัดสินใจเรื่องสัญญาใหม่ของเจ้าตัว การที่อาร์เซน่อล ต้องต่อสู้เพื่อแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก และการกลับไปเล่นในเวทีแชมเปี้ยนลีก มันไม่เพียงแค่ขัดขวางโอกาสลงสนามของนักเตะเยาวชน แต่มันก็รวมถึงโอกาสที่ลดลงของบรรดาแข้งสำรองในโควต้า Home grown ด้วย เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมส์ลีก 10 นัดเมื่อฤดูกาลก่อน แต่พอครึ่งฤดูกาลหลังเขาได้รับโอกาสลดลงอย่างชัดเจน เอมิล สมิธ โรว์ กับริสส์ เนลสัน ก็มีโอกาสเพียงน้อยนิดเช่นกัน กับอะคาเดมี่ของสโมสรอื่นเอง ก็ไม่ได้การันตีกับการได้เล่นกับทีมชุดใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าแผนการพัฒนานักเตะจะดูมีประสิทธิภาพมากกว่าอาร์เซน่อล กับการเตรียมความพร้อมสำหรับผู้เล่นในการเล่นฟุตบอลทีมชุดใหญ่ ตัวอย่างล่าสุดคือ ในกรณีของ ฮัทชินสัน ที่ย้ายจากอาร์เซน่อลไปอยู่กับเชลชีในปี 2022 ซึ่งถือเป็นการย้ายทีมที่สร้างความประหลาดใจไม่น้อย เชลชีส่งนักเตะไปเล่นกับอิปสวิช ทาวน์ เมื่อฤดูกาลก่อน ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับอิปสวิชแบบถาวรในซัมเมอร์นี้ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ บวกออปชัน 2.5 ล้านปอนด์ และส่วนแบ่งการขายในอนาคตอีก 20% อาร์เซน่อลเองก็ได้รับส่วนแบ่งจากดีลดังกล่าวด้วย จากการใส่ออปชั่นส่วนแบ่งการขาย 15 หรือ 20% ตอนที่ปล่อยไปให้กับเชลชี แต่อาร์เซน่อลควรจะได้ประโยชน์มากกว่านี้จากฮัทชินสัน ไม่ต่างจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ โคเซอร์-ดูเบอร์รี่ และรูเอลล์ วอลเตอร์ ทั้งคู่เป็นดาวรุ่งที่อาร์เซน่อลควรทำเงินได้ มากกว่าเพียงได้รับเงินเล็กน้อยจากค่าชดเชย ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐานของสโมสรอาร์เซน่อล จำเป็นต้องมีความชัดเจนมากขึ้นในการเตรียมความพร้อมนักเตะในการขึ้นมาเล่นในระดับทีมชุดใหญ่ หรือฟุตบอลอาชีพ ประเด็นเรื่องคุณภาพของผลผลิตจากอะคาเดมี่ก็ยังเรื่องที่ถกเถียง แต่คำตอบที่แท้จริงจะไม่เกิดขึ้นเลย จนกว่านักเตะเหล่านั้นจะได้รับโอกาสว่าพวกเขาดีพอจริงหรือไม่ ไม่ใช่นักเตะเยาวชนของทุกคนจะสามารถเลียนแบบซาก้าได้ แต่จะต้องมีช่วงเวลาหนึ่งที่จะจุดประกายให้เห็นความเปลี่ยนแปลงกับเส้นทางขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ บางทีมันอาจจะเกิดขึ้นหลังากพวกเขาคว้าแชมป์เมเจอร์ เพื่อให้สถานการณ์มันผ่อนคลายมากขึ้น หรือมีนักเตะพรสวรรค์ที่ยากที่จะมองข้าม อย่างเช่น เอ็นวาเนลี่ หรือกับโอกาสในช่วงปรีซีซั่นนี้ ที่อาจจะมีผู้เล่นทีมชุดใหญ่บางคนที่ไม่ได้ไปทัวร์ปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา มันก็เป็นโอกาสดีที่จะมอบโอกาสให้กับนักเตะดาวรุ่งได้พิสูจน์ตัวเอง